รีวิว Galaxy A22 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung มาพร้อมสเปคคุ้มค่ากับชิปเซ็ต Dimensity 700 รองรับ 5G ความจุเยอะ 8GB + 128GB แบตเตอรี่ใหญ่สะใจ 5000mAh กล้องหลัง 3 ตัว ทั้งหมดนี้เปิดราคามาเพียง 8,299 บาทเท่านั้นครับ แต่ทีเด็ดกว่านั้นก็คือถ้าซื้อพร้อมแพ็คเกจ AIS เริ่มต้นเพียง 1,289 บาทเท่านั้น !
การใช้งานจริงจะคุ้มค่าแค่ไหน วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมกันครับ ติดตามได้เลย
สรุปสเปค Samsung Galaxy A22 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 167.2 x 76.4 x 9 มม.
- น้ำหนัก : 203 กรัม
- หน้าจอ : PLS LCD ขนาด 6.6″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 90Hz
- CPU : Dimensity 700 5G (7nm) Octa-core 2.2GHz
- GPU : Mali-G57 MC2
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 15W
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัก : 3 ตัว
- กล้องหลัก 48MP f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 5MP f/2.2
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย One UI Core 3.1
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ก่อนอื่นเรามาแกะกล่อง Galaxy A22 5G กันก่อนเลยครับ รุ่นนี้มาพร้อมกล่องขนาดมาตรฐานของ Galaxy A Series ที่หน้ากล่องมีระบุชื่อรุ่นและภาพประกอบของตัวเครื่องสีตรงกับสีภายในเลยด้วยครับ ซึ่งแน่นอนว่าสีที่เราได้มาเป็นสีม่วงนั่นเอง
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับอุปกรณ์เสริมมาตรฐานประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง Galaxy A22 5G
- สายชาร์จ USB type-C to type-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 15W
- หูฟังแจ็ค 3.5 มม.
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือและใบรับประกัน
รุ่นนี้ไม่มีเคสซิลิโคนใสและฟิล์มกันรอยติดมาให้ในกล่อง แต่ก็ถือว่าให้อุปกรณ์มาครบพร้อมใช้ทั้งสายชาร์จอะแดปเตอร์และหูฟังมาให้ครบ
เร็วเต็มสปีดด้วยชิประดับไฮเอนด์ 7nm
ขอเริ่มที่ประสิทธิภาพของ Galaxy A22 5G กันก่อนเลย รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 700 5G ที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบ 7nm แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์เลยครับ ประสิทธิภาพถือว่าสูงเลยทีเดียว
เราทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark แล้วได้คะแนนสูงถึง 312204 คะแนนเลยทีเดียว
ส่วน GeekBench 5.0 ก็ได้คะแนนออกมาที่ 559 คะแนนสำหรับ Single-Core และ 1739 คะแนนสำหรับ Multi-Core ครับ
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการเชื่อมต่อครับ Galaxy A22 5G นั้นรองรับ 5G ที่ช่วยมอบประสบการณ์การทำงานในเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้ทุกการใช้งานนั้นราบรื่นมากขึ้นไปอีก
ดีไซน์พาสเทลฝาหลังสวยมีระดับ
มาต่อกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องเลยดีกว่า Galaxy A22 5G มาพร้อมดีไซน์สีพาสเทลแบบเดียวกับ Galaxy A Series ของปีนี้ สีที่เราได้มาเป็นสีม่วงที่มีความอ่อนโยนและซ่อนความหวานไว้ได้ดีมาก ๆ งานประกอบแม้จะใช้เป็นพลาสติกแต่ตัวฝาหลังมีการเคลือบวัสดุให้มีความมันเหลือบ ๆ บนผิวสัมผัสแบบด้านด้วย
ให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยมเวลาจับถือดีมาก คือมีความด้านแบบไม่เก็บรอยนิ้วมือแต่เมื่อสะท้อนกับแสงก็มีความมันวาวเล็ก ๆ ให้ดูมีระดับขึ้นไปอีก ตรงนี้จะต่างจากของ A52 5G หรือ A72 ที่เป็นแบบด้านทึบ ๆ ไปเลย ส่วนตัวชอบการออกแบบของ A22 5G นี้มาก ถ้าไม่บอกว่าเป็นพลาสติกก็คงคิดว่าเป็นกระจกด้านที่ใช้กันบนมือถือรุ่นราคาหมื่นปลาย ๆ เลยล่ะครับ
ตัวกล้องของ Galaxy A22 5G จะวางรวมกันอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่มีความมันวาวหน่อย ๆ จัดวางได้อย่างเป็นระเบียบดี มีกล้องหลัง 3 ตัวพร้อมไฟแฟลช LED อีกหนึ่งดวงครับ
หน้าจอ Infinity-V ลื่นไหล 90Hz
มาดูที่หน้าจอกันบ้าง Galaxy A22 5G มาพร้อมจอ PLS LCD ขนาด 6.6″ ใช้ดีไซน์แบบ Infinity-V Display ที่ติ่งบนหน้าจอแบบหยดน้ำเล็ก ๆ ที่มุมบนครับ ขนาดของหน้าจอก็ใหญ่แบบสะใจดี สัดส่วนของหน้าจอเป็นแบบ 20:9 มีเหลือขอบหน้าด้านด้านล่างอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีครับ
ในเรื่องการแสดงผลด้วยความที่เป็นจอแบบ LCD มุมมองอาจจะไม่ได้กว้างมากนัก เมื่อเราเอียงเครื่องไปในมุมต่าง ๆ สีสันก็จะมีเพี้ยนไปบ้าง แต่ในการใช้งานทั่วไปก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ครับ เพราะเราคงมองที่หน้าจอตรง ๆ อยู่แล้ว ความละเอียดก็ให้มามากถึง FHD+ สีสันและความคมชัดทำได้ดีทีเดียวล่ะครับ
นอกจากนี้ Galaxy A22 5G ยังมี refresh rate สูงถึง 90Hz ด้วย ทำให้การตอบสนองเวลาใช้งานนั้นดีเยี่ยม เลื่อนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล การทัชก็ค่อนข้างติดนิ้วแม้หน้าจอจะไม่ใช่ AMOLED ก็ตามครับ
กรอบเครื่องผิวด้านสีสันเข้ากัน
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็ออกแบบมาได้ดีครับ กรอบตัวเครื่องจะใช้พลาสติกผิวด้านที่ให้ความรู้สึกในการจับถือที่ดีสมราคา แม้จะไม่ได้หรูหรามากนัก แต่เวลาจับถือก็ไม่เก็บรอยนิ้วมือมากจนเลอะเทอะ ใช้งานแบบไม่ใส่เคสก็สะดวกดีครับ
ตำแหน่งปุ่มกดจะอยู่ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมดมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงเป็นแถบยาว ๆ ส่วนปุ่ม Power ก็เป็นปุ่มใหญ่มีการทำมุมเว้าลงไปเพราะตัวปุ่มจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ภายในด้วย วางตำแหน่งได้ดีในการแตะใช้งานครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อของ Galaxy A22 5G ก็จะวางไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่องทั้งหมด ใช้พอร์ตหลักเป็น USB type-C มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ด้วย มีไมโครโฟนสนทนาอยู่ข้าง ๆ และลำโพงหลักของตัวเครื่องจะอยู่ที่มุมล่างขวามือนี้ด้วยเช่นกัน
