Featured
รีวิว vivo V23 5G สมาร์ตโฟนฝาหลังเปลี่ยนสีได้ พร้อมกล้อง 50MP AF Dual Front Camera รุ่นแรกในไทย
รีวิว vivo V23 5G สมาร์ตโฟนสุดชิครุ่นล่าสุดจาก vivo รุ่นนี้มาพร้อมสโลแกน “คมชัดทุกโมเมนต์ที่เป็นคุณ” แน่นอนว่าเรื่องกล้องโดดเด่นด้วยกล้องหน้า 50MP พร้อม Eye Autofocus รุ่นแรกในไทย และดีไซน์ที่พิเศษสุดด้วยฝาหลัง Color-Changing Glass เทคโนโลยีฝาหลังเปลี่ยนสีได้ตามแสงอาทิตย์อีกต่างหาก
บอกเลยว่ารุ่นนี้จัดเต็มทั้งเรื่องกล้องและดีไซน์จริง ๆ นอกจากนี้สเปคภายในก็ยังไม่ธรรมดาทั้งชิปเซ็ต Dimensity 920 (6nm) หน้าจอ AMOLED 6.44″ 90Hz ความจุเยอะ 12GB + 256GB แบตเตอรี่ 4200mAh พร้อมชาร์จไว 44W อีกต่างหาก จะน่าสนใจแค่ไหนติดตามได้จากรีวิวเต็มของ vivo V23 5G ที่นี่เล้ย
สรุปสเปค vivo V23 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 157.20 x 72.42 x 7.39 มม. (สี Stardust Black)
- ขนาดตัวเครื่อง : 157.20 x 72.42 x 7.55 มม. (สี Sunshine Gold)
- น้ำหนัก : 179 กรัม (สี Stardust Black) | 181 กรัม (สี Sunshine Gold)
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.44” ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) refresh rate 90Hz
- CPU : MediaTek Dimensity 920 Octa-core 2.5GHz (6nm)
- GPU : Mali-G68 MC4
- RAM : 12GB (พร้อมฟีเจอร์ Extend RAM 2.0 + 4GB)
- ROM : 256GB
- แบตเตอรี่ : 4200mAh
- ระบบชาร์จ : 44W vivo FlashCharge
- กล้องหน้า : 2 ตัว
- 50MP กล้องหลัก AF f/2.0
- 8MP กล้อง Wide-angle f/2.28
- กล้องหลัง : 3 ตัว
- 64MP กล้องหลัก f/1.89
- 8MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
- 2MP กล้อง macro f/2.4
- ระบบปฏิบัติการ : FunTouch OS 12 บน Android 12
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.2 และพอร์ต USB Type-C
แกะกล่อง vivo V23 5G
ก่อนจะไปดูเครื่องมาเช็กอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องแบบเร็ว ๆ กันก่อนเลย ตัวกล่องยังมาในขนาดมาตรฐานของ vivo V Series ที่ด้านหน้ามีชื่อรุ่นชัดเจนพร้อมระบุความจุ 12GB + 256GB ของรุ่นนี้อยู่ที่มุมขวาบนของกล่องด้วยครับ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับตัวเครื่องที่อยู่ในซองอย่างเป็นระเบียบเลยและชั้นถัดไปจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ให้มาครบพร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์เสริมให้วุ่นวาย
