Connect with us

IT News

เปิดจอง Sony Alpha 7C II และ Alpha 7CR เริ่มตั้งแต่ 22 กันยายน นี้

Published

on

โซนี่ไทยเปิดจองกล้องในตระกูล “Alpha 7C Series” 2 รุ่นใหม่ล่าสุด Alpha 7C II และ Alpha 7CR พร้อมด้วยเลนส์ฟูลเฟรม G Master SEL1635GM2 เลนส์ซูมมุมกว้างที่เล็ก และเบาที่สุด เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ศกนี้

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ 2 รุ่นใหม่ล่าสุดกับ Alpha 7C II (อ่านว่า อัลฟ่า เซเว่น ซี มาร์ค ทู) และ Alpha 7CR (อ่านว่า อัลฟ่า เซเว่น ซี อาร์) โดยกล้อง Alpha 7C II เป็นกล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสในตระกูล “Alpha 7C Series” มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R® CMOS ที่มีความละเอียดประมาณ 33.0 ล้านพิกเซลใช้งานจริง ผสานฟังก์ชั่นภาพนิ่ง และวิดีโอล่าสุด รวมถึงประสิทธิภาพในการออกแบบที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา ด้วยขนาดที่มีความกว้าง 124 มม. สูง 71.1 มม. และ หนา 63.4 มม. และมีน้ำหนักประมาณ 514 กรัม2 นับเป็นกล้องรุ่นที่ 2 ของกล้องในตระกูล Alpha 7C Series ที่โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพ เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ในขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในทุกรูปแบบ ควงคู่มากับกล้อง Alpha 7CR ซึ่งเป็นกล้องฟูลเฟรมแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ในขนาดกะทัดรัด โดดเด่นด้วยความละเอียดสูงและการไล่ระดับสีที่สมบูรณ์แบบของเซ็นเซอร์รับภาพ มีความละเอียดประมาณ 61.0 ล้านพิกเซลใช้งานจริง ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบเดียวกับที่พบใน Alpha 7R V และอยู่ในกล้องขนาดกะทัดรัด และตัวกล้องมีน้ำหนักเบา โดยมีขนาดและน้ำหนักพอๆกับ Alpha 7C II2 ประมาณ 515 กรัม นอกเหนือจากการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันแล้ว ตัวกล้องยังรองรับการถ่ายภาพคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดายด้วยการตั้งค่าที่หลากหลาย เช่น การถ่ายภาพบุคคล สัตว์ป่า และทิวทัศน์ นับเป็นการผสมผสานระหว่างการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูง ความคล่องตัวสูง และมีน้ำหนักเบาได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

พร้อมกันนี้โซนี่ไทยยังเปิดตัวเลนส์ G Master FE 16-35 mm. F2.8 GM II (รุ่น SEL1635GM2) เลนส์ซูมมุมกว้างรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล G Master ซึ่งเป็นเลนส์ E-Mount Alpha แบบฟูลเฟรม 35 มม. ที่มีทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 16 – 35 มิลลิเมตร พร้อมขนาดรูรับแสงกว้าง F2.8 ตลอดช่วงซูมทั้งหมด ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพที่กำลังมองหาเลนส์ประสิทธิภาพสูงได้เป็นอย่างดี

กล้อง Alpha 7C II และ Alpha 7CR มาพร้อมหน่วยประมวลผล AI และระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR® เช่นเดียวกับกล้อง Alpha 7R V และ Alpha 6700 อีกทั้งยังมาพร้อม Real-Time Recognition AF ที่จะช่วยในการจดจำวัตถุได้หลากหลายด้วยความแม่นยำสูง รวมถึงระบบป้องกันภาพ สั่นไหวในตัวกล้องแบบออปติคอล 5 แกน 7.0 สต็อป เมื่อถ่ายภาพนิ่ง ในขณะเดียวกันกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังรองรับการบันทึกวิดีโอได้ที่ 10bit 4:2:2 ด้วยความละเอียดสูงสุด 4K60p3 นอกจากนี้ตัวกล้องทั้ง 2 รุ่น   มาพร้อมกับ S-Cinetone ของโซนี่ สำหรับวิดีโอระดับภาพยนตร์ที่สมบูรณ์ ในขณะที่ตัวกล้องยังมี Active Mode ซึ่งเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอที่เสถียรให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับ AI-based Auto Framing และอินเทอร์เฟซเสียงดิจิตอล รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ที่รองรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสมบัติหลักของ Alpha 7C II

  • เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R® CMOS ด้วยความละเอียด 33.0 ล้านพิกเซล ผสานการทำงานร่วมกับระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR® ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพระดับสูง สำหรับการถ่ายภาพนิ่งและภาพยนตร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพคุณภาพสูงในฉากต่างๆ มากมาย เช่น ระหว่างการเดินทาง และ การถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
  • เมื่อเทียบกับกล้อง Alpha 7 IV ซึ่งมีขนาดเพียง 131.3 มม. x 96.4 มม. x 79.8 มม. และน้ำหนักเพียง 658 กรัมแล้ว2 ถือว่ากล้อง Alpha 7C II มีน้ำหนักเบากว่าถึง 22% และมีขนาดน้อยกว่าถึง 45% เลยทีเดียว
  • ค่า ISO มาตรฐานอยู่ระหว่าง 100 ถึง 51200 สำหรับทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ และสามารถขยายได้จาก ISO 50 – 204800 สำหรับภาพนิ่ง ทำให้สามารถถ่ายภาพด้วยความไวแสงสูงและปราศจากสัญญาณรบกวน

คุณสมบัติหลักของ Alpha 7CR

  • เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R® CMOS ด้วยความละเอียด 61.0 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบประมวลผลภาพ BIONZ XR® ล่าสุดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงและมีความคมชัดสูง
  • เมื่อเทียบกับกล้อง Alpha 7R V ซึ่งมีขนาดเพียง 131.3 มม. x 96.9 มม. x 82.4 มม. และน้ำหนักเพียง 723 กรัม2 ซึ่งถือว่ากล้อง Alpha 7CR มีน้ำหนักเบากว่าถึง 29% และมีขนาดน้อยกว่าถึง 53%
  • ค่า ISO มาตรฐานอยู่ระหว่าง 100 ถึง 32000 สำหรับทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์ และสามารถขยายได้จาก ISO 50 – 102400 สำหรับภาพนิ่ง
  • นอกเหนือจากระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบออปติคอล 5 แกน 7.0 สต็อป4 ยังสามารถตรวจจับการแก้ไขและการเบลอเล็กน้อยในระดับ 1 พิกเซลได้ด้วย
  • มาพร้อมโหมด Pixel Shift Multi Shooting ที่สามารถถ่ายภาพหลายภาพ และจึงนำมาประกอบรวมกันภายหลังด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้ภาพที่มีความละเอียดสูง
  • เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Grip รุ่น GP-X2 ที่มาพร้อมกับ Alpha 7CR5 คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างสะดวกสบายด้วยกริ๊ปจับที่มั่นคง แม้ว่าจะถ่ายภาพเป็นเวลานานหรือใช้ร่วมกับเลนส์เทเลโฟโต้ก็ตาม

คุณสมบัติทั่วไปของ Alpha 7C II และ Alpha 7CR

1.ขนาดกะทัดรัดและความคล่องตัวสูง

          กล้อง Alpha 7C II และ Alpha 7CR ได้รับการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด และสะดวกต่อการพกพา ด้วยขนาดความกว้างประมาณ 124 มม. X ความสูง 71.1 มม. X ความลึก 63.4 มม. โดย Alpha 7C II จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 514 กรัม2 และ Alpha 7CR จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 515 กรัม2 เมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ซูมมุมกว้าง FE 16-35 mm. F2.8 GM II (รุ่น SEL1635GM2) ทำให้สามารถถ่ายทอดภาพได้อย่างยอดเยี่ยม และ AF ความเร็วสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ G Master™ ที่มีความสว่าง F2.8 ที่ช่วงซูมเต็ม นอกจากนี้ยังสามารถใช้คู่กับเลนส์ E-Mount ของโซนี่ที่มีมากกว่า 70 เลนส์ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับการแสดงภาพที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกล้องฟูลเฟรม ทั้งในโหมดภาพนิ่ง และภาพยนตร์

2.ประสิทธิภาพของ AF และการจดจำวัตถุที่ได้รับการปรับปรุงด้วยหน่วยประมวลผล AI

          Alpha 7C II และ Alpha 7CR ยังมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI ที่ล้ำสมัย เช่นเดียวกับ Alpha 7R V สามารถจดจำวัตถุได้อย่างแม่นยำด้วย Real-Time Recognition AF ตัวอย่างเช่น เมื่อถ่ายภาพบุคคล แม้ว่าบุคคลนั้นจะมีท่าทางที่ซับซ้อน หรือใบหน้าถูกซ่อนอยู่ก็ตาม เทคโนโลยีจะรับรู้การเคลื่อนไหวและท่าทางของมนุษย์เพื่อใช้งานการจดจำ รวมถึงการจับภาพ และติดตามวัตถุได้ด้วยความแม่นยำสูง นอกเหนือจากการจดจำผู้คน และสัตว์ที่มีอยู่ใน Alpha 7C Series แล้ว หน่วยประมวลผล AI ยังสามารถเรียนรู้ จดจำวัตถุ และสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น ๆ ได้อย่างหลากหลายประเภทอีกด้วย อาทิ นก แมลง รถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน ซึ่งเป็นวัตถุที่สามารถจดจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ประสิทธิภาพวิดีโอขั้นสูง

