ควรเปลี่ยนไหม ?? เทียบสเปค Samsung Galaxy Note20 Ultra vs S23 Ultra แบบจัดเต็ม

Samsung Galaxy S23 Ultra เตรียมจะเปิดตัวในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งสเปคต่างๆ ก็มีหลุดออกมากันน่าจะครบไม่มีอะไรเหลือแล้ว ทั้งการใช้ขุมพลังรุ่นท็อป กล้อง 200MP รุ่นแรกของแบรนด์ และอื่นๆ ซึ่งหากใครที่ยังใช้ Galaxy Note20 Ultra ที่เป็น Note Series รุ่นสุดท้ายอยู่สมควรเปลี่ยนหรือไม่ เราได้นำสเปคมาเทียบกันให้เห็นกันชัดๆ ทีละส่วนครับ

แค่ขุมพลังก็คุ้มแล้ว

ในตอนที่ยังเป็น Note20 Ultra แทบทั่วโลกยังใช้เป็นชิป Exynos 990 อยู่ครับ ซึ่งหลายคนยังกังขาในเรื่องของความแรงที่น่าจะยังเทียบ Snapdragon ไม่ได้เลย ซึ่งใน S23 Ultra นั้นใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 “For Galaxy” ที่ Overclock มาเป็น 3.36GHz ซึ่งเร็วกว่ารุ่นธรรมดาและความแรงก็อยู่ในเบอร์ต้นๆ ของฝั่ง Android รวมถึงแรงแซง A16 Bionic ของ iPhone 14 Pro จากการทดสอบล่าสุดอีกด้วย

หน้าจอสว่างขึ้นพร้อม S Pen แบบเดิม

ใน Note20 Ultra แม้ว่าจะมาพร้อมหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X พร้อม Refresh Rate 10-120Hz ความละเอียด QHD+ และความสว่างสูงสุด 1500 นิต แต่ใน S23 Ultra ก็มีการอัปเกรดขึ้นมาด้วยความสว่างสูงสุด 1750 นิต พร้อมรองรับ Refresh Rate 1-120Hz แถมยังเปิดใช้ความละเอียดหน้าจอ QHD+ ควบคู่กับไปได้ด้วย

ทั้งนี้ หน้าจอแสดงผลยังมีการปรับแต่งสีสันให้ตรงมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานในที่แสงกลางแจ้งครับ รวมถึงความแข็งแรงของหน้าจอจะใช้เป็น Gorilla Glass Victus 2 ต่างจาก Note20 Ultra ที่ใช้เป็น Gorilla Glass Victus รุ่นแรกครับ

ส่วนเรื่องของปากกา S Pen ก็จะได้เรื่องค่าความหน่วง (Latency) ที่ลดลงเพื่อให้เขียนได้แบบเรียลไทม์มากขึ้นนั่นเองครับ ส่วนฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาใน S Pen นั้นอาจไม่ต่างกันเท่าไหร่

มองยังไงกล้องก็ดีกว่าแน่นอน !!

Note20 Ultra เป็นตระกูล Note Series รุ่นแรกที่มาพร้อมกล้อง 108 ล้านพิกเซล ซึ่งเมื่อลองเทียบกับ S23 Ultra ก็มีความคมชัดน้อยกว่าแน่นอนจากการใช้ 200 ล้านพิกเซลครับ ซึ่งในเรือธงรุ่นใหม่ปีนี้จะได้ทั้งค่ารูรับแสงที่กว้างขึ้น โฟกัสดีขึ้น พร้อมรองรับ OIS เช่นกันครับ ทั้งนี้ ในเรื่องของเซ็นเซอร์ก็ยังมีการปรับปรุงเรื่องสีสันและค่า Dynamic Range ที่กว้างขึ้นด้วย

ที่สำคัญในการถ่ายวิดีโอยังรองรับสูงสุด 8K @30fps และแม้ว่าทั้งคู่จะถ่ายวิดีโอ 4K @60fps ได้เหมือนกัน แต่ใน S23 Ultra จะมีการปรับสีสันให้สวยงามขึ้น, Dynamic Range กว้างขึ้น และปรับปรุงในการถ่ายในที่แสงน้อยและลด Noise ครับ

ส่วนเลนส์อื่นๆ อย่าง Ultra-Wide Angle ใน S23 Ultra จะรองรับโฟกัสอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้นและยังถ่ายโหมด Macro ได้ด้วย ทั้งนี้ในเลนส์ Telephoto ใน S23 Ultra ยังมี 2 เลนส์ทั้งแบบ 3x และ 10x เพื่อให้ถ่ายได้เหมาะสมหลายระยะครับ ส่วน Note20 Ultra จะได้แค่เลนส์ Telephoto 5x เท่านั้น

และกล้องหน้า S23 Ultra จะได้เซ็นเซอร์แบบใหม่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ให้ความละเอียดและถ่ายวิดีโอได้คมชัดกว่าเลนส์ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลใน Note20 Ultra ครับ

แบตใหญ่กว่าและชาร์จก็แรงขึ้น

Note20 Ultra ให้แบตเตอรี่มาที่ 4500mAh และชาร์จเร็วสูงสุดที่ 25W แต่ใน S23 Ultra ได้แบตมาถึง 5000mAh และชาร์จเร็ว 45W ที่สำคัญ สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือเรื่องของชิปเซ็ตที่ฝั่ง Snapdragon จะประหยัดพลังงานมากกว่าจากการใช้ขนาดเล็ก 4nm ด้วยครับ

ฝั่งซอฟต์แวร์ก็ได้ไปต่อยาวๆ

ในรุ่น Note20 Ultra แกะกล่องมาพร้อม Android 13 ที่รองรับการอัปเกรดใหญ่สูงสุด 3 รุ่นจนถึง Android 13 ที่ได้อัปเกรดไปเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะได้อัปด้วย ซึ่ง S23 Ultra ที่เป็นรุ่นใหม่ก็จะได้อัปเดทกันยาวๆ 4 ปี โดยจะแกะกล่องมาพร้อม Android 13 + One UI 5.1 และทำให้ไปสิ้นสุดถึง Android 17 กันเลยทีเดียวครับ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีส่วนที่เหมือนกันอยู่ครับ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่น IP68, ลำโพงสเตอริโอ AKG , สแกนลายนิ้วมือแบบ Ultrasonic Fingerprint, Wi-Fi 6, UWB, Wireless DeX, Samsung Pay, USB Type-C, ชาร์จไร้สาย และชาร์จ Reverse ครับ

ที่มา : Sammobile