สรุปสเปค ราคา และวันวางจำหน่าย Apple Watch อย่างเป็นทางการ

นอกเหนือจากสมาร์ทโฟน 2 รุ่นแล้ว เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย Apple ยังได้เปิดตัว Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกอย่างเป็นทางการ ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา เหมาะกับทุกวัย มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอ และฟีเจอร์ด้านสุขภาพเพียบ

การออกแบบ

Apple Watch ตัวเรือนทำมาจากโลหะผสมระหว่างสแตนเลสสตีลและอะลูมิเนียม  นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษที่ตัวเรือนเป็นทองคำ 18 กะรัตด้วย รวมแล้วมีให้เลือกมากถึง 6 แบบ คือ สแตนเลสสตีล (Stainless Steel), อะลูมิเนียมสีเงิน (Silver Aluminum), ทองคำ 18 กะรัต สีเยลโลว์โกลด์ (18-Karat Yellow Gold), สแตนเลสสตีล สีดำสเปซแบล็ค (Space Black Stainless Steel), อะลูมิเนียม สีเทาสเปซเกรย์ (Space Gray Aluminum) และทองคำ 18 กะรัต สีโรสโกลด์ (18-Karat Rose Gold)

ส่วนหลังของตัวเรือนจะมีฝาเซรามิกพร้อมเลนส์แซฟไฟร์ มีอินฟราเรด และไฟ LED ตลอดจนโฟโต้ไดโอดเพื่อตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ โดยตัวเรือน Apple Watch มีคุณสมบัติกันฝุ่นละอองน้ำและเหงื่อได้ แต่ไม่สามารถน้ำไปจุ่มน้ำหรือใส่อาบน้ำได้

สายนาฬิกา Apple Watch ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบด้วยวัสดุหลากชนิด มีการออกแบบบัคเคิลและตัวล็อคได้อย่างสวยงาม ได้แก่ สาย Link Bracelet, สาย Sport Band, สาย Leather Loop, สาย Classic Buckle, สาย Modern Buckle และ สาย Milanese Loop

Apple Watch มีจอภาพแบบ Retina ช่วยให้คุณสามารถอ่านตัวเลขและข้อความได้ง่าย รวมถึงมองเห็นเข็มนาฬิกาที่มีขนาดเส้นเล็กมาได้อย่างชัดเจน และกันรอยขีดข่วนด้วยแซฟไฟร์ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุโปร่งใสที่แข็งที่สุดในโลก และสำหรับนาฬิกาในคอลเลกชั่น Sport เป็นกระจก Ion-X

ตัวแสดงนาฬิกามี UI หน้าปีดให้เลือกหลายแบบทั้งแบบอนาล็อก และจิติตอล ปรับเปลี่ยนพื้นหลังหรือวอลเปเปอร์ได้ให้เป็นสไตล์ของเราเอง

ฟีเจอร์เด่น

แน่นอนว่านาฬิกาทุกเรือนต้องบอกเวลาได้ แต่ความเป็นนาฬิกาอัจฉริยะยังช่วยให้ผู้ใช้งานดูเวลาในรูปแบบที่มีความหมายและมีประโยชน์ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ โดย Apple Watch เทียบกับเวลามาตรฐานโลกด้วยความแม่นยำระดับเดียวกับดาวเทียม GPS คือถ้าผู้ใช้งานเดินทางจากโซนเวลาหนึ่งไปยังโซนเวลาหนึ่ง Apple Watch ก็จะปรับเวลาให้อัตโนมัติ

Apple Watch ปรับแต่งหน้าปัดได้หลากหลายรูปแบบ และสามารถฟังก์ชั่นเฉพาะด้านที่มาไว้ที่หน้าปัดได้หรือที่เรียกกันในการทำนาฬิกาว่า Complications ลงในหน้าปัด ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาจับเวลา ราคาหุ้น สภาพอากาศล่าสุด และอีกมากมาย

การเชื่อมต่อและแสดงผลบนหน้าปัดนาฬิกาที่นอกจากจะเห็นเป็นข้อความ สายที่โทรเข้ามา และการแจ้งเตือนต่าง ๆ แล้ว ยังมีอิโมติคอนน่ารัก ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังเข้าถึงรายชื่อติดต่อได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้นเพียงกดปุ่มที่อยู่ใต้ปุ่มดิจิตอลคราวน์ หน้าปัดก็จะแสดงไอคอนรายชื่อผู้ที่เรามักติดต่อกันเป็นประจำมาให้ทันที

การแจ้งเตือนด้วยการสั่นพร้อมเสียงเบา ๆ สำหรับข้อความและอีเมล ซึ่งลักษณะการแจ้งเตือนจะแตกต่างกันออกไปตามประเภทของการแจ้งเตือน และรองรับคำสั่งเสียงได้ด้วย

Apple Watch มีไมโครโฟนและลำโพงในตัวช่วยให้สามารถรับสายโทรเข้าผ่านตัวนาฬิกาได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถโอนสายจาก Apple Watch ไปยังสปีคเกอร์โฟนของรถหรือหูฟัง Bluetooth รวมถึงปิดเสียงของสายโทรเข้าได้ด้วยการใช้มือปิดหน้าปัด Apple Watch เอาไว้

เมื่อมีอีเมลเข้ามา Apple Watch จะแจ้งเตือน เราสามารถเลือกเปิดอ่านข้อความ หรือระบุว่าอ่านแล้วหรือยังไม่อ่าน โยนทิ้งถังขยะ หรือจะย้ายการเปิดอีเมลนั้นไปบน iPhone เพื่อพิมพ์ข้อความตอบกลับก็ได้

การสัมผัสแบบดิจิตอล หรือ Digital Touch ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบใหม่ที่เรียกว่าน่ารักกุ๊กกิ๊กมาก ด้วยการวาดอะไรก็ได้บนหน้าจอ Apple Watch ของเราในขณะที่เพื่อนอีกฝั่งก็สามารถดูการเคลื่อนไหวของสิ่งที่เรากำลังวาด แถมเพื่อนยังสามารถตอบกลับมาด้วยการวาดได้ด้วย ประมาณว่านึกอะไรไม่ออกไม่อยากพิมพ์ก็วาดรูปส่งไปแทนแล้วกันน่ะ

หรือจะส่งการเต้นของหัวใจเพื่อบอกความรู้สึกก็ยังได้ เพียงใช้สองนิ้วกดลงบนหน้าจอ เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่มีอยู่ในตัวจะบันทึกจังหวะการเต้นของหัวใจแล้วส่งให้คนที่เราต้องการได้ทันที

Apple Watch มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวที่จะวัดการเคลื่อนไหวของทั้งร่างกาย ควบคู่ไปกับเซ็นเซอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อวัดความหนักหน่วงของการเคลื่อนไหวจากอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงยังใช้ GPS และ Wi-Fi ใน iPhone เพื่อแสดงผลกิจกรรมต่าง ๆ

• เซ็นเซอร์วัดการเต้นของหัวใจที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ จะช่วยวัดว่าคุณออกแรงมากแค่ไหนเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลการเผาผลาญแคลอรี่โดยรวมได้ดียิ่งขึ้น
• Apple Watch ใช้ GPS และ Wi-Fi ใน iPhone สำหรับวัดระยะทางของกิจกรรมที่ไม่สามารถนับก้าวได้ เช่น การปั่นจักรยาน
• Apple Watch จะวัดการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย นับจำนวนก้าว และช่วยคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปตลอดทั้งวัน

สำหรับผู้ที่รักสุขภาพสามารถกำหนดเป้าหมายการออกกำลังกาย การเคลื่อนไหว การยืนในแต่ละสัปดาห์ได้ ซึ่งจะมีวงกลมคอยบอกว่าตอนนี้เราทำได้แค่ไหนแล้ว ถ้าไม่ทำวงกลมก็จะไม่ขยับและไม่เต็มวงตามเป้าหมายครับ

แอพ Workout สำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่จะเก็บสถิติตามจริง ณ เวลานั้น เช่น ระยะเวลา ระยะทาง แคลอรี่ และความเร็ว รวมถึงการตั้งเป้าหมายสำหรับการออกกำลังกายแต่ละอย่างได้ด้วย เพื่อคอยกระตุ้นให้ทำได้ตามเป้าหมายหรือทำเกินเป้าหมายไปเลย ซึ่งส่วนของการออกกำลังกายนี้จะถูกนำไปนับรวมกับค่าที่วัดได้ในแอพ Activity สำหรับวันนั้น ๆ ด้วย

นอกเหนือจากการแสดงผลบน Apple Watch แล้ว แอ็คทีฟต่าง ๆ ในแต่ละวันยังสามารถถายโอนข้อมูลไปแสดงผ่านแอพฟิตเนสบน iPhone ได้ และดูประวัติการทำกิจกรรม การออกกำลังกาย และความสำเร็จย้อนหลัง
ตามวัน สัปดาห์ และเดือนได้

แอพพลิเคชั่น

	ปฏิทิน แสดงกิจกรรมในแต่ละวัน และแจ้งเตือนกิจกรรมสำคัญ ๆ
	Maps ดูตำแหน่งปัจจุบัน เส้นทาง และระบบนำทาง Turn-by-Turn
	PassBook เก็บบอร์ดดิ้งพาส ตั๋ว บัตรสมาชิก และแจ้งเตือนบัตรส่วนลดหรือบัตรสมาชิกที่มีอยู่ที่สามารถใช้ที่ร้านนั้นได้
	ควบคุมเพลงบน iPhone
	Apple TV และ iTunes
	ใช้เป็นรีโมทสำหรับกล้อง iSight บน iPhone ได้ด้วย
	นาฬิกาจับเวลา ทั้งแบบดิจิตอล อนาล็อกและแบบผสม สามารถแสดงเวลาต่อรอบในรูปแบบกราฟได้ด้วย
	นาฬิกาจับเวลาถอยหลัง
	นาฬิกาปลุก
	นาฬิกาโลก
	หุ้น
	สภาพอากาศ
	รูปภาพ
	การตั้งค่า เปิดปิดโหมดเครื่องบิน, Bluetooth และโหมดห้ามรบกวน ตลอดจนปิดหรือเปิดเสียง หรือบอกให้ iPhone บอกตำแหน่งปัจจุบัน ของตัวเครื่อง

Apple Watch รองรับการชาร์จไร้สายได้ง่าย ๆ แม้อยู่ในที่มืด ด้วยเทคโนโลยี MagSafe เข้ากับการชาร์จแบบเหนี่ยวนำซึ่งถือว่าเป็นระบบปิดผนึกหมดทุกส่วนที่แน่นหนา แถมยังใช้งานง่าย ไม่ต้องจัดวางอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ถือหัวต่อไว้ใกล้ ๆ ด้านหลังของนาฬิกาแล้วแม่เหล็กก็จะดูดให้ติดเข้าที่โดยอัตโนมัติให้เอง

Apple Watch เปิดราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,200 บาท และแน่นอนว่าจะมีราคาแพงกว่านี้ในรุ่นอื่น ๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายต้นปีหน้าหรือปี 2015 เป็นต้นไป