
รีวิว Samsung Galaxy A36 5G หนึ่งในสมาร์ตโฟนตัวหลักของ Galaxy A Series ในปี 2025 ที่อัปเกรดมาให้ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 4K คมชัดทุกเฟรม ทั้งยังได้ฟีเจอร์ AI ที่ย่อมาจาก Awesome Intelligence เพียบ รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่เข้ามาให้เราได้วางใจในการใช้งานมากขึ้นครับ
สรุปสเปค Samsung Galaxy A36 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 162.9 x 78.2 x 7.4 มม.
- น้ำหนัก : 195 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz ความสว่างสูงสุด 1200 นิต และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus+
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 6 Gen 3 Octa Core ความเร็ว Clock สูงสุด 2.4GHz
- GPU : Adreno 710
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8 รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5MP รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 12MP
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7.0
- รอบรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W Super Fast Charging 2.0
ดีไซน์สุด Awesome ปรับโฉมใหม่ อัปเกรดความพรีเมียมให้ทำถึงกว่าเดิม !
Galaxy A36 5G มีการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ให้ได้ความพรีเมียมมากขึ้นเดิม ซึ่งดูแล้วจะมีความคล้ายกับตัวรุ่นพี่อย่าง Galaxy S Series มากขึ้น โดยได้โมดูลกล้องหลังที่ใส่ฐานกล้องเข้าครอบทับครบทั้ง 3 เลนส์ ซึ่งตรงขอบฐานกล้องจะเป็นไปตามแต่ละสีของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน


ตัวเครื่องจะมี 3 สี คือ Light Green, Light Violet และ Black ในรีวิวนี้จะเป็นสีม่วง Light Violet บอกเลยว่าสีสันสดใสมากๆ เพราะไม่ใช่มีแค่สีม่วงโดดๆ สีเดียว แต่เมื่อสะท้อนแสงในมุมอื่นก็ให้เราเห็นสีฟ้าและน้ำเงินอ่อนๆ ที่แฝงอยู่ทั่วฝาหลังได้ครับ

ขอบตัวเครื่องก็เป็นแบบแบนเรียบเหมือนเดิม โดยที่ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.4 มม. ซึ่งบางลงกว่า Galaxy A35 5G เกือบ 1 มม. ขณะที่น้ำหนักก็อยู่ที่ 195 กรัม ซึ่งก็เบาลงกว่าเดิมเหมือนกันครับ

เรียกว่ารอบนี้ Galaxy A36 5G ได้ปรับดีไซน์มาให้สวยงามและลงตัวมากขึ้นจริงๆ และรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในรอบหลายปีของ Galaxy A Series เลยทีเดียวครับ

สิ่งที่ยังคงเป็นจุดเด่นของ Galaxy A Series ที่ยังถูกใช้งานใน Galaxy A36 5G คือ Key Island ที่เป็นเสมือนเกาะของปุ่มต่างๆ ข้างเครื่อง โดยจะนูนขึ้นมาตรงปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ทำให้เวลาใช้งานรู้สึกสะดวกมากขึ้นครับ


ระบบระบายความร้อนดีขึ้นถึง 15%
Galaxy A36 5G มาพร้อมกับการเพิ่มระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเป็นการเพิ่มขนาดของแผ่น Vapor Chamber ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 15% เป็นขนาด 3,154 ตารางมิลลิเมตร จุดนี้เองจะทำให้ตัวเครื่องระบายความร้อนดีขึ้น ดังนั้นจะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานนั้นเต็มที่ได้นานกว่าเดิมด้วยครับ

มาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่นระดับ IP67 กันน้ำลึก 1 เมตร !
ในรุ่นนี้ยังได้มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP67 โดยสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสุด 30 นาที อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้แนะนำให้นำไปดำน้ำเล่น เพราะมีไว้เพื่อการป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้นเนาะ

หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 6.7 นิ้ว ขอบบางลง แสดงผลคมชัดเต็มตา
Galaxy A36 5G ได้หน้าจอแสดงผลที่ดีกว่าเดิมด้วยครับ โดยเป็นพาเนล Super AMOLED ที่ได้ความคมชัดและสีสันที่จัดเต็ม รวมถึงขนาดหน้าจอจะเป็น 6.7 นิ้ว ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยจาก 6.6 นิ้ว เพราะได้ขอบที่บางลงนั่นเอง ขณะที่ความละเอียดจะอยู่ Full HD+ (2340 x 1080 พิกเซล) และหน้าจอก็สู้แสงได้สูงสุดถึง 1200 นิต

ความไหลลื่นของหน้าจอก็รองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz และยิ่งได้ระบบ One UI 7 เข้ามาด้วย ก็ยิ่งเสริมพลังความลื่นขึ้นไปด้วยครับ

รอบเครื่องมีอะไรกันบ้าง?
พามาดูสิ่งที่ให้มารอบๆ เครื่องกันครับ โดยหน้าจอจะมีกล้องหน้าแบบ Infinity-O มาให้เหมือนเดิม พร้อมด้วยลำโพงสเตอริโอและสำหรับเสียงสนทนาอยู่บริเวณขอบบน

ด้านขวาเครื่องจะมีปุ่มเพิ่มและลดเสียง รวมถึงปุ่ม Power มาให้ตามที่บอกไปตอนต้นครับ

ขอบล่างเครื่องจะมีทั้งช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่ MicroSD Card มาให้แล้วในรุ่นนี้ ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB-C และลำโพงสเตอริโออีกตัว


ส่วนด้านบนจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวนต่างๆ ครับ

ท้ายสุดที่ด้านหลังมีกล้องหลัง 3 เลนส์แนวตั้ง และไฟแฟลชก็มีมาให้ 1 ดวง

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ซอฟต์แวร์อัปเดตนาน 6 ปีเต็ม มากสุดในรุ่นหมื่นต้น !
เรื่องของซอฟต์แวร์ต้องบอกเลยว่า Samsung นั้นเป็นเบอร์ต้นๆ ในเรื่องของการอัปเดตแล้วล่ะครับ โดย Galaxy A36 5G รุ่นนี้แกะกล่องมาเป็น Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7.0 ที่จัดเต็มด้านฟีเจอร์ต่างๆ เพียบ โดยเฉพาะด้าน AI (Awesome Intelligence) ที่จัดหนักมาให้เลยด้วย และที่ขาดไม่ได้คือการอัปเกรด Android ได้ต่ออีกถึง 6 รุ่น และแพทช์รักษาความปลอดภัยอีก 6 ปีเต็มเช่นกัน เรียกว่าซื้อตอนนี้ ได้ใช้ต่อถึง Android 21 กันไปเลยย !! และในราคานี้ก็หาการอัปเดตยาวๆ แบบนี้ไม่ได้แล้วครับ

มีผู้ช่วย AI มือขวาที่ขาดไม่ได้ ทำได้ทุกอย่างที่ต้องการ
บอกเลยว่าในสมาร์ตโฟนราคาหมื่นต้น Galaxy A36 5G เป็นรุ่นที่ได้ใช้งานฟีเจอร์ AI เยอะมากๆ น่าจะเป็นรุ่นที่เข้ามาช่วยให้เราได้ใช้งานง่ายขึ้นเหมือนมีมือขวาคอยช่วยเราอยู่ในมือเลยล่ะครับ ซึ่ง AI ในรุ่นนี้จัดว่าเป็น Awesome Intelligence ที่มีให้ใช้เพียบ ตามด้านล่างนี้เลย
- Circle to Search : ฟีเจอร์นี้ชื่อคุ้นกันแน่นอนอยู่แล้ว แค่วงบนหน้าจอเพื่อค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้เลยทันทีผ่าน Google ครับ อย่างเราอยากรู้ว่าภาพที่เราเห็นนี้คือที่ไหน ก็สามารถกดค้างที่แถบนำทางด้านล่าง จากนั้นก็วงได้เลยครับ


- AI Select : ฟีเจอร์นี้เป็นอีกผู้ช่วยที่ให้เราได้ใช้งานคล่องตัวมากขึ้น เพราะหากเราเลือกข้อความ ภาพ หรือข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอด้วย AI Select (เปิดได้ที่แถบด้านข้าง) ก็จะมีตัวเลือกให้เราเข้าถึงง่ายๆ กว่าเดิม เช่น หากเราเลือกเบอร์โทรศัพท์ก็จะให้ตัวเลือกให้เราได้บันทึกรายชื่อได้เลย หรือหากเป็นที่อยู่ ก็สามารถระบุตำแหน่งได้เลยรวมถึงจะเป็นการแชร์ภาพที่เราวงเอาไว้ให้กับเพื่อน ภาพดังกล่าวก็จะลบอัตโนมัติทันทีหลังถูกแชร์ด้วย เรียกว่าเป็นการลดขั้นตอนลงกว่าเดิมมากขึ้นจริงๆ ครับ

- Read Aloud : หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อฟีเจอร์นี้ครับ ซึ่ง Read Aloud จะซ่อนอยู่ในเบราว์เซอร์ Samsung Internet ที่หากเราเจอบทความยาวๆ แต่อาจจะไม่สะดวกอ่านเองในตอนนั้น ก็สามารถเปิดตรงการตั้งค่าเพิ่มเติม และเลือก Read Aloud (อ่านออกเสียง) เพื่อให้ AI อ่านให้เราฟังได้เลยครับ

- Object Eraser : ฟีเจอร์นี้น่าจะได้ใช้งานกันบ่อยอยู่แล้วครับ โดยเป็นตัวลบวัตถุหรือคนที่ไม่ต้องการได้แบบเนียนๆ เลย เมื่อเราเลือกภาพที่ต้องการให้ลบวัตถุ AI จะวิเคราะห์และแนะนำให้ว่าควรจะลบอะไรในภาพนั้นๆ ครับ

ความปลอดภัยมีให้ครบแบบหายห่วง ป้องกันมิจฉาชีพได้แน่นอน !
ไม่ใช่แค่ AI ที่ Galaxy A36 5G ใส่เข้ามาให้เท่านั้น แต่เรื่องความปลอดภัยก็เป็นอีกตัวชูโรงในรุ่นนี้ครับ ยิ่งยุคนี้มิจฉาชีพก็เจอกันได้ง่ายๆ ก็ต้องยิ่งมีระบบความปลอดภัยที่เข้ามาช่วยเราอีกแรง โดย Samsung มาพร้อมกับ Knox Vault ที่เป็นตัวป้องกันของแบรนด์ที่ปกป้องและเข้ารหัสข้อมูลส่วนตัวที่มีความละเอียดอ่อนของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน ลายนิ้วมือ หรือข้อมูลส่วนตัว เป็นต้น
ทั้งนี้ก็ยังมี Auto Blocker ซึ่งในเวอร์ชันก่อนหน้านี้เราต้องเปิดใช้งานด้วยตนเอง แต่ใน One UI 7.0 จะให้เราเปิดใช้งานกันได้เลยตั้งแต่ตั้งค่าเครื่องครั้งแรก ทำให้ได้รับความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นใช้งาน (ไม่ต้องหาในการตั้งค่าแล้วนะ) และเมื่อเราเปิดแล้ว ระบบจะปิดกั้นการติดตั้งแอปนอก Play Store / Galaxy Store รวมถึงการบล็อคคำสั่งจากสาย USB, รูปภาพ ข้อความ SMS หรือลิงก์แปลกปลอมในแอปข้อความ และป้องกันการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้มาจาก Samsung โดยตรงครับ

นอกจากนี้ ก็ยังมี Theft Protection (การป้องกันการโจรกรรม) ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ด้วย โดยจะเป็นการป้องกันระยะไกลเมื่อเครื่องถูกขโมยหรือหาย ซึ่งเราสามารถล็อคอุปกรณ์ระยะไกลได้ผ่านเว็บ android.com/lock หรือจะเป็นการป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ลายนิ้วมือของเราเท่านั้นครับ

ลำโพงสเตอริโอคู่ Dolby Atmos
ในราคาหมื่นต้น ก็ยังให้เราได้เข้าถึงความบันเทิงแบบเต็มๆ ด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วย ซึ่งเสียงที่ได้แน่นอนว่าจะมีมิติ เสียงดังกระหึ่มพอสมควร ทำให้เราใช้งานได้เต็มที่ทั้งการเล่นเกมหรือการดูภาพยนตร์ ซีรีส์ต่างๆ ครับ

ได้ Now Bar เข้ามาเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ Now Bar เข้ามาครั้งแรกใน One UI 7 โดยจะเป็นการแสดงบนหน้าจอล็อคในแถบล่าง ทำให้เราควบคุมแอปต่างๆ ที่รองรับได้ผ่านหน้าจอล็อค ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง การเล่นเพลง การแจ้งเตือน นาฬิกา การบันทึกเสียง และอื่นๆ ซึ่งเราสามารถปัดขึ้น-ลงเพื่อเลือกแอปที่ต้องการควบคุมได้ผ่านจอล็อคทันที ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าจออีกต่อไป และความประทับใจในฟีเจอร์นี้คือความไหลลื่นในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ



ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 3 ใช้งานทั่วไปก็ไหลลื่นหรือเล่นเกมก็ปรับสุดได้
Galaxy A36 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 6 Gen 3 ที่เป็น CPU แบบ 8 คอร์ (Octa Core) มีความเร็ว Clock สูงสุด 2.4GHz ทั้งยังใช้สถาปัตยกรรมขนาดเล็กเพียง 4nm เท่านั้น ทำให้มีการประหยัดพลังงานมากขึ้นและประสิทธิภาพก็สูงขึ้นกว่าเดิม 8% ซึ่งใครที่ใช้งานในรุ่นนี้แล้ว จะสังเกตเลยว่าความร้อนและความไหลลื่นนั้นดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการเล่นเกมที่จะได้การประมวลผลกราฟิกที่สูงขึ้นไปด้วยครับ

คะแนนการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.4.5 ได้มาที่ 613,367 คะแนน
- ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,014 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,901 คะแนน


มาลองเล่นเกมกันสักหน่อย !!
จากการที่เปลี่ยนมาใช้เป็นชิปฝั่ง Qualcomm แล้ว เราก็ขอลองเล่นเกมบน Galaxy A36 5G สักหน่อยครับ ซึ่งเราได้ทดสอบ 3 เกมหลักๆ คือ ROV, PUBG MOBILE และ Asphalt Legends Unite แต่ละเกมเล่นเป็นยังไงบ้าง เรามาเจาะลึกไปทีละเกมกันครับ

ROV
เปิดกันด้วย ROV จะเป็นการตั้งค่าสูงสุดทั้งหมดให้ตั้งแต่ค่าเริ่มต้นแล้วครับ ไม่ต้องมาปรับอะไรเพิ่มเลย การเล่นเกมนี้ก็ทำได้สบายๆ เฟรมเรมทนิ่งและไม่เหวี่ยงเลย และความร้อนของเครื่องก็แค่อุ่นๆ เท่านั้นครับ

PUBG MOBILE
ต่อมาเป็น PUBG MOBILE ก็แอบเซอร์ไพรซ์นิดๆ เพราะสามารถปรับได้ถึงระดับ Ultra HD + เฟรมเรท Ultra ได้เลย (ในราคาหมื่นต้นหายากมาก) แถมการเล่นจริงๆ ในเกมก็ลื่นมาก การเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ติดนิ้ว ตอบสนองไว และภาพก็คมกริบจริงๆ เรียกว่าได้ใช้ประโยชน์จากหน้าจอ Refresh Rate 120Hz ได้เต็มที่ รวมถึงลำโพงสเตอริโอที่ให้เราได้ยินเสียงตำแหน่งของศัตรูได้แบบชัดเจน ไม่ต้องใส่หูฟังด้วยครับ

Asphalt Legends Unite
ปิดท้ายด้วยเกม Asphalt Legends Unite ก็สามารถเปิดกราฟิกในระดับสูงทั้งหมดคู่กับเฟรมเรท 60fps ได้เลยครับ ภายในเกมได้ภาพที่สวยงามจริงๆ ภาพสวยงามตามท้องเรื่อง การกดปุ่มก็ตอบสนองทันที และจากที่เล่นแล้วก็ไม่เจออาการงอแงอะไรเลยครับ

แบตเตอรี่อึด 5000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 45W เทียบเท่าตัวเรือธง
Galaxy A36 5G จัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 5000mAh ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่และทำให้เราได้ใช้งานกันตลอดวัน โดยในช่วงแรกๆ หลังจากใช้งานไปสักประมาณ 1 สัปดาห์ต้องให้ AI เรียนรู้ในการใช้งานของเราเองก่อน ก็จะได้ความอึดที่เห็นได้ชัดเจนกว่าวันแรกที่ใช้งานครับ
ที่สำคัญก็ยังรองรับการชาร์จเร็ว 45W Super Fast Charging 2.0 ที่เป็นความเร็วเทียบกับตัวรุ่นพี่ๆ ระดับเรือธงทั้งหมดครับ

กล้องหลังอัปเกรดขึ้น ถ่าย 4K คมชัด
Galaxy A36 5G ได้อัปเกรดพลังของกล้องหลังขึ้นมาจากเดิมแบบเห็นได้ชัดเลยครับ โดยเฉพาะในการถ่ายวิดีโอ 4K UHD ที่รอบนี้ทำได้ตั้งกล้องหน้าและกล้องหลังแบบครบถ้วนแล้วด้วยนะ ส่วนโหมดกล้องอื่นก็มีให้ใช้งานกันแบบครบหลายระยะเลยทีเดียวครับ ว่าแล้วเราก็ขอสรุปสเปคกล้องกันให้อีกรอบแล้วกัน ตามด้านล่างนี้เลยครับ
- เลนส์หลัก 50MP, f/1.8 รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP, f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- เลนส์ Macro 5MP, f/2.4
- กล้องหน้า 12MP

ถ่ายวิดีโอระดับ UHD 4K คมชัด สีสันสวยงาม
ในเมื่อรุ่นนี้ชูโรงในการถ่ายวิดีโอเป็นหลักอยู่แล้ว เราก็ขอเปิดกันด้วยการถ่ายวิดีโอกันครับ อย่างที่บอกไปว่า Galaxy A36 5G รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความคมชัดสูงสุด 4K @30fps (3840 x 2160) จากที่เราได้ลองถ่ายมาจริงๆ ทำออกมาได้ดีเกินราคาไปมาก !! สีสันของวิดีโอและสิ่งต่างๆ จบได้เลย ไม่ต้องมานั่งแต่งสีวิดีโอแล้ว รวมถึงยังได้ความสามารถของระบบกันสั่น OIS เข้ามาช่วย ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างนั้นไหลลื่นและสมูธไปหมดจริงๆ และที่ต้องย้ำกันเลยคือเรื่องของสกินโทนของสีผิวในตอนที่ถ่ายวิดีโอที่มีบุคคลอยู่ในนั้นเป็นอะไรที่ให้สีสันที่ถูกต้องมากขึ้น ! สีผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่ออกเป็นสีผิวเหลืองๆ แล้ว เรียกว่ารุ่นนี้ทำ White Balance ได้ดีขึ้นครับ

โดยการถ่าย 4K @30fps รองรับทั้งกล้องหลังในเลนส์หลักและกล้องหน้าแล้ว โดยระหว่างการถ่ายวิดีโอเราสามารถกดกลับกล้องไปมาได้เลย ไม่ต้องหยุดถ่ายก่อนแล้วครับ

การถ่าย 4K @30fps ที่รองรับในเลนส์หลัก เราก็สามารถซูมได้ตั้งแต่ 2x ไปจนถึง 10x เลยครับ แต่ก็แนะนำให้อยู่ในระยะที่ประมาณไม่เกิน 4x ก็จะได้ภาพที่ยังคงคมชัดอยู่

แน่นอนว่าเมื่อเราถ่ายวิดีโอได้คมชัดสูงขนาดนี้ก็ไม่พลาดที่จะให้เราได้แคปภาพจากวิดีโอ 4K ที่เราถ่ายมาให้เป็นภาพนิ่งได้ด้วยเหมือนกัน ทำให้เราได้ทั้งวิดีโอ + ภาพนิ่งในการถ่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งภาพที่ได้จากวิดีโอ 4K จะเป็นภาพระดับ 8MP (3840 x 2160 พิกเซล) ครับ





กล้องหลัก 50MP ภาพถ่ายลงตัวขึ้น ปรับสีสันต่างๆ ได้ลงตัว
ปีนี้กล้องหลักของ Galaxy A36 5G แม้จะเป็นกล้อง 50MP เหมือนเดิม แต่เรื่องผลลัพธ์ที่ได้จากภาพถ่ายได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นพอสมควรเลย สีสันค่อนข้างสดใส จัดจ้านมากขึ้น ตรงนี้ใครที่ชอบสีสันในภาพที่มีความอิ่มสีอยู่แล้วก็ไม่ต้องมาปรับอะไรเลย แต่ต้องบอกก่อนว่าความอิ่มสีไม่ได้ดูจัดเกินไปจนรู้สึกว่าต้องปรับลดลงมา เรียกว่า “กำลังพอดีมากๆ” ขณะที่การจัดการแสง และสีสันก็ทำได้เก่งกว่าเดิม การปรับแสงในฉากหน้าและหลังทำได้ค่อนข้างเท่ากันแล้ว และเงาในภาพก็ปรับให้ดูมีมิติมากขึ้นด้วยครับ
ทั้งนี้การถ่ายภาพด้วยโหมดการถ่ายภาพกลางคืนใน Galaxy A36 5G จะมีการอัปเกรดในเรื่องการจัดการแสงในสภาพแสงน้อยให้ดีขึ้นจากตัวเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น รับแสงได้มากขึ้น Noise ก็ถูกจัดการได้ค่อนข้างดี มีการเร่งความสว่างได้พอเหมาะ ไม่ได้เร่งแสงจนเกิด Noise และในโหมดนี้ก็ถ่ายได้ครบทุกเลนส์ ยกเว้น Macro



























โหมด Portrait ปรับสกินโทนดีขึ้น ไม่ต้องแต่งเพิ่ม
Portrait รอบนี้บอกเลยว่าทำออกมาได้ถูกใจกว่าเดิมครับ การปรับแต่งสกินโทนทำได้ดีขึ้น สีผิวเป็นธรรมชาติมากขึ้น ปรับให้ดูสดใสและสว่างกว่าเดิม โดยรวมแล้วภาพโหมดบุคคลไม่ได้ดูเข้มจนต้องมานั่งปรับแต่งอะไรแล้วครับ แต่จะถ่ายได้แค่ระยะ 1x ครับ















Ultra Wide เก็บครบแน่นอนเพราะกว้าง 123 องศา
เลนส์ Ultra-Wide ที่ได้มาก็เป็นความละเอียดที่ 8MP พร้อมมุมมองที่กว้างสุดๆ ถึง 123 องศา ทำให้องค์ประกอบที่เราต้องการนั้นเก็บได้ครบแน่นอน โดยสีสันในกล้องนี้อาจจะไม่ได้สดเท่าเลนส์หลัก แต่ถือว่ายังทำได้คมชัด และจบหลังกล้องได้ครับ










Macro ถ่ายชัดด้วยความละเอียด 5MP
เลนส์ Macro ให้เราได้ถ่ายวัตถุใกล้ๆ ก็มีมาให้ครับ โดยมีความละเอียด 5MP ทำให้ถ่ายได้ชัดทั้งในสภาพแสงในร่มและแสงกลางแจ้ง โดยสีสันก็มีความสดและอิ่มมากด้วยเหมือนกัน







เซลฟี่สวย ถ่ายย้อนแสงเอาอยู่
กล้องหน้า 12MP ที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ก็ทำให้สายเซลฟี่ได้ภาพที่สวยงาม มีการอัปเกรดซอฟแวร์ที่ช่วยเรื่องการจัดการแสง ถ่ายย้อนแสงได้ดีขึ้น ใบหน้ามีมิติและโทนสีผิวก็เป็นธรรมชาติมากกว่าเดิมด้วยครับ







สรุปการใช้งาน Samsung Galaxy A36 5G
บอกเลยว่า Samsung Galaxy A36 5G เป็นสมาร์ตโฟนในราคาแค่หลักหมื่นต้นๆ ที่ได้ฟีเจอร์ระดับเรือธงที่หาไม่ได้จากรุ่นไหนแล้วในราคาเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการถ่ายวิดีโอที่เป็นจุดเด่นในรุ่นนี้ที่ถ่ายในระดับ 4K UHD และการถ่ายย้อนแสงทำได้ดีมาก สกินโทนหรือสีผิวทำได้เป็นธรรมชาติกว่าเดิม รวมถึงสีสันที่ได้จากวิดีโอสามารถทำให้เราจบหลังกล้องได้เลย ประหยัดเวลาไม่ต้องมานั่งปรับแสงหรือทำสีวิดีโออีกรอบครับ แถมยังถ่ายได้แบบนิ่งๆ ด้วยระบบกันสั่น OIS ที่ใส่เข้ามาให้ด้วย
ความคุ้มในรุ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่การถ่ายวิดีโอ 4K เท่านั้น แต่ดีไซน์ก็รู้สึกถึงการปรับโฉมให้มีความพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม บางและเบาลงชัดเจนแบบรู้สึกได้เลย ทั้งนี้ หน้าจอแสดงผลยังจัดเต็มสวยงามแบบ Super AMOLED 6.7″ 120Hz ใช้ CPU Snapdragon 6 Gen 3 ที่การเล่นเกมต่างๆ ทำได้ไหลลื่นและกราฟิกก็สวยงามกว่าเดิม และที่หลายคนรอคอยอย่าง One UI 7.0 ก็ได้มาตั้งแต่แกะกล่อง และยังการันตีอัปเดต Android + แพทช์ความปลอดภัยนานถึง 6 ปีเต็ม

ราคา Samsung Galaxy A36 5G แค่หมื่นต้นเท่านั้น !
Samsung Galaxy A36 5G มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Light Green, Light Violet และ Black โดยมีความจุเดียว คือ RAM 8GB + ROM 128GB ในราคา 11,999 บาท

เรื่องน่าสนใจเพิ่มเติม: