Featured
รีวิว vivo T1 5G และ vivo T1x สองสมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ เริ่มต้นอย่างทรงพลัง เร็วแรงที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน
รีวิว vivo T1 5G และ vivo T1x สองสมาร์ตโฟนซีรีส์ใหม่ T ในที่นี้ก็ย่อมาจาก Turbo แน่นอนว่าเน้นไปที่สายเกมมิ่งแบบเต็มตัวด้วยสเปคจัดเต็ม ทั้งชิปเซ็ต Snapdragon, หน้าจอขนาดใหญ่, แบตเตอรี่เยอะ, มีชาร์จไว ในราคาเริ่มต้นเบา ๆ แค่ 5,699 บาทเท่านั้น
เปิดหัวมาแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net รีวิว vivo T1 5G และ vivo T1x ให้ชมแบบเต็ม ๆ ว่าคุ้มค่าแค่ไหน ติดตามได้เลย!
vivo T1 5G
เราขอแยกเป็นรุ่น ๆ ไปเลยละกันครับ เริ่มที่ รีวิว vivo T1 5G ก่อนเลย รุ่นนี้จะเน้นไปที่สายประสิทธิภาพสูง กลุ่มเกมมิ่งเต็มตัวเพราะจัดสเปคมาแบบจัดเต็ม รวมถึงดีไซน์ที่น่าสนใจ แต่มาในราคาที่สบายกระเป๋าเพราะเปิดมาแค่ 10,999 บาทเท่านั้นครับ สเปคจัดเต็มแค่ไหน เราสรุปมาให้คร่าว ๆ ตามนี้เลย
สรุปสเปค vivo T1 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44″ ความละเอียด FHD+
- refresh rate : 90Hz
- CPU : Qualcomm Snapdragon 778G 5G (6nm)
- RAM : 8GB + 4GB Extended RAM
- ROM : 128GB
- แบตเตอรี่ : 4700mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 66W vivo Flash Charge
- กล้องหน้า : 16MP
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- กล้องหลัก 64MP f/1.79
- กล้อง Ultra Wide 8MP f/2.2
- กล้อง macro 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- สีสัน : Turbo Cyan, Turbo Black
Turbo Design ทันสมัย โดดเด่น
เรื่องประสิทธิภาพไว้อธิบายเสริมกันอีกที ตอนนี้ขอพาชมดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนดีกว่าเนาะ vivo T1 5G มาพร้อม Turbo Design ที่มีทั้งความทันสมัย และความโดดเด่นที่น่าสัมผัสมาก ๆ ด้วยเทคโนโลยี AG ทำให้ได้สัมผัสแสนสบาย ไร้รอยนิ้วมือ มาพร้อมกับพื้นหลังเปล่งประกายสวยงาม ที่เคลือบด้วยเทคโนโลยีนาโน
แต่ก็ยังแฝงความทันสมัยด้วยการเพิ่มการไล่เฉดสีเข้าไปอีกด้วย สีที่เราได้มาเป็นสี Turbo Cyan ที่มีความฟ้าไล่เฉดสีไปจนถึงสีม่วงได้อย่างลงตัว ดูไม่นิ่งและมีลูกเล่นตลอดเวลาที่ตัวเครื่องกระทบกับแสงในมุมต่าง ๆ อีกด้วยครับ
ตัวโมดูลกล้องจะเป็นแบบวงแหวน 2 วงที่วางอยู่บนเพลทสี่เหลี่ยมแบบไล่ระดับอีกที ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กล้องดูมีมิติมากขึ้น อีกทั้งยังให้ความรู้สึกถึงกล้องอันทรงพลังมาก ๆ อีกด้วยครับ
หน้าจอ AMOLED สีสวย พร้อมตอบสนองลื่นไหล
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอ vivo T1 5G ใช้จอ AMOLED Halo Fullview Display ขนาด 6.44″ ความละเอียด FHD+ ในเรื่องการแสดงผลถือว่าทำได้ดีมาก ทั้งสีสันที่สวยสดตามสไตล์จอ AMOLED มีความคมเข้มและดำสนิทและความละเอียดที่เหมาะสมกับขนาดหน้าจออีก
ในเรื่องการดูคอนเทนต์ต้องบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในจอที่สวยที่สุดในกลุ่มราคาหมื่นต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งค่าคอนทราสต์ที่สูงถึง 6,000,000 : 1, ความสว่างสูงสุดที่ได้ถึง 1300nits, รองรับ 100% DCI-P3 Color Gamut, ได้รับการรับรอง HDR 10+, ใบรับรองการถนอมสายตาจาก SGS และรองรับความคมชัดระดับ HD บน Netflix อีก สายความบันเทิงถูกใจแน่นอน
ส่วนเรื่องการตอบสนอง vivo T1 5G ก็มาพร้อม refresh rate 90Hz ที่ลื่นไหลไปทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอ, เข้า-ออกแอป, เล่นโซเชี่ยล ล้วนแล้วแต่มอบประสบการณ์เหนือระดับให้เราจริง ๆ ครับ
และด้วยความเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ก็เลยซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปในหน้าจอได้ด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการปลดล็อคหน้าจอได้ง่ายขึ้น ในเรื่องความเร็วในการใช้งานก็ทำได้ดีเลย แตะปุ๊บก็ติดปั๊บได้เลยไม่ต้องเสียเวลามากดรหัสให้ยุ่งยากเลย
บางเฉียบและเบาใช้งานได้ถนัดมือ
ส่วนความบาง แม้ว่ารุ่นนี้จะให้สเปคมาจัดเต็มแต่ก็ยังเน้นไปที่เรื่องดีไซน์จึงมีความบางตัวเครื่องเพียง 8.49 มม.เท่านั้น ทำให้จับถือได้แบบพอดีมือไม่ล้นหรือหนาจนเกินไป อีกทั้งน้ำหนักตัวเครื่องยังเบาแค่ 180.3 กรัม พอรวมเข้ากับความบางที่กำลังดี จึงทำให้เราถือใช้งานได้อย่างถนัด ไม่หนักและสามารถเพลิดเพลินในเวลานาน ๆ ได้นั่นเองครับ
ขอบบน-ล่างที่ตัดเหลี่ยมเพิ่มดีไซน์
ขอบด้านบน-ล่างของตัวเครื่องจะมีดีไซน์แบบตัดเหลี่ยมเพิ่มให้ตัวเครื่องมีความคลาสสิคเล็ก ๆ เข้าไปอีกหน่อย ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อจะอยู่ตำแหน่งมาตรฐานคือด้านล่างตัวเครื่อง รุ่นนี้ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม.มาให้ มีเพียงพอร์ตแบบ USB-C และรอบ ๆ ก็จะมีไมโครโฟนสนทนา, ช่องใส่ซิมและลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
ซึ่งตัวถาดซิมของรุ่นนี้ก็จะเป็นแบบ Dual-SIM ไม่รองรับการเพิ่ม micro-SD ภายนอกเพิ่มอีก แต่ในเครื่องก็ให้มามากถึง 128GB แล้วล่ะครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ vivo T1 5G ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมาได้หรูหราพรีเมี่ยมใช้ได้สมกับที่ใช้คำว่า Turbo Design เราได้เห็นถึงความเร็วแรงในตัว พร้อมงานประกอบที่ยอดเยี่ยมทั้งวัสดุฝาหลังแบบด้านที่ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือเยอะ ตัวเครื่องมีความเพรียวบางและโค้งมนกำลังดี และยังได้หน้าจอ AMOLED ที่สวยคมชัดมาอีกด้วย
ชิปเซ็ต Snapdragon 778G 5G ตัวแรงในงบหมื่นนิด ๆ
มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพของ vivo T1 5G อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้เน้นไปที่กลุ่มเกมมิ่ง สายประสิทธิภาพสูง จึงจัดเต็มด้วย Snapdragon 778G 5G ชิปเซ็ตตัวแรง ขนาด 6nm เทคโนโลยีขั้นสูงระดับเรือธง เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU และ GPU ขึ้นถึง 40% ซึ่งหากเทียบกับกลุ่มสมาร์ตโฟนงบหมื่นนิด ๆ ก็เรียกว่าเร็วแรงที่สุดในช่วงราคาเดียวกันเลยก็ว่าได้ครับ
แต่เท่านั้นยังไม่พอเพราะหน่วยความจำภายในเครื่องรุ่นนี้ก็ให้แรมมาที่ 8GB + 4GB Extended RAM ที่รวมกันก็ได้ถึง 12GB ให้แล้ว มีหน่วยความจำภายในเครื่องอีก 128GB ถือว่าเยอะจุใจกันเลย
และในเรื่องการเชื่อมต่อก็รองรับ 5G แบบดูอัลโหมด (Dual-Mode) ที่มอบประสบการณ์ความรวดเร็วแบบเหนือระดับ ไม่ว่าจะเล่นโซเชี่ยล เล่นเกมไม่ต้องกังวลเรื่องความเร็วและเสถียรเลยล่ะครับ
ผลทดสอบสูงสุด ๆ ในช่วงราคาเดียวกัน
เห็นสเปคและประสิทธิภาพระดับนี้แล้วเราก็ขอลองทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป Benchmark ยอดนิยมอย่าง AnTuTu และ Geekbench 5 ซะหน่อย และอย่างที่บอกว่าสเปคของ vivo T1 5G นั้นให้มาเร็วแรงที่สุดในช่วงราคาเดียวกัน คะแนนของ AnTuTu Benchmark ก็ออกมาสูงถึง 547539 คะแนนเลย สูงมากกกก!
