Smart Review
รีวิว Sony WF-1000XM4 หูฟัง TWS รุ่นท็อปที่กลับมาทวงบัลลังก์ “หูฟังตัดเสียงที่ดีที่สุด”
รีวิวหูฟัง Sony WF-1000XM4 หูฟัง TWS ตัวท็อปรุ่นล่าสุดของ Sony ที่กลับมาทวงบัลลังก์หูฟัง TWS ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด พร้อมอัปเกรดความสามารถใหม่ ๆ และลดขนาดให้กะทัดรัดและลงตัวมากขึ้นในทุกมิติ
และหลังจากได้ลองใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ขอมารีวิวประสบการณ์การใช้งานให้ชมกันแบบเต็ม ๆ พร้อมแล้ว มาติดตามกันครับ
คุณสมบัติ Sony WF-1000XM4
- น้ำหนัก : ประมาณ 41 กรัม
- ไดรเวอร์ยูนิต : 6 มม.
- หน่วยประมวลผล : Sony V1
- ระบบตัดเสียงรบกวน : รองรับ Noise Canceling
- รูปแบบเสียงที่สนับสนุน : SBC, AAC, LDAC
- Bluetooth : 5.2
- ป้องกันน้ำ : IPX4
- แบตเตอรี่ : สูงสุด 8 ชม. (เปิด NC) 12 ชม. (ปิด NC)
- เวลาการชาร์จ : 1.5 ชม.
ดีไซน์กะทัดรัดกว่าเดิม เล็กลง 40%
เริ่มต้นที่ดีไซน์ก่อนเลย แว้บแรกที่เห็นก็ต้องยอมรับว่าขนาดของ Sony WF-1000XM4 นั้นเล็กลงมาก ตัวเคสชาร์จมีขนาดที่กะทัดรัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นขนาดที่พกพาติดกระเป๋าไปได้ง่ายเหมือนเคสชาร์จของหูฟัง TWS ทั่ว ๆ ไปเลยล่ะครับขนาดนี้
ซึ่งหากเทียบกับรุ่นเก่าแล้ว (WF-1000XM3) ขนาดคัวเคสชาร์จจะลดลงถึง 40% เลยทีเดียว เทียบให้เห็นกันจะจะเห็นชัดเลยว่าเล็กลงมาก หลายคนที่เคยใช้รุ่นก่อนมาแล้วขัดใจในเรื่องการพกพา เปลี่ยนมาเป็นรุ่นต้องถูกใจอย่างมากแน่นอนครับ
ในเรื่องดีไซน์ตัวเคสชาร์จของ WF-1000XM4 จะมีทรงที่เรียบหรูมากขึ้น ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านผิวทราย ให้ความรู้สึกที่หรูหราแต่ไม่เลอะง่าย ใช้สีเดียวไปทั้งตัวเคสชาร์จตัดด้วยโลโก้ Sony สีทองด้านบน ต่างจากรุ่นก่อนที่ฝาเคสชาร์จจะเป็นสีทองครับ
แต่ทีเด็ดเหนือสิ่งอื่นใดก็คือรอบนี้เราสามารถวางเคสชาร์จตั้งได้แล้วครับ เนื่องจากที่ฐานด้านล่างจะทำเป็นพื้นเรียบแทน ต่างจากรุ่นก่อนที่เป็นแบบโค้งมนทำให้วางตั้งปกติไม่ได้นั่นเอง
ที่ด้านหน้าของเคสชาร์จจะมีไฟ LED บอกสถานะขนาดใหญ่ที่เมื่อเราเปิดฝาเคสหรือดึงหูฟังออกมาก็จะโชว์เป็นสีต่างๆ ตามความจุแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ครับ ตรงนี้เราชอบมากเพราะแถบไฟใหญ่แบบสะใจจริง ๆ นอกจากจะบอกสถานะได้แล้ว ยังเพิ่มความสวยงามเวลาใช้งานอีกด้วยนะ
ส่วนด้านหลังของเคสชาร์จจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type-C อยู่ด้วย ซึ่งรอบนี้ก็วางตำแหน่งไว้ดี เราสามารถวางตั้งแล้วชาร์จไปได้ด้วยเลยครับ
หูฟังก็เล็กลง 10%
นอกจากตัวเคสชาร์จที่เล็กลงแล้ว ตัวหูฟังของ WF-1000XM4 ก็ยังมีขนาดที่เล็กลงด้วย เปลี่ยนเป็นทรงกลมพร้อมจุก In-Ear เท่านั้น ไม่ยื่นออกมามากเท่ารุ่นก่อน ซึ่งตรงนี้ทำให้เวลาเราใส่ใช้งานนั้นไม่เกะกะเท่าไหร่แล้ว ชอบมาก ๆ
ซึ่งหากเทียบขนาดกับรุ่นก่อน (WF-1000XM3) แล้วตัวหูฟังจะมีขนาดที่เล็กลงกว่า 10% เวลาใส่ใช้งานก็คล่องตัวมากขึ้นไปอีกครับ
ตัวจุกหูฟังรอบนี้จะเปลี่ยนจากจุดยางเป็นโฟมโพลิยูริเธน ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นมากกว่าแบบเก่า ทำให้เวลาเราสวมใส่เข้าไปในหูจะกระชับมากขึ้นอีกครับ ผิวสัมผัสให้ความนุ่มไม่ระคายหูดีครับ
เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 มีแอปใช้งานคู่ด้วย
ได้เวลามาเชื่อมต่อกันแล้ว Sony WF-1000XM4 รูปแบบการเชื่อมต่อของหูฟังตัวนี้จะแตกต่างจากหูฟัง TWS รุ่นอื่นๆ นิดหน่อย ตรงที่เราต้องเอาหูฟังมาใส่ในหูเราก่อนแล้วแตะที่ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้างค้างไว้จนมีเสียง “Bluetooth Connected” จากนั้นก็เชื่อมต่อบนสมาร์ทโฟนได้เลยครับ
ซึ่งถ้าเราใช้งานสมาร์ทโฟนของ iOS ก็เข้าไปตั้งค่าปกติ แต่หากเป็นสมาร์ทโฟน Android รอบนี้ตัว WF-1000XM4 จะมีฟีเจอร์ Google Fast Pair มาให้ด้วย เมื่อมีเสียงพูดว่า “Bluetooth Connected” แล้วก็หยิบมือถือขึ้นมาแตะเชื่อมต่อได้ทันทีครับ
และเมื่อเราเชื่อมต่อกันแล้ว ตัวระบบจะแจ้งเตือนขึ้นมาทันทีว่ามีแอปแล้วหรือยังและแนะนำให้เราดาวน์โหลดได้ทันทีทั้ง App Store และ Play Store เลยครับ ซึ่งแอปหลักที่ใช้ในการตั้งค่า WF-1000XM4 เพิ่มเติมก็คือ Sony | Headphones Connect นั่นเองครับ
ในแอปนี้จะมีสถานะของตัวหูฟังบอกทั้งแบตเตอรี่ เพลงที่ฟังอยู่ รวมถึง Adaptive Sound Control หรือสถานะการใช้งานหูฟังในขณะนั้นด้วย โดยบน WF-1000XM4 จะมีโหมดสถานการณ์ใช้งานแยกย่อยมาอีก 4 โหมดดังนี้
- Staying > เปิด Noise Canceling ใช้งานอยู่นิ่ง ๆ อยู่กับที่โหมดนี้จะเปิดตัว NC ไว้ให้ แต่ยังพอได้ยินเสียงการประกาศต่าง ๆ ได้อยู่ครับ
- Walking > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะเดินตรงนี้จะเปิดเป็น Ambient Sound ให้เราได้รับเสียงภายนอกเข้ามาด้วย
- Running > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะวิ่ง เปิดรับเสียงภายนอกสูงสุดเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยครับ
- Transport > เปิด Noise Canceling สำหรับการใช้งานตอนเดินทาง เปิด NC แบบครบถ้วนเพื่อให้ได้อรรถรสในการฟังมากที่สุดครับ
ซึ่งโหมดการใช้งานพวกนี้เราไม่จำเป็นต้องปรับเลยครับ เพราะตัวระบบของหูฟังจะคอยตรวจจับให้เองเลยตามการใช้งาน ถ้ามีการเดินสักพักตัวระบบจะมีการปรับไปเป็นโหมด Walking เพื่อเปิด Ambient Sound เลย หรือเดินทางผ่านรถโดยสารก็จะตัดเสียงเปิด Noise Canceling ให้เลย
ระบบตัดเสียง Noise Canceling ที่ดีที่สุด
อย่างที่บอกว่า Sony WF-1000XM4 นั้นกลับมาทวงบัลลังก์หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด รอบนี้ตัวหูฟังได้รับการอัปเกรดขึ้นมาอีกขั้น ทำงานร่วมกับระบบประมวลผลใหม่ Integrated Processor V1 ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดย Sony ซึ่งสามารถตัดเสียงรบกวนได้มากกว่าที่เคย และไดรเวอร์ยูนิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมไมโครโฟนช่วยแยกเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งตัวโฟมโพลิยูริเธนก็ยังช่วยให้กระชับพอดีหู ใส่ปุ๊บก็รู้เลยว่าคำว่า “ตัดเสียงรบกวนแบบสมบูรณ์” แบบเป็นอย่างไร
เสียงเทพระดับ Hi-Res
ส่วนเรื่องเสียง แน่นอนว่า Sony นั้นเป็นเทพด้านนี้อยู่แล้ว บน WF-1000XM4 รองรับเสียงความละเอียดสูงแบบไร้สายแล้ว ด้วยไดรเวอร์ขนาด 6 มม. ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจึงทำให้เกิดเสียงไดนามิก แม้จะมีขนาดเล็กและไดอะแฟรมที่มีความสอดคล้องสูงจะให้ช่วงเสียงเบสที่ชัดเจน Integrated Processor V1 ยังช่วยยกระดับคุณภาพเสียงและลดการบิดเบือน และช่วยให้สามารถประมวลผล LDAC codec และ DSEE Extreme ได้อีกด้วย
เราลองใช้งานจริงแล้วก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังจริง ๆ คุณภาพเสียงดีมาก รองรับระบบเสียง DSEE Extreme รองรับ 360 Reality Audio เบสก็อัดแน่นสมกับเป็น Sony มีมิติในทุกย่านเสียง รูปแบบ EQ ก็มีให้ปรับเลือกในแอปอีกหลายแบบ อย่างในรีวิวนี้เราลองใช้แบบ Bass Boost แล้วฟังเพลงที่มีเบสแน่น ๆ บอกเลยว่าฟินมาก ๆ แถมได้ระบบตัดเสียงขั้นเทพแบบนี้อีก ทุกเสียงทุกรายละเอียดของเพลงอบอวลอยู่ในหูของเราแบบไม่มีอะไรมากวนเลยล่ะครับ
คุณภาพเสียงระดับนี้ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยมอย่างที่บอกไป การดูหนังก็ยังไม่ธรรมดาเช่นกัน เสียงชั้นยอดมอบประสบการณ์การดูหนังได้อย่างมีมิติ การซิงค์เสียงก็แม่นยำได้อรรถรสอย่างครบถ้วนครับ เราลองกับทั้ง Disney+ Hotstar, Netflix หรือ YouTube ก็ไม่มีปัญหาครับ
ส่วนเรื่องการเล่นเกม เท่าที่ลองใช้งานกับเกม Call of Duty ผ่าน iPhone 12 Pro Max ก็ถือว่าทำได้ดีครับ แม้เสียงจะไม่ได้ซิงค์แบบตรงกับภาพแบบเป๊ะ ๆ แต่ก็ยังใส่ใช้งานควบคู่ไปได้ เสียงกระสุนตามมากับภาพนิดหน่อยเท่านั้น คือถ้าจะมาใช้งานเล่นเกมก็ทำได้นั่นแหละครับ
ฟีเจอร์ Speak to Chat คุยได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
แน่นอนว่าหูฟังที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีแบบนี้เวลาเราจะพูดคุยก็อาจจะเจอปัญหาว่าตัดเสียงภายนอกเกินไป ทำให้เราไม่ได้ยินเสียงคู่สนทนาได้ชัดเจน แต่บน WF-1000XM4 นั้นจะมีฟีเจอร์ Speak to Chat มาให้ด้วย โดยตัวหูฟังจะมีฟีเจอร์ตรวจจับการพูดของเรา หากมีการพูดออกมาระบบจะปรับโหมดอัตโนมัติเป็น Ambient Sound รับเสียงภายนอกเข้ามาทำให้เราพูดคุยกับคนอื่นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแตะที่ตัวหูฟังเลย และเมื่อเราหยุดพูดระบบก็จะตัดสลับมาที่ Noise Canceling ให้
แต่ตรงนี้จะมีระยะเวลาประมาณ 5 วินาทีหลังจากที่หยุดพูดครับ ไม่ได้ทันทีทันใดเพราะหลังจากพูดแล้วก็ควรเป็นผู้ฟังต่อด้วยอะเนาะ ซึ่งระยะเวลาการสลับโหมดนี้เราสามารถตั้งค่าได้เพิ่มเติมจากในแอป Sony Headphone เลยครับ
คุยโทรศัพท์ก็ยังยอดเยี่ยม
หรือถ้าจะใช้งาน WF-1000XM4 ในการคุยโทรศัพท์ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ตัวหูฟังมาพร้อมระบบตรวจจับเสียงที่แม่นยำใช้ไมโครโฟน Beamforming และเซนเซอร์ bone-conduction ทำให้ใช้งานคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน นอกจากนี้ระบบตัดเสียงรบกวนยังช่วยให้เราได้ยินเสียงคู่สนทนาได้ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้ในสถานการณ์ที่มีเสียงดังได้อีกด้วย
ควบคุมผ่านระบบสัมผัสได้ด้วย
แม้ขนาดหูฟังของ WF-1000XM4 นั้นจะเล็กลงกว่า 10% แต่การทำงานระบบสัมผัสที่ตัวหูฟังก็ยังมีให้ใช้งานเหมือนเดิมครับ ในค่าเริ่มต้นจะแบ่งเป็นฝั่งซ้าย-ขวา ฝั่งซ้ายเป็นการเปิด-ปิด Noise Canceling ฝั่งขวาเป็นการควบคุมเครื่องเล่นเพลงเป็นต้นครับ ซึ่งหากอยากปรับการใช้งานก็ทำได้ที่แอป Sony | Headphones เหมือนเดิมครับ
มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
ตัวหูฟัง WF-1000XM4 นั้นจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใสด้วย เวลาเราถอดหูฟังออกจากหูทุกอย่างก็จะหยุดทันที ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนังอยู่ และก็จะเล่นต่อแบบอัตโนมัติทันทีเมื่อเราใส่หูฟังกลับเข้าไปด้วยครับ
กันน้ำ IPX4
ตัวหูฟัง WF-1000XM4 นั้นมาพร้อมความสามารถกันน้ำมาตรฐาน IPX4 ด้วย หมายความว่าเราสามารถใส่ใช้งานออกกำลังกายแบบทั่วไปได้ จะใส่วิ่งแล้วมีเหงื่อออก ใส่เดินแล้วโดนละอองฝนก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายครับ หายห่วงเลย
แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 24 ชม.
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ Sony WF-1000XM4 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่ารุ่นก่อน แค่หูฟังก็สามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชม.แล้ว แบบ เปิด Noise Canceling ด้วยนะ และบวกกับเคสชาร์จอีก 16 ชม. ก็เท่ากับว่าใช้งานรวมได้ถึง 24 ชม. เลยทีเดียว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหูฟัง TWS ที่แบตเตอรี่อึดเอามาก ๆ
มีชาร์จไว 5 นาทีฟังได้ 60 นาที
WF-1000XM4 มาพร้อมระบบชาร์จไวที่ชาร์จเพียง 5 นาทีก็ใช้งานต่อได้อีก 60 นาทีแล้วครับ หายห่วงหากต้องการจะใช้แบบด่วน ๆ ขอแค่ชาร์จไวไม่กี่นาทีก็ใช้งานต่อได้แล้วครับ และอย่างที่บอกรอบนี้ตัวเคสชาร์จสามารถวางชาร์จได้แบบตั้งแล้วด้วย เวลาชาร์จเราก็จะได้เห็นไฟ LED สถานะไปในตัวครับ
แถม WF-1000XM4 ยังมีระบบชาร์จไร้สายมาให้ด้วย ทีนี้เราก็สามารถวางเคสชาร์จไว้ที่แท่นได้เลย สำหรับใครที่ไม่อยากมาเสียบสายที่เคสชาร์จอะเนาะ และถ้าใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่มีระบบ Reverse Wireless อย่าง Xperia รุ่นใหม่ ๆ ก็แค่วางชาร์จที่ฝาหลังได้เลยด้วยครับ
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังตัดเสียงที่ดีที่สุด”
สรุปให้เลยละกันครับ Sony WF-1000XM4 ถือว่าเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนแบบไร้สายที่ดีที่สุดที่เราเคยใช้มาเลยครับ ! ด้วยฟีเจอร์ Noise Canceling ที่อัจฉริยะ ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผล Sony V1 ให้ทุกเสียงรบกวนหายไปในทันตา คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res ที่ Sony ถนัดก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ เชื่อมต่อแบบไร้สายได้แบบไม่มีสะดุด ดูหนัง ฟังเพลง ถูกใจแน่นอน ไมโครโฟนก็เก็บเสียงได้ดีขึ้น คุยกันชัดเจนกว่าเดิม และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือขนาดที่เล็กลงกว่ารุ่นก่อนมาก แต่คุณภาพไม่ได้ลดหย่อนลงเลยแถมดีขึ้นอีกด้วย เอาเป็นว่าใครที่กำลังหาหูฟังระดับพรีเมี่ยมแบบที่สุด หูฟังตัวนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนครับ !!
ราคา Sony WF-1000XM4
Sony WF-1000XM4 เปิดราคามาที่ 8,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือสีดำและสีเงิน รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