Featured
รีวิว Samsung Gear Fit 2 นาฬิกาฟิตเนส, มี GPS คู่หูนักออกกำลังกาย
Samsung Gear Fit 2 สายรัดข้อมือฟิตเนสสำหรับคนรักการออกกำลังกาย มาพร้อมหน้าจอสัมผัส มีระบบ GPS ติดตามเส้นทางการออกกำลังกาย และเซ็นเซอร์การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
สรุปข้อมูลและสเปค Samsung Gear Fit 2
- ราคาเปิดตัว 6,500 บาท (มิถุนายน 2016)
- หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส 1.5 นิ้ว Super AMOLED
- ระบบปฏิบัติการ Tizen
- ชิปเซ็ต Exynos 3250
- ซีพียู Dual-core 1.0 GHz
- แรม 512 MB
- ความจำภายในเครื่อง 4 GB
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.2
- รองรับระบบ GPS
- แบตเตอรี่ 200 mAh
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Heart Rate, และ Barometer
- กันน้ำได้ IP68
ตัวเครื่องและดีไซน์
Samsung Gear Fit 2 มีขนาดความกว้าง 24.5 มม. ความยาว 51.2 มม. และหนา 11.9 มม. โดยตัวนาฬิกาจะมีลักษณะโค้งเว้า เพื่อให้สอดรับกับข้อมือ
วัสดุหลักของตัวนาฬิกาเป็นไฟเบอร์กลาส โดยกรอบของตัวนาฬิกา Gear Fit 2 เป็นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ตัดปัญหาเรื่องสีลอก ซึ่งในรุ่น Gear Fit รุ่นแรกจะพบว่ากรอบของตัวนาฬิกาจะลอกเมื่อใช้งานไปได้สักพัก
Gear Fit2 มีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 1.5 นิ้ว ครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla 3 เป็นจอโค้งแบบ Super AMOLED ความละเอียด 216 x 432 พิกเซล ให้สีสันที่สดใส สวยงาม
ขอบด้านข้างจะมีปุ่มกด 2 ปุ่ม โดยปุ่มที่มีขนาดใหญ่กว่าจะเป็นปุ่มย้อนกลับ และปุ่มที่มีขนาดเล็กกว่าจะเป็นปุ่มโฮม ใช้สำหรับกดเข้าสู่หน้าแรก, เข้าเมนูการตั้งค่าของเครื่อง หรือสำหรับปิด-เปิดเครื่อง
ด้านหลังตัวนาฬิกาจะมีขั้วสำหรับชาร์จไฟ และเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
สายข้อมือของ Gear Fit 2 สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ โดยกดที่สลักเพื่อปลดล็อก ซึ่งตัวล็อกเป็นแบบเดียวกับในรุ่น Gear S2
สำหรับสายข้อมือจะใช้การสอดแล้วล็อกโดยการปักหมุด
แท่นชาร์จจะมีขั้วต่อ 2 ขั้ว โดยมีให้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ง่ายต่อการวาง Gear Fit 2 ซึ่งจะวางชาร์จด้านใดก็ได้ นอกจากนี้แล้ว Gear Fit 2 มีแบตเตอรี่ในตัวขนาด 200 mAh และสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นาน 30 นาที ตามมาตรฐาน IP68
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Samsung Gear Fit 2 ทำงานบนแพลตฟอร์ม Tizen รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat และมีแรมอย่างน้อย 1.5GB ขึ้นไป โดยทำการเชื่อมต่อผ่านแอพ Samsung Gear หรือจะใช้แบบไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ได้
Gear Fit 2 รองรับการเชื่อมผ่าน Bluetooth 4.2 และ Wi-Fi
Gear Fit 2 สามารถติดตามการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนับก้าวเดิน, บอกปริมาณการเผาผลาญพลังงาน, การวิ่ง, การเดินเขา, การปั่นจักรยาน และเครื่องออกกำลังกายในฟิตเนส เป็นต้น
จุดเด่นของ Gear Fit 2 คือมีระบบ GPS ติดตามเส้นทางการออกกำลัง เพื่อช่วยวัดระยะทางการในการออกกำลังให้ได้ความแม่นยิ่งขึ้น
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้รับการพัฒนาได้สามารถติดตามการวัดผลได้แบบอัตโนมัติตลอดช่วงการออกกำลังกาย และวัดผลออกมาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เมื่อเทียบกับ Gear Fit รุ่นแรก
หน้าปัดนาฬิกาหรือหน้าแรกของ Gear Fit 2 สามารถเลือกเปลี่ยนได้ มีทั้งแบบแสดงตัวนับผลการออกกำลังกายหลากหลายกิจกรรมในหน้าเดียวกันก็ได้
หน้าจอของ Gear Fit 2 ปรับความสว่างได้ 10 ระดับ และระดับที่ 11 จะเป็นความสว่างสูงสุด ซึ่งจะเปิดใช้งานได้ครั้งละ 5 นาที เพื่อการใช้งานกลางแจ้ง เมื่อครบ 5 นาทีแล้ว ระดับความสว่างก็จะถูกปรับลงอัตโนมัติ
การแจ้งเตือนบน Gear Fit 2 รองรับการแสดงผลเฉพาะตัวอักษร ทั้งอีเมล ข้อความ รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอพต่าง ๆ ได้ในรูปแบบตัวอักษร และสามารถตอบกลับอีเมลได้ด้วย แต่ยังจำกัดการตอบกลับได้เฉพาะข้อความและตัวอิโมจิที่กำหนดเป็นมาตรฐานไว้เท่านั้น ไม่สามารถพิมพ์ข้อความได้
Gear Fit 2 มีความจำภายในตัวขนาด 4GB เหลือใช้จริงประมาณ 2.1GB ซึ่งสามารถใช้จัดเก็บเพลง MP3 ได้
เครื่องเล่นเพลงบน Gear Fit 2 สามารถเล่นได้ด้วยตนเอง และใช้คู่กับหูฟังไร้สายบลูทูธ โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวสมาร์ทโฟน ส่วนการส่งเพลงมาเก็บไว้บน Gear Fit 2 ต้องทำผ่านแอพ Samsunt Gear บนสมาร์ทโฟน
Gear Fit 2 มีฟีเจอร์ค้นหาสมาร์ทโฟนได้ด้วย เพื่อสั่งให้สมาร์ทโฟนส่งเสียง
แอพ Samsung Gear บนสมาร์ทโฟนก็สามารถสั่งค้นหา Gear Fit 2 ได้เช่นกัน
สรุปจุดเด่น
- Samsung Gear Fit 2 เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ฟิตเนสที่เหมาะกับคนรักการออกกำลังที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีดีไซน์สวยงาม และง่ายต่อการใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสที่มีสีสันสวยงาม
- สามารถติดตามกันออกกำลังกายได้หลากหลายกิจกรรม และมีระบบติดตามเส้นทางด้วย GPS
- มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 คือกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ใส่อาบน้ำได้ แต่ไม่แนะนำให้ใส่ไปดำน้ำ เพราะตัวนาฬิกาไม่ได้มีตัววัดหรือแจ้งเตือนระดับความลึกของน้ำ
- รองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 4.4 ขึ้นไป ไม่จำกัดเฉพาะสมาร์ทโฟน Samsung แล้ว หรือจะใช้งานแบบเดี่ยว โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก็ได้
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- หมุดสำหรับล็อกสายข้อมือค่อนข้างหลุดง่าย เมื่อเกี่ยวกับสิ่งของ เช่น สายกระเป๋าสะพาย เป็นต้น
- แบตเตอรี่อยู่ได้ราว 1-2 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป แต่หากรับการแจ้งเตือนตลอดทั้งวันจากแอพต่าง ๆ ก็จะหมดไว้ขึ้น
ขอบคุณ Samsung (ประเทศไทย)