Featured

รีวิว Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนกล้องหน้า 44MP คู่ OIS รุ่นแรกของโลก พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม และ 5G สุดแรง

Published

3 ปี ago

10 พ.ค. 2021

Shine

Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนชูโรงด้วยกล้องหน้าคมชัดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับเทคโนโลยีกันสั่นไหว OIS รุ่นแรกของโลกตามสโลแกน “OIS Night Selfie, For Your Best Moment” ทำให้ถ่ายกล้องหน้าได้คมชัดและไม่มีเบลอ ทั้งยังมีสเปคที่จัดเต็ม ใช้งานได้ไหลลื่น และยังรองรับ 5G อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น ทีมงาน iphone-droid.net พร้อมจัดรีวิวมาให้ครบถ้วนครับ

สรุปสเปค Vivo V21 5G

ขนาดตัวเครื่อง (สี Dusk Blue) : 159.68 × 73.9 × 7.29 มิลลิเมตร
น้ำหนัก (สี Dusk Blue) : 176 กรัม
ขนาดตัวเครื่อง (สี Sunset Dazzle / Arctic White) : 159.68 × 73.9 × 7.39 มิลลิเมตร
น้ำหนัก (สี Sunset Dazzle / Arctic White) : 177 กรัม
หน้าจอแสดงผล E3 AMOLED กว้าง 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2404 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 รองรับ Refresh Rate 90Hz, HDR10+ และ 6000000:1 Contrast Ratio
หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 800U Octa Core ความเร็ว 2.4GHz
RAM 8GB
ROM 128/256 GB
ระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11
กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
- เลนส์ Super Wide-Angle มุมมองกว้าง 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับกันสั่นไหว OIS
รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
รอบรับเครือข่าย 5G ตั้งแต่แกะกล่อง
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh รองรับ 33W Vivo FlashCharge 2.0

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

สำหรับอุปกรณ์ในกล่องของ Vivo V21 5G ถือว่าให้มาครบถ้วนครับ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลย โดยตัวกล่องก็มีลูกเล่นมากขึ้น นอกจากจะเป็นแสงตัว “V” แล้ว ก็ยังมีประกายเพชรแวววาวอยู่ด้วย

อุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้

ตัวเครื่อง Vivo V21 5G
อะแดปเตอร์ 33W Vivo FlashCharge 2.0
สาย USB Type-C
หูฟัง
เคสใสสายแปลง USB Type-C เป็น 3.5 มม.
อุปกรณ์เปิดถาดซิม
คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

Vivo V21 5G มาพร้อมดีไซน์ AG Matte Glass ที่ให้ความสวยงามด้วยกระจกผิวด้านที่ติดรอยนิ้วมือยากมากๆ ไร้การสะท้อน มีการไล่เฉดสีอย่างสวยงามอย่างสีรุ้ง Sunset Dazzle ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ทั้งยังยังคงมีอีก 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาว Arctic White และสีน้ำเงินเข้ม Dusk Blue

การจับมือหรือการใช้งานทั่วไปก็สบายมือด้วยกระจกโค้งแบบ 2.5D ที่โค้งรับกับอุ้งมือได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ แม้ว่าฝาหลังและด้านหน้าจะเป็นกระจกโค้ง 2.5D แต่วัสดุเครื่องก็ทำออกมาได้พรีเมี่ยมมากขึ้นด้วยขอบเครื่องแบบแบน (Flat Frame) และมีความบางตัวเครื่องเพียง 7.29 มม. เท่านั้น

ด้านหน้าจอก็จัดเต็มเช่นเดิมในตระกูลหลักของ Vivo V Series ครับ โดยใน Vivo V21 5G มาพร้อมจอ E3 AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว มาให้ พร้อมความคมชัดระดับ FHD+ รองรับ HDR10+ ใครชอบชมภาพนยนตร์หรือวิดีโอต่างๆ จะต้องหลงรักกับสีสันที่สดใสแน่นอนครับ

ที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการมาพร้อมความไหลลื่นด้วยหน้าจอ Refresh Rate สูงถึง 90Hz จะใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมก็ทำได้ไหลลื่นและตอบสนองได้ไวสุดๆ

มาดูรอบเครื่องกันต่อครับว่ามีอะไรมาบ้าง ที่เหนือหน้าจอส่วนบนมีกล้องหน้าที่ฝังในหยดน้ำ 44MP พร้อม OIS รุ่นแรกของโลก พร้อมด้วยลำโพงสำหรับสนทนา และจริงๆ จะมีไฟแฟลชที่เป็น Spotlight เพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อยด้วยครับ

ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดที่ใส่ NanoSIM ได้ 2 ช่อง แต่ช่องที่ 2 จะเป็นแบบ Hybrid เลือกระหว่างซิมที่ 2 หรือ MicroSD Card ครับ ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก

ทางขวามีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ครับ

ส่วนด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนเท่านั้นครับ

และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์พร้อมไฟแฟลช LED ที่ออกแบบในสไตล์ Dual Tone Step ที่จัดวางเลนส์ได้ลงตัวและมีมิติ

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฎิบัติการ

Vivo V21 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 11 รุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ โดยมีฟีเจอร์ใหม่ให้ลองเพียบ ไม่ว่าจะเป็นไอคอนรูปแบบใหม่ หรือการเปิดแอปพลิเคชั่นและการใช้งานที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น

รองรับ 5G สุดแรงตั้งแต่แกะกล่อง

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น 5G แน่นอนว่า Vivo V21 5G ก็สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แกะกล่องเลยครับ โดยความพิเศษคือการรองรับทั้งแบบ SA และ NSA รวมถึง 5G Dual SIM ที่ใช้งานสแตนบาย 5G ได้ทั้ง 2 ซิมพร้อมกัน ซึ่งจากที่ใช้งานก็ถือว่ามีความสเถียรมากกว่า 4G พอตัวเลยครับ การเปิดแอปหรือโหลดแอปต่างๆ ก็ทำได้รวดเร็วกว่าเดิมด้วย

แสดงสถานะด้วยแสดงบนหน้าจอตลอด (Always-on-Display)

เมื่อใช้งานหน้าจอแบบ AMOLED ก็ต้องมีฟีเจอร์นี้มาให้แน่นอนครับ ซึ่งจะแสดงสถานะของตัวเครื่องแบบคร่าวๆ บนหน้าจอล็อกให้อัตโนมัติ เช่น เวลา, วันที่, เปอร์เซนต์แบตเตอรี่ รวมถึงไอคอนของแอปที่มีความเคลื่อนไหว

ทั้งนี้เราก็สามารถปรับแต่งนาฬิกาบนหน้าจอ ได้ตั้งแต่สีสัน, รูปแบบ หรือพื้นหลังตามใจชอบได้เลย

ระบบความปลอดภัย

Vivo V21 5G จัดความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็ม ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ใช้งานได้อย่างรวดเร็วและเสถียรมากๆ ครับ เอานิ้วค้างไว้ไม่ถึงวินาทีก็ปลดล็อกให้แล้ว

นอกจากนี้ก็ยังมีการสแกนใบหน้าเพื่อความสะดวกเวลามือไม่ว่างด้วย ซึ่งก็ทำได้เร็วไม่แพ้กัน

เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก

ปกติแล้วเมื่อเราใช้งานต่างๆ ก็จะมีเอฟเฟ็กต์แสดงให้เราได้เห็นกันครับ ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟ็กต์ไอคอนลายนิ้วมือ, ใบหน้า, การชาร์จ, ภาพเคลื่อนไหว USB และภาพเคลื่อนไหวหน้าจอสว่าง/ดับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

Vivo V21 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 800U Octa Core ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาดเล็กเพียง 7 นาโนเมตรเท่านั้น โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 2.4GHz ทำให้ใช้งานทั่วไปได้ไหลลื่น สบายๆ ทั้งยังมี RAM มาถึง 8GB ควบคู่กับฟีเจอร์ Extended RAM ทำให้สามารถอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น 8+3GB ทำให้มีความรวดเร็วในการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้มากขึ้น รวมไปถึง ROM UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการเขียนสูงขึ้น 110%, ความเร็วในการอ่าน 95%, ความเร็วในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นหรือเกมขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 10% และคัดลอกไฟล์ขนาดใหญ่มากกว่า 8GB ในความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 20%

ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำคะแนนไปได้ที่ 311,306 คะแนน

Ultra Game Mode ผู้ช่วยเล่นเกมให้แรงขึ้น

สำหรับ Ultra Game Mode เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ในสมาร์ตโฟน Vivo โดยจะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงหรือกราฟิก ทั้งยังสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือน และเปิดโหมด E-Sport เพื่อเพิ่มความไหลลื่น เอฟเฟ็กต์ และอัตราเฟรมเรทให้คงที่มากขึ้นได้ด้วย โดยตอนนี้ยังรองรับกับเกม PUBG Mobile เท่านั้น (เฉพาะเกมที่โหลดมาเล่นตอนนี้ครับ)

ทดสอบการเล่นเกม

ROV

ในการเล่นเกมมหาชนอย่าง ROV ก็สามารถเปิดการแสดงผลได้ในระดับสูง และภาพ HD สูงสุดครับ โดยไม่สามารถเปิดเฟรมเรทสูงได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ เพราะลองเล่นในโหมด 5VS 5 ก็ทำได้สบาย วิ่งนิ่งๆ ที่ 30FPS ตลอดเกมครับ

PUBG Mobile

มาถึงเกม PUBG Mobile ยอดฮิตก็สามารถเปิดกราฟิกระดับ HD พร้อมเฟรมเรทระดับสูงได้ โดยลองเล่นในโหมด Battle Royal 100 คน ก็ทำได้สบาย แถมยังรู้สึกว่าได้จอ 90Hz เข้ามาช่วยในเรื่องการตอบสนองอีกด้วย

Asphalt 9: Legends

สำหรับเกม Asphalt 9: Legends ก็สามารถเปิดกราฟิกระดับสูงได้ด้วย แถมเล่นได้ไหลลื่น กราฟิกก็สวยงามตามท้องเรื่องสุดๆ ครับ

แบตเตอรี่อึด 4000mAh พร้อม 33W Vivo FlashCharge 2.0

Vivo V21 5G จัดแบตเตอรี่มาให้ที่ 4000mAh ซึ่งการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ครบวันแน่นอนครับ หรือใครเป็นสายเกมก็เล่นได้ยาวๆ 4 – 5 ชั่วโมงครับ ที่สำคัญรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง 33W Vivo FlashCharge 2.0 ช่วยให้ชาร์จได้สูงสุด 63% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

กล้องถ่ายรูป

มาถึงส่วนที่น่าสนใจมากที่สุดในรุ่นนี้อย่างเรื่องกล้องกันบ้างครับ โดยตามที่เราบอกไปในช่วงต้น คือ Vivo V21 5G เป็นรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องหน้าคมชัดสูงสุดถึง 44 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยระบบกันสั่นไหว OIS + EIS อีกด้วย ทำให้ถ่ายได้คมชัดแม้มือไม่นิ่ง หมดปัญหาเรื่องภาพเบลอไปได้เลย แถมยังมีฟีเจอร์อื่นที่ทำให้ Vivo V21 5G ไปสุดในเรื่องกล้องครับ

AI ระบุฉากได้แม่นยำ

Vivo V21 5G ก็มาพร้อมกับ AI ในกล้องเหมือนเดิมครับ โดยสามารถระบุฉากต่างๆ ได้แม่นยำเพื่อแยกแยะการแต่งสีสันให้เหมาะสมกับแต่ละวัตถุ เช่น อาหาร, ท้องฟ้า หรือดอกไม้ เป็นต้น

คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล

เลนส์หลักของรุ่นนี้มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ทำให้เราถ่ายภาพในโหมดความคมชัดสูงได้คมชัด สามารถซูมภาพเพื่อให้เห็นรายละเอียดได้สบายๆ ครับ

Super Wide-Angle ถ่ายกว้างสะใจด้วยมุมกว้าง 120 องศา

Vivo V21 5G ก็มาพร้อมเลนส์ Super Wide Angle ที่ขาดไปไม่ได้ครับ โดยเราสามารถถ่ายวิวหรือบรรยากาศต่างๆ ได้ครบถ้วนโดยไม่จำเป็นต้องถอยออกมาไกลๆ ครับ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสะดวกแล้ว ก็ยังได้ภาพที่สวยงาม คอนทราสต์แจ่มๆ และ HDR ที่ถ่ายย้อนแสงได้ด้วยครับ

เลนส์หลัก / เลนส์ Super Wide-Angle (ยืนระยะเดิม)

Portrait Mode พร้อมรองรับ Eye Autofocus

หนึ่งในสิ่งที่ทำได้ดีมากๆ ใน Vivo V21 5G คือโหมดถ่ายภาพบุคคลครับ โดยทำออกมาได้ดีเหมือนเดิม เบลอฉากหลังและตัดขอบได้เนียนตา แถม AI ยังปรับให้ใบหน้าและตัวบุคคลสว่างขึ้นเมื่ออยู่ในสภาวะย้อนแสงด้วยครับ เรียกว่าโหมดนี้ถ่ายได้จบในคลิกเดียวเลย

โดยโหมดบุคคลจะมีฟีเจอร์ Eye Autofocus เพื่อโฟกัสดวงตาไม่ให้ใบหน้าเบลอเวลาถ่ายภาพครับ ซึ่งจะแสดงเป็นสัญลักษณ์เมื่อจับดวงตาได้

ที่สำคัญก็ยังรองรับโหมดเอฟเฟ็กต์แสงภาพถ่ายบุคคล ที่มีให้เลือกหลายแบบ ได้แก่ ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และพื้นหลังแบบขาวดำ

เพิ่มสไตล์โหมดบุคลด้วย Multi-Style Portrait

นอกจากจะถ่ายแบบเบลอฉากหลังได้สวยงามแล้ว ก็ยังมีสไตล์ที่เป็นฟิลเตอร์หลายรูปแบบเพื่อให้ได้ภาพหลายอารมณ์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ, วินเทจ, เมืองเหนือ, แฟชั่น, ปาร์ตี้ฤดูร้อน, สไตล์ญี่ปุ่น, ขาวดำ, เกลือป่น และเปียก

การรับแสง 2 เท่า (Double Exposure)

สำหรับฟีเจอร์นี้ถือว่าหาได้ยากแน่นอนในสมาร์ตโฟนครับ โดยใน Vivo V21 5G ทำให้เราถ่ายแบบ Double Exposure ได้ง่ายๆ ซึ่งจะมีพื้นหลัง 3 แบบมาให้เรา จากนั้นเราก็ถ่ายภาพเพื่อให้ตัวเราซ้อนกันได้อย่างสวยงาม แถมโหมดนี้ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังครับ

ถ่ายกลางคืนคมชัด Noise น้อยลงด้วย Super Night Mode

ใน Vivo V21 5G ได้ปรับปรุงเรื่องการถ่ายภาพกลางคืนได้ดียิ่งขึ้นครับ โดยภาพจะเห็น Noise น้อยลงพอสมควร และภาพมีความสว่างมากขึ้น และสีสันต่างๆ ก็ยังคงเห็นได้อย่างสดใสไม่ต่างจากในตอนสว่างครับ

ทั้งนี้ก็ยังมี Night Style ที่มีให้เลือกถ่าย 4 แบบ ได้แก่ ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์

ถ่ายใกล้สุดด้วย Super Macro

เลนส์นี้คงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ โดย Super Macro สามาถถ่ายภาพในระยะโฟกัสได้ใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตรเท่านั้น แถมทำออกมาได้ดี สีสันสวยงาม และโฟกัสไว

กล้องหน้า 44MP ควบคู่ OIS รุ่นแรกของโลก

ตัวชูโรงที่มากที่สุดใน Vivo V21 5G คือกล้องหน้าคมชัดสูงสุดถึง 44 ล้านพิกเซล ที่มีระบบกันสั่น OIS เข้ามาช่วยเป็นรุ่นแรกของโลกครับ ซึ่งปกติจะอยู่ในกล้องหลังเท่านั้น ทำให้ภาพที่ได้ไม่เบลอแม้มือสั่นหรือไม่นิ่ง รวมไปถึงการถ่ายในโหมดอื่นเช่นกันครับ

Dual Selfie Spotlight ควบคู่ Night Selfie

อย่างที่บอกไปครับว่ากล้องหน้ารุ่นนี้มี OIS ป้องกันสั่นไหว ซึ่งในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนก็ต้องใช้ความนิ่งมากๆ เพื่อไม่ให้ภาพเบลอ ดังนั้น OIS ก็เข้ามาช่วยในจุดนี้ครับ และที่สำคัญ Vivo V21 5G ก็มี Dual Selfie Spotlight ซ่อนอยู่ในส่วนบนของหน้าจอซึ่งจะเป็นแสงไฟ LED 2 ดวงเพิ่มความสว่างในที่มืดได้เข้าไปอีก ทำให้ใบหน้ามีความสว่างขึ้นและคมชัดกว่าเดิมแน่นอน

ถ่ายวิดีโอก็มีฟีเจอร์เพียบ

Dual-View Video

นอกจากจะถ่ายภาพนิ่งได้สวยงามและฟีเจอร์เยอะแล้ว Vivo V21 5G ก็มีฟีเจอร์ Dual-View Video ที่ถ่ายกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกันใน 1 หน้าจอด้วย ซึ่งเราสามารถปรับตำแหน่งได้ เช่น จะแบ่งอย่างละครึ่งจอ หรือจะเป็นแบบจอเล็กหรือจอใหญ่ก็ได้เช่นกัน

กันสั่นด้วย Ultra Stable VDO (OIS+EIS)

ในโหมดวิดีโอ เราก็สามารถเปิดโหมด Ultra Stable VDO เพื่อป้องกันการสั่นไหวได้ดีขึ้นครับ

วิดีโอเซลฟี่ คมชัดสูงสุดที่ 4K

ในกล้องหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 44 ล้านพิกเซล ก็สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 4K ครับ โดยเข้าไปเลือกได้ผ่านการตั้งค่าได้ทันที

สรุปการใช้งาน

สำหรับ Vivo V21 5G เป็นอีกรุ่นที่มาครบเรื่องความคุ้มค่าครับ เริ่มตั้งแต่ดีไซน์ที่ดูสวยงาม เบาบาง และจับถือได้สะดวกสบาย ส่วนสเปคภายในก็จัดมาให้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นการรองรับ 5G ที่ใช้งานได้รวดเร็วและสเถียรมาก ใช้งานทั่วไปได้รวดเร็ว มี RAM 8GB พร้อมความจุ 128/256GB จะโหลดแอปหรือถ่ายรูปก็ทำได้ไม่ต้องกลัวเต็มครับ ทั้งนี้ ในเรื่องต้องก็ถือว่าประทับใจมากๆ ครับ มีฟีเจอร์ให้ลองเล่นเยอะ ถ่ายได้สนุก ไม่มีเบื่อแน่นอน และกล้องหน้าที่เป็นตัวชูโรงก็ทำออกมาได้เกินราคาจริงๆ

ราคาอย่างเป็นทางการ

สำหรับ Vivo V21 5G เปิดราคาในประเทศไทยรุ่น 8+128GB อยู่ที่ 12,999 บาท และรุ่น 8+256GB อยู่ที่ 14,999 บาท โดย Vivo V21 5G (ความจุ 128GB) จะเริ่มพรีออเดอร์ระหว่างวันนี้เป็นต้นไป และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้สำหรับสี Dust Blue และ Sunset Dazzle ส่วนสี Arctic White จะวางจำหน่ายวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

ขณะที่ Vivo V21 5G (ความจุ 256GB) จะเริ่มพรีออเดอร์ระหว่างวันนี้เป็นต้นไปเช่นกัน และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้สำหรับสี Dust Blue และ Sunset Dazzle