Featured
รีวิว Samsung Galaxy Note8 จอใหญ่ ไร้กรอบ ขอบโค้ง และฟีเจอร์ใหม่ด้วยปลายปากกา S Pen
[adrotate banner=”4″]
Samsung Galaxy Note8 สมาร์ทโฟนจอใหญ่รุ่นใหม่หรือแฟบเล็ตล่าสุดจาก Samsung ที่มาสานต่อความสำเร็จตามคำสัญญาแม้ในปีที่ผ่านมาจะพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ ทำให้แฟนๆ Note ต้องรอคอยกันมานานถึง 2 ปีนับตั้งแต่ Note5 โดยรุ่นใหม่นี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ Infinity Display และมีปากกา S Pen ที่ให้ความรู้สึกในการเขียนเหมือนกับปากกาจริงๆ รวมไปถึงกล้องหลังเลนส์คู่รุ่นแรกของโลกที่มีระบบกันภาพสั่นไหวทั้ง 2 เลนส์
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy Note8
- ราคาเปิดตัว 33,900 บาท (กันยายน 2017)
- ขนาดตัวเครื่อง 162.5 x 74.8 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 195 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว QHD+ Super AMOLED (ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล)
- ปากกา S Pen รองรับแรงกด 4,096 ระดับ
- กันน้ำทั้งตัวเครื่อง Galaxy Note8 และปากกา S Pen มาตรฐาน IP68
- กล้องหลังคู่ เลนส์มุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 + เลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ออพติคอลได้ 2 เท่า
- มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ทั้ง 2 เลนส์
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
- ชิปเซ็ต Exynos 8895 Octa-core
- แรม 6GB
- ความจุตัวเครื่อง 64GB
- รองรับ 3CA, 4×4 MIMO, 256QAM, NEXT G (AIS)
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz), VHT80 MU-MIMO, 1024QAM
- Bluetooth 5.0, ANT+, USB Type-C, NFC, Location (GPS, Galileo, Glonass, BeiDou)
- ระดับบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
- แบตเตอรี่ 3,300mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์ของ Galaxy Note8 เป็นดีไซน์ที่เรียกว่าเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำและเป็นเทรนด์ของปีนี้ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเต็มพื้นที่ด้านหน้า Infinity Display และขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง ทำให้ด้านหน้ามองเป็นหน้าจอแสดงผลทั้งหมด เหลือเพียงขอบหน้าจอด้านบนกับด้านล่างเท่านั้น
ดีไซน์หน้าจอแสดงผลของ Gaalxy Note8 แม้จะเป็นแบบ Infinity Display เหมือนกับในรุ่น Galaxy S8 และ S8+ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นซีรีส์ Note ที่มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่คือ 6.3 นิ้ว ใหญ่กว่า S8+ เล็กน้อยที่มีขนาดหน้าจอ 6.2 นิ้ว เรียกได้ว่าในปีนี้เรามาถึงจุดที่สมาร์ทโฟนมีหน้าจอใหญ่ 6 นิ้วขึ้นไปแล้ว ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่ตามไปด้วย
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Note ที่ต่างไปจากสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy S คือขอบหน้าจอที่โค้งจะมีความชันมากกว่า เมื่อเทียบระหว่าง Gaalxy S8+ จะเห็นว่าขอบจอที่โค้งของ Galaxy Note8 มีความชันมากกว่า เพื่อให้มีพื้นที่บนหน้าจอมากที่สุดและเหมาะกับการเขียนบนหน้าจอมากกว่า
