ฟังก์ชันและคุณสมบัติขั้นเทพ “Samsung Galaxy S 4” เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

15 มีนาคม 2556 (ตามเวลาประเทศไทย) Samsung เปิดตัว “Galaxy S 4” สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean ตระกูล Galaxy รุ่นล่าสุดอย่างเป็นทางการ มาพร้อมหน้าจอ 4.99 นิ้ว Full HD Super AMOLED (1080p HD) โดยรุ่นที่จะวางจำหน่ายทั่วโลกจะใช้ชิปเซ็ต Exynos 5 Octa eight-core และรุ่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา จะใช้ชิปเช็ต quad-core Snapdragon มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แรม 2GB รองรับ microSDXC

Samsung Galaxy S 4 ความสวยงามที่มาพร้อมความเทคด้วยขนาดที่เล็กลงบางเพียง 7.9 มม. หน้าจอใหญ่ขึ้น (4.99 นิ้ว) น้ำหนักเบา (130 กรัม) และแบตเตอรีความจุ 2600 mAh มากขึ้นกว่าเดิม (เปรียบเทียบกับ Galaxy S 3) ตัวเครื่องมีให้เลือกกันตอนนี้ 2 สี คือ สีดำ (Black Mist) และสีขาว (White Frost) คาดจะมีสีใหม่ออกตามมาปลายปีนี้แน่นอน Samsung Galaxy S 4 รองรับ HSPA+42 Mbps และ 4G LTE ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนโลกก็สามารถใช้งาน LTE ได้ผ่านการโรมมิ่ง

Samsung Galaxy S 4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีหน้าจอ Full HD Super AMOLED (441ppi) Gorilla Glass 3 กันรอยขีดข่วน ใช้งานร่วมกับถุงมือได้ด้วย นอกจากจะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลแล้ว ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อม Dual Camera และฟังก์ชัน Dual Shot สามารถจับภาพและถ่ายภาพได้พร้อมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

แอพที่มากับเครื่องอย่าง ChatOn ซึ้งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถรองรับการใช้งาน video call ได้สูงสุด 3 คน พร้อมกับใช้โหมด Dual Video Call ได้อีกด้วย นอกจากฟังก์ชั่น Dual Camera ยังมีโหมดการถ่ายภาพมากถึง 12 โหมด เช่น “Drama Shot” การถ่ายภาพต่อเนื่องกันได้มากถึง 100 ภาพแล้วทำการรวมภาพ และ “Sound & Shot” การแทรกหรือใส่เสียงไปกับขณะถ่ายรูป หรือหลังจากถ่ายรูปแล้วค่อยแทรกเสียงลงไปได้

คุณสมบัติที่น่าสนใจ

● Smart Scroll และ Smart Pause คุณสมบัติใหม่ที่มีข่าวหลุดออกมา คือการตรวจจับสายตาของผู้ใช้งาน โดย Smart Scroll จะทำการเลื่อนหน้าจอให้อัตโนมัติตามสายตาของผู้ใช้ และ Smart Pause จะหยุดเล่นวิดีโอเมื่อละสายตาจากหน้าจอ
● Story Album เป็นการสร้างเรื่องราวอัลบั้มจากภาพถ่าย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เวลา ชื่อเรื่อง พร้อมแบ่งฟันไปยังสังคมออนไลน์อย่าง Facebook ได้ทันที
● Group Play ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเพลง ดูภาพ เอกสาร และเกมส์ ได้พร้อม ๆ กัน ผ่าน Wi-Fi AP หรือการเชื่อมข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือ เช่นเดียวกับ “Share Music” ที่จะทำให้สนุกกับเพลงร่วมกันได้
● Air View คุณสมบัติที่สามารถพรีวิวอีเมล, S Planner, รูปภาพ หรือวิดีโอ ได้โดยไม่ต้องแตะหน้าจอเปิด เช่นเดียวกับฟังก์ชั่น S-Pen บน Samsung Galaxy Note 10.1 และ Air Gesture ที่ทำให้เราสามารถเลื่อนเพลง เลื่อนหน้าจอขึ้น-ลง หรือรับสายโทรเข้าโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอโดยตรง
● S VoiceTM Drive สำหรับการใช้งานขณะขับรถ ทั้งหมดจะถูกควบคุมและตอบกลับด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านข้อความ เช็คสภาพอากาศ เป็นต้น โดยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ
● Samsung WatchON การใช้งาน IR ในการควบคุมความบันเทิงในบ้าน เช่น ทีวี เครื่องเล่นวิดีโอ
● S Health โปรแกรมคำนวณเรื่องสุขภาพ ทั้งอาหารการกิน และการประเมินสุขสภาพผู้ใช้งานเบื้องต้น
● Samsung Adapt Display การปรับประสิทธิภาพการแสดงผลแบบอัตโนมัติ เช่นความสว่าง ความคมชัด และ Samsung Adapt Sound เป็นการปรับเสียงให้เหมาะสมกับการใช้งานได้หลากหลาย
● S Translator ระบบแปลภาษาจากจากเสียง และจากข้อความ ปัจจุบันรองรับได้ 9 ภาษา ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อังกฤษ, อิตาลี, จีน, สเปน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และโปรตุเกส และใช้งานร่วมกับ ChatON ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังมี Samsung Knox เพิ่มความปลอดภัยสำหรับโหมดทำงาน คุณสมบัตินี้สามารถใช้งานกับซัมซุงรุ่นอื่น ๆ ได้ด้วย

Samsung Galaxy S 4 จะเริ่มวางจำหน่ายราวเดือนเมษายนนี้ ราคายังไม่ระบุ

[youtube =”http://www.youtube.com/watch?v=2LHv1FPd1Ec”/]

ที่มา : CNET