เบ็ดเสร็จแล้วอุปกรณ์ภายในกล่องของ vivo V23 5G จะมีด้วยกัน 7 อย่าง ประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง vivo V23 5G
- เคสซิลิโคนใส
- สายชาร์จ USB type-C to type-A
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 44W
- หูฟังแจ็ค 3.5 มม. พร้อม Dongle แปลงเป็น type-C
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
ดีไซน์สวยหรู ผิวสัมผัสเนียนมือด้วย Satin AG
มาเริ่มยลโฉม vivo V23 5G กันเลยดีกว่า รุ่นนี้ต้องบอกเลยว่ามีดีไซน์ที่โดดเด่นเอามาก ๆ เราขอเริ่มที่ฝาหลังผิวด้านที่เนียนมือเวลาสัมผัสใช้พื้นผิวแบบ Satin AG ที่ให้สัมผัสเรียบหรู แต่เมื่อสัมผัสไว้ในมือจะรู้สึกนุ่มดุจใยไหม และแน่นอนว่าป้องกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
และเมื่อตัวเครื่องกระทบกับแสงเราจะเห็นความเปล่งประกายภายใต้แสงแดด ยิ่งสีที่เราได้มาเป็นสี Sunshine Gold ด้วยแล้ว ยิ่งให้ความหรูหราเป็นอย่างมาก เป็นสีทองที่น่าประทับใจไม่ใช่แค่ทองแบบทื่อ ๆ เพราะมีความเย้ายวนและเติมเต็มทุกสไตล์ได้อย่างเป็นธรรมชาติเลยด้วยครับ
Color-Changing Glass ฝาหลังที่เปลี่ยนสีได้ เมื่อเจอแสง UV
ไฮไลท์หลักในเรื่องดีไซน์ของ vivo V23 5G ก็คงหนีไม่พ้นเทคโนโลยี Color-Changing Glass หรือฝาหลังเปลี่ยนสีได้นั่นเอง ซึ่งในเครื่องสีทอง Sunshine Gold ตัวฝาหลังจะผลิตจากเทคโนโลยีโฟโตโครมิก ซึ่งแสดงสีสันได้หลากหลาย เมื่อกระทบกับแสง Ultraviolet หรือ UV เช่น แสงแดด, ไฟฉาย UV ซึ่งเมื่อแสงเหล่านั้นมากระทบกับฝาหลังจากเดิมที่ฝาหลังสีทองก็จะค่อย ๆ กลายเป็นสีฟ้าเปล่งประกายตัดกับกรอบเครื่องและโมดูลกล้องที่เป็นสีทองได้อย่างลงตัวมาก ๆ ครับ
และแน่นอนว่าความสนุกไม่ได้อยู่แค่นั้น เพราะถ้าเรามีอุปกรณ์เสริมมาเพิ่มลูกเล่นให้ฝาหลัง อย่างในชุดรีวิวนี้เราได้ตัว Stencil มาใช้คู่กับไฟฉาย UV ก็ทำให้เกิดโลโก้ vivo V23 5G เข้ามาที่ฝาหลังได้ด้วย ซึ่งหาก vivo จะขยายอุปกรณ์เสริมมาสร้างสรรค์ฝาหลังในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มเติมในอนาคตก็น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ
หน้าจอ AMOLED แบบแบน แสดงผลสวยมาก
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอกันบ้าง รีวิว vivo V23 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44″ ใช้ดีไซน์แบบรอยบากขนาดเล็กที่ซ่อนกล้องหน้าคู่ไว้ภายใน ตัวหน้าจอแสดงผลได้ค่อนข้างเต็มจอ แทบจะชิดขอบไปหมด และด้วยความเป็นหน้าจอแบบแบนก็จะเห็นการแสดงผลทั้งหมดส่งตรงมาเราเต็ม ๆ เลยล่ะครับ
