Smart Review
รีวิว Samsung Galaxy Note 4 หน้าจอ 2K พรีเมียมด้วยกรอบโลหะ และกล้อง 4K
Samsung Galaxy Note 4 แฟบเล็ตเรือธงรุ่นที่ 4 จาก Samsung ที่มาพร้อมความพรีเมียมด้วยกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ อีกทั้งยังมีหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ความคมชัด Quad HD และมีเพื่อนคู่กายอย่างปากกา S Pen ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อีกหลายอย่าง รวมถึงฟีเจอร์ด้านสุขภาพอื่น ๆ อีกเพียบเลย
สรุปสเปค Samsung Galaxy Note 4 (SM-N910C)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว Super AMOLED QHD
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat กับ TouchWiz UI
- ชิปเซ็ต Exynos 5433
- ซีพียู Octa-Core (Quad-core 1.3 GHz Cortex-A53 & 1.9GHz quad-core Cortex-A57)
- จีพียู Mali-T760
- แรม 3GB
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียด 2160p
- กล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB
- ปากกา S Pen
- 3G, 4G LTE
- Wi-Fi a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct และ Download booster
- GPS with A-GPS, GLONASS
- Bluetooth v4.0
- NFC
- อินฟราเรด
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- แบตเตอรี่ 3,22 0mAh
การดีไซน์และตัวเครื่อง
Samsung Galaxy Note 4 ถือเป็นรุ่นแรกของแฟบเล็ตตระกูล Galaxy Note ที่ดีไซน์กรอบตัวเครื่องเป็นโลหะ (เหมือนกับ Galaxy Alpha) นอกเหนือจากความสวยงาม หรูหราแล้ว ยังให้ความรู้สึกถึงความแน่นหนาของงานประกอบตัวเครื่องด้วย ในขณะที่ฝาหลังก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนหนัง ซึ่งขนาดของตัวเครื่อง Galaxy Note 4 จะมีขนาดใหญ่กว่า Galaxy Note 3 เพียงเล็กน้อย
Galaxy Note 4 มีขนาดตัวเครื่อง 153.5 x 78.6 x 8.5 มม. น้ำหนัก 176 กรัม หน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว (เท่ากับ Galaxy Note 3) เหนือหน้าจอจะมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา, เซ็นเซอร์สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา, เซ็นเซอร์ตรวจจับท่าทาง และเลนส์กล้องความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล
ถัดลงมาด้านล่างหน้าจอเริ่มจากทางด้านซ้ายเป็นปุ่ม Recents สำหรับเรียกดูรายการใช้งานแอพพลิเคชั่นล่าสุดในปัจจุบัน, ตรงกลางเป็นปุ่มโฮมสำหรับกดเพื่อเข้าสู่หน้าจอหลักและมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย, ปุ่มขวามือสุดเป็นปุ่มย้อนกลับ
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., รูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และพอร์ตอินฟราเรด
ขอบด้านล่างหน้าจอจะมีไมโครโฟน 2 ตัว, ช่องเสียบ micro-USB สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ และช่องสำหรับเก็บปากกา S Pen
ขอบทางด้านขวามีปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ
ด้านข้างซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านหลังตัวเครื่องมีเลนส์กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นไฟแฟลช LED กับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ส่วนบริเวณด้านล่างจะมีช่องสำหรับเสียงลำโพง
ฝาหลังของ Galaxy Note 4 เป็นพลาสติกใส่ลวดลายคล้ายหนัง สามารถเปิดฝาออกได้ ภายในมีแบตเตอรี่ 3,220 mAh, ช่องใส่ซิมการ์ดขนาด Micro-SIM และช่องใส่การ์ดความจำ MicroSD สูงสุด 128GB
หน้าจอแสดงผล
Galaxy Note 4 มีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 5.7 นิ้ว Super AMOLED Quad HD ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซลอยู่ที่ประมาณ 515 พิกเซลต่อนิ้ว เป็นการเรียงพิกเซลแบบ Diamond Pentile เป็นแบบรวงผึ้งซึ่งช่วยให้เรียงพิกเซลได้หนาแน่นขึ้น
ด้วยความละเอียดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้การแสดงผลมีสันสันที่คมชัดขึ้นด้วย และอัตราส่วนคอนทราสต์สูงกว่าหน้าจอ LCD ทั่วไป แต่สีสันบางอย่างก็มองดูสีเข้มกว่าของจริงอยู่บ้าง นอกจากนี้ยังมีกระจก Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วนหน้าจอด้วย
อินเตอร์เฟซและภาพรวมการใช้งาน
Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย TouchWiz UI ที่เป็นเอกลักษณ์จาก Samsung การใช้งานหลักไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ มากนัก เริ่มต้นปลดล็อคหน้าจอด้วยการแตะหน้าจอแล้วปัดเพื่อเข้าสู่หน้าหลัก หรือแตะที่ไอคอนกล้องเพื่อเข้าสู่แอพกล้องถ่ายรูปก็ได้ เลื่อนหน้าจอหลักด้วยการปัดไปทางซ้าย – ขวา และสามารถเพิ่มหน้าหลักหรือหน้าโฮมได้สูงสุด 7 หน้า
หน้าตา UI และเมนูการต่าง ๆ ดูเรียบง่าย โดยในส่วนของ App Drawer จะเรียงไอคอนแบบ 5 × 5 แถว ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เลื่อนหน้าจอด้วยการปัดไปทางซ้าย – ขวา และแตะค้างที่ไอคอนแอพพลิเคชั่นเพื่อเพิ่มไปยังหน้าโฮม หรือลบการติดตั้ง ซ่อนแอพพลิเคชั่นนั้น ๆ ก็ได้
ปากกา S Pen
S Pen เป็นปากกาที่มาคุ่กับ Galaxy Note ที่หลายคนน่ารู้จักกันบ้างแล้ว ซึ่งตัว S Pen เองจะมีฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ มากมายด้วย Air command ซึ่งตัวใหม่นี้ได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เข้าด้วย มาดูกันว่า S Pen ทำอะไรได้บ้างบน Galaxy Note 4
Action Memo ฟังก์ชั่นนี้มีมาตั้งแต่รุ่นก่อน ๆ อยุ่แล้ว ซึ่งเป็นการเรียกใช้บันทึกย่อแบบรวดเร็ว สามารถใช้ปากกา S Pen เขียนหรือนิ้วของเราก็เขียนได้ครับ พร้อมบันทึกข้อมูลและแชร์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานในฟังก์ชันอื่นๆได้ด้วย
https://www.youtube.com/watch?v=dAr_m7GQhpE
ฟังก์ชั่นที่มาใหม่อย่างแรกคือ Smart Select หรือการเลือกอัจฉริยะ เป็นการใช้ปากกา S Pen เลือกเก็บภาพหน้าจอ ข้อความต่าง ๆ ทีละอันและรวมไว้หลาย ๆ อันได้ แล้วค่อยแชร์ทุกภาพพร้อมกันในครั้งเดียว ส่วนฟังกชั่นคลิปรูปภาพกับเขียนบนหน้าจอก็มีมาให้เหมือนเดิม
นอกจากนี้แล้ว S Pen ยังเพิ่มเอฟเฟกต์การตวัด ลากเส้น และการคัดลายมือได้เหมือนกับการใช้งานปากกาจริงบนกระดาษ พร้อมปรับปรุงให้รับแรงกดได้ละเอียดมากถึง 2048 ระดับ จากเดิมบน Galaxy Note 3 จะอยุ่ที่ 1024 ระดับ
Photo Note ฟ้งก์ชั่นนี้เป็นการถ่ายรูปแล้วแปลงเป็นกระดาษโน้ต แล้วนำมาแก้ไข ปรับตำหน่งการจัดวางใหม่ได้ โดยฟังก์ชั่นเลือกใช้งานได้จาก S Note ซึ่งเมื่อถ่ายรูปแล้วระบบจะทำการแปลงภาพถ่ายให้อัตโนมัติ ทั้งข้อวามและรูปภาพ จากนั้นเราก็เลือกจัดการแก้ไข ย้ายตำแหน่งโน้ต หรือเพิ่มข้อความ รูปภาพเข้าไปได้ด้วย
สำหรับภาพถ่ายที่จะนำมาเป็น Photo Note สามารถเลือกภาพถ่ายที่บันทึกไว้ในเครื่องแล้วก็ได้เช่นกัน
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
Galaxy Note 4 จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ปุ่มโฮม ซึ่งเวลาสแกนลายนิ้วมือจะไม่ได้แตะวางนิ้วมือลงไปเฉย ๆ เหมือนรุ่นอื่น ๆ ของค่ายข้างบ้าน แต่เมื่อวางนิ้วมือลงไปบนปุ่มโฮมแล้วให้สไลด์นิ้วลงมาจนสุดปลายนิ้วมือด้วย
สำหรับการตั้งค่าตัวสแกนลายนิ้วมือจะสามารถจดจำได้ 10 ลายนิ้วมือ สามารถใช้ปลดล็อคหน้าจอ เข้าสู่ระบบเว็บ และตรวจสอบ Samsung Account ได้ ซึ่งถ้ามือเปียกหรือชื้นจะสแกนยากและไม่ผ่าน
S Health
แอพพลิเคชั่นที่มาพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับคนรักสุขภาพที่จะคอยติดตาม จัดการ จัดเก็บ และการตั้งเป้าหมายในการออกกำลัง รวมถึงพฤติกรรมอาหารการกิน และน้ำหนัก ซึ่งบน Galaxy Note 4 จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และเซ็นเซอร์วัดรังสียูวีด้วย
นอกจากนี้ข้อมูลด้านสุขภาพต่าง ๆ นี้จะถูกจัดเก็บได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้นหากใช้งานร่วมกับอุปกรณ์สวมใส่ข้อมือ เช่น Gear Fit, Gear S หรือ Gear รุ่นอื่น ๆ เพราะบางครั้งเราก็ไม่ได้ถือ Galaxy Note 4 ติดตัวตลอดเวลา ในขณะที่อุปกรณ์สวมใส่ข้อมือเหล่านั้นก็จะคอยเก็บข้อมูลและซิงค์มายัง Galaxy Note 4 ได้นั่นเอง
ประสิทธิภาพการทำงานและหน่วยประมวลผล
Galaxy Note 4 รุ่นที่นำเข้ามาวางจำหน่ายในไทยคือรุ่นโมเดล SM-N910C ที่ใช้ชิปเซ็ต Exynos 5433 Octa-core (Quad-core 1.3 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 1.9GHz Cortex-A57) กับแรม 3GB มีหน่วยประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้นด้วย Mali-T760 ส่วนรุ่นโมเดล SM-N910S ชิปเซ็ต Snapdragon 805 Quad-core ไม่ได้นำเข้ามา (ข้อมูล 15/11/2014)
ผลทดสอบ AnTuTu Benchmark ทำได้ 48,290 คะแนน และ Quadrant Standard ทำได้ 21,826 คะแนน
Cortex-A57 เป็นชิปที่ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วน Cortex-A53 จะเน้นประหยัดพลังงาน ทั้ง 2 ตัวจะรวมกันหรือสลับซีพียูตามโหมดการทำงานไปมาด้วยเทคโนโลยีเรียกว่า big.LITTLE จากการทดสอบผลออกมาว่า Exynos 5433 ทำคะแนนออกมาได้เหนือกว่า Snapdragon 805 (ไม่เชื่อดูได้ที่นี่)
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- Pressure Sensor ตรวจวัดความกดอากาศ
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
แบตเตอรี่
Galaxy Note 4 มีแบตเตอรี่ขนาด 3,220 mAh สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จได้เร็วขึ้นจาก 0% ถึง 50% ใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ประมาณ 30 นาที ควรใช้คู่กับอะแดปเตอร์และสายชาร์จที่มาพร้อมกับชุดจำหน่ายนะครับ
นอกจากนี้ก็มีโหมดประหยัดพลังงานที่จะเปลี่ยนจอสีเป็นจอขาวดำเพื่อประหยัดพลังงานขึ้นสูงสุด แต่ยังสามารถใช้งานการโทร ข้อความ และอื่น ๆ ได้บางฟังก์ชั่น
กล้องถ่ายรูป
เลนส์กล้องหลังของ Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว Smart OIS ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และไฟแฟลช LED สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด UHD 4K 2160p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และกล้องหน้าความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9
การบันทึกวิดีโอระดับ UHD หรือ 4K (2160p) จะจำกัดเวลาการบันทึกได้สูงสุด 5 นาทีเท่านั้น และไฟล์มีขนาดใหญ่มาก ลองดูตัวอย่างคุณภาพวิดีโอได้จากคลิปด้านล่างนี้ครับ อย่าลืมเลือกความละเอียดเป็น 2160p ตอนดูด้วยนะครับ และที่สำคัญเน็ตต้องแรง ๆ ด้วย ^^
ตัวอย่างวิดีโอความละเอียด 1080p (เลือกดูที่ความละเอียด 1080p ด้วยนะครับ)
นอกจากนี้แล้วยังสามารถบันทึกวิดีโอแบบเร่งความเร็ว หรือ Time Lapse ได้ด้วย (รุ่นก่อน ๆ ก็สามารถเลือกบันทึกวิดีโอแบบ Time Lapse ได้เช่นกัน) เลือกความเร็วได้สูงสุด 8 เท่า มาดูคุณภาพของวิดีโอแบบ Time Laps ที่ความละเอียด Full HD จะเป็นอย่างไร ชมคลิป (ถ้าเน็ตแรง ๆ เลือกดูแบบ 1080p ด้วยนะครับ)
ตัวอย่างภาพถ่าย (คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่)
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว ความละเอียดสูง (1440 x 2560 พิกเซล)
- กล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว และบันทึกวิดีโอ 4K
- หน่วประมวลผล Octa-core
- แรม 3GB
- ใช้งานเครือข่าย 4G ในไทยได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- แบตเตอรี่ 3,220 mAh กับหน้าจอความละเอียดสูง ไม่เพียงพอกับการใช้งานตลอดวัน แต่ก็ถือว่าใช้งานได้นานเกินที่คาดหวัง
- ราคาเปิดตัว 25,900 บาท (15/11/2014)
ขอบคุณ Samsung Mobile Thailand