Smart Review
รีวิว Samsung Galaxy J4+ และ Galaxy J6+ หน้าจอใหญ่ สำหรับชาวโซเชียล
Samsung Galaxy J6+ รุ่นพี่ที่มีขนาดหน้าจอเท่ากันคือ 6 นิ้ว ดีไซน์แบบไร้ปุ่มโฮม มาพร้อมกับแรม 4GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุดถึง 512GB อีกทั้งมีกล้องหลังคู่ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ ในขณะที่ Galaxy J4+ ชูจุดเด่นด้วยขนาดหน้าจอใหญ่ 6 นิ้ว และฟีเจอร์ปลดล็อคด้วยใบหน้า
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy J4+ และ Galaxy J6+
ข้อมูล | Galaxy J4+ | Galaxy J6+ |
---|---|---|
หน้าจอ | IPS LCD 6.0 นิ้ว 1480 x 720 (HD+) อัตราส่วน 18.5:9 | IPS LCD 6.0 นิ้ว 1480 x 720 (HD+) อัตราส่วน 18.5:9 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 8.1 Oreo (Samsung Experience 9.5.0) | Android 8.1 Oreo (Samsung Experience 9.5.0) |
ซีพียู | Snapdragon 425 (Quad-core 1.4 GHz Cortex-A53) | Snapdragon 425 (Quad-core 1.4 GHz Cortex-A53) |
จีพียู | Adreno 308 | Adreno 308 |
แรม | 2GB | 4GB |
ความจุตัวเครื่อง | 16GB | 64GB |
microSD | สูงสุด 512GB | สูงสุด 512GB |
กล้องหลัง | 13 MP f/1.9 และแฟลช LED | เลนส์คู่ 13 MP f/1.9 + 5 MP f/2.2 และแฟลช LED มีโหมด Live Focus (Art Bokeh) |
กล้องหน้า | 5 MP f/2.2 และแฟลช LED | 8 MP f/1.9 และแฟลช LED |
ฟีเจอร์อื่นๆ | ปลดล็อคด้วยใบหน้า | ปุ่มสแกนลายนิ้วมือ และปลดล็อคด้วยใบหน้า |
แบตเตอรี่ | 3300mAh | 3300mAh |
GPS | ||
รองรับ | 4G, Bluetooth 4.2, Wi-Fi b/g/n | 4G, Bluetooth 4.2, Wi-Fi b/g/n |
ราคาเปิดตัว | 4,690 บาท | 7,990 บาท |
Samsung Galaxy J4+ และ J6+ มาพร้อมกับหน้าจอ Infinity display ความคมชัด HD+ ด้วยขนาด 6.0 นิ้ว ถือเป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่ได้ดีไซน์หน้าจอแบบใหม่เหมือนกับรุ่นแพง มีอัตราส่วนภาพ 18.5:9 ซึ่งก็จะตอบโจทย์และเจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่ ในราคาที่จับต้องได้ง่าย
ด้านการดีไซน์ตัวเครื่องก็มีรูปลักษณ์สวยหรู มีความโดดเด่นในสไตล์ของ Samsung Galaxy โดยการออกแบบให้สีตัวเครื่องมันวาว เพิ่มความพรีเมียม และจับได้ถนัดมือมากขึ้น ด้วยขอบที่โค้งมน
สำหรับหน้าตาของอินเตอร์เฟซไม่ได้ต่างไปจากรุ่นอื่นๆ ของ Samsung โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจในรุ่นราคาประหยัดนี้อยู่ที่หน้าจอที่ใหญ่ และรองรับ Multi-window สำหรับการแบ่งหน้าจอใช้งานพร้อมกัน 2 แอพ เช่น เล่นเกม พร้อมส่งข้อความ หรือดูหน้าเว็บไซต์ เป็นต้น
สามารถเพิ่มแอพคู่ที่ใช้งานบ่อยๆ ไว้ในหน้าจอโฮมด้วยฟีเจอร์ App Pair เวลาต้องการใช้งานก็แตะเพียงครั้งเดียวก็เปิด 2 แอพพร้อมกันได้เลย ซึ่งง่ายมากยิ่งขึ้น
การโคลนแอพเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำหรับใครที่ต้องการใช้งานแอพแชทหรือโซเชียลบางตัวพร้อมกัน 2 บัญชี ด้วยฟีเจอร์ Dual Messenger เช่น แยกบัญชี LINE ส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกัน เป็นต้น
ด้านความบันเทิงก็มีฟีเจอร์ Dolby Atmos ใส่มาให้ด้วย สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงและเป็นแฟนๆ BNK48 ก็จะได้รับฟังเสียงที่ได้มิติมากขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง และถ้าเป็นการดูหนังหรือเล่นเกมที่รองรับระบบเสียงนี้ก็จะได้เสียงรอบทิศทางเหมือนกับอยู่ในโรงหนัง
ในเรื่องของความปลอดภัย Galaxy J4+ ปลดล็อคได้ง่ายมากขึ้นด้วยใบหน้า Face Recognition เพียงถือสมาร์ทโฟนให้ตรงกับใบหน้า ซึ่งจะไม่มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือในรุ่นนี้ ส่วนรุ่นพี่ Galaxy J4+ จะมีปุ่มสแกนนิ้วมืออยู่ด้านข้างตัวเครื่อง และปลดล็อคได้ด้วยใบหน้า
สำหรับใครที่มีความลับเยอะและไม่อยากให้ผู้อื่นเข้ามายุ่งกับไฟล์ส่วนตัว ก็สามารถย้ายไปเก็บไว้ใน Secure Folder ได้ เช่น ภาพถ่าย เอกสาร และไฟล์บันทึกเสียงต่าง ๆ โดยการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวจะต้องใช้การเข้ารหัสผ่านหรือปลดล็อคด้วยใบหน้าก่อน
มาถึงกล้องถ่ายรูป Galaxy J6+ จะเหนือกว่า J4+ ด้วยเลนส์กล้องหลังคู่ที่สามารถถ่ายภาพในโหมด Live Focus แบบหน้าชัดหลังละลายได้ โดยเลือกปรับละลายฉากหลังได้ได้ทั้งก่อนและหลังถ่าย หรือจะเลือกใส่เอฟเฟ็กต์แสงไฟให้เป็นรูปร่างต่างๆ ก็ได้เช่นกันด้วย Art Bokeh
Galaxy J4+ และ J6+ สามารถย้ายปุ่มชัตเตอร์ไปไว้ตำแหน่งใดบนหน้าจอก็ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการแตะถ่ายภาพเวลาเซลฟี่หรือง่ายต่อการเอื้อมนิ้วไปแตะ
นอกจากนี้ก็มีฟิลเตอร์และสติกเกอร์น่ารักๆ AR Sticker สำหรับใช้แต่งภาพถ่ายให้ดูสนุก และมีสีสันมากขึ้น รวมไปถึง Selfie Focus เพื่อทำเอฟเฟ็กต์ละลายฉากหลังให้กับการถ่ายเซลฟี่ได้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy J6+
ใครมองรุ่นนี้อยู่ก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ Samsung Galaxy J6+ มี 2 สี ได้แก่ สีแดง และสีเทา ในราคา 7,990 บาท และ Galaxy J4+ มี 3 สี ได้แก่ สีชมพู สีทอง และสีดำ ในราคา 4,690 บาท