เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา Samsung ได้เปิดตัวหลายอุปกรณ์ และหนึ่งในนั้นก็เป็น Galaxy Z Fold3 5G สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นเรือธงที่มาพร้อมกล้องหน้าใต้จอเป็นครั้งแรกของแบรนด์ ซึ่งใครสนใจและอยากเห็นความแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่าง Galaxy Z Fold2 5G วันนี้เราจะนำมาเทียบสเปคกันให้ชมครับ
ดีไซน์
สำหรับดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นหากไม่นับโมดูลกล้องที่เปลี่ยนเล็กน้อย นอกนั้นก็แทบจะเหมือนกันทั้งหมดเลยครับ แต่ Galaxy Z Fold3 5G จะมีการปรับปรุงให้แข็งแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝาหลังและกระจกที่จอด้านนอกจะเป็น Gorilla Glass Victus รวมถึงการป้องกันน้ำมาตรฐาน IPX8 ที่เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนจอพับที่ป้องกันน้ำได้ด้วย ขณะที่รุ่นเดิมจะไม่ป้องกันน้ำครับ
หน้าจอแสดงผล
สำหรับหน้าจอแสดงผลด้านในจะเหมือนกันทั้ง 2 รุ่นครับ ตั้งแต่ขนาด 7.6 นิ้ว ชนิด Dynamic AMOLED 2X รองรับ Refresh Rate 120Hz แต่ความพิเศษใน Galaxy Z Fold3 5G จะไม่มีกล้องหน้า Infinity-O แล้ว แต่จะใช้เป็นกล้องใต้จอ (Under Display Camera) แทน รวมถึงการรองรับปากกา S Pen เป็นครั้งแรก
ส่วนจอด้านนอก (Cover display) จะอัปเกรดขึ้นมาจากเดิมด้วย Refresh Rate 120Hz ครับ และมีขนาดที่ 6.2 นิ้ว
สเปคภายใน
สำหรับหน่วยประมวลผลแน่นอนว่าต้องอัปเกรดขึ้นมาแน่นอน โดย Galaxy Z Fold3 5G ใช้ Snapdragon 888 5G ส่วน Galaxy Z Fold2 5G จะเป็น Snapdragon 865 5G ขณะที่ความจุจะมี 256/512GB เหมือนกัน และ RAM เท่ากันที่ 12GB
ขณะที่แบตเตอรี่ Galaxy Z Fold3 5G จะมีความจุ 4400mAh ลดลงเล็กน้อยจาก Galaxy Z Fold2 5G ที่มี 4500mAh แต่ก็มีชาร์จเร็วที่ 25W เท่ากันครับ
กล้อง
สำหรับกล้องหลังทั้ง 2 รุ่นนี้เหมือนเดิมครับ มี 3 เลนส์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้งหมด โดยมีเลนส์หลัก + Ultra-Wide และ Telephoto ขณะที่กล้องหน้าในจอ Cover มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แต่กล้องหน้าด้านใน Galaxy Z Fold3 5G จะอยู่ใต้จอ และมีความละเอียด 4 ล้านพิกเซล ส่วนรุ่นก่อนหน้านี้จะเป็นแบบ Infinity-O ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
การเชื่อมต่อต่างๆ
สำหรับการเชื่อมต่อ Galaxy Z Fold3 5G จะรองรับ Wi-Fi 6e ด้วย และ Bluetooth 5.2 ขณะที่ Galaxy Z Fold2 5G รองรับสูงสุดที่ Wi-fi 6 และ Bluetooth 5.0
สำหรับการพรีออเดอร์ Galaxy Z Fold3 5G รุ่นใหม่ในประเทศไทยนั้นเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 สิงหาคมนี้ มีราคาอยู่ที่ 57,900 บาท ในรุ่น 12+256GB และ 61,900 บาท ในรุ่น 12+512GB โดยสามารถชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.samsung.com/th/
ที่มา : Samsung