          Alpha 7C II และ Alpha 7CR สามารถรองรับการบันทึกวิดีโอที่มีความละเอียดสูง และมีรายละเอียดเทียบเท่ากับ 7K และ 6K และสามารถ Output วิดีโอ 4K คุณภาพสูงได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังมาพร้อม S-Log3 ที่รองรับละติจูดกว้าง 14+ สต็อป6 โดยให้การไล่สีที่สมบูรณ์แบบในสถานการณ์ที่มีลักษณะฉากที่มีความต่างของแสงสูง ทั้งยังมาพร้อมโหมดการถ่ายภาพ Log LUT            ที่สามารถแสดงบนภาพในจอภาพของกล้องได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพไปพร้อมกับตรวจสอบภาพที่เสร็จสมบูรณ์ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำได้ นอกจากนี้ตัวกล้องยังมาพร้อมกับ S-Cinetone™ ของโซนี่ ที่สามารถถ่ายทอดภาพในรูปแบบภาพยนตร์จากกล้องโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการประมวลผลภายหลัง โดย S-Cinetone™ ที่ใช้เทคโนโลยีกล้อง Cinema Line ของโซนี่ จะทำให้โทนสีที่เป็นกลาง จึงให้ Skin Tone ของคนที่ดูเป็นธรรมชาติ เพิ่มคุณภาพสูงสุดเพื่องานภาพยนตร์ อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Creative Look ที่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของวิดีโอ และภาพนิ่งได้อย่างง่ายดาย

4.การใช้งาน และการเชื่อมต่อ

          กล้องทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอ LCD แบบปรับมุมได้ และการควบคุมเมนูแบบสัมผัสอันทันสมัยที่ช่วยให้การถ่ายภาพสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้แป้นหมุนด้านหน้าจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดฟังก์ชั่นที่ชื่นชอบได้อย่างง่ายดาย อาทิ แป้นหมุนภาพนิ่ง/ภาพยนตร์/ S&Q และช่องมองภาพความละเอียดสูง XGA ฯลฯ ในขณะเดียวกันยังมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องแบบออปติคอล 5 แกน 7.0    สต็อป4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้องที่มีความเสถียรให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น อีกทั้ง ตัวกล้องยังรองรับการเชื่อมต่อระหว่างกล้องกับ Creators’ App7 สำหรับการอัปโหลดวิดีโอ และภาพนิ่งไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถใช้งานกล้องระยะไกล และถ่ายโอนภาพจากกล้องไปยังอุปกรณ์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

          ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมาโซนี่ได้เปลี่ยนจากพลาสติกบริสุทธิ์ประมาณ 395 ตัน8 ให้เป็นพลาสติกรีไซเคิลที่ใช้ในตัวกล้องดิจิทัล และกล้องวิดีโอ โดยวัสดุรีไซเคิล รวมถึง SORPLAS™9 ได้ถูกนำมาใช้สำหรับผลิตตัวกล้องและกล้องวิดีโอ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่กระทบต่อฟังก์ชั่นการทำงานแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Screen Reader10 ฟังก์ชั่น Magnify Display ของเมนูใหม่ที่สามารถอ่านออกเสียงเมนู และหน้าจอ ในขณะที่คุณเล่นวิดีโอซึ่งจะช่วยในการทำงาน และสนับสนุนกิจกรรมของครีเอเตอร์ที่หลากหลาย

ผลิตภัณฑ์เลนส์รุ่นใหม่จากโซนี่ ประกอบด้วย

• เลนส์ G Master รุ่น FE 16-35mm F2.8 GM II (รุ่น SEL1635GM2)

