Featured
รีวิว Vivo TWS Neo หูฟังดีไซน์สวย เสียงระดับสตูดิโอ ความหน่วงต่ำ ควบคุมง่าย กันน้ำ และราคาสบายกระเป๋า
Vivo TWS Neo หูฟังคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ ที่จัดได้ว่าฟีเจอร์ครบครันทั้งด้านการฟังเพลงและเล่นเกม แถมชูโรงด้วยค่าความหน่วงหรือ Latency นั้นต่ำมากๆ ที่ 88ms ทำให้ภาพและเสียงนั้นตรงกันมากที่สุด
คุณสมบัติ Vivo TWS Neo
- ขนาดหูฟัง : 33.9 × 18.6 × 16.5 มม.
- ขนาดเคสชาร์จ : 58.1 × 51.6 × 24.0 มม.
- น้ำหนักรวมเคสชาร์จ : 45.7 กรัม
- น้ำหนักหูฟัง : 4.7 กรัม
- กันน้ำกันฝุ่น : IP54
- ไดร์เวอร์ไดนามิก : 14.2 มม.
- Latency : ต่ำสุด 88ms
- ลดเสียงแทรกซ้อน : ลดเสียงแทรกซ้อนอัจฉริยะ
- Bluetooth : Bluetooth 5.2
- ความจุแบตเตอรี่หูฟัง : ข้างละ 27mAh
- ความจุแบตเตอรี่เคสชาร์จ : 415mAh
- ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ : เคสชาร์จ 100 นาที, หูฟัง 45 นาที
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง Vivo TWS Earphone Neo
- เคสชาร์จ
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
- ใบรับประกันสินค้า
ดีไซน์
ดีไซน์ของเคสนั้นมาในรูปทรงขนาดเล็ก จับถือได้ง่าย พกพาได้สะดวก โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ทั้งสีขาว Moonlight White และสีน้ำเงินเข้ม Starry Blue ที่มีความสวยงามมากๆ ครับ ซึ่งตัวหูฟังและเคสจะเป็นสีเดียวกัน
รอบๆ ตัวเครื่อง ที่ด้านหน้าจะมีไฟสถานะเป็น LED ถ้าเป็นสีส้มคือแบตเตอรี่เหลือน้อยกว่า 50% แล้ว ถ้าสีเขียวคือมากกว่า 50% พร้อมด้วยปุ่ม Function Key เพื่อใช้สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนในครั้งแรก
และที่ด้านล่างเคสจะมีพอร์ต USB Type-C ไว้ชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวเคสครับ
ในส่วนของดีไซน์ตัวหูฟังจะมาแบบ Open-fit น้ำหนักแต่ละข้างเบาเพียง 4.7 กรัมเท่านั้น ทำให้สวมใส่ได้สบาย เข้ากับใบหูได้เป็นอย่างดีครับ ที่สำคัญคือเมื่อใส่ไปนานก็ไม่รู้สึกเจ็บหูเลยด้วย
ตัวหูฟังยังมีความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่นในมาตรฐาน IP54
รอบตัวหูฟังที่ตัวด้านหูฟังจะเป็นที่ให้สัมผัสเพื่อควบคุมการใช้งานต่างๆ โดยมีไมโครโฟนช่วยตัดเสียงรบกวนอยู่ด้านบน
ส่วนด้านล่างจะเป็นไมโครโฟนตัวหลักตรงกลาง และมี PIN เพื่อติดกับตัวเคสเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
วิธีการเชื่อมต่อ
1. เปิดเคสชาร์จออกมา โดยยังไม่ต้องนำหูฟังออกจากเคส
2. กดปุ่ม Function Key ค้างไว้ 2 วินาที จนไฟกระพริบเป็นสีขาว คือจะเข้าสู่โหมดรอการเชื่อมต่อ
3. ให้เชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนในชื่อ “vivo TWS Neo”
นอกจากนี้ เมื่อเราเชื่อมต่อครั้งแรกแล้ว ในครั้งถัดไป เมื่อเราเปิดเคสชาร์จออกเพื่อจะใช้งาน ตัวหูฟังก็จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องล่าสุดให้เราโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องทำอะไรเลยครับ
การควบคุมหูฟัง
- กด 2 ครั้งติด : ใช้งาน Jovi, รับสายโทรศัพท์ และควบคุมการฟังเพลง
- กดและค้างไว้ประมาณ 2 วินาที : ปฏิเสธสาย หรือตัดสาย
- กดค้างไว้ 3 วินาที : ปิด/เปิดเสียง (Mute) ระหว่างโทรศัพท์
- สไลด์ขึ้น/ลง : ปรับเพิ่ม/ลดเสียง
ทั้งนี้ หากใครที่ใช้สมาร์ทโฟน Vivo อยู่แล้วก็สามารถปรับการควบคุมต่างๆ ข้างต้นได้ตามในชอบหรือตามที่ถนัดครับ โดยให้ไปที่การตั้งค่า > บลูทูธ > ข้อมูลอุปกรณ์ ส่วนสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น vivo Earphone เพื่อปรับการควบุมต่างๆ ได้ตามใจชอบครับ *รุ่น Vivo ที่รองรับแล้วในปัจจุบัน ได้แก่ iQOO 3, NEX 3, NEX Dual Display, NEX, X50Pro, X50, V19, V17*
การฟังเพลง
เรื่องการฟังเพลงต้องบอกว่าหุฟัง Vivo TWS Neo ให้คุณภาพเสียงที่ดีมากจริงๆ ครับ ด้วยไดร์เวอร์ไดนามิกขนาดใหญ่ถึง 14.2 มม. ใครที่ชอบเสียงเบสหนักๆ ต้องชอบแน่นอน ที่สำคัญหูฟังรุ่นนี้ยังมีเทคโนโลยี Deep X ใช้หลักการสร้างเสียงแบบ Deep Field ที่ให้ความคมชัดทุกย่านเสียง ตั้งแต่ความถี่ 1000-3000Hz พร้อมด้วยค่า aptx 48KHz/24bit ที่สูงกว่ามาตรฐานของ Audio CD ที่มี 44.1KHz/16bit
รวมถึงการปรับเอฟเฟ็กต์เสียงหูฟังได้ถึง 3 แบบแล้วแต่สไตล์การฟังของแต่ละคน ได้แก่ เสียงชัด, เบสหนัก และเสียงสูงคมชัด
นอกจากนี้ เมื่อเรานำหูฟังข้างใดข้างหนึ่งออกจากหู ระบบจะหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติทันทีครับ
การคุยโทรศัพท์
นอกจากการฟังเพลง เรื่องการคุยโทรศัพท์ก็ถือว่าสำคัญ โดย Vivo TWS Neo ให้เสียงที่คมชัดและปลายสายได้ยินชัดเจนครับ แม้ว่าจะมีเสียงลมพัดแรงๆ อยู่ แต่เสียงของผู้ใช้งานจะเด่นและชัดเจนกว่า ซึ่งจุดนี้เป็นการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเรื่องระบบตัดเสียงรบกวน ทั้งนี้ เสียงของคู่สนทนายังดังและฟังได้ชัดเจนแม้จะกระซิบอยู่ครับ
การเล่นเกม
ต้องบอกกก่อนว่า Vivo TWS Neo นั้นชูโรงด้วยค่าความหน่วงต่ำมากๆ ที่ 88ms ทำให้การเล่นเกมที่ต้องเน้นความเรียลไทม์อย่าง PUBG Mobile หรือ Call of Duty: Mobile ช่วยเราได้ ทำให้เราได้ยินเสียงที่ตรงกับภาพมากที่สุด แถมระบบเสียงยังมีการแยกฝั่งซ้าย-ขวาที่ทำออกมาได้ชัดเจนด้วย
แบตเตอรี่อึดๆ อยู่ได้เกือบ 1 วันเต็มเมื่อใช้ร่วมกับเคส
การใช้งานได้นานของ Vivo TWS Neo เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว เราทดสอบว่าสามารถใช้งานแบบที่ไม่ต้องชาร์จกับเคสได้ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ ส่วนถ้าเราชาร์จผ่านเคสเมื่อแบตหมดก็สามารถใช้งานได้เต็มถึง 22.5 ชั่วโมง
ทำหายไม่ต้องกลัวเพราะมี Find My TWS Neo
ฟีเจอร์ TWS Earphone Neo จะช่วยค้นหา earbuds อีกข้างที่หายไป โดยจะค้นหาจากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ พร้อมทั้งยังสามารถบอกพิกัดแสดงตำแหน่งที่ทำหล่นหาย เพื่อให้คุณค้นหาได้อย่างง่ายดาย
ราคาอย่างเป็นทางการ
Vivo TWS Neo เปิดราคาอยู่ที่ 2,999 บาท วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ-น้ำเงิน Starry Blue และสีขาว Moonlight White ใครที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