ลำโพงของรุ่นนี้เป็นแบบ mono คือใช้ตัวหลักตัวเดียว ไม่สามารถใช้คู่กับลำโพงสนทนาเพื่อเป็นลำโพง Stereo คู่ได้ แต่คุณภาพเสียงก็ถือว่าใช้ได้ครับ เสียงดังกำลังดีเลย
ช่องใส่ซิมของ Galaxy A22 5G จะอยู่ที่มุมซ้ายมือของตัวเครื่อง ถาดซิมเป็นแบบ Triple Slot คือใส่ได้ทั้ง 2 ซิมและรองรับ micro-SD สูงสุดถึง 1TB เลยด้วยครับ
เล่นเกมเป็นยังไงสเปคนี้
เห็นคะแนนกันแล้วอาจจะอยากรู้เรื่องประสิทธิภาพการเล่นเกมจริง Galaxy A22 5G ให้สเปคมาเพียงพอต่อการเล่นเกมหรือเปล่า เราทดสอบให้ชมกับ 3 เกม Call of Duty, Crash Bandicoot On The Run และ ROV ครับ
เล่น Call of Duty บน Galaxy A22 5G
มาเริ่มที่ Call of Duty ก่อนเลย Galaxy A22 5G ให้เราปรับกราฟิกได้สูงสุดที่ Medium คู่กับเฟรมเรตระดับ High อาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่เท่าที่เราลองเล่นจริง ๆ แล้วตัวเกมทำได้ลื่นไหลดีมากครับ เฟรมเรตนั้นค่อนข้างนิ่ง ตัวกราฟิกระดับ Medium ก็สวยงามใช้ได้ ความไวในการสัมผัสหน้าจอทำได้ดี ไม่มีดีเลย์หรือหน่วงจนอึดอัดครับ
เล่น Crash Bandicoot On The Run บน Galaxy A22 5G
ส่วนเกมวิ่งเพลิน ๆ อย่าง Crash On The Run อันนี้เราไม่สามารถปรับกราฟิกเพิ่มเติมได้ใช้ตามสเปคเครื่องเลย เท่าที่ดูจากสายตาแล้วน่าจะปรับระดับ Medium ไว้ให้ครับ พอมีเอฟเฟกต์ให้เห็นบ้าง ตัวเกมทำได้ค่อนข้างดี สามารถเล่นได้อย่างเพลิน ๆ ครับ
เล่น ROV บน Galaxy A22 5G
ปิดท้ายที่ ROV เราสามารถปรับระดับกราฟิกไว้ที่สูงได้ แต่ไม่สามารถเปิด 60fps ได้นะครับ น่าจะเป็นข้อจำกัดของตัวชิปเซ็ต แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีในการเล่นเกมครับ เฟรมเรตนิ่งมาก แม้จะปล่อยท่าแบบจัดเต็มที่เอฟเฟกต์เต็มฉากก็ยังไม่มีกระจุกหรือเฟรมเรตลดลงมาเลย เรียกว่าเล่นได้อย่างลื่น ๆ เลยล่ะ
ซอฟต์แวร์ One UI Core 3.1
มาต่อในเรื่องซอฟต์แวร์ Galaxy A22 5G ใช้ Android 11 ที่ครอบทับมาด้วย One UI Core 3.1 อีกที ปกติเราจะคุ้นกับชื่อ One UI ของ Samsung แต่บนรุ่นนี้มีเพิ่มคำว่า “Core” เข้ามาด้วย เอาจริง ๆ แล้วซอฟต์แวร์ตัวนี้จะเหมือนเป็นรุ่น Lite ของ One UI อีกทีคือมีการลดบางฟีเจอร์ลง แต่ประสบการณ์การใช้งานและหน้าตานั้นไม่แตกต่างจากเวอร์ชั่นหลักมากนักครับ
อย่างที่เห็น ไอคอนหรือ Wallpaper ต่าง ๆ เหมือนกับบน One UI 3.1 ทุกประการ การทำงานก็ลื่นไหลเหมือนกัน ลูกเล่นการปรับแต่งพวก Dark mode หรือการปรับแต่งพวก Themes ยังทำได้เหมือนกัน
แต่จุดที่แตกต่างกันจริง ๆ ก็คือฟีเจอร์และแอปของ Samsung เองที่บนรุ่นนี้จะหายไปนิดหน่อย อย่างเช่นผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixy บน One UI Core 3.1 จะตัดออกไป แอป AR Zone หรือแอป Preloaded บางตัวที่จะติดมาในรุ่นหลัก ๆ ก็จะไม่มีมาให้ด้วย (แต่เรายังสามารถโหลดเพิ่มเติมได้) ครับ
แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานจุใจ
ในเรื่องแบตเตอรี่ Galaxy A22 5G นี่ทำงานได้อย่างจุใจหายห่วงเลยครับ เพราะให้แบตเตอรี่มามากถึง 5000mAh ใช้งานร่วมกับชิปเซ็ต Dimensity 700 แบบ 7nm ก็ยิ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 40% ในการใช้งานทั่วไปนี่ลากยาวได้ถึง 2 วันได้สบาย ๆ หรือถ้าจะเน้นด้านความบันเทิงที่ดูหนังดูซีรีส์ก็สามารถดูได้ต่อเนื่องกว่า 21 ชม. กันเลยทีเดียว
รองรับชาร์จไว 15W
ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้ยังให้ชาร์จไว Fast Charge 15W เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ชาร์จได้เร็วพอสมควรถึงแม้ว่าจะไม่เร็วมาก
กล้องหลัง 3 ตัวใช้ได้ดีเลย
มาปิดท้ายกันที่เรื่องกล้อง Galaxy A22 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว แบ่งเป็นสเปคและการทำงานดังนี้ครับ
- 48MP กล้องหลัก f/1.8
- 5MP กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 115º f/2.2
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
จะเห็นว่าสเปคกล้องของ Galaxy A22 5G ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งานครับ กล้องหลักความละเอียดสูง 48MP มีกล้อง Ultra Wide มาให้ด้วย
มี Scene Optimizer ปรับภาพให้ด้วย
ในเรื่องซอฟต์แวร์ Galaxy A22 5G มีระบบ Scene Optimizer หรือ AI คอยปรับภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น จะถ่ายท้องฟ้าก็ได้สีสันอิ่ม ๆ ถ่ายอาหารก็สีสดน่ากิน เป็นต้นครับ และผลลัพธ์ที่เราได้มาจากกล้องของ Galaxy A22 5G ก็ถือว่าใช้ได้เลยครับ การเก็บรายละเอียดและความคมชัดทำได้ดีในกล้องหลัก การปรับภาพของ AI ก็ให้สีสันที่ไม่เว่อจนเกินไป โทนสีมีความเคลียร์สมกับเป็น Samsung ครับ แต่จุดที่เรายังขัดใจอยู่บ้างก็คือ Shutter Lag หรือการเก็บภาพที่ใช้เวลานานหน่อย กดไปหนึ่งรูปจะประมวลผลสักครู่ก่อนที่จะถ่ายต่อได้น่ะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลักของ Galaxy A22 5G
กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 115º
ส่วนกล้อง Ultra Wide ของ Galaxy A22 5G นั้นได้มุมกว้าง 115º ช่วยเก็บภาพได้กว้างกว่ากล้องหลักพอสมควรเลย แต่ด้วยความละเอียดที่อาจจะไม่มากนักที่ 5MP รายละเอียดของภาพที่ถ่ายออกมาจะมีความหยาบ ๆ อยู่บ้างเมื่อเทียบกับภาพจากกล้องหลัก แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในภาพแสงปกติ และการเพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้นกว่ากล้องปกติเยอะก็ช่วยให้เราเก็บภาพวิวได้ดีกว่าเดิมครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide ของ Galaxy A22 5G
ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัก 
ภาพตัวอย่างจากกล้อง Ultra Wide
กล้อง Depth ใช้ในโหมด Portrait
