Android News
เปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ S9+ อย่างเป็นทางการ กล้องคู่ รูรับแสงสลับได้ f/1.5 และ f/2.4
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการ เปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ S9+ อย่างเป็นทางการ มาพร้อมกล้องรูรับแสงกว้างที่สุด f/1.5 สลับรูรับแสง f/2.4 ได้ และฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ
เปิดตัว Samsung Galaxy S9 และ S9+ ในครั้งนี้เรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยการชูจุดเด่นหลานด้าน โดยเฉพาะในเรื่องของกล้องถ่ายรูปที่พัฒนาไปอีกขั้น สามารถสลับสลับรูรับแสง f/1.5 กับ f/2.4 ได้ และการบันทีกวิดีโอ Super Slow-mo ที่ความเร็ว 960fps [ชมคลิปพรีวิว Galaxy S9]
Galaxy S9 และ S9+ มีหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว และ 6.2 นิ้ว ตามลำดับ โดยมีดีไซน์แบบ Infinity Display ซึ่งหน้าจอจะมีแผ่นฟิล์มที่ทำให้แผงกระจกด้านหน้ามีความเป็นเนื้อเดียวกันมากขึ้น เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่อยู่บริเวณส่วนบนหน้าจอก็จะกลืนไปกับสีดำของแผงหน้าจอ ทำให้ดูสวยงามมากขึ้น ส่วนแผงหน้าจอเป็นชนิด Super AMOLED ความละเอียด WQHD+ (2960 x 1440 พิกเซล) เท่ากับในรุ่น Galaxy S8 และ S8+
Galaxy S9 และ S9+ มีการย้ายตำแหน่งของปุ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ด้านล่างเลนส์กล้อง เพื่อใช้แตะสแกนนิ้วมือได้ถนัดมากขึ้น จากเดิมอยู่ด้านข้างขวาของเลนส์กล้อง
ฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยกันมานานในที่สุดก็มีอยู่ในรุ่นนี้แล้ว นั่นก็คือลำโพงสเตอริโอ และเทคโนโลยีเสียง Dolby Surround sound ซึ่งบริเวณขอบด้านล่างตัวเครื่องยังคงมีช่องหูฟังขนาด 3.5mm และแถมหูฟัง tuned by AKG
แบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นยังมีขนาดเท่าเดิมเมื่อเทียบกับ Galaxy S8 และ S8+ คือ 3000mAh สำหรับรุ่น Galaxy S9 และ 3500mAh สำหรับ Galaxy S9+ รองรับชาร์จเร็ว ชาร์จไร้สาย รันระบบปฏิบัติการ Android 8.0.0 Oreo กับ Samsung Experience 9.0 มีฟีเจอร์ App Pair เหมือนกับที่เราเคยเห็นใน Galaxy Note8 ที่เป็นการจับคู่แอพที่ใช้งานบ่อยๆ เพื่อกดใช้งานแบ่งเป็น 2 หน้าจอได้ทันที
กล้องหลังของ Galaxy S9 เป็นเลนส์เดี่ยวความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.5 กับ f/2.4 ที่มีหลักการทำงานเหมือนม่านตาของคนที่จะเปิดกว้างเมื่ออยู่ในที่มืด และหรี่ม่านตาเมื่ออยู่ในที่แสงจ้า มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS ในขณะที่รุ่น Galaxy S9+ เป็นกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ไวด์รูรับแสง f/1.5 กับ f/2.4 และอีกเลนส์เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS ทั้ง 2 เลนส์ ส่วนกล้องหน้าของ Galaxy S9 และ S9+ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัส รูรับแสง f/1.7
Super Slow-mo เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่มาเพิ่มความสามารถให้กับการถ่ายวิดีโอด้วยเฟรมเรตที่สูงถึง 960fps ที่ความละเอียด HD 720p ซึ่งมาพร้อมกับระบบ Detect Motion สำหรับกำหนดพื้นที่ตรวจจับวัตถุผ่านหน้ากล้องอัตโนมัติ และสำหรับการบันทึกวิดีโอด้วยกล้อง Galaxy S9 และ S9+ รองรับความคมชัดสูงสุด 4K ที่ 60fps และบีบอัดไฟล์วิดีโอแบบ HEVC ให้มีขนาดเล็กลงโดยไม่สูญเสียความละเอียด
จุดแตกต่างฟีเจอร์กล้องถ่ายรูประหว่าง 2 รุ่นนี้คือ Live Focus ที่มีเฉพาะในรุ่น Galaxy S9+ สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังละลาย มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านซอฟต์แวร์ในการทำเอฟเฟ็กต์ไฟโบเก้ด้านหลังเป็นรูปอื่นๆ ได้ เช่น หัวใจ ดวงดาว และอีกมากมาย และฟีเจอร์ Dual Shot สำหรับถ่ายภาพมุมแคบกับมุมกว้างในช็อตเดียวกัน ในขณะที่ Galaxy S9 ไม่มีฟีเจอร์นี้เนื่องจากมีเลนส์กล้องหลังเพียงตัวเดียว แต่สามารถใช้ฟีเจอร์ Selective Focus ในการเลือกจุดหน้าชัดหลังเบลอหรือหน้าเบลอหลังชัดได้
Galaxy S9 และ S9+ เป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า AR Emoji สำหรับสร้างอิโมจิเลียนแบบการขยับใบหน้าและท่าทางได้ในรูปแบบ 3 มิติ และบันทึกเสียงพูดได้ด้วย หรือจะสร้างเป็นตัวสติกเกอร์อวตาร์จากใบหน้าของเราเอง เป็นรูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว (GIF) ก็ได้เช่นกัน
Samsung ยังได้นำตัวการ์ตูนจาก Disney มาให้แฟนๆ ได้สร้าง AR Emoji ด้วย
Bixby Vision พัฒนาไปอีกขั้น สามารถแปลภาษาด้วยกล้องได้แบบเรียลไทม์
ด้านประสิทธิภาพการทำงาน Galaxy S9 และ S9+ ใช้ชิปเซ็ต Exynos 9810 Octa ที่มีกระบวนการผลิตที่ 10 นาโนเมตร และมาพร้อมโมเด็ม Gigabit LTE Cat.18 รองรับการรวมคลื่น Carrier Aggregation หรือ CA ความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุดถึง 1.2 Gbps โดยรุ่น Galaxy S9 มีแรม 4GB ความจุตัวเครื่อง 64GB และ Galxy S9+ มีแรม 6GB ความจุตัวเครื่อง 64GB
ฟีเจอร์ความปลอดภัยการสแกนใบหน้าและม่านตา สามารถเปิดใช้งานการสแกนพร้อมกันได้ด้วยฟีเจอร์ Intelligent Scan เพื่อความปลอดภัยสำหรับยืนยันตัวบุคคลกับบางแอพพลิเคชั่นที่ต้องการความปลอดภัยสูง
Samsung Galaxy S9 และ S9+ มี 4 สี ได้แก่ (Midnight Black), สีเทาไทเทเนียม (Titanium Gray), สีฟ้า (Coral Blue) และสีใหม่ สีม่วง (Lilac Purple)
สรุปสเปค Samsung Galaxy S9 และ S9+
[table id=52 /]
ราคาและวันวางขาย จะมาอัปเดทข้อมูลให้ทราบต่อไปครับ…