10 อันดับ มือถือขายดี รุ่นยอดนิยมที่สุด

มือถือขายดี รุ่นยอดนิยมที่สุดตลอดปี 2023 วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาอัปเดทข้อมูลจากรายงานของ Counterpoint Research ตกเป็นของ Apple iPhone 15 Pro Max ซึ่งมียอดขายทั่วโลกสูงถึง 25 ล้านเครื่อง รองลงมาคือ Apple iPhone 15 และ Samsung Galaxy S23 Ultra

1. iPhone 15 Pro Max
2. iPhone 15
3. Samsung Galaxy S23 Ultra
4. iPhone 14 Pro
5. iPhone 14
6. iPhone 13
7. Samsung Galaxy A14 5G
8. Samsung Galaxy A54 5G
9. Samsung Galaxy A34 5G
10. iPhone 11

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ iPhone 15 Pro Max ครองอันดับ 1 ได้แก่ การออกแบบ ประสิทธิภาพและกล้องที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ แบรนด์ Apple ยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก

สำหรับสมาร์ทโฟน Android ที่ขายดีที่สุด ได้แก่ Galaxy S23 Ultra ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงของ Samsung ในขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Galaxy A14 5G, Galaxy A54 5G และ Galaxy A34 5G ขายดี ได้แก่ ราคาที่ย่อมเยา ประสิทธิภาพที่ดี และฟีเจอร์ที่หลากหลาย

สรุปสเปค 10 อันดับ มือถือขายดี

iPhone 15 Pro Max

iPhone 15 Pro Max ที่ได้รับการออกแบบมาด้วยไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศที่ทั้งแข็งแกร่งและเบา ยังมาพร้อมขอบมนและปุ่มแอ็คชั่นที่ปรับแต่งได้ โดยมีจอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ProMotion 120Hz ใช้ชิป A17 Pro ซึ่งเป็นชิป 3 นาโนเมตรตัวแรกในอุตสาหกรรม และกล้อง Telephoto ใหม่ ซูมแบบออปติคัลได้ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone ถึง 5 เท่า ที่ 120 มม.

• หน้าจอ: 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1290 x 2796 พิกเซล LTPO Super Retina XDR OLED, 120Hz, HDR10, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ:อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A17 Pro
• GPU: Apple GPU
• RAM: –
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.8
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • LiDAR Scanner
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/1.9
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ USB Type-C
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

iPhone 15

iPhone 15 มือถือขายดี มาพร้อมกระจกแต่งสีด้านหลังที่มีผิวด้านสวยงาม และขอบมนแบบใหม่บนตัวเครื่องอะลูมิเนียม หน้าจอ 6.1 นิ้ว ใช้ชิปเซ็ต A16 Bionic ที่เร็วและประหยัดพลังงาน มีกล้องหลัก 48MP ทำให้ถ่ายภาพได้ที่ความละเอียดสูงเป็นพิเศษ และตัวเลือกเทเลโฟโต้ 2 เท่าใหม่ ที่ให้การซูมแบบออปติคัลแก่ผู้ใช้ถึง 3 ระดับ เสมือนการมีกล้องตัวที่ 3

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1179 x 2556 พิกเซล Super Retina XDR OLED, HDR10, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A16 Bionic
• GPU: Apple GPU
• RAM: –
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/1.9
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ USB Type-C
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

Samsung Galaxy S23 Ultra

Galaxy S23 Ultra แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับลิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 Mobile Platform ที่ปรับแต่งเองสำหรับ Galaxy โดยเฉพาะ และการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของกล้องหลักเป็นเซ็นเซอร์ ISOCELL HP2 ความละเอียด 200MP

ฟีเจอร์ด้านการถ่ายวิดีโอก็น่าสนใจ อย่างการมีโหมดวิดีโอ Astro Hyperlapse หรือการปรับปรุงความเสถียรของวิดีโอให้ดีขึ้นกว่ากล้องหลัก 108MP ตัวเก่าด้วยฟีเจอร์ Adaptive VDIS รวมไปถึงแบตใหญ่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

• หน้าจอ: 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3088 พิกเซล Dynamic AMOLED 2X, 120Hz, HDR10+
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
• GPU: Adreno 740
• RAM: 8GB/12GB
• ความจุเครื่อง: 256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 4 ตัว:
  • กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล f/1.7
  • กล้อง Periscope 10 ล้านพิกเซล f/4.9
  • กล้อง Telephoto 10 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W

iPhone 14 Pro

iPhone 14 Pro มือถือขายดี มาพร้อมจอภาพแบบติดตลอด, กล้องความละเอียด 48MP ครั้งแรกบน iPhone โดยมีฟีเจอร์น่าสนใจหลายอย่าง เช่น การตรวจจับการชนกัน หรือ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียม และวิธีใหม่สุดล้ำสำหรับรับการแจ้งเตือนและกิจกรรมต่างๆ ด้วย Dynamic Island

ถือเป็นครั้งแรกที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 48MP ใหม่ ที่มีเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ซึ่งจะปรับการทำงานเข้ากับภาพที่ถ่าย เป็นการรวมพิกเซลทุก 4 จุด ให้กลายเป็น 1 ควอดพิกเซลขนาดใหญ่ ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีมากขึ้น และมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ใช้การปรับตำแหน่งเซ็นเซอร์รุ่นที่ 2

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว LTPO Super Retina XDR OLED, 120Hz, HDR10, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A16 Bionic
• GPU: Apple GPU
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB/1TB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.8
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • LiDAR Scanner
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/1.9
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ Lightning
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

iPhone 14

iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มาในสองขนาด ได้แก่ 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ เป็นจอภาพ Super Retina XDR พร้อมเทคโนโลยี OLED ที่รองรับความสว่างสำหรับคอนเทนต์แบบ HDR สูงสุดถึง 1,200 นิต และดีไซน์แบบเรียบหรู 5 สีสันจากอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ

ด้านการถ่ายภาพและวิดีโอมีกล้องหลัก 12MP ใหม่ รูรับแสงขนาด f/1.5 ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นและพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่กล้องหน้า TrueDepth ก็เป็นรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน โดยเป็นครั้งแรกที่มีระบบออโต้โฟกัสในกล้องหน้าของ iPhone และ Apple ได้ใส่ Photonic Engine เพื่อประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว หรือ 6.7 นิ้ว Super Retina XDR OLED, HDR10, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A15 Bionic
• GPU: Apple GPU
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.5
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/1.9
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ Lightning
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

iPhone 13

หากต้องการ iPhone ที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องการเน้นอะไรเป็นพิเศษ iPhone 13 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง ฟีเจอร์ต่างๆ ประสิทธิภาพตัวเครื่อง และราคา อีกทั้งกล้องหลังคู่ก็ได้รับการออกแบลใหม่ จัดวางเลนส์ในแนวทแยง

iPhone 13 มาพร้อมชิป A15 Bionic ใช้เทคโนโลยี 5 nm มีแผงหน้าจอเป็นชนิด OLED หรือที่เรียกว่าจอภาพ Super Retina XDR ให้สีสันที่สดใสสวยงาม แต่รอยบากที่เป็นพื้นที่ติดตั้งระบบกล้อง TrueDepth บริเวณเหนือหน้าจอของ iPhone 13 มีขนาดที่เล็กลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับ iPhone 12

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว Super Retina XDR OLED, HDR10, Dolby Vision
• ระบบปฏิบัติการ: อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A15 Bionic
• GPU: Apple GPU
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB/512GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.6
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ Lightning
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

Samsung Galaxy A14 5G

Galaxy A14 5G มือถือขายดี มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 90Hz ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 รันบน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5 และมีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จ 15W

นอกจากนี้แล้ว ก็มาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง ทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากเวลาหยิบขึ้น ตัวเซ็นเซอร์ก็วางตำแหน่งได้ตรงกับนิ้วของเราพอดี

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล PLS LCD, 90Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI Core 5
• ชิปเซ็ต: Mediatek Dimensity 700
• GPU: Mali-G57 MC2
• RAM: 4GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง 3 ตัว:
  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.0
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 15W

Samsung Galaxy A54 5G

Galaxy A54 5G หน้าจอ Infinity-O Display แบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz และความสว่างสูงสุด 1,000 นิต ใช้ชิปเซ็ต Exynos 1380 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ด้านการถ่ายรูปมีกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอที่ทำได้สูงสุด UHD 4K Auto Focus พร้อมด้วยระบบกันสั่นไหว OIS + เทคโนโลยีกันสั่น VDIS และกล้องหน้าเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่าย Vlog ชัดทั้งหน้าทั้งเสียง

• หน้าจอ: 6.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: Exynos 1380
• GPU: Mali-G68 MP5
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB/256GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 32 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

Samsung Galaxy A34 5G

Galaxy A34 5G มือถือขายดี Samsung มาพร้อมหน้าจอ Infinity-U แบบ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับ Refresh Rate 120Hz เหมือนกัน Galaxy A54 5G ภายในใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 มีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W และรัน Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1

ตัวเครื่องการันตีคุณภาพให้รองรับการอัปเกรด OS ได้ถึง 4 เจเนอเรชัน รวมไปถึงการอัปเดตระบบความปลอดภัยสูงได้ถึง 5 ปี ซึ่งฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงทุกการอัปเดตเพื่อยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

• หน้าจอ: 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล Super AMOLED, 120Hz
• ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย One UI 5.1
• ชิปเซ็ต: MediaTek Dimensity 1080
• GPU: Mali-G68 MC4
• RAM: 8GB
• ความจุเครื่อง: 128GB
• microSD card: รองรับ
• กล้องหลัง: 3 ตัว
  • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 13 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่: 5000mAh ชาร์จเร็ว 25W

iPhone 11

ในปี 2024 เป็นเวลาที่บอกว่า iPhone 11 เปิดตัวมาแล้วมากกว่า 4 ปี โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของราคาที่ปรับลดลง เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย แบตเตอรี่ที่ถือว่าใช้งานได้ค่อนข้างยาวนาน ชิปเซ็ตก็มีประสิทธิภาพในการใช้งานทั่วไป แม้จะขาดบางฟีเจอร์ใหม่ๆ ไปก็ตาม

• หน้าจอ: 6.1 นิ้ว Liquid Retina IPS LCD
• ระบบปฏิบัติการ: อัปเกรด iOS 17.2
• ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
• GPU: Apple GPU
• ความจุเครื่อง: 64GB/128GB/256GB
• microSD card: ไม่รองรับ
• กล้องหลัง 2 ตัว:
  • กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.8
  • กล้อง Ultra-wide 12 ล้านพิกเซล f/2.4
• กล้องหน้า: 12 ล้านพิกเซล f/2.2
• การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และ Lightning
• แบตเตอรี่: ชาร์จเร็ว

วิธีเลือกซื้อมือถือที่เหมาะกับคุณ

อยากซื้อมือถือใหม่แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี? ลองพิจารณาหัวข้อและใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ในการเลือกซื้อมือถือใหม่ที่เหมาะกับการใช้งานของแต่ละคน

1. กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม

เมื่อกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการซื้อมือถือใหม่แล้ว ก็จะสามารถจำกัดตัวเลือกและเลือกมือถือที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดายมากขึ้น อาจต้องพิจารณาว่าต้องการซื้อมือถือในระดับราคาใด และสามารถจ่ายเงินสดหรือผ่อนชำระได้หรือไม่ โดยการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม จะสามารถคัดเลือกมือถือที่ตรงกับความต้องการและความสามารถของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. พิจารณาความต้องการ

คิดให้ดีว่าต้องการมือถือที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เช่น กล้องถ่ายรูปคมชัด หน่วยประมวลผลที่เร็ว เป็นต้น และตรวจสอบว่ามือถือที่สนใจมีคุณสมบัติเหล่านี้หรือไม่

3. ศึกษาและเปรียบเทียบราคา

เมื่อมีข้อมูลเกี่ยวกับราคาและคุณสมบัติของมือถือที่สนใจแล้ว สามารถเปรียบเทียบราคาของมือถือในร้านค้าต่างๆ ได้เพื่อหาสินค้าที่มีราคาที่เหมาะสมและไม่เกินงบประมาณ อาจต้องเข้าเว็บไซต์ของร้านค้าหรือใช้แอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคาเพื่อดูราคาและข้อเสนอพิเศษจากแต่ละร้านค้า อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าและความคุ้มค่าของสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อมือถือใหม่

4. อ่านรีวิวและความคิดเห็น

ควรทำการอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมือถือที่สนใจ ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงประสบการณ์จริงๆ ของผู้ใช้งาน และสามารถตัดสินใจได้ว่ามือถือที่สนใจนั้นเหมาะกับเราหรือไม่

5. ทดลองใช้ก่อนซื้อ

หากเป็นไปได้ ลองใช้มือถือที่สนใจก่อนที่จะซื้อ เพราะการทดลองใช้ก่อนซื้อเป็นวิธีที่ดีในการเลือกซื้อมือถือใหม่ที่เหมาะกับตนเองได้มากที่สุด สามารถไปที่ร้านค้าหรือศูนย์บริการเพื่อทดสอบการใช้งานและคุณสมบัติของมือถือก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่ามือถือที่เลือกนั้นเหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างเหมาะสม

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 10 อันดับ มือถือขายดี อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