Apple News
7 อันดับ iPad น่าซื้อ น่าใช้ หลากหลายระดับราคาและการใช้งาน (อัปเดทปี 2021)
iPad เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ด้านการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กว่า iPhone และพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ จะวางหรือถือใช้งานก็ทำได้ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ได้รวบรวม 7 อันดับ iPad น่าซื้อ น่าใช้ ในปี 2021 ไปดูกันว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5) ปี 2021
iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5) เป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกจาก Apple ที่มาพร้อมชิปเซ็ต Apple M1 และความจุสูงสุด 2TB มีหน้าจอ Liquid Retina XDR และที่สำคัญคือการใช้ชนิดหน้าจอแบบ mini-LED มากกว่า 10,000 ดวง ทั้งยังมี ProMotion 120Hz และตัวเครื่องมีความบางเพียง 6.4 มม. เท่านั้น
ด้านการถ่ายรูปมีกล้องหลังคู่ 12MP เป็นกล้องหลัก รูรับแสงขนาด f/1.8 และกล้อง Ultra-wide ความละเอียด 10MP แถมมี LiDAR Scanner อีกด้วย ในขณะที่กล้องหน้า 12MP เป็นเลนส์ Ultra-wide พร้อมระบบ TrueDepth และรองรับเครือข่าย 5G
iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3) ปี 2021
iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 3) เปิดตัวพร้อมกับรุ่น iPad Pro 1/2.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5) แต่การนับจำนวนรุ่นไม่เท่ากัน เนื่องจาก iPad Pro 11 นิ้วเพิ่งจะมีการเปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นนั่นเอง โดยสเปคหลักๆ เหมือนกับรุ่นใหญ่ แต่หน้าจอจะเป็น Liquid Retina IPS LCD (ไม่ใช่ mini-LED) พร้อม ProMotion 120Hz และตัวเครื่องมีความบางเพียง 5.9 มม. เท่านั้น
ด้านกล้องถ่ายรูปจัดเต็มเหมือนกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รวมไปถึงมี LiDAR Scanner สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps และ 1080p ที่ 240fps ในโหมดสโลว์โมชั่น โดยพอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt / USB 4
iPad Pro 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 4) ปี 2020
แม้จะเป็นแท็บเล็ตที่เปิดตัวในปีที่แล้ว แต่สเปคต้องบอกเลยว่าจัดเต็มพร้อมประสิทธิภาพการทำงานด้วยชิปเซ็ต A12Z Bionic และเป็นหน้าจอแบบ Liquid Retina พร้อมเทคโนโลยี ProMotion และการแสดงผลแบบ True Tone
รุ่นนี้มีกล้องหลังคู่และ LiDAR Scanner ในขณะที่กล้องหน้ามีกล้องขนาด 7MP โดยตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 5.9 มม. สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2), Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio
iPad Pro 11 นิ้ว (รุ่นที่ 2) ปี 2020
สำหรับที่ต้องการหน้าจอขนาดพอดี พกพาง่าย และถือใช้งานได้สะดวก iPad Pro 11 นิ้ว ก็เป็นตัวเลือกถัดจากหน้าจอ 12.9 นิ้ว โดยในรุ่นนี้ก็ได้หน้าจอ ProMotion ลื่นๆ ไม่แพ้รุ่นท็อป และมีน้ำหนักเบาเพียง 471 กร้ม
ด้านประสิทธิภาพใช้ชิปเซ็ต A12Z Bionic พร้อมสถาปัตยกรรม 64 บิต กล้องหลังคู่ บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 60fps รองรับวิดีโอสโลว์โมชั่น ความละเอียด 1080p ที่ 120fps หรือ 240fps และระบบเสียง 4 ลำโพง
iPad Air (รุ่นที่ 4) ปี 2020
แท็บเล็ตบางบาที่มาพร้อมหน้าจอ 10.9 นิ้ว และใช้ชิปเซ็ต A14 Bionic เหมือนกับในรุ่น iPhone 12-series โดยมีกล้องหลัง 12MP และกล้องหน้า 7MP มีพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2), Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio
iPad (รุ่นที่ 8) ปี 2020
เป็นแท็บเล็ตราคาย่อมเยาที่ตอบโจทย์นักเรียน นักศึกษาได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับหน้าจอ Retina IPS LCD กว้าง 10.2 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต A12 Bionic และรันบนระบบปฏิบัติการ iPadOS 14 ที่สามารถใช้งานได้หลายอย่างมากขึ้น เช่น การเขียนด้วย Apple Pencil ลงในช่องว่างเพื่อเปลี่ยนเป็นตัวอักษรได้ทันที เป็นต้น และมีปุ่มโฮม Touch ID สแกนลายนิ้วมือได้
iPad mini (รุ่นที่ 5) ปี 2019
แท็บเล็ตน้องเล็ก สเปคคล้าย iPad (รุ่นที่ 8) โดยมาพร้อมหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ชิปเซ็ต A12 Bionic และรันบนระบบปฏิบัติการ iPadOS 14 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่ยังมีปุ่มโฮม Touch ID สแกนลายนิ้วมือได้ สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และคีย์บอร์ด Bluetooth
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ iPad น่าซื้อ น่าใช้ ในปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นก็ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป อย่าลืมเลือกรุ่นที่ใช่และเหมาะกับการใช้งานของเรานะครับ จะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพ