สรุปสเปค Samsung Galaxy S9 และ S9+ พร้อมตัวเครื่องทุกสี ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

มีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S9 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มีกำหนดการเผยโฉมครั้งแรกอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทางทีมได้ทำการสรุปสเปคจากทุกแหล่งข่าวมาให้แล้ว มาดูกันว่าอะไรน่าสนใจบ้าง

สีตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S9 และ S9+ ตามข่าวหลุดมีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีเทาไทเทเนียม (Titanium Gray), สีม่วง (Lilac Purple), สีฟ้า (Coral Blue)

[table id=51 /]

ในปีนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าจะได้เห็นประสิทธิตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Exynos 9810 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นที่ 2 ใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตที่ 10nm FinFET มาพร้อมซีพียู Octa-core แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระดับคือ Quad-core เพื่อประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน และ Quad-core ที่ความเร็วสูงสุด 2.9GHz เพื่อการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ถัดจาก Exynos 8895 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีประสิทธิภาพรวมดีขึ้น 27% และใช้พลังงานน้อยกว่าเดิม 40% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตที่ใช้กระบวนการผลิตที่ 14nm

ด้านการประมวลผลกราฟิก Exynos 9810 มาพร้อม ARM Mali-G72 ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20% รองรับการเล่นวิดีโอ 10-bit HEVC และ VP9 พร้อมโมเด็ม Gigabit LTE รองรับการรวมคลื่น Carrier Aggregation หรือ CA ได้ถึง 6CA ความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุดถึง 1.2 Gbps และความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 200 Mbps

ฟีเจอร์น่าสนใจที่มีอยู่ใน Exynos 9810 คือ หน่วยประมวลผลโครงข่ายประสาท หรือ Neural Network Processing Unit (NPU) สำหรับการเรียนรู้และมีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจดผู้คนหรือสิ่งของ การจำแนกภาพถ่ายได้อย่างถูกต้องแม่นยำเพื่อการค้นหาหรือจัดหมวดหมู่ รวมไปถึงการตรวจจับความลึกตื้นสำหรับสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติด้วย

อีกหนึ่งจุดน่าสนใจเกี่ยวกับกล้องที่ระบุค่ารูรับแสงเป็น f/1.5 และ f/2.4 ซึ่งน่าจะหมายถึงการปรับเปลี่ยนค่ารูรับแสงได้ตามสถานการณ์การถ่ายรูป ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการบันทึกวิดีโอในอัตราเฟรมเรตที่สูง เนื่องจากชัตเตอร์ของกล้องต้องทำงานด้วยความเร็วแล้วจะส่งผลต่อความต้องการในการเปิดรับแสง จึงทำให้การถ่ายสโลว์โมชั่นในที่มืดหรือแสงน้อยทำได้ดีและรูรับแสงที่กว้างจึงมีความสำคัญมาก

รูรับแสงที่กว้าง f/1.5 ไม่เพียงแต่เข้ามาช่วยในการบันทึกวิดีโอสโลว์โมชั่นที่มีเฟรมเรตสูงเท่านั้น แต่ยังใช้ได้ดีเมื่อถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อย อีกทั้งหากสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นมีค่ารูรับแสงที่คงที่ขณะถ่ายภาพในสภาพแวดล้องที่มีแสงน้อยก็จะต้องพึ่งพา ISO และปรับค่าความเร็วชัตเตอร์เพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้น สามารถสลับระหว่าง f/1.5 และ f/2.4 ตามสภาพแวดล้อมที่กำลังถ่าย ก็จะช่วยให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นและเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นด้วย

Samsung W2018

Samsung Galaxy S9 ไม่ใช่สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มีรูรับแสง f/1.5 โดยก่อนหน้านี้ก็มีรุ่น Samsung W2018 สมาร์ทโฟนฝาพับที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศจีน แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ และย้อนกลับไปในปี 2009 เคยมีรุ่น Nokia 86 ที่มาพร้อมรูรับแสงที่ปรับได้ 3 ระดับ ได้แก่ f/2.4, f/3.2 และ f/4.8 ซึ่งในขณะนั้นเป็นเลนส์ของ Carl Zeiss

อย่างไรก็ตาม สเปคและข้อมูลทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากทาง Samsung เป็นเพียงข้อมูลที่มาจากทุกแหล่งข่าวที่มีการนำเสนอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเท่านั้น ส่วนของจริงจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น รอติดตามไปพร้อมๆ กันได้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้

ที่มา : slashleaks