ส่วนกล้อง Depth ที่ติดมาให้ 2MP อันนี้จะใช้งานร่วมกับกล้องหลักในการถ่ายภาพ Portrait โดยกล้องตัวนี้จะใช้ในการวัดระยะของแบบและฉากหลังเพื่อความแม่นยำมากขึ้น ภาพ Portrait ที่ได้จาก Galaxy A22 5G ถือว่าทำได้ดีตามสไตล์ Samsung ครับ สกินโทนมีความสว่างเคลียร์ การละลายฉากหลังก็เก่งพอควรเลยล่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Portrait ของ Galaxy A22 5G
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่ใช้ได้
กล้องหน้าของรุ่นนี้ให้ความละเอียดมาที่ 8MP เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ครับ มุมมองกว้างกำลังดี มีฟีเจอร์การปรับแต่งใบหน้าเนียนโทนสีหรือฟิลเตอร์มาให้ใช้งานได้เลยจากกล้องหลัก ไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม หรือจะเป็นโหมด Portrait จากกล้องหน้าก็ได้ด้วยเช่นกันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้าของ Galaxy A22 5G
วิดีโอสูงสุด 2K 30fps
สำหรับกล้องวิดีโอ Galaxy A22 5G สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 2K 30fps ในกล้องหลังใช้ระบบกันสั่นแบบ EIS เพิ่มความนิ่งในการถ่ายวิดีโอมากขึ้น แต่ไม่มีลูกเล่นหรือโหมดอื่น ๆ เพิ่มเติมมาให้ด้วยครับ ใช้งานได้แต่บันทึกวิดีโอปกติเลยครับ
ราคาและโปรโมชั่น
Galaxy A22 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันนี้ในราคา 8,299 บาท ผ่านทาง AIS Shop ทุกสาขา และร้านค้าในเครือ AIS หรือทาง www.ais.co.th/SamsungAseries โดยมาในตัวเลือกทั้งหมด 3 สี 3 สไตล์ ได้แก่ สี Violet, Mint และ Gray
แต่พิเศษถ้าซื้อเครื่องพร้อมผูกโปรกับ AIS จะได้ราคาเริ่มต้นเพียง 1,289 บาทเท่านั้นครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
สรุปแล้ว “นี่คือมือถือ 5G ราคาประหยัดสุดคุ้มจาก Samsung”
สรุปให้เลยละกันครับ Galaxy A22 5G ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัดตัวใหม่จาก Samsung ที่ให้สเปคและความคุ้มค่ามาเยอะเลยทีเดียว ทั้งหน้าจอที่ใหญ่สะใจ 6.6″ refresh rate 90Hz ความละเอียด FHD+ ไม่กั๊กเลยด้วย ชิปเซ็ต Dimensity 700 5G ที่ประมวลผลได้ดีทั้งการใช้งานทั่วไปจนถึงการเล่นเกมระดับเริ่มต้น แถมได้การเชื่อมต่อไวระดับ 5G ที่ยกระดับการใช้งานขึ้นมาอีกเยอะ แบตเตอรี่ 5000mAh อึดจุใจ กล้องหลังที่ใช้งานได้ดี จะมีจุดที่ติดใจอยู่บ้างก็คงเป็นเรื่องระบบชาร์จที่ให้มา 15W และหน้าจอที่เป็น PLS มุมมองอาจจะไม่กว้างเท่าไหร่นัก ถ้ามองข้ามจุดนี้ไปได้ก็ถือว่าเป็นมือถือ 5G ที่น่าเล่นอีกรุ่นเลยล่ะครับ ยิ่งได้ราคาผูกโปรกับ AIS แล้วเริ่มต้นแค่ 1,289 บาทอีก ได้ตั้งขนาดนี้ก็ไม่รู้จะคุ้มยังไงแล้วล่ะครับ !
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ 6.6″ refresh rate 90Hz
- ชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์ Dimensity 700 5G
- รองรับ 5G
- แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้งานสะใจ
- รองรับการเพิ่ม micro-SD สูงสุด 1TB
- บอดี้สวย งานประกอบดีเกินราคา
- ราคาผูกโปรเริ่มต้นแค่ 1,289 บาท
จุดสังเกต
- รองรับชาร์จไว 15W
- หน้าจอ PLS LCD มุมมองอาจไม่กว้างเท่าไหร่นัก