Featured
รีวิว Vivo V17 สมาร์ตโฟน “ฉีกทุกกฏในทุกช็อต” หน้าจอ Ultra O Screen, แบตอึด 4500mAh ชาร์จเร็ว 18W และกล้อง AI 4 เลนส์
Vivo V17 สมาร์ตโฟนที่พร้อมฉีกทุกกฏในทุกช็อตด้วยหน้าจอ Super AMOLED Ultra O Screen กว้างถึง 6.44 นิ้ว คมชัดแบบ FullHD+ พร้อมด้วยกล้องหลังสุดอัจฉริยะ 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล โดยสเปคและฟีเจอร์ต่างๆ จะเป็นอย่างไรและถูกใจกันไหม มาดูกันเลยครับ
สรุปสเปค Vivo V17
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.01 × 74.17 × 8.54 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 176 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Ultra O Screen กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 และพื้นที่การแสดงผลที่ 91.38%
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 675 AIE Octa Core
- RAM 8 GB
- ROM 256 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 512GB
- ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.2
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 4 เลนส์แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging 18W
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
ตัวกล่องของ Vivo V17 มาพร้อมกับตัวกล่องสีเหลี่ยมสีขาวด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องที่ไล่เป็นเส้นเงา สะท้อนเป็นแสงสีรุ้งอย่างสวยงามครับ โดยที่ด้านหลังกล่องจะมีฟีเจอร์หลักๆ มาให้ได้ชมกันด้วย
และเมื่อแกะออกมาจะเจอกับอุปกรณ์เพียบ ได้แก่
- ตัวเครื่อง Vivo V17 พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ Fast Charge 18W
- สาย USB Tpye-C
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- หูฟัง
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ยังคงสุดจัดปลัดบอกเหมือนเดิมสำหรับการดีไซน์ของแบรนด์ Vivo ที่ตอนนี้ในรุ่น Vivo V17 ก็ยังคงมีความสวยงามตามแบบฉบับของตัวเองอยู่เหมือนเดิม โดยเราจะเห็นกล้องหลังที่ดีไซน์แปลกตาชัดเจนโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องคอมแพค มีความสมมาตร ทั้งยังมีกล้อง 4 เลนส์จัดเรียงในแบบ Retro-styled ในกรอบสี่เหลี่ยมอีกด้วย
ส่วนฝาหลังโดยรวมต้องบอกว่าสวยงามแบบละมุนสุดๆ กับสีขาว Crystal White ที่พื้นผิวจะมีความมันเงาเล็กน้อย ให้แสงสีขาว ผสมผสานสีฟ้าอ่อนๆ และสีม่วงเล็กๆ อย่างลงตัวสุดๆ
ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์สวยเท่านั้น แต่เรื่องของการจับถือด้วยมือก็ยังสะดวกเหมือนกันเพราะตัวเครื่องด้านหลังมีความโค้ง ทำให้จับถนัดมือและไม่บาดมือเวลาถือนานๆ ครับ
อีกส่วนหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ คือ หน้าจอแสดงผลของ Vivo V17 ที่ใช้แบบใหม่ในนาม Super AMOLED Ultra O Screen ที่เป็นกล้องหน้าฝังในหน้าจอ ซึ่งต้องบอกว่าตัวกล้องนั้นมีขนาดเล็กมากๆ ไม่กินพื้นที่การแสดงผลมากเกินไปด้วย
