เทียบสเปค Galaxy S24, S24+ และ Galaxy S24 Ultra ควรซื้อรุ่นไหนดี?

เทียบสเปค Galaxy S24, Galaxy S24+ และ Galaxy S24 Ultra หลังจาก Samsung จัดงาน Unpacked ในเมืองซานโฮเซ โดยเน้นไปที่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ตั้งแต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรียกได้ว่าเรือธงทั้งสามรุ่นคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ แล้วแต่ละรุ่นมีสเปคต่างกันตรงไหน และควรซื้อรุ่นไหนดี วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาสรุปให้สั้น เข้าง่ายๆ ก่อนไปกดสั่งซื้อครับ

เปรียบเทียบสเปค Galaxy S24 Series

เหตุผลที่ควรซื้อ Samsung Galaxy S24 Ultra

รุ่นความจุ
12GB+256GB	46,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	46,900 บาท เช็คราคาล่าสุด
12GB+512GB	52,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	52,900 บาท เช็คราคาล่าสุด
12GB+1TB	62,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	42,900 บาท เช็คราคาล่าสุด

1. ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ AI ใหม่

หากเป็นผู้ใช้งานที่ต้องการใช้ประโยชน์สูงสุดจากฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Samsung
แม้ว่าในเรื่องของฮาร์ดแวร์ Galaxy S24 Ultra รุ่นใหม่อาจไม่ใช่การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ให้ฮือฮาสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง S23 Ultra แต่ฟีเจอร์ด้าน AI ใหม่ทำให้การใช้งานทุกวันได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่ามาก รวมไปถึงปากกา S Pen ที่ให้มา และหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.8 นิ้วที่จะช่วยให้เราใช้ประโยชน์สูงสุดได้

ผู้ใช้งาน Galaxy S24 สามารถใช้ “Circle to Search” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ให้เราวงกลมพื้นที่ในรูปภาพและทำการค้นหาโดย Google ดังนั้นการมาพร้อมปากกา S Pen นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับจุดฟีเจอร์นี้ ทำให้ผู้ใช้มีความแม่นยำในการล้อมรอบสิ่งที่ต้องการค้นหาได้

ฟีเจอร์ AI ใหม่อื่นๆ ที่จะมีใน Galaxy S24 Ultra ได้แก่ Generative Edit ซึ่งช่วยให้เราสามารถย้ายและแก้ไขวัตถุในภาพถ่าย การใช้ AI เพื่อสร้างพื้นหลังหรือขยายภาพ, Live Translate ซึ่งมีการแปลแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทรด้วยเสียง, Transcript Assist ซึ่งสามารถถอดเสียงบันทึกและบันทึกได้ หรือจะเป็น Chat Assist ซึ่งสามารถช่วยสร้างข้อความสำหรับอีเมล ข้อความตัวอักษร และอื่นๆ

2. กล้องระดับโปร

Galaxy S24 Ultra ยังคงมีกล้องหลัก 200MP แต่โมดูลกล้องเทเลโฟโต้ได้รับการอัพเกรดจาก 10MP เป็น 50MP พร้อมซูมออปติคอล 5 เท่า และ Snapdragon 8 Gen 3 ยังส่งผลให้ภาพถ่ายคมชัดยิ่งขึ้นในสภาพแสงน้อย ความสามารถนี้ช่วยลดสัญญาณรบกวนในภาพที่ถ่ายในเวลากลางคืนหรือในที่มืด ในขณะเดียวกันก็ให้รายละเอียดมากขึ้นซึ่งปกติแล้วถ้าถ่ายด้วยกล้องอื่นจะไม่ได้แบบนี้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Zoom ใหม่ ที่ให้ความชัดและรายละเอียดในการถ่ายภาพระยะไกลโดยเติมเต็มพื้นที่ที่เบลอหรือไม่ได้อยู่ในโฟกัส

เหตุผลควรซื้อ Samsung Galaxy S24+

รุ่นความจุ
12GB+256GB	38,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	38,900 บาท เช็คราคาล่าสุด
12GB+512GB	43,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	43,900 บาท เช็คราคาล่าสุด

1. ชอบเครื่องใหญ่แต่ราคาไม่สูงมาก

Galaxy S24+ เป็นรุ่นที่มอบประสบการณ์ที่ดีไม่ด้อยไปกว่า S24 Ultra ในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีหลายอย่างต่างกันเยอะพอสมควร ก็เหมือนเป็นทางเลือกที่ดีหากต้องการมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าและไม่ต้องการฟีเจอร์พิเศษบางอย่างที่อาจจะไม่ได้ใช้งาน

ในไทยเปิดราคาเริ่มต้นที่ 38,900 บาท สำหรับรุ่น 12GB + 256GB โดยตัวเครื่องรุ่นนี้มีหน้าจอ 6.7 นิ้ว ซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ แถมยังมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ารุ่นพื้นฐาน และได้กล้องหลัก 50MP

2. อายุการใช้งานแบตเตอรี่

Samsung Galaxy S24+ มีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า S24 และรุ่นก่อนอย่าง S23 Plus โดยมีแบตเตอรี่ขนาด 4900mAh (S24 Ultra มีแบตเตอรี่ 5000mAh) อีกทั้งรองรับชาร์จเร็ว 45W สามารถใช้งานได้ถึง 50% ใน 30 นาที

เหตุผลควรซื้อ Samsung Galaxy S24

รุ่นความจุ
8GB+256GB	33,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	33,900 บาท เช็คราคาล่าสุด
8GB+512GB	37,900 บาท เช็คราคาล่าสุด	37,900 บาท เช็คราคาล่าสุด

1. ต้องการฟีเจอร์ AI ใหม่ในราคาที่ถูกลง

Samsung Galaxy S24 เป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับทุกคนที่ต้องการประหยัดเงิน ความจุเริ่มต้นในไทย 8GB + 256GB ราคา 33,900 บาท และแม้ว่าจะประหยัดได้มากกว่ารุ่น Plus หรือ Ultra ก็ยังให้เราสามารถใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Samsung ได้ทั้งหมด ซึ่งมีอยู่ใน S24 ทุกรุ่นนั่นเอง

2. ขนาดพอดีกับฝ่ามือ

การใช้งานบางอย่างหรือการเล่นเกมบางเกมก็ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีขนาดพอดีกับฝ่ามือ ด้วยขนาด 6.2 นิ้วที่ถือได้สะดวกสบายในมือเดียว เรียกได้ว่าเป็นขนาดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพกพาใส่กระเป๋ากางเกงหรือใช้มือเดียวในการถือใช้งานก็เอื้อมนิ้วไปแตะสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้ง่าย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูล เทียบสเปค Galaxy S24, Galaxy S24+ และ Galaxy S24 Ultra พร้อมเหตผลที่ควรซื้อรุ่นไหนดี สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจใน 3 รุ่นนี้อยู่ อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