ในเรื่องการแสดงผลแน่นอนว่าความเป็นจอ AMOLED ก็ให้สีสันที่สวยสด สีดำก็สนิท ความสว่างในการสูงแสงก็ทำได้ดีเลย ถ้าต้องใช้งานกลางแจ้งก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมองไม่เห็น หน้าจอแบบนี้ก็เหมาะกับการเอามาดูหนังหรือภาพความละเอียดสูงมาก ๆ เลยล่ะครับ
refresh rate 90Hz ตอบสนองลื่นไหล
ส่วนเรื่องการตอบสนองหน้าจอรุ่นนี้ก็ได้ refresh rate มาสูงถึง 90Hz ใช้งานทั่วไปเลื่อนหน้าจอ รวมถึงใช้งานกับแอปโซเชี่ยลต่าง ๆ ก็ทำได้ลื่นไหลเอามาก ๆ ใครที่ชอบความลื่นไหล บอกเลยว่า vivo V23 5G รุ่นนี้ไม่ทำให้ผิดหวังครับ
มีทั้งระบบสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า
แน่นอนว่าด้วยความที่ vivo V23 5G ใช้จอแบบ AMOLED จึงสามารถใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอเข้าไปได้ด้วย บนรุ่นนี้ก็เลยใช้งานสแกนนิ้วที่หน้าจอได้ครับ การทำงานถือว่ารวดเร็วเลย เซ็นเซอร์เป็นแบบ Optical ที่เวลาแตะสแกนจะมีไฟสว่างขึ้นมาครู่หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้า 50MP มาให้ใช้งานด้วย สะดวกต่อการใช้งานดีมาก ในสถานการณ์ทั่วไปก็ใช้สแกนหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งเราอาจต้องใส่แมสก์อยู่ก็อาจต้องพึ่งสแกนนิ้วกันไป
กรอบอลูมิเนียมแบบเหลี่ยมเพิ่มความพรีเมี่ยม
กรอบตัวเครื่องของ vivo V23 5G ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมเกรดการบินที่ให้ความรู้สึกแข็งแรงและหรูหรา ดีไซน์จะเป็นแบบเหลี่ยมไปเลยยิ่งพรีเมี่ยมขึ้นไปอีกด้วยพื้นผิวแบบแวววาว มองแว้บแรกก็รู้เลยว่ารุ่นนี้พรีเมี่ยมเอามาก ๆ ครับ และถึงแม้จะเป็นดีไซน์แบบเหลี่ยมแต่ด้วยการตกแต่งมุมแบบตัว C จึงทำให้เวลาเราถือใช้งานนั้นไม่บาดมือเลย
แต่ความแวววาระดับนี้ก็ต้องแลกมาด้วยคราบรอยนิ้วมือที่ติดง่ายเอามาก ๆ ครับ จับนิดจับหน่อยก็จะเกิดคราบรอยนิ้วมือแล้วครับ วิธีแก้ไม่ยากครับ ก็ใส่เคสกันลดการสัมผัสโดยตรงกันไป ซึ่งเชื่อว่าเราก็คงต้องใส่เคสกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เนาะ
ความบางเบาแบบที่ vivo ถนัด
ในเรื่องความบางแน่นอนว่า vivo ทำเรื่องนี้ได้ดีเสมอมาบน vivo V23 5G สี Sunshine Gold นี้บางเพียง 7.55 มม.เท่านั้น แถมน้ำหนักยังแค่ 181 กรัมเองด้วย แม้วัสดุจะดูพรีเมี่ยมมาก แต่การถือใช้งานก็ไม่ได้เทอะทะเลยจริง ๆ บอกแล้วว่า vivo เขาทำเรื่องขนาดน้ำหนักได้ดีจริง ๆ
ปุ่มกดที่อยู่ด้านขวามือทั้งหมด
ตำแหน่งปุ่มกดของ vivo V23 5G วางไว้ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมด ไล่ลงมาตั้งแต่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ไปจนถึงปุ่ม Power ครับ ซึ่งตัวปุ่มกดแน่นหนากดแล้วไม่ก๊องแก๊ง แต่ตำแหน่งของปุ่มกดอาจอยู่ต่ำไปนิด ซึ่งเรามักเผลอไปกดที่ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงแทนปุ่ม Power อยู่บ่อย ๆ ต้องปรับตัวกันนิดหน่อยถึงจะใช้งานได้คล่องครับ
ส่วนตำแหน่งของพอร์ตการเชื่อมต่อก็อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่องครับ vivo V23 5G ใช้พอร์ต USB-C วางอยู่ตรงกลางมีไมโครโฟนและลำโพงหลักของตัวเครื่องอยู่ซ้าย-ขวาตามลำดับ และซ้ายสุดจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Dual-SIM ครับ ส่วนด้านบนก็จะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนอยู่ครับ
ไหน ๆ ก็พูดถึงลำโพงแล้ว ต้องบอกว่าน่าเสียดายมากที่ vivo V23 5G ให้ลำโพงมาแค่ตัวเดียว เสียงที่ออกมาจึงเป็นแบบ mono อาจไม่กว้างเหมือนรุ่นที่ใช้ลำโพงคู่เนาะ แต่ในเรื่องความดังของเสียงก็ถือว่าใช้ได้ครับ
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ vivo V23 5G นั้นทำได้ดีมาก ถือว่าเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีดีไซน์สวยที่สุดจาก vivo เลยก็ว่าได้ครับ ทั้งงานประกอบที่หรูหราวัสดุเป็นกรอบอลูมิเนียม ฝาหลังกระจก Satin AG แถมยังได้ความสามารถเก๋ ๆ อย่าง Color-Changing Glass ที่เปลี่ยนสีสันของฝาหลังได้เมื่อกระทบกับแสงแดดอีกด้วย รอบนี้ vivo ทำการบ้านมาดีจริง ๆ ไม่ผิดหวังครับ
กล้องหน้าคู่ 50MP AF รุ่นแรกในไทย
มาต่อกับไฮไลท์ที่ 2 ของรุ่นนี้กับ 50MP AF Dual Camera หรือกล้องหน้าคู่ความละเอียดสูงสุด 50MP ซึ่งความละเอียดระดับนี้ถือเป็นรุ่นแรกในไทยเลยก็ว่าได้ครับ vivo V23 5G มีสเปคกล้องหน้าคร่าว ๆ ดังนี้
- 50MP กล้องหลัก AF f/2.0
- 8MP กล้อง Wide-angle f/2.28
มี Eye Autofocus เซลฟี่ยังไงก็ชัด
เรียกว่าให้สเปคกล้องหน้ามาสูงที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ครับ และไม่ใช่แค่ความละเอียดที่สูงอย่างเดียว เพราะกล้องหน้าของ vivo V23 5G ยังมาพร้อมระบบ Eye Autofocus ที่ช่วยให้โฟกัสได้อย่างแม่นยำเวลาเซลฟี่อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าเราจะอยู่ระยะไหนของภาพก็ยังคงได้ใบหน้าที่ชัดเจนเสมอ
AI HD Portrait ปรับภาพใบหน้าให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้ รีวิว vivo V23 5G ยังมีฟีเจอร์ AI HD Portrait ที่จะเข้ามาปรับภาพเซลฟี่เราให้สวย เนียนเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทำให้รายละเอียดใบหน้าส่วนใหญ่ เช่น คิ้ว สามารถปรับแต่งหรือสร้างใหม่เพื่อให้ได้ภาพ Portrait ที่ชัดเจน สมบูรณ์แบบ ผิว สามารถปรับให้เนียนละเอียด อีกทั้งยังช่วยให้ภาพเซลฟี่ของเราคมชัดขึ้นอีกด้วย
Dual-Tone Spotlight เซลฟี่แสงน้อยก็สวย
vivo V23 5G ยังมาพร้อมไฟ Spotlight คู่ที่ด้านหน้า เพื่อเพิ่มแสงสว่างในสภาพแสงน้อย หรือในสถานการณ์ที่เราต้องการแสงเพิ่มก็ใช้ไฟ Spotlight 2 ดวงนี้เพิ่มได้ครับ จะใช้ในงาน Party ที่เพื่อเพิ่มความคมชัดให้ภาพก็ได้เช่นกัน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากกล้องหน้าของ vivo V23 5G ก็ต้องบอกเลยว่าทำได้ยอดเยี่ยมสมกับสมกับที่จัดฟีเจอร์ระดับสูงมาให้อย่างครบครัน ทั้งกล้องความละเอียดสูงถึง 50MP มี Eye Autofocus แม่นยำไม่มีหลุด AI HD Portrait ปรับแต่งเพิ่มเติมจนได้ภาพเซลฟี่ที่ถูกใจ หรือจะเป็นกล้องมุมกว้างที่ช่วยให้เราเก็บภาพได้กว้างกว่าที่เคยก็ยิ่งทำให้ประทับใจเข้าไปใหญ่
กล้องหน้า 50MP กล้องหน้า Wide Angle 105º
กล้องหลัง 3 ตัว 64MP
กล้องหน้าแจ่มสุด ๆ ไปแล้ว กล้องหลังก็ไม่น้อยหน้าครับ vivo V23 5G ให้กล้องหลังมา 3 ตัวแบ่งเป็น
- 64MP กล้องหลัก f/1.89
- 8MP กล้อง Ultra-Wide Angle f/2.2
- 2MP กล้อง macro f/2.4
ถือว่าให้มาเพียงพอต่อการใช้งานเหมือนกันครับ มีกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 64MP ถ่ายภาพได้คมชัดแน่นอน แถมยังได้กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120º และกล้อง macro มาถ่ายภาพระยะใกล้ ๆ อีกด้วยครับ
กล้อง 64MP คุณภาพเยี่ยม พลัง AI จัดการได้ดี
ในเรื่องฟีเจอร์การถ่ายภาพก็มี AI Scene Optimization มาด้วย เวลาเราเล็งถ่ายภาพระบบจะตรวจจับได้ทันที ทีนี้จะถ่ายอาหารให้น่ากิน ถ่ายท้องฟ้าให้สีสด ถ่ายดอกไม้ให้สวยงาม หรือถ่ายคนให้เนียนตา ก็ไม่มีปัญหาครับ แค่เล็งและถ่ายได้เลยระบบ AI จะตรวจจับและปรับภาพให้สวยเข้ากันได้เอง ซึ่งผลลัพธ์ก็ยอดเยี่ยมเลยครับ การจัดการ HDR ดีมาก แถมการวิเคราะห์ซีนจาก AI ก็ทำได้รวดเร็วเลยด้วย
กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 120º
มาต่อที่กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8MP มีมุมกว้างถึง 120º ช่วยให้เราเก็บภาพมุมกว้างได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องถอยออกไปไกล ฟีเจอร์ AI Scene ก็ยังมีให้ใช้งานเหมือนเดิม ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าดีเลย รายละเอียดและความคมชัดอยู่ระดับกลาง ๆ แต่ได้มุมที่กว้างขึ้นเยอะก็ถูกใจเราแล้วล่ะครับ
กล้อง macro เข้าใกล้ได้ระดับ 4 ซม.
