รีวิว Samsung Galaxy A9 Pro แบตอึด จอใหญ่เต็มตา ราคาหมื่นกลาง ๆ

Samsung Galaxy A9 Pro สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว มาพร้อมกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9 มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแบตเตอรี่ขนาดความจุมากถึง 5,000 mAh

สรุปสเปค Samsung Galaxy A9 Pro

• ราคาเปิดตัว 15,900 บาท (กรกฎาคม 2016)
• ขนาดตัวเครื่อง 161.7 x 80.9 x 7.9 มม.
• น้ำหนัก 210 กรัม
• 3G, 4G LTE Cat7 350/50 Mbps
• 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM)
• หน้าจอแสดงผล 6 นิ้ว Super AMOLED 1080p
• รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
• ชิปเซ็ต Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652
• ซีพียู Octa-core (Quad-core 1.8 GHz Cortex-A72 และ Quad-core 1.4 GHz Cortex-A53)
• จีพียู Adreno 510
• แรม 4 GB
• ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 256 GB
• กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/1.9 และแฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9
• รองรับ Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC
• รองรับระบบ GPS, A-GPS
• แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว
• ปุ่มโฮมมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล

Samsung Galaxy A9 Pro สมาร์ทโฟนที่ดีไซน์ตัวเครื่องด้วยกรอบโลหะและครอบกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสวยหรู ดูพรีเมียม โดยมีขนาดตัวเครื่อง 161.7 x 80.9 x 7.9 มม. และน้ำหนัก 210 กรัม ด้วยขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่จึงมีน้ำหนักมากขึ้น

หน้าจอของ Samsung Galaxy A9 Pro มีขนาด 6 นิ้ว ให้สัดส่วนหน้าจอประมาณ 75.9% ของตัวเครื่อง ซึ่งสัดส่วนนี้เองที่จะบอกว่าแม้หน้าจอมีขนาดใหญ่แต่ตัวเครื่องไม่ใหญ่มากเกินไป สังเกตได้จากขอบจอที่มีความบางมาก

หน้าจอ Galaxy A9 Pro มีความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล ความหนาแน่นของจุดพิกเซล 367 พิกเซลต่อนิ้ว และเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ทำให้การแสดงผลมีสีสันที่สดใส

เหนือหน้าจอเริ่มจากซ้ายจะมีเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, ช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา และเลนส์กล้องหน้าขนาดความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 2 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps และปุ่มย้อนกลับ มีไฟส่องสว่าง (Backlight) และระบบสั่นเมื่อแตะสัมผัส ส่วนปุ่มกดตรงกลางคือปุ่มโฮม ซึ่งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย

ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องถาดใส่ความจำภายนอก microSD card รองรับความจุสูงสุด 256GB

ขอบด้านล่างช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., พอร์ตเชื่อมต่อขนาด micro USB, ช่องลำโพง และไมโครโฟน

ขอบด้านซ้าย มีปุ่มปรับระดับเสียง

ขอบด้านขวา มีปุ่ม Power สำหรับปิด/เปิดตัวเครื่อง หรือกดปิด/เปิดหน้าจอ และช่องถาดใสซิมการ์ด ซึ่งรองรับ 2 ซิมการ์ด ขนาด Nano SIM ทั้ง 2 ช่อง

ฝาด้านหลังตัวเครื่องครอบด้วยกระจก มีโลโก้ Samsung และไม่มีคำว่า DUOS แล้ว ภายในมีแบตเตอรี่ 5,000 mAh

เลนส์กล้องหลังมีขนาดความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS และแฟลช LED โดยโมดูลของเลนส์กล้องหลังจะนูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง

อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Samsung Galaxy A9 Pro รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย TouchWiz UI รองรับการแสดงรายการแจ้งเตือนในหน้าล็อคสกรีน และปลดล็อคเข้าใช้งานแอพกล้องถ่ายรูปได้จากหน้าล็อคสกรีน

ในหน้าจอหลักหรือหน้าโฮม สามารถเพิ่มหน้าได้ และรองรับการเพิ่มวิดเจ็ตต่าง ๆ รวมไปถึงเปลี่ยนธีมใหม่ สำหรับใครเบื่อหน้าตาระบบแบบเดิม ๆ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและเลือกเปลี่ยนใช้งานได้ฟรีตามความชอบ

App Drawer จะเรียงแบบ 5 x 4 แถว ปัดซ้ายขวาเพื่อเลื่อนหน้าถัดไป และเมื่อแตะที่เมนู “แก้ไข” ที่อยู่ตรงมุมขวาบนจะสามารถลบหรือถอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นระบบได้ นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถแตะค้างที่ไอคอนแอพพลิเคชั่นแล้วลากรวมกันเป็นโฟลเดอร์ เพื่อจัดหมวดหมู่แอพฯก็ทำได้เช่นกัน

เมื่อลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือนต่าง ๆ และแผงปุ่มลัด (Quick Settings) สำหรับปิด/เปิดการทำงานระบบและเข้าสู่การตั้งค่าต่าง ๆ ของระบบ ซึ่งในเวอร์ชั่น Android 6.0.1 Marshmallow ได้รับการออกแบบ UI ให้ดูเรียบง่าย สบายตา และรุ่นนี้รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ก็จะมีเมนูเพื่อเลือกสลับใช้งานซิมอยู่ในส่วนนี้ด้วย

ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ของ Galaxy A9 Pro สามารถใช้งานแบ่งหน้าจอได้ ช่วยให้เปิดหน้าต่างแอพได้พร้อมกัน 2 หน้าต่าง

Samsung Galaxy A9 Pro รุ่นที่นำเข้ามาวางขายในไทยเป็นรุ่น Duos คือใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด Full NetCom 3.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในขณะนี้ ที่ทำให้สมาร์ทโฟน 2 ซิม สามารถใช้งานเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม คือ ซิม 1 ใช้งานบนเครือข่าย 3G/4G LTE ทั้งโทรทั้งเน็ต ในขณะที่ซิม 2 ก็สามารถใช้งานการโทรบนเครือข่าย 3G ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือใช้งานเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิมนั่นเอง

Samsung Galaxy A9 Pro รองรับฟีเจอร์ VoLTE และ VoWiFi ซึ่งต้องรอการอัปเดทเฟิร์มแวร์ให้สามารถใช้งานได้อนาคต

นอกจากนี้ก็รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, เป็นจุดกระจายสัญญาณ Hotspot, Bluetooth 4.2 LE ประหยัดพลังงาน รองรับการส่งผ่านข้อมูลเสียงในแบบ Stereo, NFC, รองรับระบบ GPS/A-GPS และเชื่อมต่อข้อมูลผ่านสาย microUSB 2.0

ระบบสแกนลายนิ้วมือของ Samsung Galaxy A9 Pro จำจำได้สูงสุด 3 ลายนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคตัวเครื่อง, เข้าสู่ระบบเว็บไซต์, ตรวจสอบ Samsung Account และใช้สแกนยืนยันการชำระเงินใน Google Play Store ได้

Smart Manager เป็นตัวจัดการระบบได้ง่าย ๆ ในคลิกเดียว ทั้งการจัดการพลังงานแบตเตอรี่, ลบไฟล์ขยะ, ล้างความจำแรม และระบบป้องกันความปลอดภัย หรือถ้าอยากได้ความส่วนตัวที่แยกออกจากโหมดปกติ ก็สามารถติดตั้งแอพ My KNOX เพิ่มเติมได้

• ในส่วนของแบตเตอรี่ สามารถเข้าไปปรับการตั้งค่าการใช้งานหรือจัดการการใช้พลังงานได้ รวมถึงเลือกไปใช้โหมดประหยัดพลังงานจากในส่วนนี้ได้ด้วย
• ที่จัดเก็บ เป็นการจัดการในส่วนของการใช้พื้นที่ความจำตัวเครื่อง สามารถเข้าไปจัดการลบไฟแคช และอื่น ๆ หรือถอนการติตตั้งแอพที่ไม่ได้ใช้งานได้ ระบบนี้ใช้ของ Clean Master นั่นเอง
• RAM สำหรับจัดการและคืนความจำแรมให้กับระบบ บางครั้งเมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นหลาย ๆ ตัว ความจำเร็วก็จะถูกใช้งานและอาจทำให้ระบบทำงานไม่ได้หรือค้าง
• ระบบป้องกันอุปกรณ์ คือตัวสแกนไวรัสซึ่งใช้ระบบของ Intel Security (ชื่อเดิมคือ McAfee) และเป็นการจัดการรวมถึงควบคุมการใช้งานตัว My KNOX

แบตเตอรี่ของ Samsung Galaxy A9 Pro มีขนาดความจุ 5,000 mAh ซึ่งจากการทดสอบใช้งานแบบไม่หยุดพัก พบว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน (ดูการทดสอบได้ที่นี่) และมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงานเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

นอกจากโหมดประหยัดพลังงานธรรมดาแล้ว ยังมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงสำหรับเปิดใช้งานยามฉุกเฉินเมื่อหาที่ชาร์จแบตไม่ได้และต้องการยืดระยะเวลาการใช้งานให้ได้นานที่สุด โดยการแสดงผลเป็นหน้าจอแบบขาวดำ สามารถใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นพื้นฐาน และใช้งานแอพพลิเคชั่นบางตัวได้ ซึ่งระบบจะปิดการใช้งานผ่านเครือข่าย Wi-Fi กับ Bluetooth และหากหน้าจอดับก็จะปิดการเชื่อมต่อเน็ตมือถือ เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด

ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช

• Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
• Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
• Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
• Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
• Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
• รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด

สำหรับ Gyro Sensor ที่ไม่มีในรุ่นนี้ อาจทำให้ไม่รองรับการเล่นเกมบางเกม รวมถึงการใช้งานร่วมกับแว่น VR เนื่องจากเป็นเซ็นเซอร์สำหรับระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม

ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน

Samsung Galaxy A9 Pro รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow (64-bit) ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 Octa-core แบ่งการทำงานออกเป็น Quad-core 1.8 GHz Cortex-A72 และ Quad-core 1.4 GHz Cortex-A53 กับจีพียู Adreno 510 และแรม 4 GB

โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.1.4 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 73,807 คะแนน

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Galaxy A9 Pro ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,376 และ Multi-Core ทำได้ 4,256 คะแนน

การเล่นเกมต่าง ๆ ก็ทำได้ลื่นไหลดี และให้ภาพที่คมชัด สวยงาม

กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy A9 Pro มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และแฟลช LED ช่วยถ่ายภาพในที่มืด รองรับการแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส ตรวจจับใบหน้า และแนบตำแหน่งแผนที่ลงในภาพถ่ายได้

การถ่ายภาพนิ่งด้วยกล้องหลังของ Galaxy A9 Pro สามารถถ่ายภาพได้ในอัตราส่วนภาพ 4:3 ขนาดภาพสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล (15.92 ล้านพิกเซล) สามารถเลือกอัตราส่วน 16:9 ได้ แต่ความละเอียดจะลดลงมาเหลือ 12 ล้านพิกเซล และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที

ส่วนโหมดถ่ายรูปที่มีให้ใช้งาน ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดโปร, พาโนรามา (Panorama), ถ่ายต่อเนื่อง, HDR, หน้าสวย, เสียง&ช็อต, กีฬา และ HDR โดยในส่วนของโหมดโปรนั้นสามารถควบคุมค่า White Balance, ISO และค่าชดเชยแสงได้ +/-2

กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.9 เอาใจคนชอบเซลฟี่ด้วยโหมดถ่ายภาพตนเอง และถ่ายภาพตนเองแบบกว้างที่สามารถเก็บภาพได้ 3 ช็อต คือตรงกลาง ซ้าย และขวา แล้วรวมเป็นภาพเดียว เหมาะสำหรับการเซลฟี่เป็นกลุ่ม จะได้ไม่ตกเฟรม นอกจากนี้ก็สามารถใช้ฝ่ามือเพื่อสั่งชัตเตอร์กล้องหน้าได้ด้วย และรองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p

โหมดหน้าสวยสำหรับคนชอบเซฟลี่ ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยปรับหน้าเรียว, ตาโต และสีผิว ได้ถึง 8 ระดับ ไม่ต้องใช้แอพอื่นปรับแต่งให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่าถ่ายเสร็จก็แชร์ลงโซเชียลได้ทันที

ตัวอย่างภาพถ่าย

สรุปจุดเด่น

• Samsung Galaxy A9 Pro ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ สีสันสดใสด้วยหน้าจอ Super AMOLED ความคมชัดระดับ Full HD เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง ในราคาหมื่นกลาง ๆ
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Nano SIM + Nano SIM) ซึ่งรองรับการใช้งาน 3G พร้อมกันทั้ง 2 ซิมการ์ด
• รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow และชิปเซ็ต Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 กับแรม 4 GB ทำให้การใช้งานโดยรวมนั้นลื่นไหลดี
• ความจำภายในตัวเครื่อง 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 256 GB ซึ่งจะมีถาดแยกออกมาต่างหาก ทำให้ใส่เมม พร้อมกับใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด
• กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, ค่ารูรับแสง f/1.9 พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว และแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC และ GPS, A-GPS ใช้นำทาง รวมถึงเล่นเกม Pokemon GO ได้
• แบตเตอรี่ 5,000 mAh เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ออกจากบ้านจนถึงเวลาเลิกงาน โดยไม่ต้องพกแบตสำรอง และรองรับการชาร์จเร็ว
• ปุ่มโฮมมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ทำงานได้เร็วดี และนิ้วมือต้องแห้งสนิท เพราะหากนิ้วมือเปียกชื้นจะสแกนไม่ติด

จุดสังเกตเพิ่มเติม

• ไม่มีไฟ LED สำหรับแจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ
• ไม่มี Gyro Sensor อาจทำให้ไม่รองรับการเล่นเกมบางเกม รวมถึงการใช้งานร่วมกับแว่น VR

ขอบคุณ Samsung (ประเทศไทย)