Smart Review
รีวิว TECNO POVA 5 Series คู่หูยืนหนึ่งเรื่องเกมมิ่งโฟน สเปกสุดลื่น แบตใหญ่พร้อมชาร์จไวสูงสุด 68W เริ่มต้นไม่ถึง 5,000 บาท
รีวิว TECNO POVA 5 Series สมาร์ทโฟนคู่หูพี่น้องที่มาพร้อมสเปคแบบจัดเต็ม ให้เล่นเกมได้ไหลลื่นในราคาที่จับต้องได้แบบสบายกระเป๋าสุดๆ มาด้วยกัน 2 รุ่น 2 สเปค ได้แก่ TECNO POVA 5 และ TECNO POVA 5 Pro 5G ใครที่มองรุ่นไหนไว้ เราจัดรีวิวรวมมาให้ชมไปพร้อมกันเลยครับ
สรุปสเปค TECNO POVA 5
- ขนาดตัวเครื่อง : 168.61 x 76.61 x 9.00 มม.
- น้ำหนัก : 219.4 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, 240Hz Touch Sampling Rate และความสว่างสูงสุด 580 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G99 Octa-core ความเร็ว 2.2GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128/256GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Depth ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย HiOS 13.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G/5G, NFC, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จไว 45W Smart Charge รองรับการชาร์จย้อนกลับ 10W
สรุปสเปค TECNO POVA 5 Pro 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 168.5 x 76.5 x 9.00 มม.
- น้ำหนัก : 219.4 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz, 240Hz Touch Sampling Rate และความสว่างสูงสุด 580 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 6080 Octa-core ความเร็ว 2.4GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128/256GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Depth ความละเอียด 0.08 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย HiOS 13.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G/5G, NFC, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- รองรับ 5G
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จไว 68W Smart Charge และรองรับการชาร์จย้อนกลับ 10W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง TECNO POVA 5 Series
ตัวกล่องที่เราได้มาจะเป็นของรุ่น TECNO POVA 5 Pro 5G ที่ได้ความเป็นเกมเมอร์ในลวดลายธีมของเกม FREE FIRE ในรูปทรงสามเหลี่ยมไม่เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป
เปิดออกมาจะเจอกับตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยบนหน้าจอแล้วครับ
ต่อมาเป็นอุปกรณ์เสริมที่ให้มาครบตั้งแต่เคสใส หูฟังพอร์ต 3.5 มม. คู่มือการใช้งานเบื้องต้น, ใบรับประกันสินค้า และเข็มเปิดถาดซิม ส่วนอะแดปเตอร์ก็แถมมาแล้วด้วยกำลังไฟเต็มที่ 68W Smart Charge ตามสเปค และสาย USB Type-C ครับ
ดีไซน์ 2 สไตล์โดนใจสายเกมเมอร์แน่นอน
POVA 5 กับดีไซน์แบบ TURBO MECHA
เราพามาดูดีไซน์ของ POVA 5 กันก่อนครับ ในรุ่นนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหุ่นยนต์ 3 มิติของ POVA 5 มีการเล่นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์สวยงามและโดดเด่นเหมือนอยู่ในโลกของเกม
ทั้งนี้ใน POVA 5 ยังใช้กระบวนการผลิตแบบ NCVM ที่เป็นการเคลือบผิวฝาหลังให้ไม่เป็นสื่อกระแสนำไฟฟ้าที่ผู้ใช้งานอาจจะเคยเจอปัญหานี้ได้ครับ โดยตัวเลือกสีของ POVA 5 ให้มาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีทอง Amber Gold, สีดำ Mecha Black และสีน้ำเงิน Hurricane Blue
POVA 5 Pro 5G ในดีไซน์เมคาไลท์เทอร์โบ พร้อมไฟ RGB สุดอลัง !
มาต่อกันที่รุ่นพี่อย่าง POVA 5 Pro 5G มีดีไซน์ถูกใจชาวเกมเมอร์ขึ้นไปอีกขั้นด้วยไฟ RGB ที่เป็นแถบไฟ LED ถึง 9 สี ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนหรือตอบโต้ตามการแจ้งเตือนต่างๆ ทำให้ตัวเครื่องมีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร
ในการเปลี่ยนสีแบบไดนามิกของฝาหลังจะเกิดขึ้นได้หลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเครื่อง แจ้งเตือนข้อความ การชาร์จ เล่นเกม เพลง การคว่ำหน้าลง หรือแบตเตอรี่ต่ำ ซึ่งทุกโหมดจะมีรูปแบบแสงไฟที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อแจ้งเตือนให้เราได้รู้กันแบบไม่ต้องมองหน้าจอเลย
ลวดลายของฝาหลังจะเป็นแบบ 3D คล้ายกับหุ่นยนต์เสมือนมีชีวิต 3 มิติด้วยแถบเทอร์โบ
ตัวเลือกสีของ POVA 5 Pro 5G จะออกมาในรูปแบบพรีเมียมและคมเข้ม ทั้งสีดำ Dark Illusion และสีเงิน Silver Fantasy
หน้าจอไหลลื่น 120Hz สัมผัสเยี่ยม ตอบสนองไว
รีวิว TECNO POVA 5 Series ทั้ง 2 รุ่นให้หน้าจอแสดงผลมาเหมือนกัน จะเป็นแบบ IPS LCD ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080 พิกเซล) ทำให้เราใช้งานได้เต็มตาพร้อมสีสันที่สดใสในการรับชมวิดีโอครับ
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นยังรองรับการเปิดความสว่างสูงสุดที่ 580 นิต ซึ่งเพียงพอต่อการที่ใช้งานกลางแจ้งครับ
และที่ขาดไม่ได้คือการรองรับความไหลลื่นด้วย Refresh Rate สูงสุด 120Hz ควบคู่กับ 240Hz Touch Sampling Rate ซึ่งแน่นอนว่าสายเกมจะต้องชื่นชอบเพราะการความตอบสนองได้ไว เคลื่อนที่ได้แบบกดติดนิ้วตลอดเวลาครับ ซึ่งคู่หูตระกูลนี้ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
พาชมรอบเครื่อง
ดูดีไซน์ด้านหลังกันไปเยอะแล้ว พลิกมาดูที่ด้านหน้ากันบ้างครับ ทั้ง 2 รุ่นให้หน้าจอมาแบบ Punch Hole พร้อมมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ตรงส่วนบน
ด้านขวาตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power มาให้ ซึ่งในปุ่ม Power จะฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปด้วยครับ
ที่ด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับใส่ซิมาร์ดแบบ NanoSIM ทั้งหมด 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card อีก 1 ช่องที่พลิกมาใส่ที่ด้านหลังครับ
ส่วนด้านล่างจะมีทั้งช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวที่ 1 พร้อมพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
ลำโพงตัวที่ 2 จะอยู่ทางด้านบนครับ
และที่ด้านหลังจะให้กล้องหลังมา 2 เลนส์เหมือนกัน พร้อมด้วยไฟแแฟช LED มาให้ 2 ดวง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ Android 13 พร้อม HiOS ที่ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน
TECNO POVA 5 Series แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ที่ครอบทับด้วย HiOS 13.1 อีกทีหนึ่ง ซึ่ง UI ปกติของ HiOS ถือว่าใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อนอะไรครับ ทั้งยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานกันเยอะอีกด้วย
ปลุกพลัง FREE FIRE ไปกับ POVA 5 Series
ใครที่ชอบเกม FREE FIRE อยู่แล้ว ยิ่งต้องชอบหนักเข้าไปอีกด้วยการที่คู่หูทั้ง 2 รุ่นนี้ให้ UI และธีมตัวเครื่องที่เป็นเกม FREE FIRE มาด้วยครับ ให้เราได้สัมผัสความเป็น FREE FIRE ตั้งแต่ไอคอน วอลล์เปเปอร์ เสียงเรียกเข้าและการแจ้งเตือนเลย
ระบบความปลอดภัยได้ครบ
ในเรื่องของความปลอดภัยของทั้ง 2 รุ่น ก็รองรับทั้งการสแกนลายนิ้วมือที่ใช้งานได้รวบเร็ว ตอบสนองได้ดีมากๆ ครับ
และยังใช้งานสแกนใบหน้าที่ให้ความเร็วในการตรวจจับใบหน้าเพื่อเข้าใช้งานเวลามือไม่ว่างด้วย
ลำโพงคู่พร้อม DTS และ HI-RES เสียงสุดกระหึ่ม
ทั้ง 2 รุ่นมีลำโพง 2 ตัว ใช้งานกันแบบเต็มที่จุใจเพราะรองรับระบบเสียง DTS และ HI-RES พร้อมด้วยแยกเสียงฝั่งซ้ายและขวาได้ดี ชัดเจน ยิ่งใครที่เล่นเกม FPS นี่คือการตอบโจทย์เวลาที่ไม่ใส่หูฟังได้ยอดเยี่ยมเลย
TECNO POVA 5 Pro 5G มีไฟ RGB เท่ๆ
ในรุ่น POVA 5 Pro 5G ที่เราบอกไปตอนต้นว่ารุ่นนี้ให้ฝาหลังที่รองรับไฟ RGB ครับ ซึ่งจะสามารถแสดงสีสันเวลาใช้งานในช่วงต่างๆ ได้ ซึ่งในแต่ละเอฟเฟ็กต์ เราสามารถปรับโหมดการกระพริบและสีสันได้ในการตั้งค่า “เอฟเฟ็กต์แสงพื้นหลัง” แต่จะไม่สามารถกำหนดสีได้เองในแต่ละโหมดครับ
Lightning Multi-Window 4.0 ใช้งานพร้อมกันได้หลายแอพฯ
ใครที่ชอบใช้งานหลายแอพพลิเคชั่นพร้อมกัน ทั้ง 2 รุ่นนี้ก็รองรับฟีเจอร์ Lightning Multi-Window 4.0 ที่ให้เราใช้งานได้หลายแอพฯ พร้อมกันสูงสุดถึง 4 หน้าต่าง ซึ่งการทำงานก็ยังถือว่าไหลลื่นด้วยชิปเซ็ตที่เร็วแรงและ RAM ที่ให้มาเยอะครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ขุมพลังเกมมิ่งตัวแรงจาก MediaTek
TECNO POVA 5 Series ใช้ขุมพลังเกมมิ่งรุ่นราคาประหยัดแต่ประสิทธิภาพสูงจาก MediaTek โดยในตัวรุ่นพี่ TECNO POVA 5 Pro 5G ใช้เป็น Dimensity 6080 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.4GHz ซึ่งเป็นชิปขนาดเล็กเพียง 6nm ที่ได้ทั้งประสิทธิภาพสูง จัดการความร้อนได้ดี และประหยัดพลังงานด้วยครับ
รุ่นน้อง TECNO POVA 5 ใช้เป็น Helio G99 ชิปขนาดเล็ก 6nm เช่นกัน ซึ่งประสิทธิภาพของ CPU แรงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมครับ
ขยาย RAM ได้รวมสูงสุดถึง 16GB
TECNO POVA 5 Series ทั้ง 2 รุ่นให้ RAM มาถึง 8GB ซึ่งรองรับการขยายด RAM ได้สูงสุดอีก 8GB รวมเป็น 16GB ช่วยให้เราเปิดแอพพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น และทำงานพื้นหลังได้มากกว่าเดิม เวลาเปิดแอพขึ้นมาใหม่ก็ไม่ต้องโหลดใหม่ให้เสียเวลา
คะแนน Benchmark บน AnTuTu ของ POVA 5 Series
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.0 ของ POVA 5 Pro 5G ได้มาที่ 413,478 คะแนน
- ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.0 ของ POVA 5 ได้มาที่ 352,393 คะแนน
คะแนน Benchmark บน Geekbench 6 ของ POVA 5 Series
- ส่วนผลคะแนนด้าน CPU ของ POVA 5 Pro 5G บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 743 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,996 คะแนน
- ส่วนผลคะแนนด้าน CPU ของ POVA 5 บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 726 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,030 คะแนน
มาพร้อม GAME SPACE 2.0 เพิ่มประสิทธิภาพให้เล่นเกมได้ไหลลื่น
ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์ GAME SPACE 2.0 ที่นอกจากจะรวบรวมเกมไว้ในที่เดียวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ใช้ GPU และ CPU อย่างเต็มที่เวลาเราเล่นเกมด้วย รวมถึงมีเทคโนโลยี Panther Engine 3.0 เพื่อควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบสัมผัสอุณหภูมิอัจฉริยะ ช่วยให้เฟรมเรตนิ่งเมื่อเล่นเกม ปรับปรุงความลื่นไหล ยืดเวลาการใช้งาน และประหยัดพลังงานอีกด้วย
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ตัวเกม ROV จะสามารถเปิดภาพ HD และเฟรมเรทสูงสุดได้ทั้งหมด ส่วนการแสดงผลจะอยู่ในระดับสูง แต่ก็เล่นได้แบบคมชัด รายละเอียดของภาพทำได้ดีมาก และเฟรมเรทก็ทำได้นิ่งตามที่เคลมไว้จริงๆ
PUBG Mobile
ต่อมาเป็นเกม PUBG Mobile จะเปิดกราฟิกได้ที่ HD และเฟรมเรทสูง โดยที่การเล่นในโหมด 100 คน ก็ทำได้ยอดเยี่ยม ทัชได้ติดนิ้ว ไม่เจออาการดีเลย์อะไรเลยครับ และยังได้ประโยชน์จากลำโพงคู่ที่บอกทิศทางคู่ต่อสู้ได้แม่นอีกด้วย
FREE FIRE
และท้ายสุดเมื่อเป็นธีม FREE FIRE จะไม่เล่น FREE FIRE ก็กะไรอยู่ โดยภาพกราฟิกนั้นเปิดได้สูงสุดทั้งหมด ซึ่งจากที่เล่นก็ถือว่าไหลลื่น มีบางจังหวะที่ไม่ติดนิ้วบ้าง (แต่ไม่ได้กระตุก) คาดว่าจะเป็นเพราะการ Optimize ของเวอร์ชันเกมปัจจุบันครับ
เล่นได้ยาวๆ ด้วยระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่
จากที่เล่น 3 เกมติดๆ เป็นเวลาชั่วโมงนิดๆ ตัวเครื่องด้านหลังก็ไม่ได้ร้อนมากจนผิดปกติ ยังคงอุ่นๆ อยู่ เพราะในรุ่น POVA 5 Pro 5G จะได้พื้นที่กระจายไอร้อน 2,820 ตร.มม. ผสานกับกราฟีนฮีตซิงก์ 10,159 ตร.มม. (รวม 12,979 ตร.มม.) ส่วนรุ่นน้อง POVA 5 จะได้ตัวแผ่นระบายความร้อน Vapor Chamber มีขนาดใหญ่ 1399.65 ตร.มม. ผสานกับฮีตซิงก์กราฟีนขนาด 9349.39 ตร.มม. (รวมเป็น 10749 ตร.มม.) มากถึง 10 ชั้น ทำให้อุณหภูมิของชิปลดลงกว่า 5 องศาในขณะที่โหลดฉากเกมใหม่ๆ ทำให้ประสิทธิภาพยังคงที่ครับ
แบตขนาดใหญ่ ชาร์จเร็วสูงสุด 68W Smart Charge
ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งขนาดย่อมๆ ทั้ง 2 รุ่นให้แบตเตอรี่มาแบบเยอะมากๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน โดย POVA 5 Pro 5G ให้แบตมาที่ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 68W Smart Charge สามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียง 45 นาที หรือใครรีบๆ ก็ชาร์จได้ถึง 50% ในเวลาเพียง 15 นาที
ส่วน POVA 5 นั้นให้แบตมาเยอะกว่าที่ 6000mAh เล่นเกมได้นานสุดถึง 11 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอนานสุดถึง 14 ชม. ทั้งยังรองรับชาร์จไว 45W Smart Charge สามารถชาร์จ 50% ใน 21 นาที
รองรับการชาร์จแบบบายพาสลดความร้อนระหว่างเล่นเกมได้ !
เรียกว่าได้ฟีเจอร์ระดับเรือธงเลยสำหรับ POVA 5 Series ที่รองรับการชาร์จแบบ Bypass ที่จะเป็นการชาร์จขณะที่เล่นเกมไปด้วย โดยตัวอะแดปเตอร์จะจ่ายไฟเข้ากับตัวเครื่องหรือวงจรภายในเลยโดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ที่ส่งผลให้เกิดความร้อนครับ ที่สำคัญตัวแบตเตอรี่ก็จะไม่เจออาการเสื่อมเร็วกว่าปกติด้วยเมื่อเปิดฟีเจอร์นี้
ถ่ายภาพสนุกด้วยกล้องหลัก AI 50MP
ตัวกล้องหลังของทั้ง 2 รุ่นนี้จัดมาให้เหมือนกันเลยครับ ตั้งแต่เลนส์หลัก 50MP คู่กับเลนส์ Depth เพื่อตรวจจับฉากหลังและเบลอได้แม่นยำมากขึ้น และยังรองรับการใช้ AI HDR ทั้งกล้องหน้าและหลังครบ ไม่ต้องกลัวเรื่องย้อนแสงเลย โดยการถ่ายเราจะขอเน้นไปที่ POVA 5 Pro 5G แล้วกันเนาะเพราะถ่ายได้สวยพอๆ กันเลย
กล้องหลัง 50MP พร้อม AI ที่ทำได้ดีเกินคาด
มาดูกันที่เลนส์หลักของรุ่นนี้กันครับ ในโหมดปกติจะรองรับการใช้งาน AI ที่ทำออกมาได้ดีเกินราคาจริงๆ ครับ ภาพที่ได้เก็บแสงและเงาได้ค่อนข้างดี ภาพมีความคมชัด และสีสันก็ค่อนข้างไปทางสดใสมากๆ
ถ่าย Portrait Beaty ได้สวยงามแบบธรรมชาติ
ในโหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) รองรับการเบลอฉากหลังที่ทำได้ค่อนข้างดี ซึ่งการถ่ายในโหมดนี้จะไม่รองรับการปรับแต่งใบหน้าแบบบิวตี้ แต่การตรวจจับบุคคลและการถ่ายภาพย้อนแสงก็ทำได้แบบไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะมืดเกินไปครับ เพราะตัว AI จะปรับให้ใบหน้าสว่างพร้อมปรับฉากหลังให้เห็นได้ชัดเจนด้วย
Night Mode ที่ทำได้ยอดเยี่ยม
ด้วยราคาหลักพันกลางๆ แต่ POVA 5 Pro 5G (จริงๆ ก็รวม POVA 5 ไปด้วย) ก็สามารถถ่ายภาพกลางคืนได้ยอดเยี่ยมเลยเมื่อดูราคากับความสามารถในการถ่ายกลางคืน รายละเอียดของภาพเห็นได้ดีขึ้น ภาพสว่างมากขึ้นและยังคงความคมชัดเอาไว้ ที่สำคัญคือ Noise น้อยมากๆ
เซลฟี่ย้อนแสงได้สบายด้วย Selfie HDR
นอกจากกล้องหลังที่จะถ่ายภาพย้อนแสง HDR ได้แล้ว กล้องหน้าก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันครับ การเบลอฉากหลัง การปรับแต่งใบหน้าก็ดีมากๆ ไม่ต้องมาปรับวความสวยงามอะไรเพิ่มอีกแล้ว
สรุปการใช้งาน TECNO POVA 5 Series
ใครมองหาสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่เล่นเกมได้ไหลลื่น เฟรมเรทนิ่งๆ รีวิว TECNO POVA 5 Series ทั้ง 2 รุ่นถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ ตัวชิป MediaTek ที่ให้มาของทั้งคู่มีความเร็วและแรงในระดับที่เล่นเกมได้ดีเมื่อปรับแบบค่าเริ่มต้นของเกมนั้นๆ รวมถึงดีไซน์ที่ทำออกมาเอาใจวัยรุ่นเกมเมอร์ได้แบบเท่ๆ โดยเฉพาะ POVA 5 Pro 5G ที่ได้ไฟ RGB มาเสริมวิญญาณเกมเมอร์ไว้ด้วย
ส่วนการใช้งานอื่นๆ ทั้งกล้องหลังก็ถือว่าทำได้ดีในระดับสมาร์ทโฟนรุ่นกลาง คุ้มค่ามากๆ ใครที่ไม่ต้องการใช้ฟังก์ชันอะไรมากก็ตอบโจทย์ได้ในระดับที่ดีครับ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ให้มาเร็วสุดที่ 68W ชาร์จได้ไวมากๆ ไม่ถึงชั่วโมงก็ได้มาแทบเต็ม 100% แล้ว ซึ่งเร็วกว่าเรือธงหลายๆ รุ่นสะด้วย
ราคาอย่างเป็นทางการ
TECNO POVA 5 Series มีตัวเลือกด้วยกันหลายรุ่นหลายความจุ ดังนี้
- POVA 5 Pro รุ่น 8GB + 128GB : 6,699 บาท
- POVA 5 Pro รุ่น 8GB + 256GB : 6,999 บาท
- POVA 5 รุ่น 8GB + 128GB : 4,999 บาท
- POVA 5 รุ่น 8GB + 256GB : 5,799 บาท
ผู้ที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตามลิงก์ข้างล่างนี้เลยครับ
- Shopee Mall : https://bit.ly/3cK2FNS
- LazMall : https://bit.ly/3Oki4Ex
- TikTok Shop : https://bit.ly/3SiOmlP