หน้าจอขนาด 6.3 นิ้วของ Galaxy Note8 มีความละเอียด QHD+ (2960 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 18.5:9 ให้พื้นที่หน้าจอมากถึง 83.3% ของพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งหน้าจอจะมีความยาวทำให้การดูคอนเทนท์เห็นได้มากขึ้น ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ
เทียบขนาดตัวเครื่องและหน้าจอระหว่าง Galaxy Note5 ที่มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ขอบไม่โค้ง และ Galaxy Note8 ที่มีหน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว ขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง
กรอบตัวเครื่อง Galaxy Note8 เป็นอะลูมิเนียมเกรด 7000 ที่มีการขัดเงาให้มีความมันเงา ทำให้ตัวเครื่องมีความพรีเมียมมากขึ้น หากเทียบกับ Note5 จะมีกรอบตัวเครื่องเป็นโลหะแบบผิวด้าน แต่จุดสังเกตของสมาร์ทโฟนที่เป็นกระจกคือการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่าย
ขอบด้านล่างตัวเครื่องไม่ได้เปลี่ยนแปลงจาก Galaxy Note5 ยังคงจัดวางตำแหน่งพอร์ตเชื่อมต่อ ลำโพงตัวเครื่อง และช่องเก็บปากกา S Pen เหมือนเดิม มีเพียงจุดไมโครโฟนที่สลับตำแหน่งกันเล็กน้อย
ปุ่มที่เพิ่มเข้ามาใน Galaxy Note8 คือปุ่มเรียกใช้งาน Bixby ซึ่งใน Galaxy Note5 จะไม่มีปุ่มนี้
กล้องหลังของ Galaxy Note5 มีเลนส์เดียวและนูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง ในขณะที่ Galaxy Note8 เป็นเลนส์คู่ไม่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลัง
วัสดุตัวเครื่อง Galaxy Note8 เป็นกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหลังเป็นกระจกที่มีความโค้งแบบ 3D Glass เว้าเข้าหากรอบตัวเครื่องได้อย่างพอดี
บริเวณเหนือหน้าจอของ Galaxy Note8 มีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับใช้ในการสแกนม่านตา และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา
สมาร์ทโฟนไฮเอนด์รุ่นใหม่จาก Samsung ที่มีหน้าจอแบบ Infinity Display จะไม่มีปุ่มโฮมแบบกดอยู่บริเวณล่างหน้าจออีกต่อไปแล้ว โดยจะใช้ปุ่มนำทางเสมือนบนหน้าจอแทน ซึ่งปุ่มโฮมบนหน้าจอสามารถกดหนักลงไปได้ จะมีการสั่นเตือนซึ่งเป็นปุ่มที่สามารถรับรู้แรงกด ให้ความรู้สึกเหมือนปุ่มกดจริงๆ
ขอบด้านขวามีปุ่ม Power
ขอบด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเรียกใช้งาน Bixby
ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5mm พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และช่องเก็บปากกา S Pen
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริด เลือกใส่ 2 ซิมหรือใส่ microSD card ก็ได้
ด้านหลังมีเลน์กล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล + 12 ล้านพิกเซล และสลับตำแหน่งปุ่มสแกนลายนิ้วมือใหม่ให้มีไฟแฟลชคั่นตรงกลางเพื่อมีระยะห่างจากตัวเลนส์ ลดโอกาสที่จะเอื้อมนิ้วมาแตะโดนเลนส์กล้องหลัง
กล้องหลังของ Note8 นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเพียง 0.1 มิลลิเมตร จะเรียกว่าไม่นูนก็ได้เพราะแทบจะเรียบไปฝาหลัง และไม่สามารถแกะเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว
ปากกา S Pen ของ Note8 มีการดีไซน์ใหม่ โดยหัวปากกาเป็นยาง เขียนลื่นมากขึ้น และปุ่มกดกดที่ตัวปากกาก็ขยับขึ้นไปอยู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม เวลาจับเขียนก็จะไม่กดโดนปุ่มเหมือนรุ่นก่อนหน้า และหัวปากกา S Pen ยังสามารถกดเล่นได้เหมือนหัวปากกาจริงๆ
ตัวเครื่อง Galaxy Note8 และปากกา S Pen สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IP68 คือกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที สามารถเขียนบนหน้าจอได้แม้หน้าจอจะเปียกน้ำ
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Samsung Galaxy Note8 รันระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat และ Grace UX เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มีการออกแบบใหม่ ซึ่งภาพรวมจะเหมือนกับบน Galaxy S8 ที่รันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat แต่ก็มีการปรับปรุงฟังก์ชั่นและเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ สำหรับ Galaxy Note8 รวมไปถึงภาพวอลเปเปอร์ชุดใหม่ด้วย
Grace UX เวอร์ชั่นใหม่ มีการปรับปรุงเฉดสีให้นุ่มนวล ไอคอนแอพพลิเคชั่นที่ดูเรียบง่าย การทำงานที่ช่วยให้เกิดความง่ายในการใช้งาน และด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น การถือใช้งานด้วยมือเดียวอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ซึ่ง Samsung ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถปัดหน้าจอขึ้นเพื่อเข้าสู่ในส่วนของ App Drawer ได้ หรือปัดลงเพื่อกลับมายังหน้าโฮม โดยไม่ต้องใช้นิ้วมือเอื้อมไปแตะไอคอนใด ๆ บนหน้าจอเลย
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ช่วยให้การใช้งานเดียวบนสมาร์ทโฟนจอใหญ่ในหน้าโฮม เมื่อแตะค้างที่ไอคอนแอพพลิเคชั่น จะมีเมนูตัวเลือกเพิ่มเติมเด้งขึ้นมาให้เลือกใช้งาน ซึ่งบางแอพก็จะมีเมนูแตกต่างกันออกไปตามการใช้งานของแอพนั้นๆ
แอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องส่วนใหญ่ก็จะรองรับการใช้งานมือเดียวได้ด้วยการลดขนาดหน้าลงมา เลื่อนให้ชิดไปทางขวาหรือซ้ายก็ได้ เพื่อให้สามารถแตะใช้งานในมือเดียวได้สะดวก
Dual Messenger การโคลนแอพให้สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียว (โดยไม่ต้องทำผ่าน Secure Folder) ซึ่งรองรับแอพโซเชียลเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook, Messenger, Skype เป็นต้น
หน้าจอของ Galaxy Note8 เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกจะตั้งค่าเริ่มต้นความละเอียดในระดับ Full HD+ ซึ่งเป็นระดับความคมชัดที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปและช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย แต่หากต้องการใช้งานในระดับความละเอียดสูงสุด QHD+ ก็สามารถเข้าไปเลือกปรับได้ในเมนูการตั้งค่าหน้าจอ และมีโหมดตัวกรองแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา ลดการเมื่อยล้า เหมาะสำหรับการใช้งานในตอนกลางคืน และสีสันการแสดงผลบนหน้าจอก็สามารถปรับให้เหมาะสมของแต่ละประเภทได้
อัตราส่วน 18.5:9 เป็นหน้าจอที่มีความยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป เมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นจะมีพื้นที่สีขาวเหลืออยู่และมีข้อความให้ผู้ใช้งานแตะเพื่อเปิดใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ เหมาะสำหรับการดูหนังที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูบนหน้าจอในโรงหนัง แต่ก็จะมีบางแอพพลิเคชั่นที่อาจแสดงผลเพี้ยนเมื่อเลือกแบบเต็มหน้าจอ ส่วนแอพพลิเคชั่นระบบที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้รองรับการแสดงผลแบบเต็มหน้าจออยู่แล้ว
การเชื่อมต่อไร้สายของ Galaxy Note8 รองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac ใช้เป็นจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi Hotspot รองรับ Bluetooth 5.0, NFC และใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด รองรับเครือข่าย 3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์การโทรบนเครือข่าย 4G LTE หรือ VoLTE และการโทรผ่าน Wi-Fi หรือ VoWiFi ได้เลย อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด AIS NEXT G เครือข่ายความเร็วระดับ 1Gbps
ระบบเสียง Galaxy Note8 สามารถปรับคุณภาพและเอฟเฟกต์เสียงได้ โดยบางเอฟเฟกต์ก็จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับหูฟังที่รองรับเทคโนโลยีเดียวกันด้วย และมีฟังก์ชั่นแยกเสียงจากแอพเดียวด้วยลำโพงหรือหูฟังแยกจากเสียงที่มาจากแอพอื่น
แม้ว่า Galaxy Note8 จะยังไม่มีลำโพงตัวเครื่องที่ให้เสียงแบบสเตอริโอ แต่เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง 32-bit/384kHz หากเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันส่วนใหญ่จะรองรับ 32-bit/192kHz จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนชอบฟังเพลงและหูเทพน่าจะชื่นชอบกันอย่างแน่นอน
สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่จะมีข้อดีตรงที่มีการแสดงคอนเทนท์ต่างๆ บนหน้าจอดูใหญ่เต็มตา ซึ่งบน Galaxy Note8 ก็มีฟังก์ชั่นการแบ่งหน้าจอ Multi-Window รองรับแอพพลิเคชั่นได้เกือบจะทุกตัว และตอนนี้สามารถเปิดกล้องถ่ายรูปพร้อมกับเปิดแอพได้แล้ว โดยจากการใช้งานจริงไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอพโซเชียลพร้อมกับเกม การทำงานก็ยังลื่นไหล ไม่มีกระตุก แม้ว่าจะแบ่งเป็น 2 หน้าจอ แต่ละหน้าจอก็มีขนาดใหญ่พอที่จะใช้งานได้สะดวกเหมือนมีสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง
การแบ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน 2 หน้าจอสามารถทำได้ง่ายมากขึ้นบน Galaxy Note8 เพราะแอพคู่ไหนที่ใช้งานบ่อยๆ สามารถจับคู่เอาไว้ที่ Edge Screen แล้วเปิดใช้งานพร้อมกันได้ทันที เรียกฟีเจอร์นี้ว่า App Pair ไม่ต้องกดแบ่งหน้าจอหลายขั้นตอนเหมือนเมื่อก่อน
สำหรับ App Pair สามารถวางเอาไว้ที่ Edge Screen ได้สูงสุด 10 คู่ และแอพพลิเคชั่นที่สามารถจับคู่ได้เหมือนกันจะมี 2 แอพ ได้แก่ My File และ Internet เพื่อความง่ายในการลากวางห้ามไปมาระหว่าง 2 หน้าจอ
หากเลือกเปิดใช้งาน My File พร้อมกัน 2 หน้าจอ ก็จะสามารถลากไฟล์จากหน้าจอหนึ่งไปใส่อีกหน้าจอหนึ่งได้ โดยเป็นการ Copy และ Paste นั่นหมายความไฟล์ต้นฉบับก็ยังคงอยู่ที่เดิมด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากขึ้นและง่ายขึ้น
แอพ Gallery มีความฉลาดมากขึ้น สามารถค้นหาด้วยการพิมพ์คำลงในช่องค้นหา แบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของรูปภาพ หรือหากเป็นภาพหน้าจอที่จับภาพมาจากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ก็สามารถกลับไปยังหน้าจอเว็บไซต์นั้นได้ด้วยฟีเจอร์ Go to URL
มาถึงความสามารถของ S Pen ที่ทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิม หัวปากกามีขนาดเล็กมากและรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 และปุ่มกดบนตัวปากกาสามารถกดเพื่อใช้เป็นยางลบได้ทันที ไม่ต้องกดหาจากบนหน้าจอ โดยฟีเจอร์แรกที่สามารถเลือกใช้งานแปรงได้หลากชนิดมากขึ้น มีความสามารถในการผสมสีเหมือนกับการใช้งานสีน้ำของจริงเพื่อวาดและระบายสีได้ ซึ่งน่าจะถูกใจผู้ใช้งานที่เคยใช้ Galaxy Note รุ่นก่อนๆ อย่างแน่นอน