          เลนส์ G Master รุ่น FE 16-35mm F2.8 GM II เป็นเลนส์ซูมมุมกว้างในตระกูล G Master ของโซนี่ ซึ่งเป็นเลนส์ E-Mount Alpha แบบฟูลเฟรม 35 มม. ที่มีทางยาวโฟกัสตั้งแต่ 16 – 35 มิลลิเมตร พร้อมขนาดรูรับแสงกว้าง F2.8 ตลอดช่วงซูมทั้งหมด ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพที่กำลังมองหาเลนส์ประสิทธิภาพสูง ด้วยพลังของระบบ AF ความเร็วสูง (โฟกัสอัตโนมัติ) อันเป็นเอกลักษณ์ของ G Master™ เมื่อใช้ร่วมกับกล้องของโซนี่จะช่วยให้คุณสามารถดึงประสิทธิภาพของเลนส์ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ตัวเลนส์ยังได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สุดในโลก เหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการความคล่องตัวสูง ด้วยการขยายช่วงด้วยเลนส์ซูมมุมกว้างนี้ ทำให้ เลนส์ G Master รุ่น FE 16-35mm F2.8 GM II เป็นเลนส์ซูมรุ่นที่สอง12ที่มีรูรับแสงกว้างสุดถึง F2.8 พร้อมด้วยเลนส์มาตรฐานที่มีทางยาวโฟกัส 24 – 70 มิลลิเมตร และเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีทางยาวโฟกัส 70-200 มิลลิเมตร ซึ่งเลนส์เหล่านี้แต่ละรุ่นจะมีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก3 ทั้งยังมาพร้อมประสิทธิภาพด้านความละเอียดที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบอัลฟ่า เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่หลากหลาย

เลนส์ซูมมุมกว้าง F2.8 ความละเอียดสูง ในขนาดที่เล็กและเบาที่สุดในโลก11

          ด้วยการออกแบบด้านออพติคอลขั้นสูงแบบใหม่ที่จัดเรียงเลนส์ XA(Extreme Aspherical) ที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ FE 16-35 มม. F2.8 GM II มีความละเอียดสูงด้วยรูรับแสงสูงสุดที่ F2.8 ตลอดช่วงการซูมทั้งหมด สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยรูปทรง Aspherical ที่มีความอิสระสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า นอกเหนือจากการแสดงโบเก้ของ G Master ด้วยมุมกว้างที่น่าอัศจรรย์แล้ว ยังมอบประสิทธิภาพการถ่ายภาพระยะใกล้ที่โดดเด่นตลอดช่วงซูม อีกทั้งยังให้ระยะการถ่ายภาพขั้นต่ำ 0.22 เมตร และกำลังขยายการถ่ายภาพสูงสุด 0.32x .ในขณะที่หน้าเลนส์ยังเคลือบด้วย Nano AR Coating II ของโซนี่ เพื่อช่วยลดแสงโกสต์และแสงแฟลร์ รวมถึงยังให้การจับภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีแสงจ้าเข้ามาในเฟรมก็ตาม โดย FE 16-35 มม. F2.8 GM II นับเป็นเลนส์ซูมมุมกว้างที่เล็กและเบาที่สุดในโลก11 ด้วยความยาวประมาณ 111.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักประมาณ 547 กรัม ซึ่งน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 20%14 เลยทีเดียว    

AF ที่รวดเร็วและแม่นยำเป็นพิเศษที่ดึงส่วนที่ดีที่สุดในตัวเลนส์ขั้นสูง

เลนส์ FE 16-35 มม. F2.8 GM II ใช้ระบบมอเตอร์โฟกัสแบบ XD (Extreme Dynamic) รุ่นล่าสุดที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพบนระบบขับเคลื่อนความเร็วสูง ทั้งยังให้ AF ที่เงียบสงบปราศจากเสียงรบกวน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับภาพนิ่งและภาพยนตร์ โดยให้ความเร็วมากกว่ารุ่นทั่วไปถึง 2 เท่า14 แม้ว่าวิดีโอที่มีอัตราเฟรมสูงจะมองเห็นการเลื่อนโฟกัสได้ชัดเจน แต่วัตถุก็จะถูกติดตามด้วยความแม่นยำสูง เมื่อใช้ร่วมกับกล้อง Alpha 1 ที่ให้การถ่ายภาพต่อเนื่อง15ด้วยความเร็วสูงสุด 30 fps สามารถทำได้ด้วยการโฟกัสความเร็วสูง ความแม่นยำสูง และความเงียบสงบปราศจากเสียงรบกวนอีกด้วย

เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานทั้งถ่ายภาพนิ่ง และภาพยนตร์ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

