จัดรีวิวฉบับเต็มมาให้ตามสัญญากับ Samsung Galaxy A53 5G สมาร์ทโฟน “Awesome is for Everyone” เก่งไม่กั๊ก กล้องกันสั่น OIS ถ่ายชัดไม่กลัวเบลอด้วยกล้องคมชัดสูง 64 ล้านพิกเซล พร้อมชิปตัวใหม่ Exynos 1280 รองรับ 5G และเทคโนโลยีที่ครบครันเพื่อการใช้งานด้านความบันเทิงและตอบโจทย์รอบด้าน
สรุปสเปค Samsung Galaxy A53 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.6 x 74.8 x 8.1 มม.
- น้ำหนัก : 189 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate 120Hz และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
- หน่วยประมวลผล : Exynos 1280 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 รองรับเทคโนโลยีกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 3-5 ซม.
- เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
- รองรับ 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, ลำโพงคู่ระบบ Dolby ATMOS และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 25W Super Fast Charging
กล้องกันสั่น OIS ถ่ายชัดไม่กลัวเบลอ
เริ่มกันด้วยเรื่องกล้องที่เป็นตัวชูโรงของ Samsung Galaxy A53 5G ที่ยังคงเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์สำหรับสายที่เน้นการถ่ายภาพหรือวิดีโอเพื่อถ่าย Vlog หรือต้องการโพสต์ลงโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้แบบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเติมครับ โดยเทคโนโลยีกล้อง AI ที่ Samsung นำเข้ามาใช้ในรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเลยครับ จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ
กล้องหลักคมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล
Samsung Galaxy A53 5G ได้เลนส์กันสั่น OIS ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล โดยจะอยู่ในโหมดแยกครับ เรื่องความคมชัด การครอปภาพต่างๆ ยังคงให้รายละเอียดที่ชัดเจนอยู่เหมือนเดิม
AI ฉลาด ปรับภาพได้ได้สีสันสดใสมาก
ในโหมดปกติยังคงมาพร้อมกับ Scene Optimizer ที่มีการปรับแต่งสีสันตามวัตถุหรือฉากต่างๆ ที่เรากำลังถ่ายครับ โทนสีของ Samsung Galaxy A53 5G ยังคงเป็นตามแบบฉบับของ Samsung ที่เน้นความสดใสและเฉดสีที่มีการปรับให้ดูสดมากขึ้นครับ ที่สำคัญกดารที่เลนส์หลักมี OIS1 เข้ามาเป็นตัวช่วยในเรื่องกันสั่นจะทำให้ภาพมีความคมชัดสูงครับ ใครที่มือสั่นๆ จุดนี้ช่วยได้มากเลย
Ultra-Wide Angle ยังคงไปสุดเหมือนเดิม
สำหรับเลนส์ Ultra-Wide Angle ยังทำได้สวยงามเช่นเคยครับ โดยองศามุมกว้างทำได้ถึง 123 องศา มุมมองต่างๆ ทำได้ครบมากๆ แถมสีสันทำได้สวยงาม สีสันมีการปรับแต่งตามฉากต่างๆ และขอบของภาพก็ไม่ได้มีความโค้งมากเกินไป
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra-Wide Angle 
ถ่าย Macro คมชัดกว่าด้วยความละเอียด 5MP
ใครที่ชอบถ่ายถาพในระยะใกล้ๆ Samsung Galaxy A53 5G ได้ให้เลนส์นี้มาที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มากกว่าปกติที่มักให้มาแค่ 2 ล้านพิกเซลครับ เรื่องของสีสันและความคมชัดก็ทำได้ดีมากครับ สีสันยังคงสด ไม่ซีด และยังถ่ายได้ใกล้สุดตั้งแต่ 3-5 เซนติเมตรเลยทีเดียว
โหมด Portrait ถ่ายได้โทนสีธรรมชาติ
โหมด Portrait ของ Samsung รุ่นนี้มีโทนสีผิวที่ให้มีความเป็นธรรมชาติครับ ไม่ได้แต่งโทนผิวให้เพี้ยนจนเกินไป ทั้งนี้ หากใครที่อยากได้ผิวเนียนๅ ก็สามารถปรับได้สูงสุด 7 ระดับ
ปรับเอฟเฟ็กต์พื้นหลังได้ทีหลัง
ทั้งนี้ เมื่อเราถ่าย Portrait ออกมาแล้ว ก็สามารถมาปรับค่าความเข้มของเอฟเฟ็กต์ได้อีก 7 ระดับครับ (ยิ่งเยอะยิ่งเบลอหลังมากขึ้น)
หรือใครจะเปลี่ยนฉากหลังในสไตล์อื่นๆ ได้เพียบ ไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอ, High-Key Mono, Low-Key Mono, ฉากหลัง, คัลเลอร์พอยท์, สปิน และซูม
ถ่ายมาไม่ถูกใจ ก็ปรับได้ด้วย AI Eraser และ Remaster
ใครที่ถ่ายภาพออกมาแล้วมีคนอื่นๆ ติดร่วมเฟรมมาด้วยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็สามารถมาลบได้ผ่านแอปแกลเลอรี่เวอร์ชันล่าสุดของ Samsung เองครับ ในฟีเจอร์ตัวลบวัตถุ (AI Eraser) ที่เราสามารถแต้มจุดที่เราอยากลบคนหรือวัตถุออกไปได้ทันทีครับ ซึ่งก็ลบได้ค่อนข้างเนียนเลยครับ
หรือภาพไหนที่เราอยากปรับให้มีสีสันที่สดใหม่มากขึ้น ก็สามารถใช้ฟีเจอร์รีมาสเตอร์รูปภาพในแกลเลอรี่ได้เช่นกันครับ ตรงนี้เราสามารถกดเพื่อให้ AI ทำงานเองได้ทันทีโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดครับ
ถ่ายกลางคืนยังแจ่มด้วย AI Multi-Frame ใน Night Mode
ความฉลาดของ Night Mode ใน Samsung Galaxy A53 5G ทำออกได้ดีมากๆ แม้ว่าจะใช้โหมดปกติที่ใช้ Scene Optimizer อยู่ก็ตามครับ รายละเอียดของส่วนที่มีจุดมืดหรือเงาต่างๆ ที่ถ่ายไม่เห็นในโหมดปกติจะมีความสว่างมากขึ้นและรายละเอียดจะเห็นได้คมชัดกว่าเดิมครับ ทั้งนี้ หากถ่ายในที่ที่มืดมากๆ ก็ยังใช้ฟีเจอร์ Remaster ปรับแต่งได้อีกรอบหนึ่งครับ
โหมดปกติ / Night Mode 
กล้องหน้าคมชัดสูง 32MP
Samsung Galaxy A53 5G ให้กล้องหน้าที่มีความละเอียดมาสูงมากๆ สำหรับการเป็น Galaxy A Series ใครที่อยากได้ภาพเซลฟี่ที่มีความคมชัดสูงรุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีมากแน่นอนครับ ที่สำคัญ โทนสีของผิวที่ให้ความบิวตี้มาทำได้ธรรมชาติครับ แถมยังปรับความเนียนของใบหน้าได้ดีไม่แพ้ถ่ายการด้วยกล้องหลังเลยครับ
ถ่ายวิดีโอมี OIS ช่วยกันสั่นได้ดีมากๆ
จบภาพนิ่งกันไป ใครที่ชอบถ่ายวิดีโอเพื่อนำไปใช้ใน Vlog หรือวิดีโอไปใช้งานต่อก็ทำได้เป็นอย่างดีครับ โดยสามารถถ่ายได้ที่ความคมชัดสูงสุดถึงระดับ 4K UHD ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยครับ รวมถึงการที่มีระบบกันสั่นไหว VDIS หรือ OIS ที่ผสานกับ AI ก็ช่วยให้เวลาที่เราเดินไปถ่ายไปก็ทำได้นิ่งมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ แทบไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเสริมเลย
ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์เอกลักษณ์ของ Galaxy A Series กับความ Awesome !!
สัมผัสแรกของ Samsung Galaxy A53 5G ได้ความรู้สึกที่ความพรีเมี่ยมสมเป็น Galaxy A Series ด้วยความบางเพียง 8.1 มม. เท่านั้น พร้อมกับความเบา 189 กรัม ที่ใช้งานได้ถนัดมือและมีความทนทานด้านวัสดุและงานประกอบครับ
สำหรับสีที่ทุกคนเห็นอยู่ตอนนี้จะเป็นสีฟ้า Awesome Blue ที่จะเป็นฟ้าอ่อนมีความสดใสครับ ขณะที่จะมีอีก 2 สีให้เลือก ได้แก่ Awesome Black และ Awesome Peach
ตัวเครื่องของรุ่นนี้จะมีออกแบบให้มีความสูง ไม่กว้างจนเกินไป แม้เวลาใช้งานมือเดียวจะถนัดมากๆ ไม่ต้องเอื้อมมือจนสุดก็ยังสามารถกดหน้าจออีกฝั่งได้ง่ายๆ เลยครับ
กันน้ำมาตรฐาน IP67
Samsung Galaxy A53 5G ให้เราพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ด้านการมีมาตรฐาน IP67 กันน้ำและฝุ่นได้อย่างเต็มที่ ลึกสุด 1 เมตร นาน 30 นาทีครับ แต่ต้องขอย้ำเตือนไว้ว่าไม่แนะนำให้ใช้งานใต้น้ำ มีไว้แค่ป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็พอครับ
หน้าจอ Super AMOLED Infinity-O พร้อมไหลลื่นแบบ 120Hz
ความสวยงามของหน้าจอก็สมกับเป็น Samsung จริงๆ ครับ เพราะใน Samsung Galaxy A53 5G เราจะได้จอ Super AMOLED แบบ Infinity-O ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว พร้อมควาคมชัด Full HD+ มาให้ใช้งาน โดยจอ Super AMOLED ของ Samsung โดดเด่นเรื่องสีสันที่จัดจ้าน สีสดมากๆ และความสว่างก็ทำได้สูงอีกด้วย ใครใช้งานในที่กลางแจ้งก็มองเห็นจอได้ชัดแน่นอนครับ
ที่สำคัญยังสามารถเปิด Refresh Rate 120Hz เพื่อใช้งานได้ไหลลื่นและติดนิ้วมากขึ้นครับ
ที่เหนือหน้าจอจะให้กล้องหน้าแบบ Infinity-O มาให้ โดยมีขนาดที่เล็กพอสมควรเลยครับ และที่ด้านบนจะมีแถบของลำโพงที่แอบอยู่ ซึ่งลำโพงจะรองรับลำโพงคู่ Dolby ATMOS ด้วย
โดยปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่ม Power จะอยู่ที่ฝั่งขวาตัวเครื่องทั้งหมดครับ
ด้านล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง แต่ช่องที่ 2 มาแบบ Hybrid ให้เลือกซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card สูงสุด 1TB ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
ด้านบนจะมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนครับ
และที่ด้านหลังจะมีกล้อง 4 เลนส์ โดยมีไฟแฟลช LED 1 ดวง
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ใครปีนี้ Samsung Galaxy A53 5G ได้ใช้หน่วยประมวลผลร่นใหม่สุดของแบรนด์อย่าง Exynos 1280 แบบ Octa-core พร้อมสถาปัตยกรรมขนาดเล็กเพียง 5 นาโนเมตรเท่านั้น ช่วยให้ตัวชิปมีการประหยัดพลังงานเยอะพอตัวเลยทีเดียว ที่สำคัญ ชิปตัวนี้ยังมีการจัดการเรื่องความร้อนได้ดีอีกด้วยครับ จากการที่ใช้งานทั่วไปและต่อด้วยการเล่นเกมก็ยังไม่เจออาการที่ร้อนจนเกินไปครับ
ขยาย RAM ได้อีกสูงสุดถึง 6GB
ในรุ่นนี้มี RAM พื้นฐานอยู่ที่ 8GB ซึ่งจริงๆ ก็เยอะมากแล้วครับ แต่ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี RAM Plus ที่ให้เราเพิ่ม RAM ได้เองอีกตั้งแต่ 2GB, 4GB, 6GB และ 8GB ทำให้สามารถมี RAM ได้รวมสูงสุดถึง 16GB !!
การทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมทั้ง CPU, GPU, หน่วยความจุ และ UX ผ่าน AnTuTu v9.3.3 ได้ไปที่ 370,953 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
เกม ROV เราสามารถเปิดการแสดงผลได้ในระดับสูง, ภาพ HD สูงมาก และเฟรมเรทสูงได้ครับ ใครที่ยังเล่นเกมนี้อยู่จะได้ความไหลลื่นมากๆ ทัชหน้าจอได้ติดแบบไม่หงุดหงิดแน่นอน แถมเฟรมเรทยังนิ่งมากๆ อยู่ที่ 59-61fps ตลอดทั้งเกมครับ
PUBG Mobile
ส่วนเกม PUBG Mobile เปิดกราฟิกได้ในระดับ HD และเฟรมเรทสูงครับ โดยเราลองในโหมดปกติ 100 คนพร้อมแผนที่ 8×8 ก็เล่นได้สบายมากๆ การเคลื่อนที่ไปมาทำได้นิ่งมาก ไม่เจออาการหน่วงหรือดีเลย์ระหว่างหมุนจอไปมาครับ และที่ชอบมากๆ เลยคือการได้ประโยชน์จากลำโพงคู่ Dolby ATMOS ที่ไม่ต้องใส่หูฟังก็รู้ถึงการเคลื่อนไหวของศัตรูแล้ว
MARVEL Future Fight
มาลองเกม MARVEL Future Fight กันบ้างครับ เปิดกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมดครับ โดยภายในเกมทำได้ไหลลื่น ภาพสวย และไม่มีอาการกระตุกอะไรเลยครับ
แบตอึดๆ ใช้งานได้ครบวัน พร้อมรองรับ 25W Super Fast Charging
ใครที่ได้ใช้ Samsung Galaxy A53 5G อาจได้ถ่ายรูปหรือวิดีโอกันบ่อยๆ ดังนั้น การได้แบตเตอรี่มาถึง 5000mAh ก็ทำให้ใช้งานได้ครบตลอดวันครับ ซึ่งช่วงแรกๆ อาจจะมีหมดเร็วไปนิดหน่อยแต่เมื่อเราใช้งานไปประมาณเกือบสัปดาห์ ระบบ AI จะมีการเรียนรู้การใช้งานประจำของเราทำให้แบตเตอรี่อึดมาขึ้นอย่างสังเกตได้เลยครับ
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A53 5G ยังรองรับชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging ซึ่งชาร์จจาก 0-50% ได้ในเวลาไม่ถึง 30 นาทีด้วย
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
ใครชอบซอฟต์แวร์ใหม่ๆ พร้อมฟีเจอร์ให้ใช้งานเพียบ Samsung Galaxy A53 5G ก็จัดมาให้แล้วครับ เพราะแกะกล่องมาพร้อม Android 12 ควบคู่กับ One UI 4.1 ที่มีฟีเจอร์ต่างๆ มาให้ครบที่ด้านความบันเทิง, เล่นเกม และการตกแต่งภาพหรือวิดีโอ
และใครที่กลัวว่าจะโดนลอยแพเร็ว คิดผิดครับ! เพราะ Galaxy A53 5G การันตีอัปเดท Android ให้ถึง 4 รุ่นเลย (ถึง Android 16)
ใช้งาน 5G ได้สบายๆ
ใครที่ต้องการความเร็วแรงในการเชื่อมต่อแบบ 5G ในรุ่นนี้ก็จัดมาให้ครับ โดยการใช้งานถือว่าเสถียรเลยทีเดียวและตัวเสารับสัญญาณในเครื่องก็ยังรับถึงแม้อยู่ในตัวบ้านหรือคอนโดที่อยู่สูงๆ ครับ
ตอบโจทย์ความบันเทิงขั้นสุดด้วยลำโพงสเตอริโอแบบ Dolby ATMOS
ฟีเจอร์นี้คงตอบโจทย์สำหรับจนที่ต้องการด้านความบันเทิงไม่น้อยครับ ด้วยลำโพงคู่แบบ Dolby ATMOS ให้เสียงที่กระหึ่มมากๆ เสียงที่เปล่าออกมามีมิติแยกซ้าย-ขวาชัดเจน หรือความใกล้-ไกลของเสียงก็ทำได้ดีพอตัวเลยทีเดียวครับ
มี Always-On Display ใช้งานได้สะดวกขึ้น
หนึ่งในประโยชน์จากหน้าจอ Super AMOLED คือฟีเจอร์นี้เลยครับ โดยจะเป็นการแสดงข้อมูลเบื้องต้นของเครื่อง เช่น วันที่, เวลา, แบตเตอรี่คงเหลือ และการแจ้งเตือนต่างๆ เป็นต้น โดยใน One UI 4.1 จะมีตัวเลือกใหม่ คือ เปิดเมื่อมีการแจ้งเตือนใหม่ขึ้นมา ช่วยให้เวลาเราเปิดฟีเจอร์นี้จะไม่กินแบตมากจนเกินไปครับ หรือใครถนัดแบบแตะเพื่อแสดง, แสดงตลอดเวลา หรือแสดงตามเวลาที่กำหนดก็ทำได้เช่นกันครับ
ระบบความปลอดภัยได้มาครบ
Samsung Galaxy A53 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานสุดๆ ซึ่งความแม่นยำถือว่าจัดเต็มและแม้มือจะเลอะน้ำอยู่ก็ยังคงสแกนติดได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ก็ยังมาพร้อมการสแกนใบหน้าที่ทำได้แม่นยำ ทั้งยังมีความปลอดภัยมากขึ้นเพราะสามารถเปิดฟีเจอร์ที่ต้องลืมตาก่อนเพื่อสแกนได้ครับ
แจ้งเตือนเมื่อมีใช้กล้องหรือไมโครโฟน!
