Featured
รีวิว Samsung Galaxy Note9 ก้าวข้ามข้อจำกัดด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน
Samsung Galaxy Note9 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ Samsung กล้าก้าวข้ามข้อจำกัดหลายอย่างแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยการทำให้ขอบจอบางลง หรือปากกา S Pen ที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วในฟีเจอร์การใช้งานก็เสริมฟังก์ชั่นเป็นรีโมทคอนโทรลได้ และแบตเตอรี่ที่ใหญ่มากถึง 4000mAh เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ้นกว่าเดิม
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Galaxy Note9
- ราคาเปิดตัว 33,900 บาท (สิงหาคม 2018)
- ขนาดตัวเครื่อง 161.9 x 76.4 x 8.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 201 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.4 นิ้ว QHD+ Super AMOLED (ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล)
- ปากกา S Pen รองรับแรงกด 4,096 ระดับ และเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
- กันน้ำทั้งตัวเครื่อง Galaxy Note9 และปากกา S Pen มาตรฐาน IP68
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo กับ Samsung Experience 9.5
- ชิพเซ็ต Exynos 9810 Octa-core
- แรม 6GB ความจุตัวเครื่อง 128GB หรือแรม 8GB ความจุตัวเครื่อง 512GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 512GB
- กล้องหลังเลนส์คู่ 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสงสลับได้ f/1.5, f/2.4 และระบบโฟกัส Dual Pixel PDAF พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS เสริมด้วยอีกเลนส์ 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4 เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ซูมได้ 2 เท่า พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz)
- Bluetooth 5.0, ANT+, USB Type-C, NFC
- GPS, Galileo, Glonass, BeiDou)
- แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
อุปกรณ์ภายในกล่องยังเหมือนเดิม ได้แก่
- ตัวเครื่อง Galaxy Note9 พร้อมแบตเตอรี่ในตัว 4000mAh และปากกา S Pen
- อะแดปเตอร์ Fast Charge ตัวเดียวกับ Note8
- สายเคเบิล USB-C
- หัว USB Connector จาก USB ไปเป็น Type-C
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
- แหนบและหัวปากกา
- หูฟัง AKG พร้อมจุกยากสำหรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะกับหูของแต่ละคน
ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอแสดงผล
ดีไซน์ของ Samsung Galaxy Note9 เป็นดีไซน์ที่หลายคนคุ้นตาและคุ้นเคยกันอยู่แล้วสำหรับแฟนๆ Note หรือ Galaxy S รุ่นใหม่ แต่ในรุ่นใหม่นี้มีการขยายหน้าจอให้ใหญ่ชิดขอบจอมากขึ้น จึงทำให้ได้หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 6.4 นิ้วในขนาดตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกับ Note8 และขอบโค้งทั้ง 2 ข้าง ทำให้ด้านหน้ามองเป็นหน้าจอแสดงผลทั้งหมด เหลือเพียงขอบหน้าจอด้านบนกับด้านล่างเท่านั้น
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Note ที่ต่างไปจากสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy S คือขอบหน้าจอที่โค้งจะมีความชันมากกว่า เมื่อเทียบระหว่าง Gaalxy S8+ จะเห็นว่าขอบจอที่โค้งของ Galaxy Note9 มีความชันมากกว่า เพื่อให้มีพื้นที่บนหน้าจอมากที่สุดและเหมาะกับการเขียนบนหน้าจอมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นรายลเอียดเล็กๆ ที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต เพราะการปรับดีไซน์เพียงเล็กน้อยนั้นส่งผลต่อการใช้งานในแต่ละฟีเจอร์จริงๆ
หน้าจอขนาด 6.4 นิ้วของ Galaxy Note9 มีความละเอียด QHD+ (2960 x 1440 พิกเซล) อัตราส่วน 18.5:9 ให้พื้นที่หน้าจอมากถึง 83.4% ของพื้นที่ด้านหน้า ซึ่งหน้าจอจะมีความยาวทำให้การดูคอนเทนท์เห็นได้มากขึ้น ไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยๆ หรือเล่นเกมก็ได้มุมมองที่กว้างใหญ่ เห็นศัตรูรอบๆ ขอบจอได้มากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป
บริเวณเหนือหน้าจอของ Galaxy Note9 มีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับใช้ในการสแกนม่านตา และช่องลำโพงสำหรับเสียงสนทนา
ในรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นรุ่นไฮเอนด์ของ Samsung ที่มีหน้าจอแบบ Infinity Display จะไม่มีปุ่มโฮมแบบกดอีกต่อไป แต่ปุ่มโฮมบนหน้าจอแสดงผลก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนปุ่มแบบกด โดยการใส่เทคโนโลยีการรับรู้แรงกด แล้วตอบสนองโดยการสั่นเตือน
กรอบตัวเครื่อง Galaxy Note9 เป็นอะลูมิเนียม ทำให้ตัวเครื่องมีความพรีเมียมมากขึ้น ในขณะที่ด้านหลังเป็นกระจกโค้งแบบ 3D Glass ที่ให้ความรู้สึกจับถนัดและดูแน่นหนามากๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเครื่องที่เป็นกระจกจะเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายกว่าตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม
ขอบด้านล่างตัวเครื่องไม่ได้เปลี่ยนแปลงจาก Galaxy Note8 ยังคงจัดวางตำแหน่งพอร์ตเชื่อมต่อ ไมโครโฟน ลำโพงตัวเครื่อง และช่องเก็บปากกา S Pen เหมือนเดิม
ขอบด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริด เลือกใส่ 2 ซิมหรือใส่ microSD card ก็ได้
กล้องหลังของ Galaxy Note9 มีเลนส์คู่และกรอบเลนส์ไม่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังแล้ว การจัดวางโมดูลกล้องอยู่ในแนวนอนเหมือนเดิม แต่มีการย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ไต้เลนส์กล้อง แรกๆ อาจจะไม่ชินเวลาแตะสแกนนิ้วมือ
มาถึงดีไซน์ตัวปากกา S Pen ของ Note9 มีการปรับดีไซน์ใหม่เล็กน้อย และเพิ่มฟีเจอร์การเชื่อมต่อ Bluetooth สำหรับกดสั่งงานเป็นรีโมทคอนโทรลได้ รวมไปถึงสีของตัวปากกาสีเหลืองโดดเด่นคู่กับตัวเครื่องสีน้ำเงิน (Ocean Blue) และสามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IP68 คือกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ทั้งตัวสมาร์ทโฟนและตัว S Pen ทำให้เขียนบนหน้าจอได้แม้หน้าจอจะเปียกน้ำ
อินเตอร์เฟซการใช้งานและ S Pen ใหม่
Samsung Galaxy Note9 รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo และครอบทับด้วย Samsung Experience 9.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่กว่าบน Galaxy S9 ที่เป็นเวอร์ชั่น 9.0 มีการปรับปรุงเฉดสีให้นุ่มนวล ไอคอนแอพพลิเคชั่นที่ดูเรียบง่าย การทำงานที่ช่วยให้เกิดความง่ายในการใช้งาน และด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น สามารถปัดหน้าจอขึ้นเพื่อเข้าสู่ในส่วนของ App Drawer ได้ง่ายในมือเดียว หรือปัดลงเพื่อกลับมายังหน้าโฮม โดยไม่ต้องใช้นิ้วมือเอื้อมไปแตะไอคอนใด ๆ บนหน้าจอเลย
หน้าจอหลักและหน้าจอ App Drawer รองรับการแสดงผลในแนวนอนแล้ว โดยค่าเริ่มต้นจะถูกปิดใช้งานเอาไว้ ให้เปิดใช้งานโดยเข้าที่เมนู Settings >> Display >> Home Screen >> แล้วปิดใช้งาน Portrait mode only เพื่อเป็นการเปิดใช้งานแนวนอน
หน้าจอของ Galaxy Note9 เลือกปรับใช้งานในระดับความละเอียดสูงสุด QHD+ หรือลดความละเอียดลงได้เพื่อประหยัดพลังงาน และมีโหมดตัวกรองแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา ลดการเมื่อยล้า เหมาะสำหรับการใช้งานในตอนกลางคืน และสีสันการแสดงผลบนหน้าจอก็สามารถปรับให้เหมาะสมของแต่ละประเภทได้
อัตราส่วน 18.5:9 เป็นหน้าจอที่มีความยาวกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ซึ่งปัจจุบันแอพพลิเคชั่นหลายตัวก็เริ่มอัพเดทให้รองรับการใช้งานได้แบบเต็มตัว เมื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นจะมีพื้นที่สีขาวเหลืออยู่และมีข้อความให้ผู้ใช้งานแตะเพื่อเปิดใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้ รวมไปถึงการดูคลิปบน YouTube ก็สามารถขยายวิดีโอให้ใหญ่เต็มจอได้เช่นกัน
สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่จะมีข้อดีตรงที่มีการแสดงคอนเทนท์ต่างๆ บนหน้าจอดูใหญ่เต็มตา ซึ่งบน Galaxy Note9 ก็มีฟังก์ชั่นการแบ่งหน้าจอ Multi-Window รองรับแอพพลิเคชั่นได้เกือบจะทุกตัว และตอนนี้สามารถเปิดกล้องถ่ายรูปพร้อมกับเปิดแอพได้แล้ว โดยจากการใช้งานจริงไม่ว่าจะเป็นการเปิดแอพโซเชียลพร้อมกับเกม การทำงานก็ยังลื่นไหล ไม่มีกระตุก แม้ว่าจะแบ่งเป็น 2 หน้าจอ แต่ละหน้าจอก็มีขนาดใหญ่พอที่จะใช้งานได้สะดวกเหมือนมีสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง
นอกจากนี้แล้ว แอพคู่ไหนที่ใช้งานบ่อยๆ สามารถจับคู่เอาไว้ที่ Edge Screen แล้วเปิดใช้งานพร้อมกันได้ทันที เรียกฟีเจอร์นี้ว่า App Pair ไม่ต้องกดแบ่งหน้าจอหลายขั้นตอน สามารถวางเอาไว้ที่ Edge Screen ได้สูงสุด 10 คู่
ซึ่งในการแบ่งหน้าจอใช้งานพร้อมกัน 2 แอพบน Note9 ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Drag and Drop ได้ด้วย โดยหากเลือกเปิดใช้งาน My File พร้อมกัน 2 หน้าจอ ก็จะสามารถลากไฟล์จากหน้าจอหนึ่งไปใส่อีกหน้าจอหนึ่งได้ในลักษณะ Copy และ Paste นั่นหมายความไฟล์ต้นฉบับก็ยังคงอยู่ที่เดิมด้วย ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากขึ้นและง่ายขึ้น
แอพ Gallery มีความฉลาดมากขึ้น สามารถค้นหาด้วยการพิมพ์คำลงในช่องค้นหา แบ่งหมวดหมู่ตามประเภทของรูปภาพ หรือหากเป็นภาพหน้าจอที่จับภาพมาจากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ก็สามารถกลับไปยังหน้าจอเว็บไซต์นั้นได้ด้วยฟีเจอร์ Go to URL
Galaxy Note9 รองรับเครือข่าย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, รองรับ Bluetooth 5.0, NFC และใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด รองรับเครือข่าย 4G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม และสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์การโทรบนเครือข่าย 4G LTE หรือ VoLTE และการโทรผ่าน Wi-Fi หรือ VoWiFi ได้เลย อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด AIS NEXT G เครือข่ายความเร็วระดับ 1Gbps
Dual Messenger การโคลนแอพให้สามารถใช้งานได้ 2 บัญชีในเครื่องเดียว (โดยไม่ต้องทำผ่าน Secure Folder) ซึ่งรองรับแอพโซเชียลเกือบทุกตัว ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook, Messenger, Skype เป็นต้น
Galaxy Note9 ในที่สุดก็มีลำโพงที่ให้เสียงสเตอริโอปรับแต่งโดย AKG ที่ให้เสียงรอบทิศทางด้วย Dolby Atmos และรองรับไฟล์เสียงคุณภาพสูง 32-bit/384kHz จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนชอบฟังเพลงน่าจะชื่นชอบกันแน่นอน
ฟีเจอร์ Edge lighting สามารถปรับตั้งค่าได้มากขึ้น โดยการเลือกรูปแบบเอฟเฟ็กต์ระยิบระยับให้กับแสงไฟได้ ได้แก่ เอฟเฟ็กต์สีของไฟ ความโปร่งใสของแสงไฟ และความกว้างของแสงไฟ
ฟีเจอร์ Always On Display มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาให้สามารถเลือกรูปแบบนาฬิกาใหม่แล้วใช้งานได้ทั้งหน้าโฮมและหน้าจอล็อคสกรีน ซึ่งอยู่ในเมนูตั้งค่าเพิ่มเติมให้ไปที่ Settings >> Lockscreen and secutity >> Clock and Facewidgets
ความจุตัวเครื่องในรุ่น 512GB ถือเป็นการปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนอีกครั้งด้านพื้นที่จัดเก็บภายในที่มากขึ้ และเพิ่มความจุได้ด้วย microSD ได้มากถึง 512GB ทำให้ได้ความจุรวมมากถึง 1TB ซึ่งทาง Samsung บอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับในอนาคตที่ต้องการพื้นที่มากขึ้นสำหรับคอนเทนท์ที่ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหนัง 4K หรือเกมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น (สำหรับความจุนี้จะอัพเกรดได้ฟรี ในช่วงเปิดพรีออเดอร์กับร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมรายการเท่านั้น)
มาถึงความสามารถของ S Pen ที่ทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังใช้งานได้เหมือนเดิมทุกอย่างเหมือนใน Note8 ซึ่งรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 และปุ่มกดบนตัวปากกาสามารถกดเพื่อใช้เป็นยางลบได้ทันที ไม่ต้องกดหาจากบนหน้าจอ
ฟีเจอร์แรกที่เพิ่มเข้ามาคือการสั่งงานได้เหมือนรีโมทคอนโทรลในการกดชัตเตอร์กล้อง เลื่อนสไลด์นำเสนองาน และควบคุมเครื่องเล่นเพลง เป็นต้น
อีกหนึ่งลูกเล่นที่ Samsung ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานแต่ละเครื่องรู้สึกถึงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น คือ ข้อความที่เขียนด้วยปากกา S Pen บนหน้าจอล็อค (Screen Off Memo) สีข้อความจะเป็นสีเดียวกับตัวปากกด้วย เช่น ปากกาสีเหลืองของเครื่องสีน้ำเงิน (Ocean Blue) ก็จะเป็นข้อความสีเหลือง เป็นต้น ปากกาแต่ละสีที่มากับเครื่องสีอื่นๆ ก็จะเขียนข้อความเป็นสีตามด้ามปากกานั่นเอง
Smart Select หรือฟีเจอร์การเลือกอัจฉริยะ เป็นการเลือกพื้นที่บนหน้าจอได้อย่างอิสระตามความต้องการ และยังสามารถนำพื้นที่ที่เลือกนั้นมาแยกข้อความเพื่อแชร์ต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา ซึ่งในฟีเจอร์นี้จะมีฟังก์ชั่น “ภาพเคลื่อนไหว” สำหรับเลือกพื้นที่วิดีโอที่กำลังเล่นบนหน้าจอแล้วทำการบันทึกเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำเป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF) ได้ทันที
การแปลภาษาบนหน้าจอไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปด้วยฟีเจอร์ Translate หรือแปลภาษาด้วยปลายปากกา S Pen เพียงจ่อปลายปากกาไว้เหนือคำที่ต้องการแปล ระบบก็ทำการสแกนคำนั้นแล้วทำการแปลภาษาออกมาได้ทันที โดยเวอร์ชั่นล่าสุดนี้รองรับการแปลได้ทั้งประโยคด้วย เป็นการใช้ระบบแปลภาษาของ Google Translate รองรับเกือบทุกภาษาในโลก รวมถึงภาษาไทยด้วย และไม่เพียงแต่แปลภาษาจากข้อความบนหน้าจอตามหน้าเว็บไซต์หรือไฟล์งานเท่านั้น แม้แต่ข้อความบนรูปภาพก็สามารถแปลภาษาได้ด้วย
Live Massage ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยการส่งข้อความทำได้สนุกมากยิ่งขึ้น โดยการเขียนข้อความหรือวาดอะไรก็ได้ด้วยลายมือของเราเอง แล้วบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF เพื่อส่งต่อหาเพื่อนได้ทันทีผ่านแอพต่างๆ และสามารถเลือกภาพพื้นหลังมาเขียนข้อความลงไปได้ด้วย ดังนั้นภาพ GIF ที่สร้างขึ้นมานี้จะมีเพียงรูปเดียวในโลก ไม่ซ้ำใครแน่นอน
Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถเรียกใช้งานได้จากปุ่มที่เพิ่มมาให้ด้านข้างซ้ายตัวเครื่อง ถัดจากปุ่มปรับระดับเสียง หรือปัดหน้าจอไปทางขวาเพื่อเข้าใช้งานได้เช่นเดียวกันรองรับการสั่งงานด้วยเสียงได้แล้ว แต่เฉพาะภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และจีน การตอบสนองและการให้ข้อมูลถือว่ารวดเร็วกว่าเดิมมาก อาจเพราะฐานข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
Bixby ถูกรวมเข้ากับแอพกล้องถ่ายรูปเพื่อให้สามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวได้ทันทีเมื่อต้องการข้อมูลหรือใช้งานด้านความสามารถในการแปลภาษา ซึ่งรองรับการแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์ เพียงส่องกล้องไปที่ข้อความที่ต้องการแปลภาษา ฟีเจอร์นี้เป็นการใช้ความสามารถในการแปลจาก Google Translate และระบบการตรวจจับภาพที่มีข้อมูลมากขึ้น ทั้งอาหาร ไวน์ สถานที่
ด้านความปลอดภัยยังคงมีครบทั้งการสแกนลายนิ้วมือ ใบหน้า และม่านตา โดยมีการเพิ่มความปลอดภัยที่สูงขึ้นด้วย Intelligent Scan เป็นการใช้ทั้งการสแกนใบหน้าและม่านตาพร้อมกันในการยืนยันตัวตน
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
Samsung Galaxy Note9 รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Exynos 9810 Octa-core แบ่งการทำงานซีพียูออกเป็น 2 ระดับ Quad-core 2.7GHz Mongoose M3 และ Quad-core 1.8GHz Cortex-A55 ซึ่งทั้ง 2 ตัวจะรวมกันหรือสลับซีพียูตามโหมดการทำงานไปมา มาพร้อมจีพียู Mali-G72 MP18 โดยรุ่นที่ใช้ในบทความนี้เป็นรุ่นแรม 6GB ความจุตัวเครื่อง 128GB และผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 239,030 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าทำได้สูงมาก
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Galaxy Note9 ทำคะแนน Single-Core ได้ 3,569 และ Multi-Core ทำได้ 8,795 คะแนน ผลคะแนนดีขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy Note8
ทดสอบเกมใหม่ล่าสุด Fortnite เวอร์ชั่น Beta เกมที่สามารถเล่นได้แล้วบน Galaxy Note9 และ Samsung หลายรุ่น ส่วนมือถือ Android ค่ายอื่นต้องไปลงทะเบียนรอคำเชิญ ซึ่งเกมตัวนี้ถูกพัฒนาด้วย Unreal Engine 4 ซึ่งมีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก ตัวเครื่องสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลดี
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile อีกหนึ่งเกมที่กำลังฮิตในขณะนี้ ซึ่งเป็นเกมที่ต้องการทั้งความลื่นไหล ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุกทั้งการเล่นในโหมดกราฟิกในระดับสูง และภาพความละเอียดสูง
เกม ROV หรือ Realm of Valor เกม MOBA บนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน Galaxy Note9 รองรับโหมดเฟรมเรตสูง ภาพระดับ HD สามารถได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหา
สำหรับแบตเตอรี่ขนาด 4000mAh ใช้งานทั่วไปได้ทั้งวัน โดยตัวเครื่องรองรับชาร์จไวด้วยกำลังไฟสูงสุด 10 วัตต์ 9V/1.67A หรือ 5V/2A และรองรับการชาร์จไร้สายด้วย
โปรโมชั่นสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note9 ราคาพิเศษ ลดสูงสุดกว่า 10,000 บาท
สุดยอดสมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล Galaxy Note รุ่นล่าสุด Samsung Galaxy Note9 ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุถึง 4000mAh ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานอย่างยาวนานตลอดทั้งวัน และไฮไลท์สำคัญอย่าง S Pen อัจฉริยะเจเนอเรชั่นใหม่ที่เป็นได้มากกว่าปากกา สามารถเชื่อมต่อบลูทูธให้สั่งการได้เสมือนรีโมทคอนโทรล
โปรโมชั่นสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note9 ที่มาพร้อมสีใหม่ Lavender Purple ราคาพิเศษที่ dtac online store รับส่วนลดค่าเครื่อง 50% สิทธิพิเศษนี้ใช้ได้ทั้งลูกค้าเก่า เปิดเบอร์ใหม่ และลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมรับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 1,500 บาท
รายละเอียด โปรโมชั่นสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Note9 ราคาพิเศษ
ตรวจสอบรุ่นและราคาสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ dtac online store
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลย ที่มีค่ารูรับแสง f/1.5 และ f/2.4 อยู่ในเลนส์กล้องหลัง ซึ่งเป็นการสลับรูรับแสงโดยใช้ฮาร์ดแวร์ สลับไปมาได้ระหว่าง 2 ค่านี้ในโหมด Pro แต่ถ้าเป็นโหมดอัตโนมัติจะถูกปรับค่ารูรับแสงให้อัตโนมัติตามสภาพแสงขณะทำการถ่ายรูป และมีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ทั้ง 2 เลนส์ด้วย ซึ่งข้อดีคือจะทำให้การซูมเพื่อถ่ายภาพได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น
f/1.5 เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแสงน้อยหรือในที่มืด ในขณะที่ f/2.4 เหมาะสำหรับถ่ายภาพกลางแจ้งในสภาพแสงจ้า โดยเป็นการใช้ฮาร์ดในการตั้งค่ารูรับแสง สังเกตได้จากความกว้างของหน้าเลนส์ที่กว้างสุดเมื่อเลือก f/1.5 และจะแคบลงเมื่อเลือก f/2.4 ซึ่งหากเลือกโหมดอัตโนมัติระบบจะสลับรูรับแสงให้อัตโนมัติ โดยระบบโฟกัสของ Galaxy Note9 นั้นทำความเร็วได้มากขึ้นที่เรียกว่า Super Speed Dual Pixel ไม่เพียงแต่โฟกัสเร็วขึ้น แต่ยังช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดีมากขึ้นด้วย และรองรับความคมชัดสูงสุด 4K ที่ 60fps ที่มีการบีบอัดไฟล์วิดีโอแบบ HEVC ให้มีขนาดเล็กลงโดยไม่สูญเสียความละเอียด
ความฉลาดของกล้อง Galaxy Note9 ยังสามารถจำแนกภาพถ่ายที่กำลังถ่ายได้แบบเรียลไทม์ เพื่อทำการปรับค่ากล้องให้เหมาะสมกับการถ่ายภาพนั้นๆ ได้ 20 โหมด ได้แก่ มีให้เลือก 20 โหมด: อาหาร ภาพบุคคล ดอกไม้ ฉากในร่ม สัตว์ ทิวทัศน์ ทุ่งหญ้า ต้นไม้ ท้องฟ้า ภูเขา ชายหาด พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ถนน ริมน้ำ ฉากกลางคืน น้ำตก หิมะ นก แสงไฟ และข้อความ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ ไม่ต้องยื่นมือไปกดปุ่มชัตเตอร์หรือตั้งเวลาถ่ายแล้ว เพราะ S Pen ที่มาพร้อม Bluetooth เพียงกดปุ่มที่ปากกาก็ถ่ายภาพได้เลยในระยะไม่เกิน 10 เมตร นอกจากนี้แล้วตัวกล้องมีระบบป้องกันภาพหลับตา และภาพเบลอ ด้วยระบบการตรวจจับแบบเรียลไทม์ตลอดเวลา และคอยเตือนทุกครั้งหากพบการกะพริบตา ภาพเบลอ เลนส์สกปรก และการภาพย้อนแสง
Live Focus เป็นโหมดสำหรับถ่ายหน้าชัดหลังละลาย สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้ทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่าย โดยต้องถือกล้องให้อยู่ระยะที่เหมาะสมในการถ่ายด้วย สังเกตได้ที่หน้าจอสมาร์ทโฟนจะขึ้นข้อความสีเหลืองว่าถ่ายในโหมดนี้ได้ และมี Dual Shot สำหรับถ่ายภาพมุมแคบกับมุมกว้างในช็อตเดียวกัน
Live Focus ไม่ได้ถ่ายหน้าชัดหลังละลายได้เพียงอย่างเดียว แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ในการทำเอฟเฟ็กต์ไฟโบเก้ด้านหลังเป็นรูปอื่นๆ ได้ เช่น หัวใจ ดวงดาว และอีกมากมาย
AR Emoji เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่มี Galaxy Note9 เป็นการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาเปลี่ยนภาพถ่ายเซลฟี่ใบหน้าของเราให้กลายเป็นอีโมจิที่เป็นเค้าโครงหน้าของเรา หรือจะเลือกตัวการ์ตูนที่มีให้ในเครื่องก็ได้เช่นกัน ซึ่งสามารถบันทึกท่าทางเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอก็ได้เช่นกัน เพื่อนำไปส่งหากันผ่านแอพแชทหรือโพสต์ลงโซเชียล (วิธีสร้าง AR Emoji)
นอกจากสร้างด้วยใบหน้าของเราแล้ว Samsung ยังได้จับมือกับ Disney และ Pixar ให้กับแฟนๆ Galaxy ที่รองรับฟีเจอร์นี้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี ซึ่งปัจจุบันมีหลายชุดเลย เช่น Mickey & Miniie Mouse, Incredible และ Frozen เป็นต้น
สรุปจุดเด่น
- ดีไซน์ตัวเครื่องมีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Infinity Display และวัสดุตัวเครื่องเป็นกระจกโค้ง 3D Glass ผสานรวมกับกรอบตัวเครื่องที่เป็นโลหะ ดูหรูหราและพรีเมียม
- ซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงให้ทำงานดีขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ปากกา S Pen ทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ทำให้สั่งงานเหมือนเป็นรีโมทคอนโทรลได้
- กล้องหลังคู่สลับรูรับแสงได้เหมือนดวงตาของคนสำหรับการถ่ายภาพในแสงต่างๆ พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS และปรับความเบลอฉากหลังได้ด้วย Live Focus ที่ใช้ความสามารถของเลนส์เทเลโฟโต้ รวมถึงใช้งานกล้องได้สนุกมากขึ้นด้วย AR Emoji
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh รองรับการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย
- ตัวเครื่องและปากกา S Pen กันน้ำได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายเนื่องจากเป็นกระจก
- ถาดใส่ซิมแบบไฮบริด ต้องเลือกว่าจะใส่ซิม 2 หรือ microSD card