Smart Select หรือฟีเจอร์การเลือกอัจฉริยะ เป็นการเลือกพื้นที่บนหน้าจอได้อย่างอิสระตามความต้องการ และยังสามารถนำพื้นที่ที่เลือกนั้นมาแยกข้อความเพื่อแชร์ต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา ซึ่งในฟีเจอร์นี้จะมีฟังก์ชั่น “ภาพเคลื่อนไหว” สำหรับเลือกพื้นที่วิดีโอที่กำลังเล่นบนหน้าจอแล้วทำการบันทึกเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำเป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF) ได้ทันที
การแปลภาษาบนหน้าจอไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปด้วยฟีเจอร์ Translate หรือแปลภาษาด้วยปลายปากกา S Pen เพียงจ่อปลายปากกาไว้เหนือคำที่ต้องการแปล ระบบก็ทำการสแกนคำนั้นแล้วทำการแปลภาษาออกมาได้ทันที โดยเวอร์ชั่นล่าสุดนี้รองรับการแปลได้ทั้งประโยคด้วย เป็นการใช้ระบบแปลภาษาของ Google Translate รองรับเกือบทุกภาษาในโลก รวมถึงภาษาไทยด้วย และไม่เพียงแต่แปลภาษาจากข้อความบนหน้าจอตามหน้าเว็บไซต์หรือไฟล์งานเท่านั้น แม้แต่ข้อความบนรูปภาพก็สามารถแปลภาษาได้ด้วย
Live Massage ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยการส่งข้อความทำได้สนุกมากยิ่งขึ้น โดยการเขียนข้อความหรือวาดอะไรก็ได้ด้วยลายมือของเราเอง แล้วบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF เพื่อส่งต่อหาเพื่อนได้ทันทีผ่านแอพต่างๆ และสามารถเลือกภาพพื้นหลังมาเขียนข้อความลงไปได้ด้วย ดังนั้นภาพ GIF ที่สร้างขึ้นมานี้จะมีเพียงรูปเดียวในโลก ไม่ซ้ำใครแน่นอน
Magnity ฟีเจอร์แว่นขยายสำหรับส่องขยายพื้นที่ที่ต้องการให้มีขนาดใหญ่ เห็นชัดเจนมากขึ้น สามารถขยายซูมได้สูงสุด 300%
Glance ฟีเจอร์ย่อพักหน้าจอแล้วสลับไปยังหน้าจออื่นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งดีมากๆ อย่างเช่นในสถานการณ์ที่แชทคุยกับเพื่อนแล้วต้องหาเลขที่บัญชีหรือเบอร์โทร เพียงใช้ฟีเจอร์นี้ก็สลับไปมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องวุ่นวายในการปิดแอพนี้แล้วเข้าแอพใหม่ให้ยุ่งยาก
Screen Off Memo เขียนบนหน้าจอแม้หน้าจอล็อค เพียงกดที่ปุ่มบนตัวปากกา S Pen ก็เขียนลงบนหน้าจอได้ทันที สามารถเพิ่มหน้าได้สูงสุด 100 หน้า (จากเดิมทำได้เพียง 1 หน้า) เมื่อเขียนแล้วจะบันทึกเก็บไว้ที่ Note หรือ Pin ไว้บนหน้าจอ Always On Display เพื่อเตือนความจำก็ได้
มาถึงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย ระบบการปลดล็อคหน้าจอ Galaxy Note8 เริ่มจากระบบการจำแนกใบหน้า เป็นการจดจำใบหน้าของผู้ใช้งาน และสามารถใช้สำหรับปลดล็อคหน้าจอได้เท่านั้น การทำงานสามารถทำได้รวดเร็วมาก แค่กดเปิดหน้าจอขึ้นมาแล้วระบบตรวจพบใบหน้าที่ตรงกับใบหน้าที่ลงทะเบียนไว้ก็จะทำการปลดล็อคได้ทันที
ตัวสแกนลายนิ้วมือ ฟีเจอร์ระบบความปลอดภัยที่สามารถใช้ปลดล็อคตัวเครื่อง ยืนยันบัญชี Samsung และใช้ยืนยันตัวตน Samsung Pass ได้ ได้แก่ สแกนนิ้วมือสำหรับการจ่ายเงินผ่าน Samsung Pay หรือปลดล็อค Secure Folder
ตัวสแกนม่านตา ระบบความปลอดภัยสูงสุดที่สามารถลงทะเบียนได้เพียง 1 ไอดีเท่านั้น ใช้ยืนยันบัญชี Samsung และใช้ยืนยันตัวตน Samsung Pass ได้ ได้แก่ สแกนนิ้วมือสำหรับการจ่ายเงินผ่าน Samsung Pay หรือปลดล็อค Secure Folder ได้เช่นเดียวกับลายนิ้วมือ
การสแกนม่านตายังมีลูกเล่นสนุกๆ ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกหน้ากากน่ารัก ๆ ได้ด้วย และจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงสว่างเพียงพอและอยู่ในระยะห่างที่พอดี ระบบจะทำงานได้รวดเร็วมาก แต่หากสวมใส่แว่นหรืออยู่ในสภาพแสงที่ค่อนข้างมืด อาจต้องเล็งสายตากับเซ็นเซอร์สแกนม่านตาสักครู่
Secure Folder หรือโฟลเดอร์ที่ปลอดภัย ติดตั้งมาให้เลย สำหรับแยกเก็บไฟล์ข้อมูลที่สำคัญเอาไว้ต่างหาก เพราะพื้นที่ในส่วนนี้จะแยกออกมาจากพื้นที่หลักของตัวเครื่อง พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยการล็อคโฟลเดอร์ด้วยรหัสผ่านหรือใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อคเพื่อเข้าไปใช้งาน เหมือนเป็นพื้นที่การใช้งานบนสมาร์ทโฟนอีกเครื่อง เพราะไฟล์ข้อมูลและแอพพลิเคชั่นในนี้จะแยกออกจากพื้นที่หลักตัวเครื่อง ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์ที่ออกแบบใหม่มาจาก Samsung KNOX เดิม โดยมีหน้าตาการใช้งานที่ดูเรียบง่าย น่าใช้งานมากขึ้น
Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถเรียกใช้งานได้จากปุ่มที่เพิ่มมาให้ด้านข้างซ้ายตัวเครื่อง ถัดจากปุ่มปรับระดับเสียง หรือปัดหน้าจอไปทางขวาเพื่อเข้าใช้งานได้เช่นเดียวกัน ขณะนี้รองรับการสั่งงานด้วยเสียงได้แล้ว แต่เฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลี
จากการทดสอบใช้งาน Samsung Galaxy Note8 เล่นโซเชียล ถ่ายรูปทั้งวัน แบตเตอรี่อยู่ได้ทั้งวันจนถึงเย็น ๆ เลย ถือว่าอึดพอสมควรหากเทียบกับขนาดหน้าจอและฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานเยอะขนาดนี้ แต่หากเปิดคลิปวิดีโอและเล่นเกมต่อเนื่องก็จะอยู่ได้ไม่ถึงวัน
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม
- Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- Pressure Sensor ตรวจวัดความดันบรรยากาศ
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
Samsung Galaxy Note8 รันระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Exynos 8895 Octa-core ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตัวแรกที่มีกระบวนการผลิตที่ 10 นาโนเมตร แบ่งการทำงานซีพียูออกเป็น 2 ระดับ Quad-core 2.3 GHz และ Quad-core 1.7 GHz ซึ่งทั้ง 2 ตัวจะรวมกันหรือสลับซีพียูตามโหมดการทำงานไปมา มาพร้อมจีพียู Mali-G71 MP20 และความจำแรม 6GB
โดยผลการทดสอบ AnTuTu v6.2.7 ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 174,256 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าทำได้สูงมาก
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Galaxy Note8 ทำคะแนน Single-Core ได้ 2,019 และ Multi-Core ทำได้ 6,742 คะแนน
เกม ROV หรือ Realm of Valor เกม MOBA บนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน Galaxy Note8 ลื่นไหล ไม่มีปัญหา
ทดสอบเล่นเกม Lineage2 Revolution สุดยอดเกม RPG บนมือถือ ตัวเกมสามารถเล่นกันแบบเรียลไทม์และถูกพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 ซึ่งมีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก โดยทำการทดสอบด้วยการเลือกตั้งค่าตัวเกมให้มีกราฟิกสูงสุด ความละเอียดภาพสูงสุด และแสดงเอฟเฟ็กต์ทุกอย่างภายในเกม พบว่าสามารถเล่นบน Galaxy Note8 ได้อย่างลื่นไหล
ทดสอบเกมใหม่ล่าสุด Dynasty Warriors: Unleashed เกมแนว Action RPG และตั้งค่า GFX Quality, FPS และ Resolution ภายในเกมระดับสูงสุด
จากการทดสอบใช้งานและเล่นเกมบน Samsung Galaxy Note8 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Exynos 8895 โดยการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องประมาณ 30 นาที เครื่องมีอาการอุ่น ๆ ก็ถือว่าปกติ ไม่ร้อนเร็ว
กล้องถ่ายรูป
Galaxy Note8 เป็นรุ่นแรกของ Samsung ที่มีเลนส์กล้องหลังคู่ และเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ทั้ง 2 เลนส์ โดยตัวเลนส์มีความละเอียดเท่ากันที่ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเลนส์หลักเป็นเลนส์ 26mm มุมกว้างที่มีรูรับแสง f/1.7 และอีกตัวเป็นเลนส์ 52mm เทเลโฟโต้ที่มีรูรับแสง f/2.4 ออพติคอลซูมได้ 2 เท่า และดิจิตอลซูมได้ 10 เท่า
หากใครเคยได้ลองเล่นหรือเคยเห็นระบบโฟกัสกล้องของ Galaxy S8 ที่เป็นแบบ Dual Pixel ก็ไว้ใจได้เลยว่า Galaxy Note8 ก็สามารถโฟกัสวัตถุได้รวดเร็วเช่นกันเดียว แต่สิ่งที่เหนือไปกว่าเดิมคือกล้องเลนส์คู่ที่มีตัวกันสั่น OIS ทั้ง 2 เลนส์ ช่วยให้การถ่ายภาพทั่วไปในระยะปกติทำได้นิ่ง และภาพที่ถ่ายด้วยการซูมก็จะนิ่งกว่าเดิมชัดเจนเมื่อเทียบกับกล้องสมาร์ทโฟนเลนส์คู่ทั่วไปที่มีกันสั่น OIS เพียงเลนส์เดียว
เมื่อมีกล้องคู่ Samsung ก็ได้เพิ่มความสามารถในส่วนของซอฟต์แวร์เพื่อดึงความสามารถของเลนส์คู่ให้ทำได้มากกว่าเลนส์เดี่ยว อย่างแรกเลยคือฟีเจอร์ Dual Capture เพียงกดถ่ายครั้งเดียวก็จะได้ภาพทั้งมุมมองแบบกว้างและมุมมองแคบตามตัวอย่างที่เห็นบนหน้าจอตอนถ่าย
Live Focus เป็นการดึงความสามารถของเลนส์กล้องคู่เข้ามาเบลอฉากหลัง สามารถปรับความเบลอฉากหลังได้ทั้งขณะถ่ายภาพและหลังจากถ่ายแล้วก็สามารถปรับความเบลอได้เช่นกัน ซึ่งการถ่ายภาพในโหมดนี้จำเป็นต้องถือกล้องให้มีระยะห่างจากวัตถุในระยะที่เหมาะสม โดยจะมีข้อความบอกบนหน้าจอเป็นสีเหลืองหากอยู่ในระยะที่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้
สำหรับ Live Focus ของ Galaxy Note8 ถือว่าละลายฉากหลังได้เนียนใช้ได้เลย โดยเป็นการใช้เลนส์เทเลโฟโต้ซูมไปยังวัตถุทำให้ฉากหลังละลายได้เนียนกว่าการใช้ซอฟต์แวร์อย่างเดียว
กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 และมีโหมดหน้าสวยปรับหน้าให้ขาวเนียน โดยลูกเล่นใหม่ที่มาพร้อม Galaxy Note8 คือฟีเจอร์ 3D Stickers ซึ่งเป็นสติกเกอร์แบบใหม่ที่ให้มุมมองสมจริงมากขึ้นเมื่อหันในแต่ละมุม เช่น สติกเกอร์หมวกเมื่อมองจากด้านข้างก็จะเห็นด้านข้างของหมวก เป็นต้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Gaalxy Note8
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความโดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Infinity Display
- วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจกและกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะมีความมันเงาสูง มีความพรีเมียม
- ซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงให้ทำงานดีขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ปากกา S Pen ทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิม
- กล้องหลังคู่ถ่ายภาพได้นิ่งขึ้นด้วยระบบกันภาพสั่นไหว OIS และปรับความเบลอฉากหลังได้ด้วย Live Focus ที่ใช้ความสามารถของเลนส์เทเลโฟโต้
- แบตเตอรี่รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
- ตัวเครื่องและปากกา S Pen กันน้ำได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายเนื่องจากเป็นกระจก
- ถาดใส่ซิมแบบไฮบริด ต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือ microSD card
[adrotate banner=”4″]