ปิดท้ายที่กล้อง macro รุ่นนี้ให้มาที่ความละเอียด 2MP อาจจะไม่ได้คมชัดมากนัก แต่ก็ได้ความใกล้ระดับ 4 ซม.ช่วยให้เราได้ภาพวัตถุแบบใกล้กว่าที่เคย แต่อาจต้องใช้งานในสภาพแสงที่เพียงพอหน่อย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีครับ
Portrait สวยเนียน พร้อม Eye Autofocus
เช่นเดียวกับกล้องหน้า กล้องหลังของ vivo V23 5G ก็มีฟีเจอร์ Eye Autofocus เช่นกัน ทำให้เวลาเราถ่ายภาพบุคคลนั้นมั่นใจได้เลยว่า ภาพใบหน้าของแบบจะคมชัด ไม่หลุดโฟกัส อีกทั้งโหมด Portrait ของรุ่นนี้ยังมีลูกเล่นมากมายทั้ง Portrait Style, Face Beauty หรือเอฟเฟกต์ของ Bokeh ด้วย ผลลัพธ์ที่ได้จากโหมดนี้ก็ทำได้ดีอีกเช่นกัน การละลายฉากหลังทำได้เนียน ใบหน้าปรับแต่งมาได้พอดี โฟกัสแม่นยำ และยังมีลูกเล่น Portrait Style ให้เลือกใช้อีกหลายตัวอีกด้วยครับ
Night mode อย่างเซียน มีสไตล์ให้เลือกเพียบ
ปิดท้ายที่ Night mode บน vivo V23 5G ก็ยังเก่งเหมือนที่ผ่านมา ใช้งานได้ทั้งกล้องหลักและกล้อง Ultra Wide ใช้เวลาในการจับภาพไม่นาน และมี Night mode Style ให้เลือกถึง 9 แบบ เปลี่ยนภาพถ่ายกลางคืนให้สนุกยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีมาก การเก็บรายละเอียดของภาพนั้นทำได้อย่างลงตัวและใช้เวลาไม่นาน แถมสไตล์หรือฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 9 แบบก็ช่วยให้เราได้ภาพกลางคืนสนุก ๆ ตามการสร้างสรรค์ได้อีกเพียบเลยล่ะครับ
วิดีโอลูกเล่นเพียบ
ส่วนเรื่องวิดีโอ vivo V23 5G ก็ทำได้ดีไม่แพ้ภาพนิ่งครับ เพราะสเปคที่ให้มานั้นครบเครื่องอยู่แล้วทั้งกล้องหน้า-หลัง สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K (กล้องหน้าสูงสุด 30fps กล้องหลัง 60fps) มีฟีเจอร์กันสั่น Ultra Steabilization มาให้เลือกด้วย หรือจะเป็นฟีเจอร์เก๋ ๆ ใช้กล้องหน้า-หลังบันทึกไปพร้อมกันอย่าง Dual View ก็มีด้วย
โดยรวมในเรื่องกล้อง vivo V23 5G ก็ทำได้ดีสมกับแบรนด์ vivo ครับ ในเรื่องเซลฟี่และ Portrait ดีมาก ทั้งความคมชัดและความเนียน ในโหมด Auto ก็ได้ AI Scene Optimization มาปรับภาพให้สวยและใช้งานได้ง่ายในทุกระยะเลนส์ สำหรับสาว ๆ ที่ชอบการเซลฟี่หรือถ่าย Portrait แบบเซียน ๆ รุ่นนี้เหมาะมากจริง ๆ ครับ
ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุด FunTouch OS 12
vivo V23 5G มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบทับด้วย FunTouch OS 12 ด้วย ในเรื่องหน้าตา UI ยังเป็นเอกลักษณ์ของ vivo เหมือนเดิม ไอคอนเน้นไปที่ความสดใสและสนุกสนานเราสามารถปรับรูปแบบจากไอคอนกลม ๆ เป็นเหลี่ยม ๆ ได้ Wallpaper สวยเข้ากับสีตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี
มี Widget ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาทั้ง Weather ที่แสดงข้อมูลได้เต็มที่, Gallery ที่เราสามารถเลือกรูปโปรดมาแสดงเป็น Slideshow หรือเครื่องเล่นเพลงที่ให้เราเล่นเพลงหรือเล่นเพลงถัดไปได้จากตัว Widget โดยไม่ต้องเข้าไปในแอปเป็นต้น
ในเรื่องการปรับแต่งอื่น ๆ FunTouch OS 12 ก็มีมาให้เลือกมากมายอย่าง Dynamic effects ก็ยังมีให้เลือกอยู่ ในนี้เราจะสามารถเลือกปรับแต่งได้หลายอย่างเลย อาทิ Amnient Light effect เวลามีแจ้งเตือนให้แสดงไฟที่ขอบจอ, ความเร็ว Transition ของอนิเมชั่นในการเปิดแอป, อนิเมชั่นการปลดล็อคหน้าจอ, อนิเมชั่นการชาร์จ และอีกเพียบ เรียกว่าใครชอบปรับแต่งให้เป็นสไตล์ตัวเองถูกใจแน่นอนครับ
ชิปเซ็ต Dimensity 920 รองรับ 5G ทั้ง SA และ NSA
vivo V23 5G มาพร้อมชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์อย่าง Dimensity 920 ขนาด 6nm ที่มีประสิทธิภาพสูงเพียงพอต่อการใช้งาน แถมรองรับ 5G ได้ทั้ง SA และ NSA อีกด้วย มั่นใจได้เลยว่าในเรื่องการเชื่อมต่อรุ่นนี้ก็ไม่เป็นรองใครครับ
Extended RAM 2.0 (12GB + 4GB)
vivo V23 5G มาพร้อม RAM ขนาด 12GB ซึ่งเยอะมาก ๆ อยู่แล้ว และยังมีฟีเจอร์ Extended RAM 2.0 เพื่อคอยซัปพอร์ตหน่วยความจำ RAM ตัวหลักให้อีก 4GB มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่นยิ่งขึ้น โดยจะดึงพื้นที่ของหน่วยความจำภายใน ROM เพิ่มพื้นที่ RAM หลักให้มากขึ้น ทำให้เราสามารถสลับการใช้งานระหว่าง 30 แอปพลิเคชัน จาก RAM 12 GB ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และใช้งานได้โดยไม่สะดุดตลอดทั้งวัน
สำหรับประสิทธิภาพให้เห็นภาพคร่าว ๆ เราลองทดสอบผ่านแอป AnTuTu Benchmark และ GeekBench 5 ให้ คะแนนที่ได้จากแอป AnTuTu ก็ออกมาสูงถึง 487844 คะแนนเลยล่ะครับ
ส่วนคะแนนจากแอป GeekBench 5 ก็สูงไม่แพ้กัน Single-Core 739 คะแนนและ Multi-Core 2116 คะแนนครับ
เล่นเกมเป็นไง ชิปเซ็ตตัวนี้
สเปคของ vivo V23 5G ให้ได้ชัดว่าการทำงานนั้นลื่นไหลดีมาก แล้วถ้ามาเล่นเกมจริง ๆ จะเป็นอย่างไร รอบนี้เราทดสอบกับเกม Pokenmon Unite และ PUBG NEW STATE ผลลัพธ์ก็ออกมาดังนี้ครับ
เล่น Pokemon Unite บน vivo V23 5G
เริ่มที่ Pokemon Unite ตัวเกมให้เราปรับค่ากราฟิกและเฟรมเรตได้ที่ระดับสูงสุดทั้งคู่ ซึ่งภายในเกมก็เล่นได้อย่างราบรื่นเลยครับ จะมีเฟรมแกว่ง ๆ อยู่บ้างในจังหวะที่ปล่อยท่ากันเยอะ ๆ หรือเอฟเฟกต์เยอะหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับ 52 – 60fps ตลอดทั้งเกมครับ
เล่น PUBG NEW STATE บน vivo V23 5G
และเกมใหม่อย่าง PUBG NEW STATE ก็ปรับเฟรมเรตได้ที่ Max และกราฟิกได้ถึง Ultra เลย ตามสไตล์ชิปรุ่นไฮเอนด์ล่ะเนาะ ในเรื่องการเฟรมเรตในเกมก็ทำได้ลื่นไหลเลย เท่าที่เราเล่นยังไม่เจออาการกระตุกให้เห็นเลย เล่นได้อย่างลื่นไหลดีมาก หน้าจอขนาดใหญ่ 6.44″ นี่ก็ช่วยให้เรามองเห็นฉากได้อย่างกว้างขวาง แต่น่าเสียดายที่ลำโพงของตัวเครื่องให้มาเป็น mono ถ้าเป็นลำโพง Stereo คู่คงจะแจ่มกว่านี้อีกเยอะเลย
แบตเตอรี่ใช้งานได้ดี แถมมีชาร์จไว 44W
vivo V23 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4200mAh ใช้งานได้เป็นอย่างดี เท่าที่เราลองใช้งานจริงมา ก็รู้สึกว่าแบตฯรุ่นนี้เอาอยู่เลย บวกกับชิปเซ็ตแบบ 6nm ที่ใช้พลังงานไม่มากก็สบายใจได้ว่าเราจะใช้งานได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้รุ่นนี้ก็ยังได้ระบบชาร์จไวมาถึง 44W vivo FlashCharge อีกด้วย ใช้งานได้นานแถมชาร์จเร็วอีกแบบนี้ถูกใจเราจริง ๆ
ราคาและโปรโมชั่น
vivo V23 5G เปิดราคาในไทยมาที่ 17,999 บาท มีให้เลือก 2 สีคือ สีทอง Sunshine Gold และสีดำ Stardust Black เริ่มเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 13 – 20 มกราคมนี้ รับของแถมเป็นบัตร VIP Card และ V23 5G Premium Gift ครับผม
สรุปแล้ว “นี่คือสุดยอดสมาร์ตโฟนสายเซลฟี่ที่มีดีไซน์สวยงามที่สุด”
สรุปแล้ว vivo V23 5G ก็ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ออกมาตอบโจทย์สายเซลฟี่อย่างแท้จริงด้วยกล้องหน้าคู่ 50MP AF คุณภาพเยี่ยมมาก เซลฟี่ได้เหนือระดับพร้อมเทคโนโลยีมากมายแถมยังมีกล้อง Wide angle มุมกว้าง 105º ที่ช่วยให้เราเก็บภาพเซลฟี่ได้กว้างกว่าที่เคย อีกจุดที่เราชอบมาก ๆ บนรุ่นนี้ก็คือดีไซน์ที่สวยงามอลังงานด้วยบอดี้กระจกพร้อมกรอบอลูมิเนียมสุดหรูพร้อมฟีเจอร์ฝาหลังเปลี่ยนสี Color-Changing Glass ที่สร้างสรรค์และเปลี่ยนดีไซน์ในแบบเดิม ๆ ได้เป็นอย่างดี แค่ 2 อย่างเรื่องกล้องหน้าและดีไซน์นี้ก็น่าจะดึงดูดแฟน ๆ ได้ไม่ยากแล้ว ในเรื่องสเปคภายใน vivo V23 5G ก็ไม่น้อยหน้าทั้งชิปเซ็ต Dimensity 920 (6nm) หน้าจอ AMOLED 6.44″ 90Hz ความจุเยอะถึง 12GB + 256GB แบตเตอรี่ใหญ่ 4200mAh ชาร์จไว 44W จะมีจุดสังเกตอยู่นิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องลำโพงของตัวเครื่องที่เป็นแบบ mono เท่านั้น นอกนั้นถือว่าสมบูรณ์แบบเลยล่ะครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยพรีเมี่ยม
- เครื่องสีทอง Sunshine Gold ฝาหลังเปลี่ยนสีได้แปลกใหม่
- หน้าจอ AMOLED 6.44” แสดงผลสวย ลื่นไหลด้วย refresh rate 90Hz
- กล้องหน้าคู่ 50MP + 8MP คุณภาพเยี่ยมมาก
- กล้องหลัง 64MP ใช้งานได้ดีในทุกโหมด
- แบตเตอรี่ 4200mAh มีชาร์จไว 44W ด้วย
จุดสังเกต
- กรอบเครื่องของสีทองเป็นแบบมันวาว เก็บคราบรอยนิ้วมือเยอะไปหน่อย (แต่แก้ได้ด้วยการใส่เคส)
- ลำโพงตัวเครื่องเป็นแบบ mono