ความสวยงามของหน้าจอ Super AMOLED Ultra O Screen มาพร้อมกับขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 และพื้นที่การแสดงผลถึง 91.38% ทั้งยังได้รับการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้สูงถึง 42% ทำให้ใช้งานเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอก็ทำได้เต็มตาและสบายตาแน่นอนครับ
ดูรอบตัวเครื่องกันครับ เริ่มที่เหนือหน้าจอแสดงผลกันก่อนเลยดีกว่า โดยจะมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ด้านบนเหมือนเดิม มีกล้องหน้า Ultra O Screen อยู่ที่มุมขวาบน ส่วนระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ จะฝังอยู่ใต้หน้าจอที่บริเวณมุมซ้ายบนครับ
ทางซ้ายตัวเครื่องด้านบนจะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง และ MicroSD Card 1 ช่องครับ รวมทั้งหมดเป็น 3 ช่อง
ส่วนทางขวาเป็นการใช้งานปุ่มทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเพิ่ม-ลดเสียง และ Power
ด้านล่างยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวที่ 1
ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
และที่ด้านหลังมีกล้อง 4 เลนส์ พร้อมด้วยไฟแฟลช LED 1 ดวงอยู่ในกรอบครับ พร้อมด้วยตัวอักษรความละเอียดกล้อง 48MP อย่างชัดเจน
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
Vivo V17 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.2 โดยหน้าตา UI การใช้งานจะเหมือนกับสไตล์ Vivo ปกติครับ แต่ในเวอร์ชัน 9.2 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ใช้งานไหลลื่นขึ้นและมีการจัดสรรทรัพยากรดีกว่าเดิมด้วย
มีธีมและวอลเปเปอร์ให้เลือกเพียบ
ใครที่อยากได้ธีมหรือวอลเปเปอร์ลายใหม่ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ทั้งในส่วนการตั้งค่าของระบบ หรือในแอปลพิเคชั่น “ธีม” ครับ มีให้เลือกทั้งแบบลวดลายสีสัน หรือแบบตัวการ์ตูนก็มีให้โหลดไปใช้งานเพียบ ที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย
ระบบความปลอดภัยมีให้ครบใช้งานไหลลื่น
Vivo V17 ยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่มีความรวดเร็วและเสถียรอย่างมาก โดยเราทดสอบการสแกนนิ้วหลายครั้งติดกัน ยังไม่มีครั้งไหนที่สแกนพลาดเลย โดยการทำงานที่รวดเร็วแบบนี้เป็นเพราะโครงสร้างเลนส์แบบ 3P ควบคู่กับความอัจฉริยะของระบบครับ
นอกจากนี้ การสแกนใบหน้าก็ยังรวดเร็วเช่นกันครับ (น่าจะเร็วกว่าสแกนลายนิ้วมืออีก) เมื่อเราทำการลงทะเบียนใบหน้าไปแล้ว ก็ให้เรากดปุ่มล็อคเครื่องเพื่อให้เริ่มสแกน ซึ่งความเร็วการสแกนบอกได้แค่ว่ายังไม่ทันเห็นหน้าจอล็อคก็เข้ามาหน้าโฮมสะแล้ว พร้อมใช้งานได้ทันที
เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก
ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือและใบหน้าจะมีเอฟเฟ็กต์การเคลื่อนไหวตามที่เราใช้งาน แต่หากใครต้องการเปลี่ยนก็ทำได้เช่นกันครับ มีหลายรูปแบบใช้เลือกกันไปเลย
โหมดถนอมสายตา
แน่นอนว่าเมื่อ Vivo V17 ผ่านการรับรองจากสถาบัน TÜV Rheinland ที่เน้นเรื่องสายตาเป็นหลัก ก็ต้องมีโหมดถนอมสายตาที่ตัดแสงสีฟ้าได้มากขึ้นไปอีกขั้น โดยเราสามารถปรับโทนอุ่นหรือเย็นได้ตามใจชอบเลย เพื่อไม่ให้เกิดอาการล้าดวงตาขณะเล่นในที่แสงน้อย
โหมดมืด
นอกจากโหมดถนอมสายตาก็ยังมีโหมดมืดมาให้เหมือนกัน โดยจะเป็นการเปลี่ยนฉากหลังให้กับแอปพลิเคชั่นที่รองรับเป็นสีดำและตัวอักษรสีขาว แต่ก็ยังคงมีสีสันในบางส่วนเหมือนเดิมครับ
เปลี่ยนปุ่มนำทาง
เมื่อให้หน้าจอแบบมาเต็มขอบ Ultra O Screen ก็ต้องสามารถใช้งานให้เต็มที่ด้วยการเปลี่ยนปุ่มนำทางให้เป็นการใช้ท่าทางแทนครับ ซึ่งจะมีหลายแบบให้เลือก เช่น ปัดซ้าย-ขวาเพื่อย้อนกลับ และสามารถปัดขึ้นที่มุมขวา/ซ้ายเพื่อเข้าตั้งค่าด่วน หรือจะให้ปัดลงที่มุมขวาบนเพื่อเข้าตั้งค่าด่วนก็ได้เช่นกันครับ มีให้ลองเลือกปรับตามความถนัดเลย
เพิ่มความสะดวกสบายด้วยปุ่ม Easy Touch
มีมาเช่นเคยสำหรับฟีเจอร์ Easy Touch ที่ให้เราสามารถเข้าแอปพลิเคชั่นหรือการใช้งานส่วนต่างๆ ได้ไวขึ้นตามความต้องการของเรา สามารถเลือกนำเข้าหรือนำออกได้ทั้งหมดครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ในเรื่องของประสิทธิภาพภายใน Vivo V17 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 AIE ควบคู่กับ RAM 8GB และ ROM 256GB ซึ่งทั้งขุมพลังและความจุที่ให้มานั้นถือว่าเยอะและดีมากๆ เพราะขุมพลังรุ่นนี้ใช้ AI ในการช่วยประมวลผลให้ไหลลื่นยิ่งขึ้น รวมไปถึงความจุที่เก็บได้เยอะและยังใช้งานต่อเนื่องได้แบบสบายไม่ต้องโหลดแอปใหม่เมื่อเปิดขึ้นมาเป็นรอบที่ 2 เพราะ RAM ที่ให้มาถึง 8GB
Vivo V17 ยังมีฟีเจอร์ Multi-Turbo ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีเพียบ ไม่ว่าจะเป็น AI Turbo, Center Turbo, Game Turbo, Net Turbo, Cooling Turbo และ ART++ Turbo ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพพื้นฐานและความเร็วในการตอบสนองของระบบได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำได้ไปได้ที่ 144,054 คะแนน
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 512 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,657
ฟีเจอร์การเล่นเกม
Vivo V17 ยังมาพร้อมกับ Ultra Game Mode 7.0 ที่ช่วยเรื่องการรีดประสิทธิภาพก่อนการเล่นเกม และปิดกั้นการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่นหรือการโทรได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทดสอบการเล่นเกม
Call of Duty: Mobile
เริ่มกันที่เกม Call of Duty: Mobile ในการปรับกราฟิก เราสามารถปรับได้ 2 แบบ คือ ปรับกราฟิกเป็น Very High เฟรมเรทก็จะได้สุดระดับ Very High และหากลดกราฟิกมาเป็น High เฟรมเรทจะปรับได้ถึงระดับ Max ครับ
โดยเราทดสอบการปรับกราฟิกทั้ง 2 แบบให้ชมกันในโหมด Battle Royale 100 คนครับ แบบแรกกราฟิก High + เฟรมเรท Max สามารถเล่นได้ไหลลื่น โดยอาจมีเฟรมเรทดรอปบ้างเล็กน้อยครับ แต่ยังถือว่าเล่นได้ไหลลื่นและไม่มีปัญหาใดๆ กับการเล่นโดยรวม และแบบที่ 2 กราฟิก Very High+ เฟรมเรท Very High ก็ยังเล่นได้ไหลลื่นเหมือนๆ กันแต่ภาพกราฟิกจะดูดีขึ้นมาตามการปรับ แต่เฟรมเรทก็อาจจะไม่ลื่นเท่าแบบแรก
ROV
ต่อมาในเกม ROV สามารถปรับภาพกราฟิกระดับสูง (ระดับสูงมากต้องรออัปเดท) พร้อมเฟรมเรทสูงครับ โดยเล่นในโหมด 5 VS 5 ก็เล่นได้แบบไม่มีอะไรทั้งสิ้น เฟรมเรทคงที่ตลอดครับ โดยอาจทะลุไปที่ 61fps บ่อยครั้ง หรือน้อยสุดที่เห็นก็แค่ 59fps เท่านั้นครับ เรียกว่าเล่นลื่นๆ หายห่วง รวมไปถึงระบบการทัชหน้าจอก็ทำได้ดีมากๆ เช่นกัน
Asphalt 9: Legends
และสุดท้ายกับเกมแข่งรถ Asphalt 9: Legends เราปรับกราฟิกในระดับสูง ก็สามารถเล่นได้แบบไร้ปัญหาครับ ลื่นตลอดทั้งเกมเลย
แบตเตอรี่อึดพร้อม Dual-Engine Fast Charging
Vivo V17 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ที่พร้อมให้เราได้ใช้งานทั้งวันแน่นอน โดยเราทดสอบการเกม Call of Duty: Mobile ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง จากแบตเตอรี่เต็ม 100% ลดลงมาที่ 90% ซึ่งเฉลี่ยแล้วน่าจะเล่นเกมต่อเนื่องได้เกินครึ่งวันแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อแบตเตอรี่น้อยก็ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dual-Engine Fast Charging กำลังไฟ 18W โดยการชาร์จจากช่วงที่แบตเตอรี่น้อยถึงไปประมาณ 80% ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากตามภาพด้านล่างครับ และเมื่อเลยจุดนั้นมาแล้วก็จะลดความเร็วลงเพื่อรักษาประจุและความร้อนของแบตเตอรี่
กล้องถ่ายรูป
ด้านกล้องถ่ายรูป Vivo V17 มีให้รวมถึง 5 เลนส์ แบ่งเป็นกล้องหน้า 1 เลนส์ และกล้องหลังถึง 4 เลนส์ โดยแต่ละเลนส์มีดังนี้
กล้องหลัง
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้า
กล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.45
ถ่ายคมชัดขั้นสุดด้วยความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
Vivo V17 มาพร้อมกับเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ก็สามารถถ่ายด้วยความคมชัดขั้นสูงได้แบบสบายๆ ครับ โดยเราจะได้ภาพที่ไฟล์ใหญ่และละเอียดมากๆ (8000 x 6000 พิกเซล) สามารถซูมดูวัตถุในระยะไกลๆ ได้ชัดเจนเลยทีเดียว
ภาพปกติ / ครอป
จดจำหมวดหมู่ได้แม่นยำผ่าน AI Scene Recognition
ต้องมีมาในสมาร์ตโฟนที่เน้นกล้องแน่นอนสำหรับฟีเจอร์นี้ โดย Vivo V17 นั้นใช้ความฉลาดของระบบภายในทำให้จดจำวัตถุที่เราโฟกัสได้แม่นยำและรวดเร็วมากๆ ครับ เพียงแค่ให้กล้องโฟกัสก็จับได้เลยว่าสิ่งนี้คืออะไร และปรับแสงและสีตามความเหมาะสมของแต่ละวัตถุด้วย
Super Wide-Angle ใกล้แค่ไหนก็เก็บได้ครบ
เลนส์ Super Wide-Angle ในรุ่นนี้สามารถถ่ายได้กว้างถึง 120 องศา ซึ่งเป็นความกว้างเบอร์ต้นๆ ของสมาร์ตโฟน โดยภาพที่เราได้นั้นคมชัดมากๆ แสงและเฉดสีต่างๆ แทบไม่ต่างจากเลนส์หลักแต่ให้ความกว้างกว่า ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เราใช้ประโยชน์จากระยะในการยืนได้ เช่น เราไม่ได้ถอยไปไกลๆ เพื่อเก็บองค์ประกอบให้ครบ แต่แค่เปลี่ยนมาใช้เลนส์ Super Wide-Angle ก็เพียงพอครับและสบายสุดๆ ไปเลย
เลนส์ปกติ / เลนส์ Super Wide-Angle
เลนส์ปกติ / เลนส์ Super Wide-Angle
ถ่ายกับบุคคล เลนส์ Super Wide-Angle ก็จัดเต็มได้เหมือนกันครับ
เปลี่ยนกลางคืนให้สว่างเหมือนกลางวันด้วย Super Night Mode
ในฟีเจอร์ Super Night Mode ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ แค่ขอให้เราอยู่ในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนก็เปิดโหมดนี้ขึ้นมาถ่ายได้ทันที ซึ่งเราจะได้ภาพที่สว่างและชัดเจนกว่าที่เรามองเห็นด้วยซ้ำ ที่สำคัญระยะเวลาการถือกล้องยังรอน้อยลงด้วยอยู่แค่ประมาณ 2-4 วินาทีในการประมวลผลเท่านั้นขึ้นอยู่กับสภาพแสง
ปิด Super Night Mode / เปิด Super Night Mode
ถ่ายด้วยมุมมองที่สายตามนุษย์มองไม่เห็นผ่าน Super Macro
Vivo V17 มาพร้อมกับเลนส์ Super Macro ที่ทำให้เราถ่ายวัตถุได้ใกล้สุดๆ เพียง 4 เซนติเมตรเท่านั้นครับ ซึ่งใกล้ขนาดนี้ดวงตาของเรามองแทบไม่เห็นแน่นอน โดยเลนส์ทำให้เราเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของวัตถุที่เราถ่ายที่ได้ความสวยงามไปอีกแบบ
สวยคมชัดพร้อมเบลออย่างธรรมชาติด้วย Portrait Bokeh
สิ่งที่ใครหลายคนจะต้องได้ใช้งานกันแน่นอน คือ Portrait Bokeh หรือการปรับหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองครับ โดยในเรื่องการถ่ายบุคคลต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ ตัดขอบรอบตัวบุคคลได้เยี่ยมและดูเป็นธรรมชาติ มีมิติกว่าแบบไม่โบเก้ ทั้งยังมีการเบลอที่ไล่ระดับจากหน้าไปหลังเล็กน้อยเพื่อให้บุคคลนั้นดูไม่ลอยอีกด้วย
เปิด Portrait Bokeh / ปิด Portrait Bokeh
เซลฟี่งามๆ ใบหน้าสวยด้วย AI Face Beauty
มาดูกันในส่วนของการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้ากันบ้างครับ โดยหลักๆ ก็จะมีการปรับใบหน้าสวย หรือ AI Face Beauty ต่างๆ เช่น ผิวนวล, โทนสีผิว, หน้าบาง, กราม, ตาโต, จมูกเรียว และอื่นๆ เพียบ โดยแต่ละอย่างสามารถปรับได้เต็มที่ตั้งแต่ 1 – 100 ระดับ แต่จริงๆ เราแทบไม่ได้ปรับอะไรเลยก็เพียงกับคำว่า “ใบหน้าสวยอย่างธรรมชาติ” แล้ว
ทั้งนี้ เมื่อถ่ายเสร็จ เราก็สามารถนำภาพที่ถ่ายมาปรับแต่งได้ต่อผ่านฟีเจอร์ AI Makeup ซึ่งปรับได้เหมือนกับฟีเจอร์กล้องโดยตรงเลยทีเดียว ใครไม่ถูกใจตรงไหนปรับต่อได้เลยครับ
ย้อนแสงได้ไม่ต้องกลัวเพราะมี AI HDR
ใครที่ชอบถ่ายภาพกลางแจ้งแต่กลัวว่าเราจะหันไปทางที่มีการย้อนแสงแล้วหน้าจะมืดก็แทบหมดกังวลไปได้เลยครับ เพราะ Vivo V17 มีฟีเจอร์ AI HDR ช่วยให้ใบหน้าของเรายังคงสว่างอยู่แถมพื้นหลังก็ยังเก็บได้ครบเช่นกัน ไม่มีขาวโพลนไปทั่วแน่นอน
เอฟเฟ็กต์แสงบุคคล (Portrait light effects)
อีกลูกเล่นที่น่าสนใจ คือ เอฟเฟ็กต์แสงบุคคล ที่เป็นลูกเล่นของการเพิ่มสีและเฉดต่างๆ ให้มีมิติกว่าเดิม ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ โดยแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างกันครับ แถมยังใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังเลยด้วย และยังมีการเบลอฉากหลังแบบเนียนๆ ให้เราด้วยเมื่อถ่ายกล้องหน้า
ฟิลเตอร์ก็มีหลากหลาย
นอกจากจะมีเอฟเฟ็กต์แสงบุคคลแล้วก็ยังมีฟิลเตอร์ที่ให้ความรู้สึกคล้ายกัน เพิ่มเฉดสีและลูกเล่นเข้ามาเพียบ เช่น เกรปฟรุต, โยเกิร์ต, ฟอง, เงียบ, ลมยามเย็น, น่ำหม่ำ หรือท้องฟ้าปลอดโปร่ง เป็นต้น แต่จะไม่มีการเบลอหลังให้เท่านั้นครับ
กล้องหลัง
กล้องหน้า
ถ่ายสนุกกับลูกเล่นสุดน่ารักแบบ AR
เป็นลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาให้ความสนุกสนานในการถ่ายภาพเช่นเคยสำหรับสติ๊กเกอร์ AR สุดน่ารัก ที่มีให้เราเลือกใช้งานกันเพียบ ทั้งหน้าน้องแมว, กระต่าย หรือจะถ่ายแบบเท่ๆ คูลๆ ก็มีให้เลือกเหมือนกันครับ แต่ต้องต่อเน็ตเพื่อโหลด AR ผ่านตัวกล้องกันก่อนนะ
สำหรับ Vivo V17 ในโหมด Ultra Stable Video สามารถใช้ระบบกันสั่นได้แล้ว โดยจะต้องเป็นเฟิร์มแวร์เวอชั่น 1.7.7 และจะใช้ได้ในความละเอียด 1080p @ 30fps
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอแสดงผล Ultra O Screen ชนิด Super AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว มีความคมชัดระดับ FHD+ เห็นได้เต็มตาและใช้งานได้แบบไม่มีติดขัดทั้งเล่นเกม, ดูวิดีโอ หรือเล่นโซเชียล
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ไล่เฉดอย่างเป็นธรรมชาติ
- ใช้หน่วยประมวผล Snapdragon 675 AIE พร้อมด้วย RAM 8GB และ ROM ถึง 256GB ทำให้ใช้งานและเล่นเกมได้ลื่น แถมเก็บข้อมูลได้ไม่ต้องกลัวเต็ม
- กล้องหลัง AI 4 เลนส์สุดอัจฉริยะ มีฟีเจอร์เพียบ ทั้ง Super Night Mode, Super Wide-Angle หรือถ่ายคมชัดระดับ 48 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลมีตกแต่งใบหน้าสวยพร้อม AI Makeup
- แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging กำลังไฟ 18W ทั้งแบตอึดและชาร์จไว
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ตัวเครื่องไม่กันน้ำ
สามารถเป็นเจ้าของ Vivo V17 ได้แล้ววันนี้ที่ AIS , TRUE , Dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,999 บาท เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AIS Shop , Telewiz Shop , True Shop , Dtac Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