Smart Review
รีวิว Sony WF-1000XM5 การกลับมาของหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด ในขนาดกะทัดรัดและน่าใช้งานกว่าที่เคย!
รีวิว WF-1000XM5 หูฟังไร้สาย TWS ตัวล่าสุดจาก Sony ที่กลับมายกระดับมาตรฐานของ “หูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีสุด” อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีเสียงขั้นเทพ, ชิปคู่ใหม่ V2 + QN2e, ในขนาดที่กะทัดรัดลงกว่ารุ่นก่อนถึง 25% เรียกว่าทำการบ้านมาดีมากครับรอบนี้ และหลังจากเราลองใช้งานจริงกว่า 1 สัปดาห์วันนี้ก็จะมารีวิวให้ชมว่าน่าใช้สักแค่ไหน พร้อมแล้วติดตามครับ!
คุณสมบัติ Sony WF-1000XM5
- ขนาดเคสชาร์จ : 64.6 x 40.0 x 26.5 มม.
- น้ำหนักเคสชาร์จ : ประมาณ 39 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง : 5.8 กรัม (ต่อข้าง)
- ไดรเวอร์ยูนิต : 8.4 มม.
- หน่วยประมวลผล : Sony V2 + QN2e
- ระบบตัดเสียงรบกวน : รองรับ Noise Canceling
- รูปแบบเสียงที่สนับสนุน : SBC, AAC, LDAC
- Bluetooth : 5.3
- ป้องกันน้ำ : IPX4
- แบตเตอรี่ : สูงสุด 8 ชม. (เปิด NC) 12 ชม. (ปิด NC)
- เวลาการชาร์จ : 2 ชม.
แกะกล่อง Sony WF-1000XM5
ก่อนจะไปดูดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์การใช้งาน เรามาดูแพ็กเกจและเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาสักนิดดีกว่า WF-1000XM5 มาพร้อมกล่องกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด ที่ด้านหน้ามีแถบคาดที่ระบุชื่อรุ่นและภาพประกอบอยู่ ซึ่งภาพตรงนี้ก็จะระบุสีสันด้วย และสีที่เราได้มาคือสี Silver ครับ
แพ็กเกจกล่องเป็นกระดาษรีไซเคิลมีความรักษ์โลกมากขึ้น ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีทีเดียว อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาก็จะปรับกอบด้วย 5 อย่างหลัก ๆ ดังนี้
- ตัวหูฟัง Sony WF-1000XM5
- EarTip ขนาด SS, S และ L
- สายชาร์จ USB-C to A
- เอกสารคู่มือ
- โค้ดทดลองใช้งานบริการ 360 Reality Audio
ดีไซน์ใหม่ เล็กลง 25% เบาลง 20%
อะ…ได้เวลาชมดีไซน์กันแล้ว อย่างที่บอกว่า WF-1000XM5 นั้นมีขนาดที่เล็กลงถึง 25% เรียกว่าถูกใจเรามาก เพราะสามารถพกติดกระเป๋าไปได้ง่ายกว่าเดิม มองแว้บแรกก็รู้ได้เลยว่านี่คือขนาดที่พอเหมาะพอเจาะจริง ๆ ครับ
เห็นตัวเลขอย่างเดียวคงไม่พองั้นเราเอาภาพเปรียบเทียบระหว่าง WF-1000XM4 (สีดำ) กับ WF-1000XM5 (สีเงิน) มาวางคู่กันชัด ๆ เลยละกัน จะเห็นว่าขนาดนั้นเล็กลงชัดเจน
เปรียบเทียบขนาดกับรุ่นก่อนไปแล้ว เราขอเจาะในเรื่องของดีไซน์เพิ่มเติมอีกหน่อยดีกว่า ตัวเคสชาร์จของ WF-1000XM5 นั้นมาพร้อมวัสดุพลาสติกรีไซเคิลผิวด้านที่มอบสัมผัสได้ดีเวลาจับถือ ให้ความรู้สึกที่เรียบง่ายและไม่เลอะง่ายดีครับ ที่ด้านหน้าเคสชาร์จจะมีไฟ LED บอกสถานะแบตเตอรี่ที่รอบนี้ปรับเป็นแบบจุดเล็ก ๆ แทน ตรงนี้เราขอตินิดหนึ่งเพราะในรุ่นก่อนทำมาเท่มาก ๆ ด้วยแถบไฟขนาดใหญ่ แต่มารุ่นนี้กลับไปใช้แบบมาตรฐานลดความโดดเด่นไปเยอะเลยนะ
ส่วนด้านหลังของเคสชาร์จจะมีพอร์ตชาร์จแบบ USB-C และปุ่ม Reconnect อยู่ด้วย สะดวกต่อการใช้งานและรูปลักษณ์ทั่วไปก็สวยเพราะทุกอย่างจะวางไว้ที่ด้านหลังหมดแบบนี้เลย
ผิวสัมผัสแบบใหม่ในตัวหูฟัง
ตัวหูฟังของ WF-1000XM5 นั้นเปลี่ยนรูปแบบผิวสัมผัสใหม่ให้ตัวหูฟังโดยรวมเป็นผิวมันวาว ในขณะที่ยังทิ้งส่วน Touch Panel เป็นแบบด้านแทน ตรงนี้เราว่าเป็นดีไซน์ที่สวยดีเวลามองเพราะมีความหรูหราอยู่ไม่น้อย แต่…ในการใช้งานจริงเราแอบติดใจอยู่นิดหน่อยตรงที่พอเป็นผิวมันเวลาจะหยิบออกจากเคสจะแอบลื่นไม่น้อยเลย ทำให้ดึงตัวหูฟังออกมาได้ยากกว่าแบบก่อนพอควร ถ้ายิ่งนิ้วมันหน่อยนี่ดึงกันหลายทีเลยล่ะ
หูฟังเบาลง 20%
เอาล่ะ! มองข้ามเรื่องการหยิบหูฟังไปก่อนเพราะบางคนอาจไม่เจอปัญหานี้ มาดูเรื่องที่เราชอบกันบ้าง นั่นก็คือขนาดและน้ำหนักครับ เพราะรอบนี้ทำได้เล็กและเบาลงอีก 20% (7.3 กรัม vs 5.8 กรัม) ทำให้สวมใส่ได้สบายขึ้นเวลาอยู่ในหูก็ไม่หนักเท่าเดิม แถมยังมีการปรับขนาดให้พอดีกับหูมากขึ้น เวลาใส่จะรู้สึกได้เลยว่าไม่เทอะทะเท่ารุ่นก่อนครับ
ตัวจุกหูฟังรอบนี้จะใช้เป็นโฟมโพลิยูริเธนที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ทำให้เวลาเราสวมใส่เข้าไปในหูจะกระชับมากขึ้น ผิวสัมผัสให้ความนุ่มไม่ระคายหู และยังทำให้มีความแน่นกันเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดีอีกต่างหากครับ
แต่ตรงนี้ต้องบอกว่าหูของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากันเนาะ เพราะฉะนั้น Sony จึงมีตัวเลือกของ EarTip มาให้เราเลือกเปลี่ยนถึง 4 ขนาด ก่อนใช้งานจริงแนะนำว่าเราอาจจะต้องลองให้ครบก่อนว่าขนาดไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด อย่างที่ติดมาในกล่องเลยจะเป็นไซซ์ M ครับ ถ้าใส่แล้วอึดอัดไปหน่อยก็อาจจะลองกลับมาใช้เป็น S หรือ SS อีกทีได้ครับ
กันน้ำมาตรฐาน IPX4
เช่นเดียวกับรุ่นก่อน WF-1000XM5 นั้นมาพร้อมความสามารถกันน้ำระดับ IPX4 คือกันพวกละอองน้ำได้ หมายความว่าเราสามารถใส่ออกกำลังกายได้ด้วยครับ จะใส่วิ่ง ใส่เดิน ปั่นจักรยาน ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องเหงื่อไปโดนตัวหูฟัง หรือช่วงน่าฝนแบบนี้ อาจจะต้องลุยฝนกันบ้าง ก็มั่นใจได้ว่าหูฟังรุ่นนี้ทนได้แน่นอนครับ
โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ Sony WF-1000XM5 ก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องขนาดและน้ำหนักที่ปรับให้พอเหมาะพอเจาะกว่าเดิม ตัวเคสก็เล็กลงพกพาสะดวกขึ้นไปอีก ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านหยิบจับได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือ ตัวหูฟังก็เล็กและเบาลงทำให้สามารถใส่ในหูได้แบบไม่เทอะทะ แต่ก็ยังมีจุดสังเกตอยู่เหมือนกันคือเรื่องไฟสถานะที่ลดความเท่ลงกับตัวผิวสัมผัสของหูฟังที่มันวาวไปหน่อยอาจจะหยิบออกจากเคสได้ยาก แต่เชื่อว่าเป็นเรื่องที่สามารถปรับตัวกันได้ไม่ยากครับ
เชื่อมต่อกันผ่าน Bluetooth 5.3 มีแอปตั้งค่าเพิ่มเติม
Sony WF-1000XM5 สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ได้ผ่านระบบ Bluetooth 5.3 โดยในครั้งแรกที่เปิดฝาเคสชาร์จถ้าเป็นสมาร์ทโฟน Android ก็จะมีฟีเจอร์ Google Fast Pair คอยแจ้งเตือนการจับคู่ให้เราได้เชื่อมต่อได้ทันทีครับ
สำหรับแอปที่จะใช้งานร่วมกันระหว่าง WF-1000XM5 กับสมาร์ทโฟนจะเป็นแอป Sony Headphones ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS และ Android ครับ ในแอปนี้จะมีสถานะของตัวหูฟังบอกทั้งแบตเตอรี่ เพลงที่ฟังอยู่ รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 5 หมวดหลัก ๆ คือ
- Adaptive Sound Control : โหมดปรับ NC และ Ambient Sound ตามสถานการณ์ต่าง ๆ
- Speak to Chat : เปิด-ปิดฟีเจอร์ พูดเพื่อสลับไปใช้ Ambient Sound อัตโนมัติ
- Equalizer : ปรับรูปแบบเสียงสำหรับฟังเพลง
- 360 Reality Audio : ตั้งค่าฟีเจอร์ 360 Reality Audio
- DSEE Extreme : เปิด-ปิดฟีเจอร์อัปสเกลคุณภาพเสียง
Adaptive Sound Control ปรับรูปแบบเสียงตามสถานการณ์
อย่าง Adaptive Sound Control หรือสถานะการใช้งานหูฟังในขณะนั้น เช่นเดียวกับรุ่นก่อน ๆ WF-1000XM5 จะมีโหมดสถานการณ์ใช้งานแยกย่อยมา 4 โหมดและการตั้งค่าเริ่มต้นดังนี้
- Staying > เปิด Noise Canceling ใช้งานอยู่นิ่ง ๆ อยู่กับที่โหมดนี้จะเปิดตัว NC ไว้ให้ แต่ยังพอได้ยินเสียงการประกาศต่าง ๆ ได้อยู่ครับ
- Walking > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะเดินตรงนี้จะเปิดเป็น Ambient Sound ให้เราได้รับเสียงภายนอกเข้ามาด้วย
- Running > เปิด Ambient Sound ใช้งานขณะวิ่ง เปิดรับเสียงภายนอกสูงสุดเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยครับ
- Transport > เปิด Noise Canceling สำหรับการใช้งานตอนเดินทาง เปิด NC แบบครบถ้วนเพื่อให้ได้อรรถรสในการฟังมากที่สุดครับ
ซึ่งค่าเริ่มต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างดีแล้ว เราแทบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลย แต่ถ้าอยากปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราก็เข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Sony Headphones นี้แหละครับ
ชิปคู่ V2 + QN2e อัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นทุกด้าน
สำหรับประสิทธิภาพของ WF-1000XM5 นั้นเรียกว่าอัปเกรดขึ้นจากรุ่นก่อนอยู่หลายจุดเลย อย่างแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือชิปเซ็ตภายใน รอบนี้ Sony ให้ชิปมาถึง 2 ตัวคือ V2 และ QN2e เข้ามาช่วยประมวลผลร่วมกันในหลายด้านทั้ง การตัดเสียงรบกวน, คุณภาพเสียง, การเชื่อมต่อ Bluetooth และการประหยัดพลังงานเลยทีเดียว
ระบบตัดเสียง Noise Canceling ที่ดีที่สุด
หากพูดถึงจุดเด่นของหูฟังซีรีส์ 1000X เชื่อว่าทุกคนคงนึกถึงระบบตัดเสียงรบกวนเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่งรุ่นนี้ก็เป็นการกลับมาของเทพตัดเสียงรบกวนอีกครั้ง เพราะด้วยการประมวลผลของชิปใหม่ 2 ตัว พร้อมไมโครโฟนไมโครโฟนความถี่ต่ำ 2 ตัวช่วยแยกเสียงรบกวนได้ดีขึ้น พร้อมทั้งตัวโฟมโพลิยูริเธนก็ยังช่วยให้กระชับพอดีหู ทำให้ WF-1000XM5 รุ่นนี้สามารถตัดเสียงได้เงียบกว่ารุ่นก่อนถึง 20% เลยทีเดียว สมกับเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนเทพจริง ๆ
คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม
แน่นอนว่าเรื่องก็เป็นอีกจุดเด่นของ WF-1000XM5 เพราะรุ่นนี้ขนทุกเทคโนโลยีด้านเสียงมาให้หมดแล้ว ตั้งแต่ไดรเวอร์แบบโดมขนาด 8.4 มม.ที่ให้มิติเสียงครอบคลุมในทุกย่านเสียง และยังมีชิป QN2e ที่เช้ามาประมวลผลเพิ่มทำให้คุณภาพเสียงสูงและไม่มีผิดเพี้ยน และช่วยให้สามารถประมวลผล LDAC codec ได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ DSEE อัปเกรดเสียง
นอกจากนี้หูฟัง WF-1000XM5 ยังมีฟีเจอร์ Digital Sound Enhancement Engine (DSEE) ที่จะช่วยคืนค่าองค์ประกอบความถี่สูงซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มรายละเอียดและความสมบูรณ์ของเพลงให้เที่ยงตรงเพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับการบันทึกต้นฉบับมากที่สุดอีกด้วย
ซึ่งเท่าที่เราลองใช้งานจริงก็ต้องบอกเลยว่าเบสทุ้มลึกราบรื่นขึ้น ความลึกของเบสดีมากให้เสียงและพลังที่สมจริง รวมถึงมิติเสียงกับตำแหน่งดนตรียังแม่นยำ เสมือนนั่งฟังอยู่ในสถานที่จริงยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ
คุณภาพเสียงระดับนี้ต้องบอกเลยว่าเหมาะกับทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยมอย่างที่บอกไป การดูหนังก็ยังไม่ธรรมดาเช่นกัน เสียงชั้นยอดมอบประสบการณ์การดูหนังได้อย่างมีมิติ การซิงค์เสียงก็แม่นยำได้อรรถรสอย่างครบถ้วนครับ
คุยโทรศัพท์ก็ยอดเยี่ยม
เรื่องคุยโทรศัพ์ก็ยังเป็นจุดเด่นของ WF-1000XM5 เช่นกัน ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับเสียงอันแม่นยำที่ควบคุมไมโครโฟนทั้งภายในและภายนอกหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเซนเซอร์ Bone-conduction ที่ตรวจจับการสั่นสะเทือนของกระดูกเพื่อรับเสียงพูดเท่านั้น ทำให้การสนทนานั้นชัดเจน แถมยังมีอัลกอริธึมจาก AI ที่ใช้ตัวอย่างเสียงมากกว่า 500 ล้านตัวอย่าง เพื่อลดเสียงรบกวนรอบข้างและดึงเสียงของเราออกมาอย่างชัดเจนที่สุด
ฟีเจอร์ Speak to Chat คุยได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
หรือถ้าจะใช้งานพูดคุยแบบตัวต่อตัว WF-1000XM5 ก็มีฟีเจอร์ Speak to Chat มาให้ด้วย โดยตัวหูฟังจะมีฟีเจอร์ตรวจจับการพูดของเรา หากมีการพูดออกมาระบบจะปรับโหมดอัตโนมัติเป็น Ambient Sound รับเสียงภายนอกเข้ามาทำให้เราพูดคุยกับคนอื่นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแตะที่ตัวหูฟังเลย และเมื่อเราหยุดพูดระบบก็จะตัดสลับมาที่ Noise Canceling ให้ ส่วนเวลาในการเปิดรับเสียงก็สามารถตั้งค่าได้จากในแอป Sony Headphones เลยครับว่าจะกี่วินาทีตัดกลับไป-มา
แบตเตอรี่ใช้ได้นาน 24 ชม.
ปิดท้ายที่แบตเตอรี่ WF-1000XM5 นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานเช่นเดียวกับรุ่นก่อน แม้ขนาดจะเล็กและบางลงก็ตาม คือตัวหูฟังเองสามารถใช้งานได้นานถึง 8 ชม.แล้ว (แบบเปิด Noise Canceling ด้วยนะ) และบวกกับเคสชาร์จที่สามารถชาร์จกลับได้อีก 2 รอบ ก็เท่ากับว่าใช้งานรวมได้ถึง 24 ชม. เลยทีเดียวครับ
และแน่นอน WF-1000XM5 ก็มีระบบชาร์จเร็วที่ชาร์จเพียง 3 นาทีก็สามารถฟังต่อเนื่องได้อีก 1 ชม.ด้วยครับ ตัวเครื่องรองรับทั้งระบบชาร์จผ่านสาย USB-C และชาร์จแบบไร้สายผ่านแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi ด้วย สะดวกสุด ๆ
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ราคา 10,990 บาท
Sony WF-1000XM5 เปิดราคามาที่ 10,990 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีเงิน (สีที่รีวิว) มีโปรโมชั่นรับของแถมเป็นเคสหนัง For The Music 1 ชิ้น (มูลค่า 790 บาท)และรับเพิ่มลำโพงไร้สาย XB13 (มูลค่า 2,390 บาท) เมื่อลงทะเบียน My Sony ภายในเดือนตุลาคมนี้ครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือหูฟังไร้สายที่ตัดเสียงได้ดีที่สุดแห่งวงการ”
สรุปแล้ว Sony WF-1000XM5 รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุดรุ่นใหม่ก็ว่าได้ กลับมายึดบัลลังก์ด้านนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการอัปเกรดทั้งชิปคู่ประมวลผลเชื่อม, ไดรเวอร์ตัวใหม่ ตัดเสียงได้ดีขึ้นอีก 20% จากรุ่นก่อน (ซึ่งเคยทำไว้ดีมาก ๆ แล้ว) แถมยังปรับดีไซน์ให้มีขนาดเล็กลงได้ 25% และเบาลงได้อีก 20% ทำให้พกพาได้สะดวกขึ้นแถมสวมใส่ได้สบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด เรื่องคุณภาพเสียงก็ไม่ต้องห่วง Sony ซะอย่าง เสียงดีระดับเทพ เบสนุ่มลึก ก็ถือว่าเป็นหูฟังรุ่นท็อปสุดที่ใครอยากได้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ จัดมาให้ครบทั้งตัดเสียงรบกวนเทพ, เสียงเทพ, ฟีเจอร์เทพ ๆ ถ้าใครกำลังอยากได้หูฟังรุ่นท็อปสุดแบบตัวจบเราว่า WF-1000XM5 รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ!