Android News
แกะกล่องพรีวิว realme 13 5G | realme 13+ 5G สองสมาร์ทโฟนสุดแรง มอบประสิทธิภาพระดับ MVP ในราคาเข้าถึงได้!
realme 13 5G และ realme 13+ 5G เตรียมเปิดตัวทางการในไทยวันที่ 17 ตุลาคมนี้ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net ก็ได้เครื่องมาแกะกล่องให้ชมกันก่อนใครเหมือนเคย แอบบอกก่อนเลยว่ารอบนี้ดีไซน์สวย โดดเด่น แถมสเปคที่ให้มาก็น่าสนใจมาก ๆ ถ้าพร้อมแล้ว มาติดตาม พรีวิวของ realme 13 5G และ realme 13+ 5G กันเลยครับ!
แกะกล่อง realme 13 5G | realme 13+ 5G
เอาล่ะ! เริ่มแกะกล่องทั้งคู่เลยดีกว่า ที่หน้ากล่องเราจะเห็นชื่อรุ่นชัดเจนด้วยตัวหนังสือสีดำบนกล่องสีเหลืองที่เป็นสีของแบรนด์ realme ครับ
ที่ด้านหลังก็จะมีไฮไลท์สเปคของแต่ละรุ่นระบุไว้ครบ พร้อมข้อมูลอย่างละเอียดว่าเครื่องในกล่องนี้เป็นรุ่นความจุเท่าไหร่ และสีอะไรด้วย
เปิดกล่องออกมาชั้นแรกเราจะเห็นกล่องสีเหลืองชั้นแรกพร้อมสโลแกน realme ในปีนี้คือ Make it real ภายในกล่องนี้จะมีเข็มจิ้มถาดซิม, เอกสารคู่มือ และเคสซิลิโคนใสครับ
ถัดลงไปก็จะเจอกับตัวเครื่องที่อยู่ในซองเหมือนกัน เดี๋ยวไว้เรามาดูกันชัด ๆ อีกทีเนาะว่า สีที่เราได้มาจะสวยสักแค่ไหน
อุปกรณ์เสริมชุดล่างสุดก็จะเป็นสายชาร์จแบบ USB-C to USB-A และอะแดปเตอร์ชาร์จไวครับ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะแตกต่างกันนิดหน่อย โดย realme 13 5G จะได้ที่ชาร์จ 45W SUPERVOOC ในขณะที่ realme 13+ 5G จะได้ที่ชาร์จไว 80W SUPERVOOC เลยทีเดียวล่ะ
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ในกล่องของ realme 13 5G และ realme 13+ 5G ก็จะมีทั้งหมด 6 อย่างเท่ากันประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง realme 13 5G | 13+ 5G
- เคสซิลิโคน
- สายชาร์จ USB-C to USB-A
- อะแดปเตอร์ 45W SUPERVOOC | 80W SUPERVOOC
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
ดีไซน์ realme 13 5G | realme 13+ 5G
มาต่อกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องกันเลยดีกว่า! realme 13 5G และ realme 13+ 5G ได้ Design Language แบบเดียวกันคือ กล้องหลังวงกลมขนาดใหญ่ พร้อมเส้นโค้งตัดแยกระหว่างลวดลายคล้ายฟ้าผ่าพาดผ่านไปทั่ว เพิ่มลูกเล่นให้กับฝาหลังได้เยอะจริง ๆ ครับ
แต่ก็ยังมีบางจุดที่แตกต่างกันออกไปด้วย ทั้งความโค้งของตัวเครื่อง ความรู้สึกเวลาจับถือหรือสีสันไฮไลท์ที่ realme มอบมาให้กับทั้ง 2 รุ่น งั้นเรามาทำความรู้จักดีไซน์ไปที่ละรุ่นเลยดีกว่าเนาะ
ดีไซน์ realme 13 5G
เริ่มต้นที่ realme 13 5G ก่อนดีกว่า รุ่นนี้จะมาพร้อมดีไซน์แบบกรอบเหลี่ยมแบบชัดเจน เรียกว่าทรงตัวเครื่องมีความ Boxy กว่าหน้าจอและฝาหลังก็จะแบนราบไปเลยทั้งหมด
ส่วนสีสันเครื่องที่เราได้มารีวิวนี้ก็จะเป็นสี Dark Purple หรือม่วงเข้มที่เอาจริง ๆ สีสันจะอยู่บริเวณเลนส์กล้องซะมากกว่า เพราะตัวสีสันที่ฝาหลังจริง ๆ จะออกเทาเข้มไปเลยมากกว่า มีลวดลายฟ้าผ่าที่เป็นจุดเด่นของ realme 13 Series 5G อย่างที่บอกไป ตัวฝาหลังเป็นผิวด้านที่มีความระยิบระยับ เราว่าถ้าโดนแสงคือสวยมากเลยล่ะ
ที่หน้าจอของ realme 13 5G ได้จอ LCD ขนาด 6.72″ ความละเอียด FHD+ สีสวยใช้ได้ รองรับความสว่างสูงสุด 580nits และยังมี Refresh rate 120Hz ที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีด้วยครับ
กรอบเครื่องของ realme 13 5G จะเป็นแบบเหลี่ยมไปเลยอย่างที่บอกครับ ตัวเครื่องมีความบางที่ 7.79 มม. น้ำหนักจะอยู่ที่ 190 กรัม ถือว่ากำลังดีครับกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่และสัดส่วนตัวเครื่องแบบนี้
ตำแหน่งอื่น ๆ ก็วางไว้ตามมาตรฐานของ realme ครับ มีปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ฝั่งขวามือ กดได้ง่ายไม่สูงหรือต่ำเกินไป
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องใส่ซิม (แบบ Hybrid Slot) ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ด้านล่างมีลำโพงหลักตัวเครื่อง พอร์ต USB-C ไมโครโฟนสนทนาและช่องหูฟัง 3.5 มม.ก็ยังมีมาให้ด้วย
ดีไซน์ realme 13+ 5G
มาต่อกันที่ realme 13+ 5G กันบ้าง แม้ภายนอกดูรวม ๆ แล้วจะมีดีไซน์ไม่ต่างจาก realme 13 5G มากนัก แต่ถ้าสัมผัสเครื่องจริงจะรู้สึกถึงความแตกต่างทันที เพราะฝาหลังของรุ่น + นั้นจะมีความโค้งไมโคร 2.8D ไม่ใช่แค่ทำให้การสัมผัสดูเข้ามือมากขึ้น แต่เมื่อมองก็รู้สึกถึงความเพรียวบางด้วยเช่นกัน
ส่วนสีสัน realme 13+ 5G จะมาพร้อมกับสีไฮไลท์คือสีทอง Victory Gold ที่ดูพรีเมี่ยม ทองแบบผู้ดีไม่ฉูดฉาดหรือจืดชืดจนเกินไป พร้อมเส้นโค้ง Speed Curve ที่ตัดแบ่งส่วนเรียบของช่วงบนกับลวดลายฟ้าผ่าที่อยู่ด้านล่างได้อย่างพอดิบพอดี
สัดส่วนตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ บางเฉียบเพีบง 7.6 มม. และน้ำหนักก็อยู่ที่ 185 กรัม เป็นไซซ์ที่เราว่ากำลังกะทัดรัด พกพาง่าย ไม่หนักจนเกินไป
ส่วนหน้าจอ realme 13+ 5G มาพร้อมหน้าจอ E4 AMOLED ขนาด 6.67″ แสดงผลได้สวยงามคมชัดขึ้นมาอีก ความละเอียด FHD+ รองรับความสว่างสูงสุดถึง 2000nits แถมยังรองรับการแสดงผลแบบ Pro-XDR ดูคอนเทนต์ HDR หรือรูปถ่ายได้ช่วงสีและความสว่างมากขึ้นด้วย
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็วางตำแหน่งคล้าย ๆ realme 13 5G ครับ มีปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ฝั่งขวามือ กดได้ง่ายไม่สูงหรือต่ำเกินไป
แต่ช่องหูฟังของ realme 13+ 5G จะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่องแทน มีลำโพงด้านบนที่รวมกับลำโพงด้านล่างเพื่อขับเสียงออกมาเป็น Stereo ได้ด้วย พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น USB-C อยู่ด้านล่าง และข้าง ๆ ก็เป็นช่องใส่ซิมที่เป็นแบบ Hybrid Slot ด้วยครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ realme 13 5G และ realme 13+ 5G ก็ถือว่าได้ Design Language มาแบบเดียวกันกับกล้องหลังวงกลมเสริมพลังเด่น มีเส้นโค้ง Speedy Curved ตัดแยกลวดลายออกจากกัน แต่จะมีจุดที่แตกต่างกันในเรื่องของขนาดหน้าจอ รูปแบบแบนและโค้งในฝาหลัง สวยลงตัวกันไปคนละแบบครับ
สเปค realme 13 5G | realme 13+ 5G
ด้านสเปคของทั้งคู่นั้นได้ชิป 5G ประสิทธิภาพสูงจาก MediaTek Dimensity มาทั้งคู่ แต่จะใช้กันคนละรหัสพร้อมความจุที่มีให้เลือกก็ต่างกันนิดหน่อยดังนี้
- realme 13 5G ใช้ชิป Dimensity 6300 5G Octa-Core 2.4GHz (6nm) | ความจุ 8GB + 256GB
- realme 13+ 5G ใช้ชิป Dimensity 7300 Energy Octa-Core 2.5GHz (4nm) | ความจุ 12GB + 256GB
ส่วนแบตเตอรี่ทั้ง realme 13 5G และ realme 13+ 5G ให้มาเหมือนกันคือแบตเตอรี่ 5000mAh แต่จะมีระบบชาร์จไวที่ต่างกันนิดหน่อยคือ realme 13 5G ได้ชาร์จไว 45W SUPERVOOC ในขณะที่ realme 13+ 5G ได้ไปถึง 80W SUPERVOOC แล้วครับ!
ด้านซอฟต์แวร์ realme 13 5G และ realme 13+ 5G ได้ realme UI 5.0 ที่ครอบทับมาบน Android 14 เหมือนกัน ก็คือเวอร์ชั่นล่าสุดของ realme ตอนนี้แล้วแหละ มีทั้งความลื่นไหลขั้นสุด ฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ รวมถึง GT Mode ที่ช่วยปลดล็อคขุมพลังด้านประสิทธิภาพมาเหมือนกันด้วย
กล้อง realme 13 5G | realme 13+ 5G
มาถึงเรื่องกล้อง realme 13 5G และ realme 13+ 5G ก็มีจุดขายอยู่ที่กล้องหลัก 50MP เหมือนกัน แต่จะใช้เซ็นเซอร์ต่างกันนิดหน่อย มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลยครับ
สเปคกล้อง realme 13 5G
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ Samsung S5KJNS) f/1.8, OIS
- 2MP กล้อง Mono f/2.4
- 16MP กล้องหน้า f/2.45
สเปคกล้อง realme 13+ 5G
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ LYT-600 ขนาด 1/1.95″) f/1.8, OIS
- 2MP กล้อง Mono f/2.4
- 16MP กล้องหน้า f/2.4
ในด้านการถ่ายภาพกล้องของ realme 13 5G และ realme 13+ 5G ก็จะสามารถเก็บภาพได้ทั้งระยะ 1x และ 2x ด้วยความที่เซ็นเซอร์มีขนาดใหญ่และใช้ฟีเจอร์ In-Sensor Zoom ได้ นอกจากนี้ยังมีการประมวลผลภาพกลางคืนและ HDR ที่ยอดเยี่ยมขึ้นอีกด้วยนะ
สรุปสเปค realme 13 5G
- หน้าจอ : LCD ขนาด 6.72″
- ความละเอียด : FHD+ (2400×1080 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 580nits
- Refresh rate : 120Hz, Touch Sampling rate 240Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 6300 Octa-Core 2.4GHz (6nm)
- RAM : 8GB
- Storage : 256GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 45W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 16MP f/2.45
- กล้องหลัก : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก (Samsung S5KJNS) f/1.8, OIS
- 2MP กล้อง Mono f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (realme UI 5.0)
- สีสัน : Speed Green, Dark Purple
สรุปสเปค realme 13+ 5G
- หน้าจอ : E4 AMOLED ขนาด 6.67″
- ความละเอียด : FHD+ (2400×1080 พิกเซล), ความสว่างสูงสุด 2000 nits
- Refresh rate : 120Hz, Touch Sampling rate 240Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 7300 Energy Octa-Core 2.5GHz (4nm)
- RAM : 12GB
- Storage : 256GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 80W SUPERVOOC
- กล้องหน้า : 16MP f/2.4
- กล้องหลัก : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก (LYT-600) f/1.8, OIS
- 2MP กล้อง Mono f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 14 (realme UI 5.0)
- สีสัน : Victory Gold, Speed Green, Dark Purple
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวคร่าว ๆ หลังจากแกะกล่องของ realme 13 5G และ realme 13+ 5G ให้ได้เห็นดีไซน์และฟีเจอร์น่าสนใจของรุ่นนี้เท่านั้นเนาะ แต่แค่นี้ก็เชื่อว่าหลายคนสนใจ ไว้เดี๋ยวเราไปลองเล่นเกม ถ่ายภาพด้วยกล้อง 50MP ใหม่มาอีกสักหน่อย แล้วพบกันอีกทีในรีวิวฉบับเต็มหลังงานเปิดตัววันที่ 17 ตุลาคมนี้ได้เลย!