รีวิว Samsung Galaxy Tab S4 แท็บเล็ตมีปากกา S Pen ครบทุกความบันเทิงและการทำงาน

Samsung Galaxy Tab S4 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับปากกา S Pen ดีไซน์ใหม่ จับถนัดมือมากกว่าเดิม ช่วยให้การทำงานทำได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบด้านความบันเทิงด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ พร้อมลำโพง 4 ตัวรอบทิศทาง

สรุปสเปค Samsung Galaxy Tab S4

• ราคาเปิดตัว 23,900 บาท (สิงหาคม 2018)
• หน้าจอแสดงผลขนาด 10.5 นิ้ว WQXGA Super AMOLED (2560 x 1600 พิกเซล)
• มีปากกา S Pen
• ขนาดตัวเครื่อง 249.3 x 164.3 x 7.1 มิลลิเมตร
• ตัวเครื่องหนัก 483 กรัม
• รองรับ 2G/3G/4G LTE
• ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
• ซีพียู Octa-core 1.35GHz + 1.9GHz
• แรม 4GB
• ความจุตัวเครื่อง 64GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 400GB
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ 7300 mAh

Samsung Galaxy Tab S4 ดีไซน์ตัวเครื่อง

Samsung Galaxy Tab S4 ยังคงมีดีไซน์ใกล้เคียงกับ Galaxy Tab S3 แต่มีขนาดหน้าจอแสดงผลกว้างขึ้นเป็น 10.5 นิ้วในขนาดที่แทบจะเท่ารุ่นเดิม เพราะมีการขยายพื้นที่ด้านหน้าให้เต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผล ไม่มีปุ่มโฮมแบบกดอีกต่อไปแล้ว เหมาะกับการใช้งานทั้งแนวตั้งและแนวนอน

วัสดุตัวเครื่องเป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กรอบตัวเครื่องเป็นโลหะที่มีความโค้งมน ช่วยให้หยิบจับใช้งานกระชับมือมากขึ้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ากระจกจะเกิดคราบรอยนิ้วมือได้ง่ายกว่าวัสดุอื่นๆ แต่ถ้าใส่เคสก็หมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย

หน้าจอของ Galaxy Tab S4 มีความคมชัดหน้าจอ WQXGA Super AMOLED (2560 x 1600 พิกเซล) การแสดงผลบนหน้าจอนั้นสวยงามสดใสด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์ที่สูง โดยบริเวณเหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องหน้าและเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบสแกนม่านตาด้วย

Galaxy Tab S4 ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน และยังคงมีช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ด้วย โดยช่องลำโพงจะอยู่ที่มุมตัวเครื่องทั้ง 4 ด้าน

ขอบด้านซ้ายจะมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์สำหรับแท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์เสริมที่วางจำหน่ายเพิ่มเติม

ขอบด้านขวาจะมีปุ่มปิด/เปิดเครื่อง, ปุ่มปรับระดับเสียง, ไมโครโฟน และถาดใส่ซิมการ์ด รองรับซิมเดียวขนาด Nano SIM จำนวน 1 ช่อง กับช่องใส่ microSD card อีก 1 ช่อง

ด้านหลังมีเลนส์กล้องที่นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย และมีไฟแฟลช LED

Samsung Galaxy Tab S4 อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน

Samsung Galaxy Tab S4 รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo กับ Samsung Experience มีหน้าตาอินเตอร์เฟซโดยรวมเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Galaxy Note9

ซึ่งฟีเจอร์และฟังก์ชั่นเด่นๆ ของแท็บเล็ตรุ่นนี้อยู่ที่การทำงานร่วมกับปากกา S Pen ที่ทาง Samsung พัฒนาอย่างต่อเนื่อง รูปร่างแท่งปากกาเหมือนปากกาของจริง ทำให้จับถนัดมือ ส่วนหัวปากกามีขนาดเล็ก รองรับการแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ

ฟีเจอร์ที่ทำงานได้โดยใช้ S Pen บน Galaxy Tab S4 ตอนนี้เหมือนฟีเจอร์ที่อยู่ใน Galaxy Note9 (แต่ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เพื่อเป็นรีโมทคอนโทรล) โดยฟีเจอร์แรกหลักๆ ของ S Pen คือสามารถเลือกแปรงได้หลากชนิดมากขึ้น มีความสามารถในการผสมสีเหมือนกับการใช้งานสีน้ำของจริงเพื่อวาดและระบายสีได้

ฟีเจอร์เดิมๆ ที่ทำงานได้ดีอยู่แล้วก็ยังคงใช้งานได้เหมือน ไม่ว่าจะเป็น Smart Select หรือฟีเจอร์การเลือกอัจฉริยะ เป็นการเลือกพื้นที่บนหน้าจอได้อย่างอิสระตามความต้องการ และยังสามารถนำพื้นที่ที่เลือกนั้นมาแยกข้อความเพื่อแชร์ต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพิมพ์ให้เสียเวลา ซึ่งในฟีเจอร์นี้จะมีฟังก์ชั่น “ภาพเคลื่อนไหว” สำหรับเลือกพื้นที่วิดีโอที่กำลังเล่นบนหน้าจอแล้วทำการบันทึกเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพื่อทำเป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF) ได้ทันที

การแปลภาษาบนหน้าจอไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปด้วยฟีเจอร์ Translate หรือแปลภาษาด้วยปลายปากกา S Pen เพียงจ่อปลายปากกาไว้เหนือคำที่ต้องการแปล ระบบก็ทำการสแกนคำนั้นแล้วทำการแปลภาษาออกมาได้ทันที โดยใช้ระบบแปลภาษาของ Google Translate รองรับเกือบทุกภาษาในโลก รวมถึงภาษาไทยด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่แปลเป็นคำแต่สามารถแปลเป็นประโยคหรือบทความยาวๆ ได้เลย รวมไปถึงข้อความบนรูปภาพก็สามารถแปลภาษาได้ด้วย

Live Massage ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยการส่งข้อความทำได้สนุกมากยิ่งขึ้น โดยการเขียนข้อความหรือวาดอะไรก็ได้ด้วยลายมือของเราเอง พร้อมลูกเล่นใหม่กลีบดอกกุหลาบ แล้วบันทึกเป็นภาพเคลื่อนไหว GIF เพื่อส่งต่อหาเพื่อนได้ทันทีผ่านแอพต่างๆ และสามารถเลือกภาพพื้นหลังมาเขียนข้อความลงไปได้ด้วย ดังนั้นภาพ GIF ที่สร้างขึ้นมานี้จะมีเพียงรูปเดียวในโลก ไม่ซ้ำใครแน่นอน

Galaxy Tab S4 รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานได้พร้อมกัน 2 หน้าจอ ย่อขยายแต่ละหน้าจอได้ตามต้องการ เพียงแตะที่เส้นขอบหน้าจอตรงกลาง แล้วลากไปทางด้านซ้ายหรือขวา

ความสามารถใหม่ที่ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้เหมาะกับการทำงานมากขึ้นคือการใช้งานในโหมด Samsung DeX ซึ่งเป็นครั้งแรกในแท็บเล็ตของ Samsung ด้วย โดยโหมดนี้จะแสดงผลการทำงานเหมือนกับพีซีหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เพื่อให้ความรู้สึกในการทำงานง่ายมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมก็ได้ หรือถ้าต้องการทำงานที่สะดวกมากขึ้นก็ก็สามารถเชื่อมต่อกับ HDMI Adaptor กับหน้าจอภายนอกโดยไม่ต้องใช้ DeX Station หรือ DeX Pad และเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ เมาส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานก็ได้เช่นกัน

ในโหมด Samsung DeX เมื่อเปิดใช้งานพร้อมกันหลายหน้าจอ ยังสามารถใช้ฟีเจอร์ Drag and Drop ได้ด้วย ซึ่งเป็นการลากไฟล์จากหน้าจอหนึ่งไปวางอีกหน้าจอหนึ่งเหมือนกับการใช้งานบนพีซีเลย

ฟีเจอร์ด้านความบันเทิงด้วยระบบเสียงผ่านลำโพงทั้ง 4 ตัว รอบตัวเครื่อง Galaxy Tab S4 ให้เสียงกระหึ่ม และระดับความดังถือว่าดังมาก อีกทั้งยังให้มิติของเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ตอบโจทย์มากๆ สำหรับผู้ใช้งานที่ชอบดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม

นอกจากเสียงที่กระหึ่มมีมิติรอบทิศทางแล้ว หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ของแท็บเล็ตรุ่นนี้ยังรองรับการแสดงผล HDR ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแอพ Netflix และ Prime Video รวมไปถึงคลิป YouTube ด้วย ซึ่งภาพที่เห็นจะมีความคมชัด เฉดสีที่มีคอนทราสต์สูงกว่าการแสดงผลปกติ ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงเป็นอย่างดี

Galaxy Tab S4 แม้จะเป็นแท็บเล็ตที่ดูเหมือนจะเน้นไปในด้านความบันเทิงและการทำงาน แต่ก็ยังคงฟีเจอร์การใช้งานการโทรไว้เหมือนเดิม สามารถโทรเข้า โทรออกได้เหมือนกับสมาร์ทโฟน แต่การถือแนบหูเพื่อคุยโทรศัพท์อาจไม่สะดวกมากนัก ซึ่งก็อาจจะใช้หูฟังเข้ามาช่วยได้

ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Galaxy Tab S4 ไม่มีปุ่มสำหรับสแกนลายนิ้วมืออีกต่อไปแล้ว แต่มาพร้อมกับการสแกนม่านตา เพื่อความปลอดภัยที่เหนือไปอีกขั้น ซึ่งสามารถปกป้องแอพและไฟล์ส่วนตัวได้สำหรับ Secure Folder ได้

Secure Folder หรือโฟลเดอร์ที่ปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีอยู่บน Galaxy Tab S4 สำหรับแยกเก็บไฟล์ข้อมูลที่สำคัญเอาไว้ต่างหาก เพราะพื้นที่ในส่วนนี้จะแยกออกมาจากพื้นที่หลักของตัวเครื่อง พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยการล็อคไฟลเดอร์ด้วยรหัสผ่านหรือใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อคเพื่อเข้าไปใช้งาน ได้รับการออกแบบใหม่มาจาก Samsung KNOX เดิม โดยมีหน้าตาการใช้งานที่ดูเรียบง่าย น่าใช้งานมากขึ้น

ผู้ช่วยส่วนตัว Bixby ถูกรวมเข้ากับแอพกล้องถ่ายรูปเพื่อให้สามารถเรียกใช้งานผู้ช่วยส่วนตัวได้ทันทีเมื่อต้องการข้อมูลหรือใช้งานด้านความสามารถในการแปลภาษา ซึ่งรองรับการแปลภาษาได้แบบเรียลไทม์ เพียงส่องกล้องไปที่ข้อความที่ต้องการแปลภาษา ฟีเจอร์นี้เป็นการใช้ความสามารถในการแปลจาก Google Translate และระบบการตรวจจับภาพที่มีข้อมูลมากขึ้น ทั้งอาหาร ไวน์ สถานที่

Samsung Galaxy Tab S4 ประสิทธิภาพการทำงาน

Samsung Galaxy Tab S4 รันระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ใช้ชิพประมวลผล Snapdragon 835 มาพร้อมจีพียู Adreno 540 และแรม 4GB ความจุตัวเครื่อง 64GB โดยผลการทดสอบ AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 202,745 คะแนน แม้จะไม่ใช่ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด แต่ยังถือว่าเป็นชิพไฮเอนด์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน

ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Galaxy Tab S4 ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,891 และ Multi-Core ทำได้ 6,440 คะแนน

ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile อีกหนึ่งเกมที่กำลังฮิตในขณะนี้ ซึ่งเป็นเกมที่ต้องการทั้งความลื่นไหล ต้องใช้การควบคุมทิศทาง และความแม่นยำในการระบุเป้ายิง สามารถเล่นได้อย่างไม่สะดุด ไม่เจออาการกระตุกทั้งการเล่นในโหมดกราฟิกในระดับสูง และภาพความละเอียดสูง

เกม ROV หรือ Realm of Valor เกม MOBA บนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ สำหรับการเล่นบน Galaxy Tab S4 รองรับโหมดเฟรมเรตสูง ภาพระดับ HD สามารถได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหา

ทดสอบเล่นเกม Asphalt 9 : Legends เกมแข่งรถภาคใหม่ล่าสุดจาก Gameloft ที่มีการออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์เกมคอนโซลที่สมจริงและภาพกราฟิกที่สวยงามมากขึ้นด้วยเทคนิค HDR ก็สามารถเล่นบน Tab S4 ได้อย่างลื่นไหล ภาพสวยเต็มตามากๆ

สำหรับแบตเตอรี่ขนาด 7300mAh มากกว่า Tab S3 รุ่นเดิมในปีที่แล้ว ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานทั้งวัน โดยตัวเครื่องรองรับชาร์จไวด้วยกำลังไฟสูงสุด 10 วัตต์ 9V/1.67A หรือ 5V/2A

Samsung Galaxy Tab S4 กล้องถ่ายรูป

Galaxy Tab S4 มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ในขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอที่จะเก็บภาพสวยๆ ไว้ทำงานหรือแชร์บนโซเชียลได้ แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วแท็บเล็ตจะให้ความสำคัญในเรื่องของหน้าจอและประสิทธิภาพการทำงานเป็นหลัก แต่รุ่นนี้ถือว่าให้มาครบทุกการใช้งาน

คุณภาพกล้องหลังของ Galaxy Tab S4 ถือว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับสมาร์ทโฟนระดับกลางในปัจจุบัน ระบบโฟกัสทำงานได้รวดเร็ว รองรับการแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K

สรุปจุดเด่น

Galaxy Tab S4 เป็นแท็บเล็ตมีการอัพเกรดให้ทำงานได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการแท็บเล็ตดีๆ สักเครื่องที่ครบทั้งความบันเทิง หน้าจอสวย เสียงกระหึ่มดังรอบทิศทาง และโหมด Samsung DeX ที่ปรับโหมดหน้าจอแสดงผลเหมือนกับการใช้งานบนพีซี พร้อมปากกา S Pen ที่ช่วยให้การทำงานบนหน้าสะดวกและง่ายมากขึ้น

จุดสังเกตเพิ่มเติม

ตัวเครื่องเป็นกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เกิดคราบลายนิ้วมือได้ง่าย และไม่กันน้ำ