รีวิว Galaxy A23 สมาร์ทโฟนน้องเล็กใหม่จาก Samsung ที่เก่งไม่กั๊ก เร็วแรงด้วยชิป Snapdragon 680 กล้องคมชัด 50MP พร้อมเลนส์กันสั่น OIS แต่ราคาเบา ๆ เพียง 7,999 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มค่าเหมาะกับทุกการใช้งานในราคาสบายกระเป๋าจริง ๆ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ทีมงาน iphone-droid.net รีวิวให้ชมกันเต็ม ๆ ที่นี่ครับ
สรุปสเปค Samsung Galaxy A23
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.4 x 76.9 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 195 กรัม
- หน้าจอ : TFT Inifinity-V ขนาด 6.6″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 90Hz
- CPU : Snapdragon 680 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
- GPU : Adreno 610
- RAM : 6GB
- ROM : 128GB
- micro-SD : รองรับสูงสุด 1TB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : รองรับชาร์จไว Fast Charge 25W
- กล้องหน้า : 8MP f/2.0
- กล้องหลัง : 4 ตัว
- 50MP กล้องหลัก f/1.8 OIS
- 5MP กล้อง Ultra Wide f/2.2
- 2MP กล้อง macro f/2.4
- 2MP กล้อง Depth f/2.4
- การเชื่อมต่อ : รองรับ 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.0
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 (One UI 4.1)
ดีไซน์สวย เรียบง่ายตามสไตล์ A Series 2022
เริ่มต้นที่ดีไซน์กันก่อนเลย Galaxy A23 มาพร้อมดีไซน์เรียบง่ายตามสไตล์ Galaxy A Series ในปี 2022 นี้ ใช้ฝาหลังโค้งมนที่ไล่ระดับขึ้นไปจนถึงกรอบเลนส์ได้อย่างเนียนตา ผิวสัมผัสของ Galaxy A23 จะเป็นแบบมันวาว ต่างจาก A53 5G นิดหน่อยเพราะรุ่นนั้นจะใช้ผิวสัมผัสแบบด้านครับ
สีสันก็เน้นความสดใสในโทนพาสเทล Galaxy A23 มีให้เลือก 3 สีคือ Black, Blue และสี Peach ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวก็คือสีใหม่อย่างสี Peach นี้เลยครับ
จอใหญ่ 6.6” เต็มตา คมชัดด้วยความละเอียด FHD+
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอ Galaxy A23 ใช้หน้าจอ Infinity-V รอยบางแบบหยดน้ำที่ใช้พื้นที่ได้ดีเลย ไม่กวนสายตาเวลาใช้งาน ขนาดหน้าจอใหญ่เต็มตาถึง 6.6” ใช้งานทั่วไป รวมถึงความบันเทิงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลย
ในเรื่องความคมชัดรุ่นนี้ได้ความละเอียดสูงถึง FHD+ แสดงผลได้สวยงาม ซึ่งในเรตราคานี้บางรุ่นยังให้ความละเอียดแค่ HD+ อยู่เลยนะ แต่น่าเสียดายนิดหน่อยตรงหน้าจอของรุ่นนี้ใช้เป็นจอ TFT ไม่ใช่ AMOLED เหมือนรุ่นก่อน อาจจะไม่สด จัดจ้านนัก แต่ก็สวยงามเพียงพอต่อการดูคอนเทนต์หรือเล่นเกมได้ดีอยู่ครับ
ลื่นไหลด้วย refresh rate 90Hz
การตอบสนอง Galaxy A23 ได้ refresh rate สูงถึง 90Hz ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอ ใช้งานโซเชี่ยลหรือเล่นเกมก็ทำได้ไวติดมือไปเลย ตรงนี้ใครที่ชอบการทำงานแบบลื่น ๆ ถูกใจแน่นอนครับ
ขนาดตัวเครื่องที่จับถือได้ถนัดมือ
ว่าด้วยเรื่องขนาดตัวเครื่องกันอีกนิดหน่อย Galaxy A23 มาพร้อมความบางตังเครื่องเพียง 8.4 มม.ตัวกรอบเครื่องยังเป็นแบบโค้งไล่มาจากด้านหลัง ให้ความรู้สึกที่ดีเลยเวลาจับถือ และแม้ตัวฝาหลังจะเป็นแบบมันวาวแต่ด้วยความที่สีสันเป็นโทนสว่างแบบนี้ก็ไม่ทำให้รอยนิ้วมือเวลาเราสัมผัสนั้นเด่นจนเกินไปด้วย ตรงนี้เราชอบนะ
ตำแหน่งปุ่มกดจะอยู่ที่ฝั่งขวามือของตัวเครื่องทั้งหมด แบ่งเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงด้านบน และปุ่ม Power อยู่ถัดลงมาซึ่งในปุ่มนี้จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ด้วย การวางตำแหน่งทำได้ดีทำให้เรากดปรับระดับเสียงได้ง่าย สแกนนิ้วก็ดีครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อครบ
ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อ Galaxy A23 ก็ให้มาครบอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องครับ มีพอร์ตหลักเป็น USB-C ซ้าย-ขวาจะแบ่งเป็น ช่องหูฟัง 3.5 มม. ไมโครโฟน และลำโพงหลักของตัวเครื่องตามลำดับครับ
ตัวลำโพงของ Galaxy A23 จะมีเพียงตัวหลักที่ด้านล่างของตัวเครื่องอย่างเดียว ไม่ได้ใช้งานคู่กับลำโพงสนทนาเป็น Stereo ได้ แต่เสียงถือว่าดังใช้ได้ดีเลย ใช้งานฟังเพลงทั่วไป
เพิ่ม micro-SD ได้สูงสุด 1TB ช่องใส่ซิมแบบ Triple-Slot
ช่องใส่ซิมของ Galaxy A23 จะอยู่ที่ด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง โดยถาดซิมเป็นแบบ Triple-Slot ใส่ได้ 2 ซิมคู่กับ micro-SD ที่เพิ่มได้สูงสุดถึง 1TB เลยทีเดียว ใครคิดว่าความจุ 128GB ในตัวเครื่องยังไม่พอ ก็เพิ่มได้เต็มที่เลยครับ
สรุปแล้วดีไซน์ของ Galaxy A23 ก็มาในดีไซน์สวยเรียบง่ายตามสไตล์ A Series ในปีนี้ มีฝาหลังโค้งสวยไล่ระดับไปถึงกล้องหลังสวย ๆ ฝาหลังสีสวยเข้ากับกลุ่มวัยรุ่นได้ดี อีกทั้งยังมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.6” ทำงานได้ลื่นไหลระดับ 90Hz ถือว่าครบเครื่องในสมาร์ทโฟนงบไม่ถึง 8,000 บาทจริง ๆ เลยครับ
เร็ว แรง ทรงพลังกว่าเดิม 20% ด้วยชิป Snapdragon 680
ในเรื่องประสิทธิภาพ Galaxy A23 ก็เร็วแรงไม่มีกั๊กด้วยชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Snapdragon 680 ที่ Samsung เคลมว่าทรงพลังกว่าเดิมถึง 20% กันเลยทีเดียว เท่าที่เราลองใช้งานมาแล้วก็ลื่นไหลดีจริง ๆ แต่ถ้าจะให้เห็นภาพขึ้นอีกหน่อย เราขอทดสอบผ่ายแอป Benchmark กันสักหน่อย
คะแนนจากแอป AnTuTu Benchmark ได้สูงถึง 246,511 คะแนนเลย ถือว่าไม่ธรรมดาเลยกับสมาร์ทโฟนงบไม่ถึง 8,000 บาทเลยทีเดียวครับ
ส่วนคะแนนฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้ฝั่ง Single-Core ไปที่ 383 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 1558 คะแนนครับผม
เล่นเกมก็แรง ลื่นไปหมด
แค่ Benchmark อย่างเดียวคงไม่พอ เราขอทดสอบด้วยการเล่นเกมจริง ๆ เลยดีกว่าว่าชิป Snapdragon 680 จะเล่นเกมได้ถูกใจแค่ไหน เกมที่เราใช้ทดสอบในรอบนี้คือ Asphalt 9 และ PUBG New State ครับ
เล่น Asphalt 9 บน Galaxy A23
เริ่มที่ Asphalt 9 กันก่อน ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ของ Galaxy A23 สามารถปรับกราฟิกได้ที่ระดับสูงสุด High Quality เลย เท่าที่เราลองเล่นก็ลื่นไหล กราฟิกสวยงามครับ ยิ่งได้หน้าจอใหญ่ถึง 6.6” ความละเอียด FHD+ อีก ช่วยให้เล่นได้อย่างสะใจดีมากครับ
เล่น PUBG New State บน Galaxy A23
มาต่อที่ PUBG New State เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้สูงสุดที่ “สูง” และเฟรมเรต “สูงมาก” ซึ่งเราก็ปรับไปที่ระดับนั้นเลย เท่าที่เล่นจริง ๆ ถือว่าทำได้ดีเลยครับ กราฟิกสวยตัวเฟรมเรตก็นิ่งใช้ได้ เราลองเล่นแบบ 2 เกมต่อเนื่องก็ยังไม่เจอปัญหาเฟรมดรอปให้กวนใจ และความร้อนก็ไม่มากมายอะไรแค่อุ่น ๆ เท่านั้นครับ การตอบสนองของหน้าจอด้วย refresh rate 90Hz ก็ลื่นไหลถูกใจเรามากอีกด้วย
สรุปในเรื่องประสิทธิภาพ Galaxy A23 ถือว่าทำได้ดีเลย ความเร็ว แรง ที่เพิ่มขึ้น 20% ตามที่เคลมไว้เห็นผลในเรื่องการเล่นเกมเป็นอย่างดีเลย ลื่นไหลและตอบโจทย์อย่างมาก ยิ่งทำงานคู่กับหน้าจอ 90Hz อีก ถือว่าเป็นรุ่นราคาประหยัดที่ประสิทธิภาพไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ครับ
กล้อง 4 ตัวให้มากสุดในเรตราคานี้
มาเข้าอีกเรื่องที่เป็นไฮไลท์ของ Galaxy A23 ก็คือเรื่องกล้อง รุ่นนี้มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- กล้องหลัก 50MP f/1.8 OIS
- กล้อง Ultra Wide 5MP f/2.2
- กล้อง macro f/2.4
- กล้อง Depth f/2.4
ดูจากสเปคกล้องแล้วถือว่าให้มาพร้อมใช้ไม่น้อยเลย ทั้งกล้องหลักที่ความละเอียดสูงถึง 50MP พร้อม OIS แบบเดียวกับรุ่นพี่ A53 5G ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดไม่สั่นไหว มีเลนส์ Ultra Wide มุมกว้างมาให้ รวมถึงเลนส์เสริมอย่าง macro และ Depth เข้ามาด้วย ซึ่งในเรตราคานี้ไม่มีแบรนด์ไหนให้มาเยอะเท่านี้เลยก็ว่าได้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ Galaxy A23 เนี่ย!
กล้องหลัก 50MP พร้อม OIS เก็บทุกรายละเอียดในทุกสภาพแสง
อย่างที่บอกว่ากล้องหลักของ Galaxy A23 นั้นให้มาสูงถึง 50MP พร้อม OIS ด้วย ช่วยให้เราถ่ายภาพทั้งแสงปกติและแสงน้อยได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวสั่นไหว ในเรื่องซอฟต์แวร์ Samsung ยังมี Scene Optimizer ที่ใช้ AI ช่วยปรับภาพให้สวยเข้ากับฉากที่เราจะถ่ายได้เป็นอย่างดี เราจะเลือกถ่ายอาหารก็ดูน่ากิน ถ่ายท้องฟ้าก็สว่างสดใส ถ่ายวิว ถ่ายพระอาทิตย์ตก ก็ดึงสีขึ้นมาได้อย่างถูกใจ โดยที่เราไม่ต้องมาปรับแต่งเพิ่มให้วุ่นวายครับ
รวมถึงมีฟีเจอร์ Auto HDR ที่ช่วยปรับแสงและ Dynamic Range ให้เข้ากับภาพนั้น ๆ ได้ดีขึ้นไปอีก แม้เราจะถ่ายย้อนแสงก็ไม่ต้องกลัวจะมืดไปหมดทั้งภาพ และเท่าที่เราลองใช้งานมาจริง ๆ กล้องของ Galaxy A23 ถือว่าทำได้ถูกใจเราจริง ๆ โทนสีสมกับ Samsung ความง่ายในการถ่ายก็ดี แค่เล็ง จัดองค์ประกอบภาพดี ๆ แล้วกดถ่ายก็ได้ภาพที่สวยถูกใจเราไม่ยาก
Ultra Wide มุมกว้างความละเอียด 5MP
อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้มีกล้อง Ultra Wide มาให้ด้วย ซึ่งมุมมองของภาพก็ยังกว้างถึง 123º เลย ช่วยให้เราได้ภาพวิวที่มุมมองกว้างกว่าเดิม โดยไม่ต้องถอยไปเยอะ แถมคุณภาพก็ยังดีใช้ได้เลยแม้ความละเอียดที่ให้มาจะเพียง 5MP ก็ตาม ฟีเจอร์ Scene Optimizer หรือ Auto HDR ก็ยังใช้งานได้อยู่ เพราะฉะนั้นสีสันหรือ Dynamic Range ก็ดีตามสไตล์ Samsung เลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้อง Wide 
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้อง Ultra Wide
macro ใกล้สุด 3 ซม.
กล้อง macro อีกตัวที่มีมาให้ใช้งานบน Galaxy A23 ระยะที่เหมาะสมคือ 3 – 5 ซม. ซึ่งถือว่าเข้าใกล้ได้ดีเลย แม้ความละเอียดจะน้อยเพียง 2MP แต่บอกเลยว่าคุณภาพดีกว่าที่คิดมาก ถ้าได้แสงที่เพียงพอด้วยแล้ว ไฟล์ภาพคมชัดใช้ได้เลย แถมระยะที่ใกล้สุด 3 ซม.ทำให้เราเข้าใกล้วัตถุได้มากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ ใครที่ชอบส่องวัตถุใกล้ ๆ ใช้โหมด macro ถูกใจแน่
Portrait ถ่ายคนสวย
ปิดท้ายที่โหมด Portrait ตรงนี้จะใช้ความสามารถของเลนส์ Depth ในการจับระยะของแบบและฉากหลังร่วมกับกล้องหลักในการเก็บภาพ ซึ่งผลลัพธ์จากโหมดนี้ก็น่าสนใจครับ การละลายฉากหลังทำได้เนียนตาใช้ได้เลย แถมกล้องหลักที่ความละเอียด 50MP ก็คุณภาพดีถ่ายออกมาได้สวย สกินโทนถูกใจเรามาก ๆ เลยล่ะครับ
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่เนียน
ปิดท้ายที่กล้องหน้า Galaxy A23 ให้กล้องหน้าความละเอียดมา 8MP คุณภาพดีใช้ได้เลย มีโหมด Portrait มาให้ใช้งานเหมือนกัน จะเซลฟี่แบบเบลอฉากหลังให้เราเด่นขึ้นมาก็ไม่ยาก ความเนียนของใบหน้าก็มีพวก Skin Smoothness มาให้เลือกปรับด้วยครับ
วิดีโอสูงสุด 4K/30fps มีกันสั่น OIS
และในเรื่องวิดีโอ Galaxy A23 ก็ถ่ายได้สูงสุดถึง 4K/30fps เลยล่ะครับ ในเรื่องความสเถียรก็ทำได้ดีเพราะมี OIS เข้ามาช่วยให้เราได้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้น
สำหรับเรื่องกล้องต้องบอกว่า Galaxy A23 นั้นทำได้ดีกว่าที่คิดไว้พอสมควร ทั้งในเรื่องกล้องหลักที่คุณภาพยอดเยี่ยมมี OIS มาช่วยเรื่องระบบกันสั่นถ่ายชัดทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ไม่มีเบลอ แถมยังได้กล้องตัวอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มให้ถ่ายภาพได้หลากหลายมุมมองทั้งมุมกว้าง Ultra Wide หรือ macro ที่ให้เราถ่ายวัตถุใกล้ ๆ ได้อย่างสวย เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึง 8,000 บาทที่ถือว่ากล้องครบใช้ได้จริง ๆ
แบตเตอรี่จุใจ 5000mAh
ในเรื่องการใช้งานแบตเตอรี่ Galaxy A23 ก็ใช้งานได้ยาวนานดีมากด้วยแบตเตอรี่ความจุถึง 5000mAh จะเล่นเกม ถ่ายรูป หรือโซเชี่ยลแบบจัด ๆ ก็สบายมาก ด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 แบบ 6nm ที่ประหยัดพลังงานได้ดี ทำให้เราไม่ต้องกังวลในเรื่องแบตเตอรี่ว่าจะหมดระหว่างวันเลย เท่าที่เราใช้งานจริงมาก็รู้สึกว่าแบตฯอึดจริง ๆ ครับ ถ้าเล่นไม่หนักมากก็ใช้ได้ 2 วันเลยทีเดียว
ชาร์จไว Fast Charge 25W
แต่ถ้าแบตฯเยอะอย่างเดียวแล้วชาร์จช้าก็ไม่ไหวถูกไหมครับ Galaxy A23 ให้ระบบชาร์จไวที่ Fast Charge 25W มาด้วย ช่วยให้เราชาร์จแบตฯกลับเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนานหากแบตฯใกล้หมดจริง ๆ ครับ
ระบบปฏิบัติการ Android 12 พร้อม One UI 4.1
ปิดท้ายเรื่องซอฟต์แวร์ Galaxy A23 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย One UI 4.1 เรียกว่าเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับรุ่นพี่ทั้ง Galaxy S22 หรือ Galaxy A53 5G กันเลย ในเรื่องการทำงานลื่นไหลมากอย่างที่เราบอกไป มีลูกเล่นใหม่ ๆ เข้ามามากมาย
อาทิ Color Palatte ปรับรูปแบบของเครื่องตาม Wallpaper ที่เราใช้, ฟีเจอร์ RAM Plus เพิ่มหน่วยความจำแรมแบบจำลอง, หรือจะเป็นฟีเจอร์การปรับแต่งถ่ายภาพเพิ่มเอฟเฟกต์ Portrait ให้กับภาพถ่าย ก็ให้มาเหมือนรุ่นพี่หมดเลยครับ
ราคาเพียง 7,999 บาท
Samsung Galaxy A23 เปิดราคามาที่ 7,999 บาท มีให้เลือก 3 คือ สีส้ม Peach, สีฟ้า Blue และ สีดำ Black มีโปรโมชั่นผ่อน 0% 15 เดือน เพียงเดือนละ 534 บาท ที่ Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือสมาร์ทโฟนน้องเล็ก แต่เก่งไม่กั๊ก เร็วแรง และกล้องคมชัด”
สรุปแล้ว Galaxy A23 ก็ถือว่าเป็นน้องเล็กใหม่จาก Samsung Galaxy A Series แต่ยัง “เก่งไม่กั๊ก” ตามสโลแกนเช่นเคย ด้วยสเปคที่ให้มาอย่างน่าสนใจทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 680 แรงขึ้นถึง 20% หน้าจอขนาดใหญ่ 6.6″ แบตเตอรี่สะใจ 5000mAh แถมยังได้กล้องหลัง 4 ตัวความละเอียด 50MP พร้อม OIS มาอีก ถ่ายสวยทั้งภาพนิ่งและวิดีโอไม่มีการสั่นไหว เรียกว่าจัดมาให้ไม่มีกั๊ก ในเรตราคานี้ถือว่าให้มาเยอะมากเลยทีเดียวครับ ในเรื่องการใช้งานก็ถือว่าน่าประทับใจด้วยซอฟต์แวร์ตัวล่าสุด One UI 4.1 และที่สำคัญคือดีไซน์สวยน่าใช้งานโดยเฉพาะสี Peach ที่เราได้มารีวิว โดดเด่นถูกใจมาก ๆ ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่ครบทั้งสเปค ฟีเจอร์ และดีไซน์ในราคาไม่ถึง 8,000 บาท เราว่า Galaxy A23 รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยโดดเด่น
- ชิปเซ็ต Snapdragon 680 เร็วแรง ตอบโจทย์การใช้งาน
- หน้าจอ 6.6″ ขนาดใหญ่เต็มตาแถมลื่นไหลด้วย refresh rate 90Hz
- แบตเตอรี่ใหญ่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 25W
- กล้องหลัง 50MP พร้อม OIS ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอดีเกินราคา
- ได้ซอฟต์แวร์ One UI 4.1 เวอร์ชั่นเดียวกับรุ่นพี่
จุดสังเกต
- ชนิดหน้าจอเป็น TFT อาจจะไม่จัดจ้านมากนัก แต่ก็แสดงผลได้สวยใช้ได้