ข่าวประชาสัมพันธ์
โซนี่ไทย เดินหน้าขยายไลน์กล้องถ่ายทำภาพยนตร์มืออาชีพ เปิดตัว FX6 Full-frame Professional Camera ตัวแรก ราคา 224,990 บาท
บริษัท โซนี่ไทย จำกัด เปิดตัวกล้อง Sony FX6 (ชื่อรุ่น ILME-FX6V) ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอฟูลเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Cinema Line ของโซนี่ เฉกเช่นเดียวกับกล้องถ่ายทำภายนตร์ในรุ่น VENICE และ FX9 ที่ได้ผสานจุดแข็งด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ มามอบให้แก่ผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้ผลิตคอนเทนต์ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการออกแบบตัวเครื่องที่มีน้ำหนักเบาแต่ให้ความแข็งแรงทนทานและใช้งานง่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการผนวกรวมเทคโนโลยีหลักของโซนี่ในด้านต่าง ๆ เข้ามาไว้ด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ เซ็นเซอร์รับภาพ, ระบบประมวลผล และระบบออโต้โฟกัส(AF) อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ E-mount ได้หลากหลายรุ่น เพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพได้อย่างลงตัว ผนวกกับความสามารถนำเสนอศาสตร์แห่งสีในโรงภาพยนตร์ขั้นสูง ทำให้กล้อง Sony FX6 สามารถสร้างสรรค์งานที่หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมการสร้างคอนเทนต์ทั่วไป จนถึงระดับงานภาพยนตร์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานคุณภาพสูงทุกรูปแบบได้อย่างครอบคลุม
คุณภาพของภาพในโรงภาพยนตร์แบบฟูลเฟรม
ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพตัวใหม่แบบ Full Frame Black-illuminated Exmor R™ CMOS ที่มีความละเอียด 10.2 ล้านพิกเซล และให้ Dynamic Range กว้างถึง 15+ สต็อป มาพร้อมค่าความไวแสงสูงพิเศษ (ISO) และสัญญาณรบกวนต่ำ โดยความไวแสงพื้นฐานจากเดิมอยู่ที่ ISO 800 พร้อมตั้งค่าความไวแสงเพิ่มขึ้นเป็น ISO 12,800 สามารถขยายได้ถึง 409,600 สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยถึงน้อยมาก รวมถึงสามารถรองรับการบันทึกแบบ XAVC All-Intra 4:2:2 10bit ด้วยความละเอียดของภาพระดับ DCI 4K(4096 x 2160 – สูงสุด 60p), QFHD 4K (3840 x 2160 – 120p) และ FHD (1920 x 1080 – สูงสุด 240p) เพื่อเก็บรายละเอียดการเคลื่อนไหวช้าได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ FX6 สามารถบันทึกใน XAVC Long GOP 4:2:0 8bit QFHD 4K(3840 x 2160 – สูงสุด 120p) และ 4:2:2 10bit FHD (1920 x 1080 – สูงสุด 240p) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลภาพ อันทรงพลังอย่าง BIONZ XR™ ซึ่งใช้เป็นครั้งแรกในกล้อง Sony Alpha 7S III โดยให้ประสิทธิภาพการประมวลผลที่เร็วขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับ FS5 II
ยิ่งไปกว่านั้น FX6 ยังได้รับการพัฒนามาจากกล้องถ่ายภาพยนตร์ชั้นนำระดับโลกของโซนี่อย่างรุ่น VENICE โดย Sony FX6 สามารถนำเสนอศาสตร์แห่งสีในโรงภาพยนตร์ขั้นสูงได้อย่างลงตัว รวมถึง S-Cinetone เพื่อการสร้างโทนสีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ S-Log3, S-Gamut3 และ S-Gamut3 ทั้งนี้เพื่อความยืดหยุ่นหลังการถ่ายทำ นอกจากนี้ FX6 ยังได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานในระดับพรีเมี่ยม ด้วยช่วงไดนามิกที่สูงสุดจากเซ็นเซอร์ และให้อิสระในการสร้างสรรค์อย่างง่ายดาย
คุณสมบัติวิดีโอขั้นสูง