เลนส์ FE 16-35 มม. F2.8 GM II ยังเป็นเลนส์ที่มอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการถ่ายภาพนิ่งและภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้มือสมัครเล่นและมืออาชีพขั้นสูง ด้วยการลดโฟกัสระหว่างการบันทึกวิดีโอเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ คุณจึงสามารถถ่ายทอดภาพที่มีคุณภาพสูงได้โดยไม่มีความผิดปกติในมุมรับภาพ นอกจากนี้ยังให้ความมั่นคงของจุดศูนย์ถ่วงในระหว่างการซูม และช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างมั่นคง คุณจึงสามารถถ่ายภาพได้อย่างสะดวกสบายด้วยกิมบอล ในขณะที่ความสามารถในการทำงานได้รับการปรับปรุงด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น วงแหวนรูรับแสงที่สามารถคลิกเปิด/ปิดได้ด้วยสวิตซ์ และปุ่มล็อคโฟกัสสองปุ่มที่สามารถกำหนดฟังก์ชั่นที่ต้องการจากตัวกล้องได้ อีกทั้งหน้าเลนส์เคลือบด้วยฟลูออรีนจึงสามารถขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวเลนส์ออกได้อย่างง่ายดาย รวมถึงได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้แม้อยู่กลางแจ้ง16หรือสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย ทำให้มีอิสระในการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น

กำหนดเปิดสั่งจองผลิตภัณฑ์ และวันวางจำหน่าย

ทั้งกล้อง Alpha 7C II และ Alpha 7CR มีให้เลือกใช้งาน 2 สี คือสีดำ และสีเงิน พร้อมเปิดให้ผู้สนใจสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม 2566 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • กล้อง Alpha 7C II
    • Body จำหน่ายราคา 75,990 บาท
    • Body + Sony Lens 28-60mm จำหน่ายราคา 86,990 บาท  
  • กล้อง Alpha 7CR    
    • Body จำหน่ายราคา 103,990 บาท

สิทธิพิเศษ !! สำหรับผู้ที่สั่งจองกล้อง Alpha 7C II ในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับ Sony SD Card TOUGH รุ่น SF-G128T จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 8,690 บาท และสำหรับกล้อง Alpha 7CR จะได้รับ Sony SD Card TOUGH รุ่น SF-G128T จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 8,690 บาท และ Peak Design Leash จำนวน 1 เส้น มูลค่า 2,200 บาท ทั้งนี้กล้อง Alpha 7C II และ Alpha 7CR จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ภายในกลางเดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

·             เลนส์ G Master FE 16-35mm. F2.8 GM II จะเปิดให้ผู้สนใจสั่งจองล่วงหน้าเช่นกนั ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 27 กันยายน ศกนี้ ในราคา 83,990 บาท โดยผู้สั่งจองในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับ MC Filter รุ่น VF-82MPAM จำนวน 1 ชิ้น มูลค่า 4,990 บาท ทั้งนี้ เลนส์ G Master FE 16-35 mm. F2.8 GM II จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

          ผู้สนใจสามารถทดลองประสิทธิภาพของกล้อง และเลนส์รุ่นใหม่ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา และร้านผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร และสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th

มือถือ realme รุ่นไหนดี มือถือ realme รุ่นไหนดี
Buying Guides11 ชั่วโมง ago

มือถือ realme รุ่นไหนดี วิธีเลือกซื้อมือถือ รุ่นที่ดีที่สุด ในปี 2024

มือถือ realme รุ่นไห...

New Movies on Netflix in December 2024 New Movies on Netflix in December 2024
IT News1 วัน ago

หนังใหม่ Netflix ประจำเดือนธันวาคม 2024

หนังใหม่ Netflix ประ...

Android News1 วัน ago

เปิดตัว OPPO Find X8 Series ราคาเริ่มต้น 29,999 บาท

ออปโป้ เปิดตัว “OPPO...

Android News1 วัน ago

เปิดตัวแล้ว OPPO Enco Air4 และ OPPO Pad 3 Pro

เปิดตัวแล้ว! “OPPO E...

IT News2 วัน ago

สรุปข่าวรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 – 22 พ.ย. 67

ข่าวเด่นช่วงระหว่างว...

The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open The first Nintendo Authorized Store by SYNNEX in Southeast Asia is now open
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

เปิดแล้ว Nintendo Authorized Store by SYNNEX แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซินเน็ค จับมือคอปเปอ...

NT GSB NT GSB
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

NT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าธนาคารออมสินใช้งานแอป MyMo ไม่เสียค่าเน็ตผ่าน 2 เครือข่ายมือถือ

NT อำนวยความสะดวกลูก...

AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea AIS 5G strengthens its leadership with SEA COVERAGE, spanning both sides of the Thai sea
ข่าวประชาสัมพันธ์2 วัน ago

AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย

AIS 5G โชว์แกร่งโครง...

Copyright © 2012 iphone-droid.net.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการได้ที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึก