Apple News
แกะกล่องพรีวิว MacBook Air 15″ ใหญ่เหลือเฟือ บางเหลือเชื่อ!
MacBook Air 15″ เปิดให้สั่งซื้ออย่างเป็นทางการเรียบร้อย และตอนนี้เครื่องศูนย์ไทยก็มาถึงมือพร้อมให้แกะกล่องกันอีกเช่นเคย นี่ถือเป็นครั้งแรกของ MacBook Air ที่มีหน้าจอใหญ่ระดับนี้เลย เครื่องจริงจะสวยงาม จอใหญ่อลังการแค่ไหน มาติดตามกันเลยครับ! ชมคลิป
ชมคลิปแกะกล่องพรีวิว
แกะกล่อง MacBook Air 15″
ตัวกล่องของ MacBook Air 15″ จะมาในโทนสีขาวที่ด้านหน้ามีภาพประกอบตัวเครื่องด้านข้างที่สื่อถึงความบางในแบบฉบับของ MacBook Air ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าที่ด้านหลังจะมีสติกเกอร์ติดมา 2 ชิ้นให้เราได้ฉีกออกเหมือนกับ iPhone และ iPad พร้อมรายละเอียดสเปคก็จะมีระบุไว้ที่ด้านหลังนี้ครบถ้วนครับ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่อง MacBook Air รุ่น 15″ ที่อยู่ในซองอย่างดี แอบเห็นความอลังการของตัวเครื่องตั้งแต่ตรงนี้แล้วแหละ
ถัดลงไปชั้นล่างจะมีกล่องเล็กใส่เอกสารคู่มือและสติกเกอร์ Apple 2 ชิ้น มีสายชาร์จอแบบ MagSafe และส่วนตัวอะแดปเตอร์รุ่นที่เราได้มาจะเป็น 35W USB-C พอร์ตคู่ที่ขนาดกะทัดรัดน่าพกพาทีเดียวล่ะ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ MacBook Air 15″ ก็มีมาให้ 5 อย่างดังนี้เลยครับ
- ตัวเครื่อง MacBook Air 15″
- เอกสารคู่มือ
- อะแดปเตอร์ชาร์จ 35W พอร์ต USB-C คู่
- สายชาร์จ MagSafe
- สติกเกอร์ Apple
ดีไซน์ที่คุ้นเคย แต่มาในขนาดที่ใหญ่กว่าชัดเจน!
เซ็ตอัพตัวเครื่องเรียบร้อย เราก็จะพบกับความใหญ่โตอลังการของหน้าจอแบบที่ไม่เคยได้เห็นจาก MacBook Air มาก่อน เพราะนี่คือครั้งแรกที่ MacBook Air ได้ขนาดจอใหญ่ถึง 15″ (จริง ๆ แล้วคือ 15.3″ ด้วยนะ) ทุกอย่างดูเต็มตาไปหมด ใหญ่เหลือเฟือจริง ๆ ครับ
ตัวหน้าจอของ MacBook Air 15″ นั้นจะเป็น Liquid Retina หรือจอ IPS ขนาด 15.3″ ความละเอียด 2880 x 1864 พิกเซล ที่มีความสว่างสูงสุด 500 nits เพียงพอต่อการใช้งานในที่ที่มีแสงสว่างมาก ๆ อยู่แล้วครับ
ดีไซน์หน้าจอก็จะเป็นแบบรอยบากที่มีพื้นที่ให้กล้องหน้าและขอบจอโค้ง ๆ เหมือนเดิม แต่ด้วยสัดส่วนตัวเครื่องที่มากขึ้นทำให้รอยบากดูเล็กลงไปอีกหน่อยหากเทียบกับรุ่น 13″ อะเนาะ
ความบางและเบา เอกลักษณ์ของ Air ยังอยู่ครบ
หากพูดถึงซีรีส์ Air นั้นก็คงต้องนึกถึงความบางและเบาใช่ไหมล่ะครับ แน่นอนว่า MacBook Air 15″ ยังคงจุดเด่นนี้ไว้ได้อย่างดี แม้ตัวเครื่องจะมีจอที่ใหญ่ขึ้นมากก็ตาม อย่างเรื่องความบางรุ่นนี้เมื่อพับจอจะบางแค่ 1.15 ซม.เท่านั้น (ต่างจากรุ่น 13″ แค่ 0.02 ซม.)
และด้วยความบางนี้ Apple จึงเคลมว่า MacBook Air 15″ นั้นเป็นแล็ปท็อปจอ 15″ ที่บางที่สุดในโลกตอนนี้เลย เท่าที่เราสัมผัสก็ยอมรับเลยว่าตัวเครื่องบางเฉียบจริง ๆ ยิ่งตอนกางจอออกมาแล้วเห็นความบางของส่วนหน้าจอยิ่งฟินเข้าไปใหญ่
ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 1.51 กก. แม้จะไม่ได้เบาที่สุดในกลุ่มแล็ปท็อปจอ 15″ แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่ดีมากเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอที่ได้ใหญ่ขนาดนี้ แต่หนักราว ๆ โลครึ่งเท่านั้น หายากเหมือนกันนะ
ตัวเครื่องใหญ่ขึ้น พื้นที่ก็มากขึ้น
และด้วยตัวเครื่องที่ใหญ่ขั้นตามขนาดหน้าจอ ก็ทำให้มีพื้นที่มากขึ้นกว่าเดิม ช่องว่างระหว่างคีย์บอร์ดกับขอบเครื่องก็เลยห่างออกจากกันกว่ารุ่น 13″ อีกพอสมควร ตรงนี้เลยทำให้ Apple สามารถเพิ่มลำโพงเข้ามาอีก 2 ตัวทำให้ MacBook Air 15″ นี้ได้ลำโพงรวมถึง 6 ตัว เสียงแน่นขึ้นกว่าเดิมไปอีก
และอีกเรื่องที่ MacBook ทำได้ดีมาตลอดก็คือขนาดของ TrackPad ที่บน MacBook Air 15″ นั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ใช้งานได้จุใจกันไปเลยล่ะ
นอกนั้นคีย์บอร์ดก็ยังเป็นชุดเดิมจาก MacBook Air 13″ ทั้งปุ่ม Function ด้านบนแบบเต็มหรือจะเป็น Touch ID ที่วางไว้มุมขวาบน
พอร์ตชาร์จแบบ MagSafe และ Thunderbolt อีก 2
พอร์ตการเชื่อมต่อของ MacBook Air 15″ ก็จะได้พอร์ต MagSafe แบบแม่เหล็กเพื่อชาร์จไฟ และยังมี Thunderbolt/USB 4 มาให้อีก 2 พอร์ตอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง ส่วนฝั่งขวาก็จะมีเพียงช่องหูฟัง 3.5 มม.ครับผม
มีให้เลือก 4 สีเหมือนเดิม!
ส่วนสีสันของ MacBook Air 15″ ก็จะมีให้เลือก 4 สีเหมือนเดิมประกอบด้วย สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สตาร์ไลท์ และมิดไนท์ ซึ่งสีที่เราได้มารอบนี้เป็นสีมิดไนท์โทนเข้มที่จะออกกรมท่าเมื่อโดนแสง โดดเด่นอยู่ไม่น้อย แต่ก็แน่นอนว่ายังคงเก็บคราบรอยนิ้วมือเวลาสัมผัสอยู่พอสมควรครับ
โดยรวมในเรื่องของดีไซน์ของ MacBook Air 15″ ก็คือ MacBook Air 13″ เวอร์ชั่นขยายร่างนั่นแหละครับ แต่เป็นการขยายที่น่าจะถูกใจแฟน ๆ แน่นอน เพราะจุดเด่นของซีรีส์นี้ยังอยู่ครบทั้งความบางเฉียบและน้ำหนักที่เบาน่าพกพา แต่จอก็ใหญ่ขึ้นแบบสัมผัสได้ สมกับคำโปรโมทของ Apple ที่บอกว่า “ใหญ่เหลือเฟือ บางเหลือเชื่อ” จริง ๆ ครับ
ขุมพลัง Apple M2
สำหรับสเปคของ MacBook Air 15″ นี้ก็จะเป็นชุดเดียวกับของ MacBook Air 13″ รุ่นล่าสุดเลยครับ คือใช้ชิป M2 มี CPU 8-Core, GPU 10-Core และ NPU 16-Core ประสิทธิภาพเหลือ ๆ สำหรับใช้งานแน่นอน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นพรีวิวคร่าว ๆ ของ MacBook Air 15″ กับความรู้สึกแรกเท่านั้นครับ ในเรื่องดีไซน์ก็อย่างที่บอกว่ายกจุดเด่นของ MacBook Air มาได้ครบถ้วน แต่ได้จอที่ใหญ่ขึ้นแบบอลังการเลยล่ะ เป็นอีกตัวเลือกที่น่าจะถูกใจแฟน ๆ MacBook Air ที่ยังอยากได้ทั้งความบางเฉียบน้ำหนักเบา แต่หน้าจอใหญ่จริง ๆ ครับ ก่อนจากกันเราขอสรุปราคาค่าตัวของ MacBook Air 15″ ให้อีกสักรอบละกันครับ
ราคา MacBook Air 15″
- ชิป M2 รุ่น RAM 8GB + SSD 256GB ราคา 47,900 บาท
- ชิป M2 รุ่น RAM 8GB + SSD 512GB ราคา 54,900 บาท