กล้อง FX6 ยังมาพร้อมขุมพลังของระบบ Fast Hybrid Auto Focus และ Phase Detection จำนวน 627 จุด ผสานเข้ากับระบบ Face Detection และ Eye AF แบบเรียลไทม์ขั้นสูงของโซนี่ในอัตราเฟรมเรทสูง พร้อมระบบออโต้โฟกัส(AF) ที่ต่อเนื่อง ช่วยให้ผู้ควบคุมกล้องติดตามได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วได้แบบสโลว์โมชั่นโดยไม่เสียโฟกัส เนื่องจาก Fast Hybrid Auto Focus สามารถทำงานร่วมกับเลนส์ E-Mount กว่า 50 รุ่น ในขณะที่ตัวกล้องยังสามารถจับภาพแบบสโลว์โมชั่นได้สูงสุด 5 เท่าด้วย 4K 120fps อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นภายในกล้อง FX6 ยังมี ND Filters ซึ่งเป็นตัวแปรอิเล็กทรอนิกส์ภายใน เพื่อใช้ควบคุมระดับความเข้มของฟิลเตอร์ของกล้องได้ง่ายและราบรื่น ผู้ใช้สามารถตั้งค่า ND แบบแปรผันเป็นอัตโนมัติหรือปรับความเข้มของฟิลเตอร์ด้วยตัวเอง โดยเพิ่มทีละน้อยตั้งแต่ ¼ ถึง 1/128 เพื่อให้ได้ภาพที่เปิดรับแสงอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ส่งผลต่อระยะชัดลึกหรือมุมชัตเตอร์แม้ในสภาพแสงที่เปลี่ยนไป เมื่อรวมกับความไวแสงที่สูงเป็นพิเศษของกล้อง ND Filters จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นในเกือบทุกสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพ
สร้างขึ้นสำหรับผู้สร้างเนื้อหาในระหว่างเดินทาง
ความคล่องตัวและการใช้งานที่โดดเด่น
กล้อง FX6 ถูกสร้างขึ้นจากตัวถังแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ด้วยขนาดเพียง 116 มม. x 153 มม. x 114 มม. น้ำหนักเพียง 0.89 กิโลกรัม ผสานการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ทำให้ผู้ใช้สามารถหยิบจับและถ่ายได้ตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อความคล่องตัวสูงสุดของผู้ใช้งาน โดยกล้อง FX6 มีระบบการระบายความร้อน เพื่อให้ส่วนประกอบของกล้องอยู่ในช่วงการทำงานปกติและป้องกันไม่ให้ความร้อนสูงเกินไป แม้ในขณะที่บันทึกเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังออกแบบมาให้ใช้คู่กับอุปกรณ์เสริมได้เป็นอย่างดี อาทิ Grip, ช่องมองภาพ, Gimbal หรือโดรน เป็นต้น
ด้วยช่องมองภาพแบบ LCD ขนาดใหญ่ถึง 3.5 นิ้วของกล้อง FX6 ทำให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ในหลายตำแหน่งของตัวกล้อง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มอิสระและสามารถควบคุมเมนูด้วยการสั่งงานแบบสัมผัสได้อย่างง่ายดาย โดยจะทำให้คุณควบคุมเมนูหรือเปลี่ยนการตั้งค่าปุ่มได้อย่างรวดเร็วด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว ซึ่งรวมถึง Codec, โหมดสแกนอิมเมจ, การตั้งค่าขนาดและความถี่ของภาพ, การตั้งค่า ISO พื้นฐาน, โหมดถ่ายภาพ และระดับเสียง เป็นต้น
ความน่าเชื่อถือระดับมืออาชีพ
กล้อง FX6 เป็นกล้องที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานในระดับมืออาชีพ โดยสามารถรองรับพอร์ต 12G-SDI และสามารถ Output ได้ที่ 16-bit RAW Video ผ่านการเชื่อมต่อ HDMI ตัวกล้องยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi รวมถึงรองรับการบันทึกเสียงได้ถึง 4 ช่องสัญญาณ(ผ่านระบบอินเตอร์เฟซ XLR, Multi Interface(MI) และ ไมค์สเตอริโอในตัว) นอกจากนี้ยังมาพร้อมช่องใส่การ์ดแบบ CF-Express Type-A ทำให้มีความเร็วในการเขียนและอ่านที่เร็วขึ้นนอกเหนือจากการ์ด SDXC UHS-II / UHS-I
นอกจากนี้กล้อง FX6 ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ Sony’s Catalyst Browse/Prepare ที่จะช่วยแก้ไขได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถโอนไฟล์จากกล้อง FX6 ไปยังซอฟต์แวร์ Catalyst Browse/Prepare ได้อย่างเสถียรและรวดเร็วอีกด้วย ในขณะที่ตัวกล้องยังมีปุ่ม Clip Flag เพื่อให้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยกล้อง FX6 สามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชั่น Content Browser Mobile ของโซนี่ เพื่อทำการตรวจสอบ, ควบคุมโฟกัส และการซูมระยะไกลได้เป็นอย่างดี
สำหรับ “Sony FX6” พร้อมวางจำหน่ายในตลาดเมืองไทย วันที่ 17 ธันวาคม ศกนี้ ในราคา 224,990 บาท ผู้สนใจสามารถทดลองประสิทธิภาพของ “Sony FX6” ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์สาขาสยามพารากอน สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th