ใครที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ใน One UI 4.1 จะมีจุดสีเขียวแสดงที่มุมซ้ายหรือขวาบนของหน้าจอว่าเรากำลังใช้ไมโครโฟนหรือกล้องอยู่ครับ ซึ่งเราจะรู้ได้ทันทีว่าระบบกำลังใช้งานอะไรอยู่นั่นเอง
มีจานสีปรับสีธีมให้เข้ากับวอลเปเปอร์
อีก 1 ฟีเจอร์ที่น่าจะได้ใช้งานกันแน่นอนบน One UI 4.1 คือจานสีที่จะมีการปรับไอคอนต่างๆ ให้ไปในทิศทางเดียวกับสีของวอลเปเปอร์ครับ อย่างวอลเปเปอร์เราออกโทนสีแดง จานสีก็จะมีโทนสีแดง ชมพู หรือม่วงมาให้เราเลือกตามความชอบกันเลย
วิดเจ็ตใช้งานง่ายขึ้น ปรับได้ในแต่ละแอป
สำหรับวิดเจ็ตที่มีให้ใช้งานกันมานานแล้วบน Android ใน One UI 4.1 ก็จะมีรูปแบบวิดเจ็ตของแต่ละแอปพลิเคชั่นให้เราใช้งานมากขึ้น รวมถึงการปรับขนาดได้ความสะดวกของแต่ละคนเลยครับ
แชร์ไฟล์ระหว่างเครื่องได้เร็วด้วย Quick Share
สำหรับ Quick Share จะเป็นฟีเจอร์เฉพาะใน Samsung โดยจะเป็นการถ่ายโอนไฟล์ระหว่างอุปกรณ์กันอย่างรวดเร็ว ใครต้องการย้ายไฟล์ขนาดใหญ่ๆ ก็ทำได้เหมือนกันนะ
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ลองใช้ Samsung Galaxy A53 5G มาประมาณหนึ่งสัปดาห์ บอกเลยว่ารุ่นนี้ชูโรงในเรื่องกล้องหลังที่ถ่ายได้สนุก มีหลายมีฟีเจอร์ให้ได้ลองใช้และแก้ไขได้เยอะมากๆ โดยได้ AI เข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดีครับ รวมไปถึงชิป Exynos 1280 ที่กลบปัญหาเรื่องความร้อนได้เป็นอย่างดี และที่ชอบอีกอย่างการใช้หน้าจอ Super AMOLED และมีลำโพงคู่แบบ Dolby ATMOS ทำให้ใครที่ซื้อมาเพื่อความบันเทิงก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย
ผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy A53 5G ได้ในราคาเพียง 14,499 บาทเท่านั้น โดยจะเปิดพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 18-24 มีนาคมนี้ พร้อมรับเครื่องและวางจำหน่ายทางการในวันที่ 25 มีนาคมนี้เป็นต้นไปครับ
โปรโมชั่นสุดพิเศษของ Galaxy A53 5G ในช่วงพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 18-24 มีนาคม 2565 จะมีด้วยกันถึง 3 ต่อ ดังนี้
- ต่อที่ 1 : รับความจุเพิ่มเป็น 2 เท่า เป็น 256GB มูลค่า 2,000 บาท (ความจุ 256GB มีเฉพาะช่วงจองเท่านั้น)
- ต่อที่ 2 : เคลมฟรีเมื่อมีจอแตกถึง 3 ครั้งต่อปี จาก Samsung Care+
- ต่อที่ 3 : ให้คุณผ่อนสบายเพียงเดือนละ 967 บาท 0% นาน 15 เดือน ณ samsung.com. Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ
นอกจากนี้ ยังได้รับความพิเศษอื่นๆ อีกเพียบ ดังนี้
- YouTube Premium ฟรี 2 เดือน สำหรับผู้ใช้งานใหม่
- Spotify Premium ฟรี 3 เดือน
- Onedrive 100 GB ฟรี 6 เดือนสำหรับผู้ใช้งานใหม่
- Adobe Photoshop Lightroom & Adobe Creative Cloud Express ฟรี 2 เดือน