ส่วนทางฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 789 คะแนนและ Multi-Core ที่ 2834 คะแนน ก็ถือว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ
ประสบการณ์การเล่นเกมระดับ Turbo
ไหน ๆ ก็คุยเรื่องประสิทธิภาพมาขนาดนี้แล้ว ขอเราทดสอบเรื่องการเล่นเกมแบบจริงจังสักหน่อยดีกว่า แต่ในเมื่อวางตัวมาในกลุ่มเกมมิ่งแบบนี้ จะแค่เล่นเกมลื่นอย่างเดียวคงไม่ได้ vivo T1 5G มาพร้อมฟีเจอร์ Ultra Game mode ที่จะมาช่วยจัดการการเล่นเกมของเราได้เสถียรยิ่งขึ้น เพียงแค่เลื่อนแถบที่มุมซ้ายบนออกมาเราจะเจอกับแผงควบคุมมากมาย หนึ่งในนั้นก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างระบบสั่น 4D Game Vibration ที่ช่วยเพิ่มระบบสั่นในเกมให้คล้ายเกมคอนโซล พอใช้งานร่วมกับ Linear Motor สั่นนุ่ม ๆ ก็ช่วยให้เราเล่นเกมได้อรรถรสมากขึ้นไปอีก
เอาล่ะ ได้เวลาทดสอบเกมกันแล้วเนาะ เกมที่เราจะใช้ทดสอบ vivo T1 5G มีด้วยกัน 3 เกมคือ Asphalt 9, Pokemon Unite และ Call of Duty เท่าที่เราลองต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพของรุ่นนี้สูงเกินคาดมาก!
เล่น Asphalt 9 บน vivo T1 5G
เริ่มที่ Asphalt 9 กันก่อนเลย เราสามารถปรับระดับกราฟิกได้ที่ High Quality หรือสูงสุด ภาพในเกมกราฟิกสวยงามอลังการมาก ด้วยตัวหน้าจอ AMOLED ที่แสดงผลสีสันและความคมชัดได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ภาพที่ออกมาสวยและสมจริงเล่นแล้วฟินเอามาก ๆ ส่วนความนิ่งของตัวเกมก็ทำได้ดี แม้จะเล่นติดต่อกันนาน ๆ ก็ยังไม่เจออาการเฟรมดรอปเลยล่ะครับ
เล่น Pokemon Unite บน vivo T1 5G
มาต่อที่เกมแนว Moba อย่าง Pokemon Unite ตัวเกมปรับตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตมาที่สูงสุดตั้งแต่เริ่มต้นเลย ด้วยประสิทธิภาพของชิปเซ็ตระดับนี้ ก็เล่นได้อย่างสบาย ๆ เท่าที่เราสังเกตจากตัวเลข fps ที่มุมจอ ก็อยู่นิ่ง ๆ ที่ 55 – 59fps ตลอดทั้งเกมครับ แม้จะเล่นกันไปหลาย ๆ แมทช์ก็ยังไม่เจออาการกระตุกหรือเฟรมดรอปเช่นกัน เยี่ยม!
