Featured
รีวิว Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟน 3 กล้องหลังหมุนเป็นกล้องหน้าได้รุ่นแรก
Samsung Galaxy A80 สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีกล้องหลัง 3 ตัวแล้วหมุนมาด้านหน้าเพื่อใช้เป็นกล้องหน้าได้ ทำให้การเซลฟี่มีฟีเจอร์ที่ทำงานได้เหมือนกล้องหลัง และไม่ต้องมีรอยบากบนหน้าจอด้วย
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy A80
- ราคาเปิดตัว 21,990 บาท (กรกฎาคม 2019)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว New Infinity Display FullHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) Super AMOLED
- ขนาดตัวเครื่อง 165.2 x 76.5 x 9.3 มม.
- ชิปเซ็ต Snapdragon 730
- แรม 8GB
- ความจุ 128GB
- Android 9.0 Pie และ One UI
- กล้องหลัง 3 ตัว
- เลนส์หลักขนาด 48 ล้านพิกเซล f/2.0
- Ultra Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้อง 3D Depth
- กล้องหน้า : ใช้กล้องหลังสไลด์และหมุนมาด้านหน้า
- แบตเตอรี่ 3700mAh Super Fast Charge 25W
- สแกนลายนิ้วบนหน้าจอ
- ระบบเสียงใต้หน้าจอสำหรับการโทร
ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์ตัวเครื่องด้าหน้า New Infinity Display แบบเต็มขอบของจริง ไม่มีรอยบากและไม่ต้องเจาะรูให้เกะตาสายตาเวลาใช้งานอีกต่อไปแล้ว ซึ่งทำให้ด้านหน้าดูสวยมากขึ้น
ด้านหลังมีความโค้ง ซึ่งวัสดุหนักของเครื่องเป็นกระจก แต่สำหรับส่วนที่เป็นชิ้นสำหรับสไลด์กล้องขึ้นนั้นเป็น Glasstic ซึ่งเป็นการดีไซน์พลาสติกให้เหมือนกระจก เนื่องจากชิ้นส่วนนี้ต้องมีการสไลด์ขึ้นลงตลอดเวลาเมื่อใช้งานกล้องหน้า
ความหนาของตัวเครื่องถือว่าหนากว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ พอสมควร แต่ก็ยังสามารถจับถนัดมือได้ด้วยดีไซน์แบบโค้งเว้า ไม่รู้สึกว่าจะหลุดมือเหมือนรุ่นที่บางๆ อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน
สำหรับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว เป็นแผงหน้าจอ Super AMOLED ที่มีสีสันคมชัดสดใสมากๆ ใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ และมีอัตราส่วน 20:9 ซึ่งมีความใกล้เคียงกับความกว้างของภาพยนตร์ ทำให้การดูหนังได้มุมมองที่กว้างและเห็นได้เต็มตามากขึ้น
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้กระจกหน้าจอแสดงผล สามารถแตะนิ้วมือลงหน้าจอเพื่อสแกนนิ้วมือปลดล็อคได้ทันที ซึ่งการทำงานถือว่ารวดเร็วดีมากๆ
ขอบด้านขวามีปุ่มปรับระดับเสียง
ขอบด้านซ้ายมีปุ่ม Power
ขอบด้านล่างมีถาดใส่ซิมแบบ Dual SIM, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟน และลำโพง โดยถาดใส่ซิมจะรองรับซิมการ์ดขนาด Nano SIM จำนวน 2 ช่อง ไม่รองรับ microSD Card
กล้องหลังมีทั้งหมด 3 เลนส์ ประกอบด้วยเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล + Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล และกล้อง 3D Depth ซึ่งถ้าใช้งานกล้องหลังก็ดูเหมือนสมาร์ทโฟนปกติทั่วไป มองแทบไม่ออกมาว่ามันสามารถสไลด์กล้องขึ้นได้
เมื่อมีการเปิดใช้งานกล้องหน้า ตัวกล้องก็จะถูกสไลด์หรือยกขึ้นมาอัตโนมัติ แล้วโมดูลกล้องจะหมุนได้อย่างอิสระไปด้านหน้า ซึ่งข้อดีของการหมุนกล้องหลังมาด้านหน้าแบบนี้จะทำให้การเซลฟี่ได้ใช้กล้องหลังที่มีความคมชัดได้ด้วย
นอกจากนี้แล้วถ้าหากเครื่องตกระหว่างใช้งานกล้องหน้า พบว่าตัวกล้องจะถูกหุบและเก็บให้อัตโนมัติด้วย คาดว่าฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อไม่ให้กล้องเกิดความเสียหายหากผู้ใช้งานทำตก
ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ด้านซอฟต์แวร์ Samsung Galaxy A80 รันระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่มีการปรับแต่งใหม่แบบ One UI มีการปรับสีสัน เมนูปุ่มต่างๆ เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบนหน้าจอ Infinity Display ทุกรูปแบบบนสมาร์ทโฟนของ Samsung และเน้นให้สามารถใช้งานมือเดียวได้ง่ายมากขึ้น
One UI ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ง่ายขึ้นในมือเดียวอยู่แล้ว แต่ถ้ายังใช้งานมือเดียวไม่ถนัดก็สามารถย่อหน้าจอหรือคีย์บอร์ดให้เล็กลงมาที่มุมหน้าจอได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเอื้อมนิ้วมือไปแตะเมนูต่างๆ ขณะใช้งานมือเดียวได้สะดวกขึ้น
ฟีเจอร์ Always on display สำหรับแสดงเวลาและรายการแจ้งเตือนต่างๆ ตลอดเวลาเมื่อหน้าจอดับมีการปรับค่าการใช้งานใหม่นิดหน่อย โดยใน One UI ได้เพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้งานกำหนดการแสดงเองได้ว่าจะให้แสดงตลอดเวลาหรือแสดงเมื่อเคาะหน้าจอ หรือกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการให้แสดงก็ได้ โดยค่าเริ่มต้นที่ทาง Samsung กำหนดมาคือต้องเคาะหน้าจอ ดังนั้นถ้าปิดหน้าจอแล้วไม่เห็น Always on display ทำงาน ก็ไม่ต้องตกใจไป ให้เข้าไปตั้งค่าเองได้
Digital Wellbeing หน้าแดชบอร์ดหรือเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือหน้าสรุปข้อมูล สำหรับดูเวลาที่เราใช้งานสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากขนาดไหนต่อวัน หรือแม้กระทั่งจำนวนครั้งที่คุณปลดล็อคสมาร์ทโฟน ฟีเจอร์นี้ก็จะทำการบันทึกไว้ด้วย
Game Launcher อัพเกรดหน้าตาใหม่ดูเรียบง่ายมากขึ้น สำหรับเข้าไปจัดการเกมต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในตัวเครื่องได้ทั้งหมดจากในที่เดียว และ Game Tools ก็มาพร้อมหน้าตาใหม่เช่นเดียวกัน โดยเรียงเมนูต่างๆ ในรูปแบบรายการ สามารถเลือกใช้งานปิด/เปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม ล็อคปุ่มไม่ให้มือเราพลาดไปโดยปุ่มกดตัวเครื่องขณะเล่นเกม จับภาพหน้าจอ หรือบันทึกวิดีโอหน้าจอขณะเล่นเกม ก็ทำได้ ซึ่งเวอร์ชั่นใหม่นี้มีแผงไอคอนแอพพลิเคชั่นให้เราเลือกไว้ใช้งานแบบด่วนได้ด้วย
การเชื่อมต่อของ Galaxy A80 รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ดบนเครือข่าย 4G LTE โดยสามารถเปิดใช้งานสแตนด์บาย 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม อีกทั้งยังรองรับทั้ง VoLTE และ WiFi Calling (VoWiFi) มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ Bluetooth 5.0 ด้วย
ด้านความปลอดภัยในการยืนยันตัวตน Galaxy A80 มีระบบการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยการแตะลงหน้าจอที่ตำแหน่งไอคอนลายนิ้วมือเพื่อทำการสแกนได้เลย ซึ่งการใช้งานก็ถือว่าการอ่านลายนิ้วมือทำได้รวดเร็วดี
Galaxy A80 มีฟีเจอร์สำหรับจัดการเครื่องได้ง่ายๆ ในคลิกเดียว สำหรับจัดการแบตเตอรี่ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล หน่วยความจำแรม และความปลอดภัยต่างๆ เพื่อให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพในการใช้งานตลอดเวลา
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Samsung Galaxy A80 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 730 ซึ่งถือว่าเป็นการเดินเกมใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนพรีเมียมของ Samsung ที่เลือกใช้ชิปประมวลผลเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่วางจำหน่ายในต่างประเทศ จากเดิมในไทยที่ผ่านมาจะใช้ชิปเซ็ต Exynos
สำหรับ Snapdragon 730 เป็นชิปเซ็ตที่มีกระบวนการผลิต 8nm มาพร้อมซีพียู Octa-core แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับ คือ Dual-core 2.2GHz Kryo 470 Gold และ Hexa-core 1.8GHz Kryo 470 Silver พร้อมกราฟิก Adreno 618 โดยจะเห็นว่าตัวชิปเซ็ตมีการอัพเกรดให้สูงกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับในรุ่น Galaxy A70
ผลการทดสอบ AnTuTu เป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ระดับคะแนนของ Galaxy A80 ทำคะแนนรวมได้ 200,128 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดย Galaxy A80 ทำคะแนน Single-Core ได้ 2,463 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 6,384 คะแนน
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile อีกหนึ่งเกมที่กำลังฮิตในขณะนี้ ซึ่งเป็นเกมที่ต้องการทั้งความลื่นไหล ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุกทั้งการเล่นในโหมดกราฟิกในระดับสูง และภาพความละเอียดสูง
เกม ROV เกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน Galaxy A80 รองรับโหมดเฟรมเรตสูง วิ่งได้นิ่งๆ ที่ 58-60fps ตลอดการเล่น
แม้จะเป็นฉากที่เข้าร่วมทีมไฟต์ก็ไม่มีตก และภาพของเกมก็สามารถเลือกได้ระดับ HD
Galaxy A80 มีแบตเตอรี่ 3700mAh ใช้งานทั่วไปได้ยาวนานทั้งวัน หรือแม้แต่การเล่นเกมต่อเนื่องกันเป็นชั่วโมง รวมกับการดูคลิป เล่นโซเชียล เปิดกล้องถ่ายรูปตลอดทั้งวัน แบตก็อยู่ได้นานเกือบทั้งวัน ถือว่าจัดการพลังงานได้ดีมากๆ สำหรับการชาร์จด่วนรองรับกำลังไฟสูงสุด 25W ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ชาร์จด้วยกำลังไฟสูงที่สุดของ Samsung อีกรุ่นเลยในขณะนี้
กล้องถ่ายรูป
ด้านการถ่ายรูป Galaxy A80 มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย เลนส์หลักขนาด 48 ล้านพิกเซล f/2.0 และ Ultra Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ในขณะที่กล้องตัวที่ 3 เป็นกล้อง TOF 3D Depth สำหรับความแม่นยำในการตรวจจับระยะของวัตถุ ทำให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายที่ปรับความชัดตื้นชัดลึกได้
Auto Mode และ AI Scene Optimizer ถ่ายสวยทุกสถานการณ์
ในหน้าจอแอพกล้องจะมีไอคอนสำหรับเลือกถ่ายภาพมุมกว้างหรือมุมปกติ โดยเมื่อเลือกโหมดออโต้ไม่ว่าจะเป็นมุมกว้างหรือปกติ จะมี AI Scene Optimizer ในการปรับค่ากล้องให้เหมาะกับการถ่ายภาพนั้นๆ แบบอัตโนมัติ โดยจะมีไอคอนฉากต่างๆ ขึ้นมาบนหน้าจอขณะทำการถ่ายภาพ
กล้องหลังขนาด 48 ล้านพิกเซล ถือว่าให้ขนาดภาพที่ค่อนข้างใหญ่มากๆ อีกทั้งรูรับแสงที่กว้าง f/2.0 ช่วยเก็บแสงและรายละเอียดได้คมชัด อีกทั้งระบบโฟกัสทำงานได้รวดเร็วมากๆ
กว้างแค่ไหนก็เก็บหมดด้วยกล้อง Ultra Wide
สำหรับเลนส์ Ultra Wide ที่มีมุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระยะใกล้แค่ไหนก็สามารถเก็บภาพได้ครบโดยไม่ต้องถอยห่างอีกต่อไป และได้มุมมองภาพที่ใกล้เคียงกับการถ่ายด้วยกล้องแอคชั่น
ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอด้วย Live Focus
โหมด Live Focus กล้องหลังสามารถปรับความเบลอของฉลากหลังเพื่อเพิ่มความโดดเด่นสวยงามได้ ซึ่งการทำเอฟเฟ็กต์โบเก้ของ Galaxy A80 นั้นใช้ความสามารถของกล้อง TOF 3D Depth ในการเก็บความลึกของภาพ ซึ่งทำงานร่วมกับกล้องหลัก ทำให้การตัดขอบทำได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะปลายเส้นผมที่ยังคงเห็นรายละเอียดชัดเจน ไม่ถูกเบลอออกไป และสามารถถ่ายเป็นวิดีโอ Live Focus ได้ด้วย
ถ่ายสว่างแม้ในที่มืดด้วย Night Mode
Night Mode อาจเรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาเติมเต็มความสามารถของกล้องสมาร์ทโฟน Samsung ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้แข่งขันกับสมาร์ทโฟนค่ายอื่นได้ โดยการทำงานของฟีเจอร์นี้จะเป็นการถ่ายภาพหลายๆ ช็อตในความสว่างระดับต่างๆ แล้วนำภาพทั้งหมดมารวมเป็นภาพเดียวกัน ทำให้ภาพกลางคืนหรือแสงน้อยมีความสว่างคมชัดมากขึ้น
การถ่ายด้วย Night Mode จำเป็นต้องถือสมาร์ทโฟนให้นิ่งๆ ระหว่างการถ่าย และภาพที่ได้เห็นทั้งหมดในรีวิวนี้ไม่ใช้ขาตั้งกล้องช่วยเลย ซึ่ง Galaxy A80 ทำได้ออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจมากๆ
กล้องหน้าเซลฟี่ ดีเหมือนกล้องหลัง
Galaxy A80 ใช้กล้องหลังที่หมุนได้มาเป็นกล้องหน้า ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะทำให้การถ่ายรูปด้วยกล้องหน้าทำได้ดีแบบเดียวกับกล้องหลังและมีโหมดการใช้งานเหมือนกันอีกด้วย นั่นก็คือภาพเซลฟี่ด้วยกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล f/2.0 ได้ภาพที่คมชัดมากๆ
กล้องหน้าสามารถเซลฟี่ด้วยเลนส์ Ultra Wide แบบที่กล้องหน้าบนสมาร์ทโฟนทั่วไปทำไม่ได้ กว้างสูงสุดถึง 123 องศา เก็บครบไม่ว่าจะเป็นภาพหมู่หรือภาพวิวด้านหลัง โดยไม่ต้องยืนแขนออกไปไกลๆ
การถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยกล้องหน้าบนสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะทำการละลายฉากหลังและตัดขอบได้ไม่ค่อยเป๊ะมากนัก มีการละลายหลังที่เลอะบ้าง แต่ด้วยความสามารถของกลัอง 3D Depth หรือ TOF ของ Galaxy A80 ทำให้การเซลฟี่โหมด Live Focus มีความแม่นยำในการตัดขอบได้คมมากๆ และลายลายฉากหลังได้เนียนสวย
สรุปจุดเด่น
- Samsung Galaxy A80 เป็นสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยมที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร สเปคจัดเต็ม กล้องหลังใช้เป็นกล้องหน้าได้ครบทุกเลนส์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
- หน้าจอแสดงผลสีสันสวยงาม Super AMOLED ไม่มีรอยบาก เห็นภาพได้เต็มตา
- กล้องหลังและกล้องหน้าใช้กล้องตัวเดียวกันทั้งหมด 3 ตัว ประกอบไปด้วย เลนส์หลักขนาด 48 ล้านพิกเซล f/2.0 และ Ultra Wide ขนาด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ในขณะที่กล้องตัวที่ 3 เป็นกล้อง TOF 3D Depth สำหรับความแม่นยำในการตรวจจับระยะของวัตถุ ทำให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายที่ปรับความชัดตื้นชัดลึกได้
- แบตเตอรี่ 3700mAh และชาร์จไว 25W
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ในตลาด