รีวิว Samsung Galaxy M33 5G 5G สมาร์ทโฟนตระกูลที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็นจอใหญ่ 6.6 นิ้ว แบบ 120Hz พร้อมขุมพลังตัวใหม่อย่าง Exynos 1280 ขนาด 5nm แบตเตอรี่อึดถึง 5000mAh และกล้องหลัง 4 เลนส์ ใครที่มองหาสมาร์ทโฟนสุดคุ้มอย่างรุ่นนี้อยู่ ทีมงาน iphone-droid.net จะพามาชมรีวิวเต็มๆ กันเลยครับ
สรุปสเปค Samsung Galaxy M33 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 165.4 x 76.9 x 8.4 มม.
- น้ำหนัก : 198 กรัม
- หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล), Refresh Rate 120Hz
- หน่วยประมวลผล : Exynos 1280 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม.
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบทับด้วย One UI 4.1
- รองรับ 5G
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac 2.4G+5GHz, Bluetooth 5.1, พอร์ต USB Type-C และช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 25W Fast Charge
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปตัวใหม่ Exynos 1280 เร็วแรงด้วยขนาด 5nm
เริ่มกันด้วยเรื่องประสิทธิภาพของ Samsung Galaxy M33 5G กันก่อเลยครับ โดยรุ่นนี้ได้ใช้หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่แกะกล่องของ Samsung อย่าง Exynos 1280 ที่เน้นเรื่องความเร็ว เสถียร และจัดการเรื่องความร้อนได้ดีขึ้นกว่าเดิมเลยทีเดียวครับ ทั้งยังมีความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.4GHz และใช้สถาปัตยกรรมขนาดเล็กเพียง 5 นาโนเมตร ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ควบคู่กับการได้ RAM ถึง 8GB ทำให้แอปในพื้นหลังทำงานได้มากขึ้นไปด้วย
พลังแบตอึด รองรับชาร์จเร็ว 25W
Samsung Galaxy M33 5G จัดแบตเตอรี่มาให้ใช้งานถึง 5000mAh ซึ่งการใช้งานทั่วไปก็ทำให้เราใช้งานได้ครบวันแล้วครับ ส่วนใครเล่นเกมหนักๆ ก็จะได้นานพอสมควรที่ประมาณ 5-6 ชั่วโมงครับ
ทั้งนี้ หากแบตจะหมดก็ยังชาร์จเร็วได้สูงสุด 25W โดยสามารถชาร์จได้ประมาณ 50% ภายใน 30 นาทีครับ
เสริมแรงด้วย RAM Plus ได้อีก 6GB
นอกจาก RAM ที่พื้นฐานให้มาแล้วถึง 8GB แต่ยังรองรับเทคโนโลยี RAM Plus ที่เปลี่ยนพื้นว่างใน ROM เป็น RAM ได้ตั้งแต่ 2GB, 4GB และ 6GB ทำให้รวมได้แล้วมี RAM ได้มากสุดถึง 14GB
Game Booster เพิ่มความแรงในการเล่นเกมได้อีกขั้น
ฟีเจอร์ Game Booster เป็นฟีเจอร์ที่อยู่ใน Game Launcher โดยเป็นเข้ามาช่วยในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างเล่นเกมให้ไหลลื่นมากขึ้น รวมถึงการตั้งค่าต่างๆ ให้การทำงานระบบไม่รบกวนเราระหว่างเล่นเกมครับ เช่น บล็อกการแจ้งเตือน, ท่าทางการนำทาง และแผงป็อปอัพต่างๆ เป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
กราฟิกของเกม ROV สามารถเปิดได้สูงสุดทั้งหมดยกเว้นการแสดงผลที่ยังเปิดสูงมากไม่ได้ โดยการเล่นในโหมดปกติทำได้ลื่นๆ เฟรมเรทวิ่ง 50-60 fps ถือว่านิ่งพอตัวเลยครับ
Dead by Daylight Mobile
ต่อด้วยเกมใหม่ในที่เปิดให้เล่นกันแล้วอย่าง Dead by Daylight Mobile สามารถเปิดทุกอย่างสุดได้ทั้งหมดครับ ซึ่งเล่นได้สบายๆ เลยครับ การเคลื่อนที่ หมุนซ้าย-ขวาก็ทำได้ติดนิ้วมากๆ ส่วนใครจะชอบแบบหมุนเร็วหรือไม่เร็วก็สามารถปรับได้เองในเกมเลยครับ
PUBG Mobile
ต่อด้วย PUBG Mobile เปิดกราฟิกได้ในระดับ HD และเฟรมเรทสูงครับ โดยเราเล่นในโหมดแผนที่หลักใหญ่ 8×8 ก็เล่นได้ไหลลื่น ไม่มีกระตุกและความสวยงามของภาพก็สมูทมากๆ
กล้อง 4 เลนส์คมชัดสูง 50MP
Samsung Galaxy M33 5G พร้อมให้เราได้ถ่ายภาพแบบครบทุกฟังก์ชันที่ต้องการเพราะจัดกล้องหลังมาให้ถึง 4 เลนส์ทั้งเลนส์หลัก, มุมกว้าง 123 องศา, ถ่ายใกล้ๆ ด้วย Macro และ Portrait ได้แบบคมชัดสูงเลยครับ
กล้องหลัก 50MP พร้อมการปรับแต่งด้วย AI
เลนส์หลักของรุ่นนี้ก็ถ่ายได้สวยงามและเน้นไปที่ความสีสดของวัตถุที่เราถ่ายเลยครับ โดยมีฟีเจอร์ Scene Optimizer เพื่อใช้ AI ปรับแต่งสีสันให้จัดจ้านมากขึ้น ช่วยให้เราไม่ต้องไปปรับแต่งสีเพิ่มเติมในภายหลังแล้วครับ
Ultra-Wide มุมกว้างสุด 123 องศา
เลนส์นี้ยังคงเป็นตัวชูโรงของ Samsung แม้ว่าจะอยู่ในรุ่นกลางครับ โดยใน Galaxy M33 5G ทำได้กว้างถึง 123 องศา ทำให้เราเก็บภาพวิวหรือบรรยากาศที่ต้องการได้ครบถ้วนแน่นอน แถมสีสันของภาพมีความสวยงาม สีสดใส และคมชัดทั้งหมดเลยครับ
เลนส์หลัก / เลนส์ Ultra-Wide Angle 
ถ่าย Portrait สวยงามเป็นธรรมชาติ
สำหรับ Portrait ในรุ่นนี้ให้ความเป็นธรรมชาติเลยทีเดียวครับ อาจไม่ได้ปรับแต่งเยอะเกินไป แต่หลายคนน่าจะชอบโทนแนวนี้ครับ ที่สำคัญการละลายฉากหลังยังทำได้เนียนๆ ตัวบุคคลไม่ได้ถูกเบลอหายไปด้วยครับ
ฟังก์ชันการแก้ไขภาพมีให้ครบถ้วน
ใน One UI 4.1 เราสามารถแก้ไขภาพถ่าย Portrait ได้หลายฟังก์ชันมากๆ ครับ อย่างการลบวัตถุที่สามารถลบบุคคลที่อยู่ในภาพได้
หรือปรับเปลี่ยนฉากหลังเป็นเอฟเฟ็กต์ได้ ได้แก่ สตูดิโอ, High-Key Mono, Low-Key Mono, ฉากหลัง, คัลเลอร์พอยท์, สปิน และซูม ทั้งยังปรับความเข้มของเอฟเฟ็กต์ได้เช่นกันครับ
ถ่าย Macro ใกล้สุด 3 ซม.
เลนส์ Macro ที่ให้เราถ่ายภาพในระยะใกล้ๆ ก็มีมาให้เช่นกัน เราสามารถถ่ายได้ใกล้ระหว่าง 3-5 ซม. ซึ่งแนะนำให้ถ่ายในที่แสงกลางแจ้งจะได้ภาพที่คมชัดเลยทีเดียวครับ
Night Mode ทำได้เยี่ยมสำหรับรุ่นกลาง
สำหรับ Galaxy M33 5G แม้เป็นรุ่นกลางแต่ก็มาพร้อมกับโหมดกลางคืนครับ ซึ่งจริงๆ ผลลัพธ์ของภาพทำได้ดีพอตัว โดยจุดมืดในภาพทำได้สว่างกว่าเดิม พร้อมด้วยสีสันของวัตถุจะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ แต่ถ้าถ่ายในที่แสง
โหมดปกติ / โหมดกลางคืน 
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่ได้เนียนพร้อมปรับบิวตี้ได้สวย
สำหรับกล้องหน้าก็สามารถเซลฟี่ได้อย่างสวยงามเลยโดยเฉพาะในที่แสงเยอะๆ ครับ ทั้งยังมี AI ในการปรับบิวตี้ทั้งผิวเนียน, สีผิว, แนวกราม และดวงตาด้วย ซึ่งแต่ละหมวดสามารถเลือกปรับได้เองตามความชอบเลยครับ ทั้งนี้ ในโหมด Portrait จะสามารถปรับความเรียบเนียนของผิวได้สูงสุด 8 ระดับอีกด้วย
ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์ขอบโค้งใช้งานได้ถนัดมือ
ในรุ่นนี้ใช้ดีไซน์ที่มีความโค้งมนที่ขอบด้านข้าง ทำให้เราจับได้มั่นคงและถนัดมือเวลาใช้งานเป็นเวลานานๆ ครับ และที่ชอบเลยคือตัวเครื่องที่เน้นไปทางความสูง (ไม่ได้ออกแนวอ้วนๆ) ทำให้เวลาใช้งานมือเดียวยังเอื้อมได้ถึงอีกฝั่งครับ
ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy M33 5G มาพร้อมวัสดุฝาหลังแบบพลาสติกแต่งานประกอบยังคงแน่นหนาเหมือนเดิมครับ ไม่ได้ดูโปล่งที่ด้านใน ทำให้เรามั่นใจเรื่องความแข็งแรงได้ดีเลยครับ อย่างไรก็ตาม พวกคราบมันระหว่างจับก็ติดง่ายพอควรครับ แต่ก็เช็ดออกได้ง่ายเช่นกัน
สำหรับ Samsung Galaxy M33 5G จะมีให้เลือก 3 สีด้วยกันครับ โดยสีในรีวิวนี้จะเป็นสีน้ำตาลที่แอบสะท้อนแสงเบาๆ เพิ่มความสวยงามคล้ายสีบรอนซ์ได้ครับ ส่วนอีก 2 สีจะเป็นสี Dark Blue และเขียว Green
หน้าจอ Super Smooth แบบ 120Hz
ใครชอบหน้าจอแสดงผลแบบไหลลื่น รุ่นนี้ก็จัด Refresh Rate สูงสุด 120Hz มาให้ด้วยครับ ใครที่ชมเนื้อหา เล่นเกม หรือชมภาพยนตร์จะได้ความไหลลื่นของภาพที่สูงกว่าปกติแน่นอนครับ
ที่สำคัญขนาดหน้าจอก็มาแบบเบิ้มๆ ที่ 6.6 นิ้ว พร้อมความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) รับชมสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนแน่นอน ซึ่งพาเนลที่ให้มาเป็นแบบ TFT ที่สีสันก็ถือว่าสวยสดพอสมควรครับ
ที่เหนือหน้าจอแสดงผลจะเป็นกล้องหน้าแบบ Infinity-V และลำโพงสำหรับสนทนาขนาดเล็กครับ
ฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องใส่ถาดใส่ซิมการ์ดพร้อม MicroSD Card รวม 3 ช่องไปเลยครับ (SIM 1 + SIM 2 + MicroSD)
ส่วนปุ่ม Power ที่ฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงจะอยู่ทางฝั่งขวาครับ
ที่ด้านล่างตัวเครื่องให้ทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ส่วนด้านบนมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เท่านั้นครับ
สุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้อง 4 เลนส์ เรียงเป็นสี่เหลี่ยมแบบมินิมอล พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ที่อยู่ด้านล่างของกรอบโมดูลกล้อง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Samsung Galaxy M33 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแบรนด์อย่าง One UI 4.1 บนพื้นฐานของ Android 12 ซึ่งมีฟีเจอร์ให้เราปรับแต่งระบบได้เองมากขึ้นและมีความเสถียรในการใช้งานมากที่สุดครับ
รองรับ 5G
ต่อท้ายชื่อด้วยคำว่า “5G” แน่นอนว่าต้องรองรับเครือข่าย 5G ครับ ซึ่งความเร็วแรงและความเสถียรของการดาวน์โหลดและอัปโหลดนั้นมีอยู่แล้ว แถมการใช้งานในที่ค่อนข้างอับสัญญาณอย่างในห้องนอนหรือคอนโดชั้นสูงๆ ตัวเครื่องยังคงจับสัญญาณได้เป็นอย่างดีครับ
ระบบความปลอดภัย
Samsung Galaxy M33 5G มาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ให้มาครบถ้วน ทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ข้างตัวเครื่อง ช่วยให้สะดวกเวลาหยิบเครื่องขึ้นมาใช้งานที่ตัวเซ็นเซอร์จะตรงกับนิ้วของเราพอดีครับ
ส่วนการสแกนใบหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยสามารถสแกนได้ 1 ใบหน้าหลัก และใบหน้าสำรองเวลาใส่แว่นได้อีก 1 ใบหน้าครับ
รองรับ Dolby Atmos ผ่าน Galaxy Buds
ในรุ่นนี้ก็รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เช่นกัน แต่ต้องใช้งานกับหูฟังบลูทูธ Galaxy Buds เท่านั้นครับ โดยในการตั้งค่าระบบเสียงจะ 3 แบบหลักๆ ได้แก่ เสียงภาพยนตร์, เพลง และเสียง แต่เราก็สามารถเลือกโหมดอัตโนมัติเพื่อปรับเปลี่ยนได้เองโดยอัตโนมัติตามเนื้อหาที่เราเล่น
ปรับแต่ง Galaxy ได้เพียบด้วย One UI 4
- เปลี่ยนสีธีมด้วยจานสี : ฟีเจอร์จะเป็นการปรับสี UI ของระบบให้เข้ากับสีของวอลเปเปอร์ของเราครับ ทำให้คลุมโทนการใช้งานได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว
- บังคับการใช้งานด้วย Galaxy Labs : ใน One UI 4 จะมีฟีเจอร์ Labs มาให้เราใช้งานกัน โดยจะมี 2 แบบ ได้แก่ บังคับให้แอปพลิเคชั่นทุกแอปใช้งานแบบ Multi-Windows ได้ครับ (เช่น Netflix ไม่รองรับการใช้ 2 หน้าจอ แต่พอเปิดฟีเจอร์นี้จะใช้งานได้ทันที) และเต็มหน้าจอในมุมมองหน้าจอแยก จะเป็นการซ่อนแถบสถานะเพื่อให้เราใช้แอปได้เต็มจอกว่าเดิม
- ดูแลอุปกรณ์ได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มเดียว : ระบบรุ่นล่าสุดของ Samsung จะมีแอปดูแลอุปกรณ์ที่มีหน้าตาสวยงามมากขึ้นครับ (หากใครเคยใช้ Samsung Galaxy มาแล้วจะสังเกตได้ครับ) โดยสามารถกดปุ่มเดียวก็สามารถล้างขยะและเคลียร์พื้นที่การใช้งานให้ไหลลื่นมากขึ้นได้ครับ
สรุปการใช้งาน
จากที่เราได้ลองใช้งาน Samsung Galaxy M33 5G มาประมาณ 1 สัปดาห์ รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถือว่าคุ้มค่าในการใช้งานแบบครบเครื่องพอตัวเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ได้มาถึง Refresh Rate 120Hz ที่ใช้งานได้เหมือนเรือธง ซึ่งการใช้คู่กับชิปใหม่อย่าง Exynos 1280 ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับ ทั้งนี้เรื่องกล้องหลังก็ถ่ายได้สวยงามสไตล์ของ Samsung มากๆ ยิ่งใครที่ชอบถ่าย Portrait น่าจะถูกใจไม่น้อยเลยครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย
Samsung Galaxy M33 5G เริ่มวางจำหน่ายแล้วในราคา 10,999 บาท แบบ Exclusive เฉพาะบน Lazada เท่านั้น ระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 20 เมษายน 2565 และพิเศษ! เมื่อซื้อ Galaxy M33 5G ผ่าน Lazada ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม – 20 เมษายน 2565 รับโปรโมชั่นผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,100 บาทต่อเดือน พร้อมรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