Android News
Samsung เปิดตัว Galaxy Z Fold3 5G สมาร์ทโฟนจอพับ รองรับ S Pen พร้อมกล้องใต้จอรุ่นแรกของแบรนด์
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Samsung Galaxy Z Fold3 สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่ของแบรนด์ โดยคาวมพิเศษจะเป็นกล้องหน้าที่ฝังอยู่ใต้จออย่างสมบูรณ์แล้ว
Galaxy Z Fold3 มาพร้อมสีสันที่มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว Phantom Green, สีดำ Phantom Black และสีเงิน Phantom Silver ทั้งยังมีความแข็งแรงที่สามารถพับและกางสามารถทำได้สูงสุดกว่า 2 แสนครั้ง, ป้องกันน้ำในมาตรฐาน IPX8 และตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและหลังห่อหุ้มด้วย Corning Gorilla Glass Victus
ทั้งนี้ที่ตัวบานพับจะเป็นวัสดุเฟรมอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่ง ที่นอกจากจะแข็งแรง น้ำหนักเบาแล้ว ยังมีความทนทานมากขึ้น 10%
โดยหน้าจอแสดงผลหลักด้านมาแบบ Dynamic AMOLED ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล รองรับ Refresh Rate 120Hz โดยใช้วัสดุ Samsung Ultra Thin Glass ทนทานมากกว่าเดิมถึง 80% และยังมีกล้องหน้าได้เป็นแบบใต้หน้าจอเรียบร้อยครับ แต่ยังพอเห็นร่องรอยของกล้องได้อยู่บางๆ
หน้าจอแสดงผลด้านในยังรองรับการใช้งานปากกา S-Pen เป็นครั้งแรกอีกด้วย
ส่วนจอด้านนอกมาแบบ Super AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2260 x 830 พิกเซล ซึ่งใช้งานได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไปเลยครับ
ภายในขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888, RAM 12GB LPDDR5 + ROM 256/512GB UFS3.1 ความจุ มีแบตเตอรี่ 4400mAh รองรับ 25W Fast Charging และ Fast Wireless Charging รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1 โดยการเชื่อมต่อต่างๆ จะรองรับทั้ง Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC และเครือข่าย 5G
ส่วนกล้องหลังมี 3 เลนส์ความละเอียด 12 + 12 (Ultra-Wide Angle) + 12 (Telephoto) ล้านพิกเซล
และกล้องหน้าที่จอด้านใน (Under Display Camera) มาที่ความละเอียด 4 ล้านพิกเซลที่ฝังอยู่ในหน้าจอบริเวณฝั่งขวาตรงกลางด้านบน ส่วนกล้องหน้าที่จอนอกใช้เป็นแบบ Infinity-O ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล
ราคาและวันวางจำหน่ายในไทย
ราคาในประเทศไทยก็เปิดออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ดังนี้
- รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB : 57,900 บาท
- รุ่น RAM 12GB + ROM 512GB : 61,900 บาท
เริ่มพรีอออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 – 22 สิงหาคม 2564 ผ่านทาง samsung.com และหากจองเป็นกลุ่มแรกจะได้รับคูปองเงินสด มูลค่า 9,000 บาท และฟรี Samsung Care+ 1 ปี มูลค่า 7,089 บาท โดยสามารถรับเครื่องเป็นกลุ่มแรกตั้งแต่ 2 กันยายน 2564
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง