Smart Review
รีวิว Sony Xperia Z5 เรือธงลำเล็กสุด พร้อมกล้อง 23 ล้านพิกเซล โฟกัสเร็วแบบไฮบริด
Sony Xperia Z5 การกลับมาของสมาร์ทโฟนที่จัดเต็มทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง 23 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัสแบบไฮบิด จับภาพได้รวดเร็ว มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว Full HD และขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 810
สรุปสเปค Sony Xperia Z5 (E6653)
- ขนาดตัวเครื่อง 146 x 72 x 7.3 มม.
- น้ำหนัก 154 กรัม
- ใช้งานได้ซิมเดียว ขนาด nano SIM
- หน้าจอแสดงผล 5.2 นิ้ว Full HD
- ชิปประมวลผล Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 2 GHz Cortex-A57)
- แรม 3GB
- จีพียู Adreno 430
- ความจำภายในตัวเครื่อง 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD card สูงสุด 200GB
- กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD
- รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย 3G/4G LTE, WiFi MIMO, Bluetooth 4.1, NFC
- รองรับระบบ GPS, A-GPS
- รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop
- แบตเตอรี่ 2,900 mAh ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
- ปุ่ม Power มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- กันน้ำและป้องกันฝุ่น (IP65 และ IP68)
ดีไซน์ ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
Sony Xperia Z5 เป็นรุ่นที่ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่เรียกได้ว่าครั้งใหญ่สุดในตระกูล Xperia Z นับตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด โดยเฉพาะปุ่มควบคุมรอบตัวเครื่อง ในส่วนของขนาดและน้ำหนักไม่แตกต่างจาก Z3 ซึ่งถือว่าขนาดกำลังพอดีไม่เล็กและก็ไม่ใหญ่จนเกินไป
ขนาดตัวเครื่องของ Xperia Z5 อยู่ที่ 146 x 72 x 7.3 มม. ซึ่งหนาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Xperia Z3+ ที่ไม่เข้ามาทำตลาดในไทย ส่วนน้ำหนัก 154 กรัม ก็หนักกว่า Z3+ ที่หนักเพียง 144 กรัม
ฝาหลังของ Z5 เป็นกระจกแบบด้าน ต่างไปจากเดิมที่เป็นกระจกแบบใส ทำให้ผิวสัมผัสเหมือนเป็นพลาสติก แต่ผิวด้านก็ช่วยลดคราบรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ส่วนกรอบตัวเครื่องมีความโค้งมนสอดรับกับอุ้งมือ ช่วยให้กระชับเมื่อหยิบจับใช้งาน
เลนส์กล้องหลังความละเอียด 23 ล้านพิกเซล เลนส์ G มุมกว้าง 24 มม. Sony Exmor RS สำหรับเซ็นเซอร์มือถือ ขนาด 1/2.3 นิ้ว พร้อมแฟลช LED และมีสัญลักษณ์ NFC ที่ฝาหลังเพื่อระบุตำแหน่งสำหรับการใช้งานด้วย
ขอบทางด้านซ้ายตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดขนาด nano SIM และ microSD card ความจุสูงสุด 200GB โดยสิ่งที่หายไปจากรุ่นนี้คือที่ชาร์จสำหรับ Charging Dock อย่างที่เราเคยเห็นกับรุ่น Z3
ขอบทางด้านขวามีปุ่ม Power หรือปุ่มปิด/เปิดเครื่องที่เปลี่ยนดีไซน์ใหม่เป็นแบบยาวรี ซึ่งมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย จากเดิมจะมีดีไซน์แบบกลมนูนขึ้นมาเหนือกรอบตัวเครื่องเล็กน้อย ถัดลงมาจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มชัตเตอร์กล้องหรือกดเพื่อเข้าใช้งานเมนูกล้องถ่ายรูป
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน
ขอบด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อขนาด microUSB สำหรับชาร์จไฟแบตเตอรี่หรือถ่ายโอนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านสายเคเบิล และรูสำหรับสายคล้องโทรศัพท์ ซึ่งก็ถือว่ามีไม่กี่รุ่นที่ยังมีสิ่งนี้ในปัจจุบัน
หน้าจอแสดงผลของ Xperia Z5 มีขนาด 5.2 นิ้ว Full HD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ใช้แผงหน้าจอ IPS LCD ที่ผลิตเอง ความหนาแน่นของจุดพิกเซลประมาณ 428 พิกเซลต่อนิ้ว แน่นอนว่าให้สีสันที่คมชัด โดยให้สัดส่วนหน้าจอมาประมาณ 69.6% น้อยกว่ารุ่นเรือธงจากค่ายอื่น ซึ่งก็หมายถึงขอบจอด้านหน้ามีพื้นที่หนากว่านั่นเอง
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโลโก้ Sony โดยไฟแจ้งเตือนแบบ LED จะอยู่ชิดมุมขวาบน ส่วนด้านล่างหน้าจอไม่มีปุ่มใด ๆ โดยปุ่มนำทางจะอยู่บนหน้าจอแสดงผล และลำโพง 2 ตัวด้านหน้าให้เสียงเซอร์ราวน์
ตัวเครื่อง Xperia Z5 มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น ซึ่งไม่ต้องใช้ฝาปิดพอร์ตเชื่อมต่อแล้ว น่าจะช่วยให้ผู้ใช้งานหมดกังวลเวลาเจอฝนตก แต่ก็ไม่ควรนำไปแช่ในน้ำหรือใช้งานใต้นำ รวมไปถึงดำน้ำเพื่อใช้งานกล้องถ่ายรูป ซึ่งหน้าเว็บไซต์ Sony ระบุไว้ชัดเจน
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
Sony Xperia Z5 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง และก็มีปล่อยอัปเดทตามหลังมาเพื่อแก้บั๊กต่าง ๆ โดยหน้าตาอินเตอร์เฟซของ Lollipop เป็นแบบเรียบง่ายสะอาดตาตาม Material Design
ในหน้าล็อคสกรีนสามารถแตะลากปลดล็อคเข้าสู่หน้าโฮม หรือจะแตะที่ไอคอนโทรศัพท์เพื่อเข้าใช้งานเมนูการโทร และแตะที่ไอคอนกล้องเพื่อเข้าใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ทันที โดยรูปแบบการปลดล็อคสามารถตั้งได้ทั้งการปัด, PIN, รูปแบบการลาก และรหัสผ่าน ส่วนการปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือจะใช้งานได้อัตโนมัติเมื่อเพิ่มลายนิ้วมือไว้ในระบบแล้ว
ในหน้าโฮมสามารถจัดรูปแบบใหม่ได้ ทั้งการจัดวางไอคอนแแอพพลิเคชั่น, เพิ่มวิดเจ็ต, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง รวมไปถึงการเลือกใช้งานธีมที่มีให้เลือกใช้งานอีกเพียบ
ธีมที่มีให้เลือกใช้งานส่วนใหญ่จะมาจากภาพยนต์ และการ์ตูนดังหลายเรื่อง ซึ่งบางตัวที่ขายก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีด้วยขอเสนอพิเศษจาก Xperia Lounge อย่าลืมเข้าไปเลือกดูกันด้วยนะ
ลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นในส่วนของการแจ้งเตือน และแผงควบคุมการทำงานต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่าบน Android 5.1 Lollipop จะมีลูกศรตัวเลือกเพิ่มเติมในเมนู Wi-Fi และ Bluetooth นอกจากนี้แล้วไอคอนต่าง ๆ ในส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วย
App Drawer จัดเรียงแบบ 4 x 5 แถว เลือกจัดเรียงตามการใช้งานมากสุด, เรียงตามชื่อ หรือเรียงตามวันที่ที่ดาวน์โหลดมาติดตั้งก็ได้ นอกจากนี้แล้วในส่วนนี้ยังสามารถแตะที่ไอคอนแว่นขยายเพื่อพิมพ์คำค้นหาแอพพลิเคชั่นก็ได้
Task Manager ทาง Sony ใช้ตัวที่มากับ Android สำหรับเลือกสลับการใช้งานไป-มาระหว่างแอพพลิเคชั่นแต่ละตัวที่เปิดใช้งานอยู่ หรือจะเปิดการใช้งานก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Small Apps สำหรับเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นเป็นหน้าต่างเล็ก ๆ ขึ้นมาเหนือหน้าจอ สามารถลากไปส่วนไหนก็ได้ของหน้าจอ
เมนูการโทร มีแป้นพิมพ์ตัวเลขดูเรียบง่ายสบายตา ส่วนในเมนูรายชื่อติดต่อจะแบ่งออกเป็น 3 แท็บหลัก ๆ ได้แก่ รายชื่อทั้งหมด, รายการโปรด และกลุ่ม
เมนูการรับส่งข้อความ สามารถส่งเป็นข้อความตัวอักษร และแนบไฟล์มีเดียได้ เช่น รูปภาพ, รายชื่อ, วิดีโอ, ตำแหน่งแผนที่, เสียง เป็นต้น โดย Xperia Z5 มาพร้อมกับแป้นพิมพ์เสมือนแบบ QWERTY มีระบบแนะนำโดยเดาคำล่วงหน้า, เปลี่ยนคำให้อัตโนมัติ (สามารถปิดใช้งานได้), และสามารถบนตัวอักษรเพื่อรวมเป็นคำได้ด้วย เหมือนพวก Swype Keyboard
แอพอัลบั้มหรือแกลเลอรี่รูปภาพ นอกจากจะแสดงรูปภาพบนเครื่องมือถือแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับบริการออนไลน์ได้ เช่น Facebook, Picasa, Flickr และอื่น ๆ ส่วนตัวแก้ไขรูปภาพก็มีฟีเจอร์ให้ใช้งานครบ ทั้งฟิลเตอร์, กรอบรูป, ตัดบางส่วน, ปรับแสง และรวมหลายภาพต่อกัน
แอพเพลง เรียกได้ว่ามันคือเครื่องเล่นเพลง Walkman ที่มาอยู่บนมือถือ หน้าตาดูสวยงาม และเมนูการใช้งานก็เลือกใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งถูกซ่อนไว้ทางแถบด้านซ้าย โดยในหน้าการเล่นเพลงจะแสดงภาพปกอัลบั้มเพลง อีกทั้งยังเลือกค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงนั้น ๆ ผ่าน Wikipedia, Google และ YouTube ได้ด้วย
ในส่วนของเทคโนโลยีนอกจากจะมาพร้อมลำโพงสเตอริโอด้านหน้า ยังมีเทคโนโลยีด้านเสียงที่เรียกว่า DSEE HX เพิ่มคุณภาพไฟล์เพลงโดยการคืนย่านเสียงสูง ซึ่งฟีเจอร์นี้สำหรับการฟังด้วยหูฟังแบบใช้สายเท่านั้น ส่วนการฟังเพลงผ่านลำโพงตัวเครื่องด้วยเทคโนโลยี ClearAudio+ ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเสียงโดยการเลือกสนามเสียงที่ดีที่สุดในแต่ละแทร็ค
วิทยุ FM ต้องเสียบหูฟังเพื่อเป็นเสาอากาศรับสัญญาณ และทำงานร่วมกับ TrackID เพื่อค้นหาข้อมูลเพลงที่กำลังฟังได้
เครื่องเล่นวิดีโอ มีหน้าตาคล้ายกับแอพ YouTube ซึ่งทำให้การใช้งานดูคุ้นเคย ซึ่งขณะเล่นวิดีโอสามารถย่อหน้าต่างให้เล็กลงมาที่ด้านล่างขวาของหน้าจอเพื่อใช้งานอย่างอื่นได้
ระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power จดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ ขณะนี้สามารถใช้เพื่อปลดล็อคเครื่องได้เท่านั้น ซึ่งจากการใช้งานพบกว่าทำงานได้รวดเร็วมาก เพียงแค่แตะเบา ๆ และใช้งานได้เมื่อหน้าจอเปิดอยู่เท่านั้น ยังไม่สามารถทำงานได้ขณะหน้าจอปิด ส่วนการใช้ยืนยันการชำระเงินบน Play Store ต้องรออัปเดทเป็น Android 6.0 Marshmallow
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- Pressure Sensor ตรวจวัดความดันบรรยากาศโดยรอบ
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบคะแนน Benchmark และประสิทธิภาพการทำงาน
Sony Xperia Z5 รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งเป็น 64-bit ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810 Octa-core (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 และ Quad-core 2 GHz Cortex-A57) ซึ่งเป็นซีพียู 64-bit ทั้งตัวระบบและซีพียูต่างก็เป็น 64-bit ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กับแรม 3GB และจีพียู Adreno 430
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64-bit ซึ่งเป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 57,218 คะแนน ระดับคะแนนถือว่าเร็วแรงสมกับเป็นเรือธงรุ่นล่าสุดของค่าย แต่ก็ยังตามหลังคะแนนรุ่นเรือธงจาก Samsung และผลทดสอบคะแนนรวมจาก Quadrant Standard ทำได้ 36,023 คะแนน
ทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผลและหน่วยความจำแรม การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Xperia Z5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 1,362 และ Multi-Core ทำได้ 4,680 คะแนน
Basemark OS II เป็นการทดสอบประสิทธิการทำงานของหน่วยประมวลผลทั้ง Single-Core และ Multi-Core, ประสิทธิภาพหน่วยความจำ, กราฟิก และอื่น ๆ โดยผลคะแนนย่ิงสูงยิ่งดี ซึ่ง Xperia Z5 ทำคะแนนรวมได้ 1,507 พบว่าผลคะแนนดังกล่าวยังตามหลังเรือธงจากค่ายอื่นในปีนี้ทั้ง Samsung และ Apple
ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะด้วย GFXBench ผลคะแนนจะนับเป็น PFS (Frame per Second)
- Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.1 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 18 FPS
- 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 1 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด Full HD ทำได้ 17 FPS
- Manhattan ใช้ OpenGL ES 3.0 เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด ทำได้ 23 FPS
- 1080p Manhattan Offscreen ทดสอบเหมือนในข้อ 3 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด Full HD ทำได้ 23 FPS
- T-Rex เพื่อทดสอบการประมวลผลภาพสูงสุด แต่ใช้ OpenGL ES 2.0 ทำได้ 47 FPS
- 1080p T-Rex Offscreen เป็นการทดสอบเหมือนในข้อ 5 แต่เป็นคะแนนที่ความละเอียด Full HD ทำได้ 47 FPS
การทดสอบความประสิทธิการทำงานในการรันชุดคำสั่งต่าง ๆ บนหน้าเว็บเบราเซอร์ โดยผลการทดสอบจะออกมาเป็นผลคะแนน สำหรับการทดสอบด้วย BrowserMark ทำได้ 2,396 คะแนน (ยิ่งได้คะแนนมากยิ่งดี) และการทดสอบด้วย Kraken JavaScript ได้ 4,380.9 (ผลคะแนนยิ่งน้อยจะยิ่งดี) ซึ่งเบราเซอร์ที่มากับ Xperia Z5 ก็คือ Chrome
กล้องถ่ายรูป
Sony Xperia Z5 มาพร้อมเลนส์กล้องความละเอียด 23 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 เป็นเลนส์มุมกว้าง 24mm เซ็นเซอร์ Sony IMX300 ถ่ายภาพได้หลายอัตราส่วน โดยขนาดสูงสุดคือ 5520 x 4140 พิกเซล (ประมาณ 22.85 ล้านพิกเซล) อัตราส่วน 4:3 ในขณะที่อัตราส่วน 16:9 ได้ขนาดสูงสุด 5984 x 3366 พิกเซล (ประมาณ 20.14 ล้านพิกเซล)
เมนูแอพกล้องจัดเรียงตามแนวขอบด้านซ้ายและขวาของหน้าจอ ถ่ายเสร็จสามารถแตะดูภาพถ่ายได้ทันทีจากหน้าแอพกล้อง รองรับการแนบแผนที่ลงในภาพถ่าย, ชัตเตอร์ด้วยรอยยิ้ม, และตั้งค่าให้ปุ่มปรับระดับเสียงเป็นปุ่มสำหรับซูมหรือชัตเตอร์ได้
โหมดกล้องที่น่าสนใจ ได้แก่ โหมดอัตโนมัติพิเศษ (Superior Auto), โหมดปรับค่ากล้องเอง (Manual) และโหมดพาโนรามา ส่วนโหมดลูกเล่นสนุก ๆ ได้แก่ เอฟเฟกต์ AR, หน้ากาก AR เป็นต้น
โหมดอัตโนมัติพิเศษ (Superior Auto) เมื่อเปิดหน้ากล้องระบบจะปรับค่าให้อัตโนมัติ เช่น ถ้าเป็นภาพอาหารก็ปรับโทนสีให้ดูเข้มขึ้น เป็นต้น ในขณะที่โหมดปรับค่ากล้องเอง (Manual) สามารถปรับค่าความสว่างของแสง (EV), ปรับสมดุลแสงสีขาว (WB) และเปิดใช้งาน HDR ได้ด้วย เพื่อเก็บรายละเอียดพื้นที่มืดและสว่างได้มากขึ้น (หวังว่า Sony จะมีโหมด HDR แยกออกมาต่างหากในการอัปเดทคราวหน้า)
จากภาพถ่ายข้างบน
- ภาพที่ 1 เป็นการถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติพิเศษ (Superior Auto) ยกขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เลย ไม่เลือกจุดโฟกัส จะเห็นว่าสีสันของภาพจะเข้มกว่าภาพอื่น
- ภาพที่ 2 เป็นการถ่ายด้วยโหมดปรับค่ากล้องเอง (Manual) แต่ไม่มีการปรับค่าใด ๆ โดยไม่เปิด HDR, ยกขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เลย ไม่เลือกจุดโฟกัสเช่นกัน ภาพที่ได้จะดูสว่างขึ้น สังเกตุจากสีท้องฟ้า
- ภาพสุดท้ายเป็นการถ่ายด้วยโหมดปรับค่ากล้องเอง (Manual) แต่ไม่มีการปรับค่าใด ๆ โดยจะเปิด HDR ยกขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เลย ไม่เลือกจุดโฟกัสเช่นกัน ภาพที่ได้จะดูสว่างเหมือนกับภาพที่ 2 แต่จะเพิ่มรายละเอียดให้พื้นที่มืดมากขึ้น คือสว่างขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
โหมดพาโนรามา เป็นการแพนกล้องไปในแนวตั้งหรือแนวนอน ซึ่งระบบจำนำหลาย ๆ ภาพมาต่อกันเป็นภาพใหญ่ภาพเดียว เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวเพื่อให้ได้ภาพมุมกว้างที่สุด โดย Xperia Z5 เลือกได้ว่าจะแพนกล้องไปทางซ้าย, ขวา, บน, ล่าง และถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและนอน
ตัวอย่างภาพถ่าย
ตัวอย่างวิดีโอจากกล้องหลัง
ตัวกล้องความละเอียดสูงกับชิปประมวลผล Snapdragon 810 ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K หรือ UHD 2160p ที่ความเร็ว 30fps (เฟรมต่อวินาที) ส่วนวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p ที่ความเร็ว 30fps และ 60fps
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถเก็บรายละเอียดภาพอยู่ในระดับที่ดีมาก และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p ที่ความเร็ว 30fps
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว IPS Full HD
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop
- ชิปประมวลผล 64 บิต Octa-core จาก Qualcomm MSM8994 Snapdragon 810
- แรม 3GB
- ความจำตัวเครื่องให้มา 32GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 200GB
- กล้องหลัง 23 ล้านพิกเซล โฟกัสแบบไฮบริด ทำให้โฟกัสได้เร็วขึ้น และแฟลช LED
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ฝาหลังและแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
- แบตเตอรี่ 2,900mAh ถือว่าน้อยหากเทียบกับฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานอย่างหลากหลาย
- ตัวเครื่องกันน้ำได้ แต่ไม่ควรนำให้ไปแช่น้ำหรือดำน้ำเพื่อถ่ายรูป
ขอขอบคุณ Sony Mobile Thailand