เล่น Call of Duty บน vivo T1 5G
และเกมสุดท้าย Call of Duty เช่นเดียวกับ 2 เกมข้างบน ปรับกราฟิกและเฟรมเรตได้ระดับสูงสุดเท่าที่เกมจะทำได้ในตอนนี้ครับ (ภาพ Very High คู่กับเฟรมเรต MAX) ซึ่งเท่าที่เล่นจริงจังก็ลื่น ๆ อีกตามเคย ตัวหน้าจอขนาดที่ใหญ่มอบมุมมองของฉากได้กว้าง รวมถึงการตอบสนองที่ลื่นไหล ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าจอ การเล็ง การแตะยิงก็ไม่เจออาการดีเลย์ให้หงุดหงิด กราฟิกก็สวยคมเอามาก ๆ บนจอ AMOLED 6.44″ นี้ รวมถึงเฟรมเรตที่นิ่งสุด ๆ
ระบบระบายความร้อน 8 ชั้น
ในเรื่องความร้อนขณะเล่น แน่นอนว่าต้องพบบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่อุ่น ๆ เท่านั้น ซึ่งไม่ส่งผลต่อการเล่นเกมหรือจับถืออย่างรุนแรงเลย เพราะว่า vivo T 1 5G นั้นมีระบบระบายความร้อนมาถึง 8 ชั้น พร้มพื้นที่ระบายความร้อนทั้งหมด 32923mm² เป็นเจ้าแรกในช่วงราคาเดียวกันที่มีขนาดแผ่นระบายความร้อนขนาด 2097mm² ซึ่ง vivo เคลมว่าระบบนี้จะช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 12 องศาเลย หายห่วงเรื่องประสิทธิภาพเลยล่ะครับแบบนี้
ใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ 4700mAh
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ vivo T1 5G นั้นให้แบตเตอรี่มา 4700mAh ถือว่าเยอะเพียงพอต่อการใช้งานกับสเปคที่ให้ครับ เท่าที่เราลองใช้งานมาจริงจัง ก็ต้องใช้คำว่า แบตฯอึด สำหรับรุ่นนี้เลย ในการใช้งานทั่วไปสามารถอยู่ได้ 1 วันสบาย ๆ หรือถ้าจะเล่นเกมหนักหน่อยก็ยังไหวครับ
มีชาร์จไว 66W Ultra-Fast
แต่ถ้าเล่นหนักมาจริง ๆ แล้วอยากชาร์จกลับเข้าไปเพื่อลุยต่อก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะ vivo T1 5G มาพร้อมระบบชาร์จไว Ultra-Fast ถึง 66W ที่ vivo เคลมว่าชาร์จ 50% ได้ในเวลาเพียง 18.2 นาทีเท่านั้น ให้เราได้ชาร์จแบตฯเยอะ ๆ คืนมาได้ในพริบตา หมดกังวลเรื่องรอนานเวลาชาร์จได้เลยรุ่นนี้
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด Android 12 บน FunTouch OS 12
ในเรื่องระบบปฏิบัติการ vivo T1 5G มาพร้อมระบบ Android 12 ที่ครอบทับด้วย FunTouch OS 12 ทำให้ทั้งหน้าตา UI และความลื่นไหลทำได้ดีมาก ๆ มีลูกเล่นในการปรับแต่งมากมาย อย่าง Dynamic effects ก็ยังมีให้เลือกอยู่ ในนี้เราจะสามารถเลือกปรับแต่งได้หลายอย่างเลย อาทิ Amnient Light effect เวลามีแจ้งเตือนให้แสดงไฟที่ขอบจอ, ความเร็ว Transition ของอนิเมชั่นในการเปิดแอป, อนิเมชั่นการปลดล็อคหน้าจอ, อนิเมชั่นการชาร์จ และอีกเพียบ เรียกว่าใครชอบปรับแต่งให้เป็นสไตล์ตัวเองถูกใจแน่นอนครับ
กล้อง AI Triple Camera พลัง Turbo
มาต่อที่เรื่องกล้อง vivo T1 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวหรือ AI Triple Camera ที่ทรงพลังไม่แพ้ใคร มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้เลย
- กล้องหลัก 64MP f/1.79
- กล้อง Ultra Wide 8MP f/2.2
- กล้อง macro 2MP f/2.4
ในเรื่องฮาร์ดแวร์ก็ถือว่าให้มาครบเครื่องไม่น้อย ทั้งกล้องหลักความละเอียดสูง 64MP, มีกล้อง Ultra Wide 8MP เก็บมุมได้กว้าง แถมยังได้กล้อง macro ที่สามารถเข้าใกล้วัตถุได้ในระยะ 4 ซม.ช่วยให้เราได้ระยะของภาพที่ค่อนข้างทีเดียวครับ ส่วนในเรื่องซอฟต์แวร์ vivo T1 5G ก็ยังมีระบบ AI Scene ที่คอยช่วยจัดการภาพถ่ายให้สวยขึ้นได้ด้วย
ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องของ vivo T1 5G ก็ทำได้ดีสมกับเป็นแบรนด์ vivo ครับ ในกล้องหลักใช้งานได้ดีมาก ทั้งคุณภาพของสีสันและความคมชัด ตัว AI Scene ช่วยจัดการภาพให้ออกมาสวยสดขึ้นและถูกใจแบบที่ไม่ต้องไปปรับแต่งเพิ่มเลย รวมถึงฟีเจอร์ Auto HDR ที่จัดการ Dynamic Range ของภาพได้ดี ถ่ายย้อนแสงหรือแสงน้อยก็ไหว ส่วนกล้อง Ultra Wide ก็ให้ภาพมุมกว้างกว่าที่เคยเก็บภาพวิวได้ครบถ้วน และกล้อง macro ก็ให้เราเข้าใกล้วัตถุสูงสุดที่ 4 ซม.ให้เราได้ถ่ายดอกไม้หรืออะไรใกล้ ๆ ได้อย่างคมชัด
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัก
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง macro
โหมด Portrait ถ่ายคนสวยเนียน โบเก้สวย
ปิดท้ายที่โหมด Portrait ทาง vivo T1 5G สามารถถ่ายคนได้อย่างสวยเนียนตามสไตล์ vivo ใบหน้าของแบบสวยเนียนเป็นธรรมชาติ รวมถึงการละลายฉากหลังที่เนียนตา เพิ่มโบเก้ได้อย่างถูกใจและสมจริงอีกด้วย มี Portrait Style มาให้เลือก 4 แบบคือ ธรรมชาติ, ภาพยนตร์, เฟรนช์อิมเพรสชัน และภาพโดยใช้แฟลช เพิ่มโทนให้ภาพมีลูกเล่นเพิ่มเติมได้อีกครับ
กล้องหน้า 16MP เซลฟี่ได้ถูกใจ
ปิดท้ายที่กล้องหน้า vivo T1 5G มาพร้อมกล้องหน้า 16MP ใช้งานเซลฟี่ได้อย่างสวยเนียนเพราะมีทั้ง Face Beauty และโหมดมาให้ครบ Portrait หน้าชัด-หลังเบลอ, Super Night Portrait อีกด้วย
สรุปการใช้งาน vivo T1 5G
สรุปแล้ว รีวิว vivo T1 5G ก็ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนสายเกมมิ่งที่ประสิทธิภาพจัดเต็ม น่าสนใจมาก ๆ อีกรุ่นเพราะด้วยสเปคที่ให้มาแบบไม่กั๊กทั้งชิปเซ็ต Snapdragon 778G 5G, หน้าจอ AMOLED 90Hz, มีความจุสูงถึง 8GB + 128GB, แบตเตอรี่ 4700mAh พร้อมชาร์จไว 66W Flash Charge อีก เรียกว่าให้มาน้อง ๆ เรือธงแล้วก็ว่าได้ แต่ราคาเปิดตัวมาแค่ 10,999 บาทเท่านั้น ไม่รู้จะใช้คำว่าคุ้มค่าแค่ไหนถึงจะพอจริง ๆ และเท่าที่เราได้ใช้งานจริงก็ประทับใจมาก ได้ดีไซน์ที่เพรียวบาง ใช้งานอย่างถนัดมือ และสเปคที่จัดมาก็ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อีกนานเลยด้วย ใครที่กำลังหาสมาร์ตโฟนเร็วแรงไว้เล่นเกมแบบจัดหนักในราคาที่สบายกระเป๋าอยู่ vivo T1 5G ถือเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ควรมองหาเลยจริง ๆ ครับ!!
vivo T1x
มาต่อกันที่รุ่นน้องอย่าง vivo T1x รุ่นนี้จะมีราคาที่ย่อมเยาลง สำหรับผู้ใช้ที่มีงบน้อยลงมาหน่อย แต่ก็ยังอยากได้ประสบการณ์ทำงานระดับ Turbo อยู่เช่นเคย รุ่นนี้จึงมาพร้อมสโลแกน “เริ่มต้นอย่างทรงพลัง” ให้สเปคมาจัดเต็มไม่น้อย แต่ราคาค่าตัวเพียง 5,699 บาท ใครที่เล็งสมาร์ตโฟนสายเกมราคา 5,000 – 6,000 บาทอยู่ตัวนี้น่าสนใจมาก มาดูกันว่าน่าสนใจยังไงครับ!
สรุปสเปค vivo T1x
- หน้าจอ : LCD In-Cell ขนาด 6.58″ ความละเอียด FHD+
- refresh rate : 90Hz
- CPU : Qualcomm Snapdragon 680 (6nm)
- RAM : 4GB + 1GB Extended RAM
- ROM : 64GB
- แบตเตอรี่ : 5000mAh
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 18W Fast Charge
- กล้องหน้า : 8MP
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- กล้องหลัก 50MP f/1.8
- กล้อง macro 2MP f/2.4
- กล้อง Depth 2MP f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- สีสัน : Gravity Black, Space Blue
บอดี้ฝาหลังผิวด้าน พรีเมี่ยมเปี่ยมด้วยพลัง Turbo
ได้เวลามาชมดีไซน์ของ vivo T1x กันต่อ รุ่นนี้ยังคงความพรีเมี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่ (T1 5G) ใช้ฝาหลังผิวด้านที่ให้สัมผัสที่เนียนมือและไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือจนเกินไป ทำให้เวลาเราถือใช้งานก็ไม่ต้องพังวลว่าจะดูเลอะเทอะและมาคอยเช็ดทำความสะอาดกันบ่อย ๆ
vivo T1x มีให้เลือก 2 สีคือ Space Blue และ Gravity Black แบบที่เราได้มารีวิวนี่แหละครับ ความสวยงามของฝาหลังรุ่นนี้คือการไล่เฉดสีของสีดำได้อย่างลงตัว ไล่ลงไปตั้งแต่เทาไปจนถึงดำได้อย่างมีมิติ นอกจากนี้บริเวณใกล้ ๆ กรอบเลนส์ยังมีการทำพื้นผิว 2 แบบคือด้านและมันเงาเพิ่มความแวววาวเล็ก ๆ ให้ดีไซน์ดูไม่เรียบจนเกินไปอีกด้วย
หน้าจอ 90Hz ใหญ่เต็มตา พร้อมความละเอียดคมชัด FHD+
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง vivo T1x มาพร้อมหน้าจอ LCD In-Cell ขนาด 6.58″ พร้อมความละเอียดสูง FHD+ ให้การแสดงผลที่คมชัดและสีสันก็สวยงามใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับราคาเบา ๆ ไม่ถึง 5,700 บาทแบบนี้เนาะ จะเอามาดูหนังหรือไฟล์ภาพความละเอียดสูงก็ถูกใจใช้ได้เลย
บอดี้ทรงเหลี่ยม ตามสมัยนิยม
ดีไซน์รอบ ๆ เครื่องของ vivo T1x จะเป็นแบบเหลี่ยมตามสมัยนิยม มีความบางของตัวเครื่องเพียง 8 มม.และด้วยความเหลี่ยมเราจึงสัมผัสขอบได้แบบเต็มที่ ส่วนปุ่มกดจะอยู่ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องทั้งหมดมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่ซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ภายในด้วยครับ
พอร์ตการเชื่อมต่อครบ มีช่องหูฟัง 3.5 มม.
พอร์ตการเชื่อมต่อของ vivo T1x ใช้เป็น USB-C วางอยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง และมีไมโครโฟนกับลำโพงหลักตัวเครื่องอยู่ด้านข้าง ซ้าย-ขวาตามลำดับครับ ช่องหูฟัง 3.5 มม.ก็ยังมีมาให้ด้วยนะ
ส่วนช่องใส่ซิมของ vivo T1x ก็จะอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่องซึ่งถาดใส่ซิมของรุ่นนี้จะให้มาแบบ Triple Slot คือสามารถใส่ 2 ซิมพร้อมกับเพิ่ม micro-SD ได้ด้วย เผื่อว่าที่ให้มาในเครื่อง 64GB อาจไม่พอ ก็ไม่ต้องกังวลเนาะ
โดยรวมดีไซน์ของ vivo T1x ก็ทำได้ดีเช่นกันครับ อย่างที่บอกว่าราคาเปิดตัวเพียง 5,699 บาท แต่ได้ฝาหลังผิวด้านที่ดูดีแบบที่เราชอบมาก ๆ พร้อมกับหน้าจอที่ขนาดใหญ่ถึง 6.58″ และบอดี้เพรียวบาง 8 มม.อีก เป็นรุ่นประหยัดที่รูปลักษณ์สวยงามเกินราคาจริง ๆ
ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย FunTouch OS 12
สำหรับระบบปฏิบัติการของ vivo T1x นั้นจะแตกต่างจาก vivo T1 5G นิดหน่อยตรงที่รุ่นนี้ใช้ Android 11 แต่ก็ยังเป็น FunTouch OS 12 แบบเดียวกัน ในเรื่องความสดใหม่ของซอฟต์แวร์จะคล้ายกัน แต่ก็มีบางลูกเล่นที่ต่างกันอยู่นิดหน่อย แต่โดยรวมในเรื่องของประสบการณ์การใช้งานยังทำได้ดีอยู่ แถมได้หน้าจอ 90Hz มาก็ยิ่งลื่น ๆ ไปหมดครับ
ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ประสิทธิภาพเร็วแรง
มาต่อในเรื่องประสิทธิภาพ vivo T1x นั้นจัดเต็มพลัง Turbo มาเช่นกัน ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 680 แบบ Octa-core ความเร็ว 2.4GHz ปรับปรุงประสิทธิภาพให้ใช้งานได้อย่างเร็ว แรง ทาง vivo เคลมว่า CPU แรงขึ้น 25% และ GPU เร็วขึ้น 15% แต่ลดการใช้พลังงานลง 12% ด้วยชิปเซ็ตตัวนี้ก็บอกลาปัญหาเครื่องค้างไปได้เลย
vivo T1x มีแรมมาให้ 4GB + Extended RAM เพิ่มได้อีก 1GB เปรียบเสมือนเรามีแรมถึง 5GB ถือว่าใช้งานได้อย่างราบรื่นดีมากแล้ว ส่วนประสิทธิภาพผ่านการทดสอบ เท่าที่เราทดสอบจากแอป AnTuTu Benchmark ก็ได้คะแนนไปสูงถึง 259378 คะแนน
ส่วนฝั่ง Geekbench 5 ก็ได้คะแนน Single-Core ไปที่ 388 คะแนน และ Multi-Core ไปที่ 1732 คะแนน เรียกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ ในกลุ่มราคาระดับนี้
ประสบการณ์เหนือชั้นด้วย Ultra Game mode
vivo T1x ก็มาพร้อม Ultra Game mode เหมือนกัน มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เต็มอิ่มยิ่งขึ้น ทั้ง ป้องกันการรบกวนขณะเล่นเกม, ล็อคความสว่างหน้าจอ เพื่ออรรถรสภาพที่ดีที่สุด, ป้องกันการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ, บล็อกการแจ้งเตือนข้อความและแอปอื่น ๆ ทั้งหมด และจัดการเฟรมเรทและอุณหภูมิอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับการเล่นเกม
เท่าที่เราลองเล่นกับเกม Asphalt 9 ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลดีมาก การจัดการของ Ultra Game mode ช่วยให้เราเล่นได้อย่างไม่มีอะไรมากวนใจ รวมถึงการจัดการเฟรมเรตที่ช่วงให้ตัวเกมนิ่งได้ตลอดทั้งเกมอีกด้วย
แบตเตอรี่ 5000mAh อึดทน พร้อมชาร์จไว 18W
ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ vivo T1x มาพร้อมความจุเยอะถึง 5000mAh เทียบกับสเปคที่ให้มาแล้วต้องบอกเลยว่า ใช้งานได้อย่างยาวนานแน่นอน ถ้าใช้งานไม่หนักมากก็ได้ 2 – 3 วันได้สบาย ๆ แต่ถ้าจะเล่นหนักจริงก็ไม่ต้องห่วงว่าจะหมดเอาง่าย ๆ ส่วนระบบชาร์จรุ่นนี้ให้มาที่ 18W Fast Charge ก็เพียงพอที่จะชาร์จแบตฯขนาดใหญ่กลับมาได้อย่างรวดเร็วเหมือนกันครับ
กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 50MP
ปิดท้ายที่กล้อง vivo T1x มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว มีสเปคคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
- กล้องหลัก 50MP f/1.8
- กล้อง macro 2MP f/2.4
- กล้อง Depth f/2.4
เรียกว่าเน้นไปที่กล้องหลักความละเอียดสูง 50MP กันเลยทีเดียว พร้อมกับกล้องเสริมอีก 2 ตัวคือกล้อง Depth และ macro เข้ามาเสริมให้การถ่ายภาพสมบูรณ์ขึ้นไปอีก
ในเรื่องของโหมดการถ่ายภาพก็ให้มาครบไม่แพ้รุ่นพี่ ทั้งโหมด Auto ที่มี AI Scene และ Auto HDR ช่วยให้เราได้ภาพถ่ายสวย ๆ แบบที่ไม่ต้องปรับตั้งค่าให้วุ่นวาย มีโหมด Portrait พร้อม Portrait Style หลากหลายเพิ่มลูกเล่นในการถ่ายคนให้สวยและเนียน หรือจะเป็นโหมด macro ที่ใช้งานกล้องเสริมให้ได้ภาพระยะใกล้ ๆ ก็ได้ด้วย ถือว่าเป็นรุ่นประหยัดที่ให้กล้องมาไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
กล้องหน้า 8MP เซลฟี่ใช้ได้เลย
พลิกกลับมาที่กล้องหน้า vivo T1x มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว ลูกเล่นกล้องหน้าก็มีทั้ง Face Beauty โหมด Portrait ก็ได้ด้วย ละลายฉากหลังสวยพร้อมหน้าเนียนไปอีก
สรุปการใช้งาน vivo T1x
สรุปแล้ว vivo T1x ก็ถือว่าเป็นรุ่นประหยัดที่น่าสนใจจาก vivo เพราะด้วยสเปคใหม่ล่าสุดแถมยังคุ้มค่าในกลุ่มราคาประหยัดด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 มีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.58″ แบตเตอรี่เยอะ 5000mAh พร้อมกล้องหลัง 50MP อีก เรียกว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนราคาไม่สูงแต่ก็ตอบโจทย์ในเรื่องความบันเทิงที่ครบครันจริง ๆ ครับ
ราคาและช่องทางการจำหน่าย vivo T1 Series
สุดท้ายและท้ายสุดก็เป็นการสรุปราคาและช่องทางการจำหน่ายของ vivo T1 Series ทั้ง 2 รุ่นนี้กันครับ แบ่งเป็น
- vivo T1 5G (8GB + 128GB) ราคา 10,999 บาท
- มีให้เลือก 2 สี Turbo Cyan และ Turbo Black
วางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะช่องทาง Shopee และ vivo Brand Shop ก่อนในวันที่ 3 – 18 พ.ค.65 พิเศษ! เมื่อซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่กับ dtac รายเดือน ราคาเริ่มต้น 6,199 บาทเท่านั้น!
- vivo T1x (4GB + 64GB) ราคา 5,699 บาท
- มีให้เลือก 2 สี Gravity Black และ Space Blue
วางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะ Lazada และ vivo Brand Shop ก่อนในวันที่ 3 – 18 พ.ค.65 พิเศษ! เมื่อซื้อเครื่องพร้อมเปิดเบอร์ใหม่กับ dtac รายเดือน ราคาเริ่มต้นแค่ 1,290 บาทเท่านั้น!
และทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มวางจำหน่ายในทุกช่องทางออนไลน์วันที่ 19 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไปครับ