Featured
รีวิว vivo V23e 5G คมชัดทุกโมเม้นท์ที่คุณเป็น ด้วยดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม ตื่นตาทุกการใช้งานผ่านกล้องหน้าคมชัดสูง 44MP และขุมพลัง Dimensity 810
รีวิว vivo V23e 5G สมาร์ตโฟน ‘คมชัดทุกโมเม้นท์ที่คุณเป็น’ กับดีไซน์สุดล้ำ สวยสะดุดตา พร้อมสเปคที่ครอบคลุมทุกการใช้งานด้วยขุมพลัง Dimensity 810 แสดงผลบนหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว และกล้องหน้าคมชัดสุดพิเศษ 44MP เซลฟี่ได้เป็นธรรมชาติ โดยทั้งนี้จะแจ่มขนาดไหนมาดูกันเลยครับ
สรุปสเปค vivo V23e 5G (สี Sunshine Coast)
- ขนาดตัวเครื่อง : 160.87 x 74.28 × 7.41 มม.
- น้ำหนัก : 172 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 810 Octa-core
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มุมมองกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 44 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
- รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G : n1/n3/n28/n40/n41/n77/n78
- แบตเตอรี่ความจุ 4050mAh ชาร์จเร็ว 44W vivo FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
สวยงามกันตั้งแต่ตัวกล่องกันเลยทีเดียวสำหรับ vivo V23e 5G โดยมีประกายดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าที่ระยิบระยับสะดุดขั้นสุด ซึ่งเข้ากับตัวอักษร “V23e” ที่อยู่หน้าตัวกล่องชัดเจน
เปิดออกมาจะเจอกับอุปกรณ์ที่ให้มาครบแล้ว ดังนี้
- ตัวเครื่อง vivo V23e 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 44W vivo FlashCharge
- สาย USB Type-C
- เคสใสแบบซิลิโคน
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- หูฟังพอร์ต 3.5 มม.
- หัวแปลงพอร์ต USB Type-C เป็น 3.5 มม.
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์หรูหรา คุณภาพสีระดับพรีเมียม
รีวิว vivo V23e 5G มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเกินราคาด้วยตัวเครื่องสุดบาง Slim Body เพียง 7.36 มม. เท่านั้น และน้ำหนักก็เบาเพียง 172 กรัม เวลาใช้งานจะมีความสะดวกมากๆ รวมถึงเวลาพกพาไปไหนก็จะไม่หนักกระเป๋าจนเกินไปครับ ทั้งนี้ vivo ยังดีไซน์ให้ vivo V23e 5G มีขอบที่โค้งเล็กน้อยแบบ 2.5D Flat Frame เพื่อให้สบายมือเวลาใช้งานมากขึ้น
เรื่องของสีสันยังคงเป็นจุดเด่นที่ vivo ทำได้น่าประทับใจมากๆ โดยสีรุ้ง Sunshine Coast ที่เราได้มาครั้งนี้ถือว่าสวยงามสุดๆ ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบเม็ดสีแบบผสมผสานสองชั้น เพิ่มให้เฉดสีมีการสะท้อนเป็นสีรุ้งและแตกต่างกันในแต่ละมุมมอง ให้ความรู้สึกที่ดูอบอุ่นคล้ายช่วงเวลาที่อยู่ชายฝั่งของทะเล
vivo V23e 5G มาพร้อมวัสดุกระจกแบบ Satin AG Glass ให้สัมผัสที่เรียบหรู แวววาวและมีความนุ่มนวลเวลาสัมผัสมากๆ และไม่เกิดรอยนิ้วมือกวนใจที่ฝาหลังแน่นอนครับ
หน้าจอ AMOLED คมชัดทุกการใช้งาน
ในรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอที่ให้เราได้ใช้งานอย่างคมชัดและสีสันจัดเต็มด้วยชนิด AMOLED ที่เน้นเรื่องความสดใสของหน้าจอ ทั้งยังมีขนาดอยู่ที่ 6.44 นิ้ว พร้อมความละเอียด Full HD+ ทำให้ใช้งานได้คมชัดเต็มตาแน่นอน ใครจะเล่นเกมหรือชมวิดีโอผ่านสตรีมมิ่งต่างๆ จะต้องหลงรัก
มาดูรอบๆ เครื่องกันต่อเลยครับ เริ่มด้วยที่เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้า 44MP และลำโพงสำหรับการสนทนา
ทางขวาของตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power
ด้านล่างจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่อง แบบพลิกหน้า-หลัง (ช่องที่ 2 เป็นแบบ Hybrid) ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลักครับ
ขณะที่ด้านบนจะมีเพียงไมโครโฟนตัวที่ 2 เท่านั้น
และสุดท้ายทางด้านหลังเครื่องจะมีโมดูลกล้องหลัง 3 เลนส์เรียงกันเป็นแนวตั้ง แถมกระจกรอบตัวกล้องยังสะท้อนคล้ายกับสปอตไลท์เพิ่มคาวมงามได้อีกขั้น และถัดไปทางขวาจะมีไฟแฟลช LED อยู่ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
vivo V23e 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย FuntouchOS 12 ซึ่งฟีเจอร์ด้านการปรับแต่งเพิ่มความสวยงามด้าน UI มีมากขึ้น เพิ่มความสนุกในการใช้งานและไม่มีเบื่อแน่นอน
Dual mode 5G ใช้งานเร็วแรงไม่มีสะดุด
จัดความคุ้มค่าอย่างแรกมาให้เลยตั้งแต่การรองรับเครือข่าย 5G ที่มีความเสถียรและเร็วแรงมากขึ้นกว่าปกติมากๆ ทั้งยังรองรับ 5G Dual mode ได้แก่ SA & NSA เพื่อสลับเครือข่ายระหว่าง 4G/5G อย่างอัจฉริยะด้วยการออกแบบเสารับสัญญาณรอบทิศทางแบบ 360 องศา ช่วยให้ประหยัดการทำงานของแบตเตอรี่มากกว่าเดิม
รองรับ Always-on display
จากการที่ vivo V23e 5G ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ก็มาพร้อมฟีเจอร์ Always-on display หรือการแสดงผลหน้าจอตลอดเวลาเพื่อให้เราได้ทราบวัน/เวลาและการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยไม่ต้องปลดล็อกเข้าไปดูครับ เพียงแค่เรายกเครื่องขึ้นมาหรือขยับเครื่อง ระบบก็จะแสดงทันที
ระบบความปลอดภัย
รีวิว vivo V23e 5G มาพร้อมเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ โดยการใช้งานทำงานได้เสถียรมากๆ ซึ่งจากที่ใช้งานจริงยังไม่เจอการผิดพลาดแม้ว่ามือจะเปียกอยู่ก็ตาม
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ยังคงทำงานได้ดี เวลามือไม่ว่างก็สามารถปลดล็อกได้สบายๆ ครับ
โหมดมืดใช้งานได้สบายตา
ฟีเจอร์สำหรับคนที่ใช้งานในที่มืดก็เปิดโหมดมืดเพื่อใช้งานได้เช่นกัน เมื่อเปิดแล้ว แอปพลิเคชั่นที่รองรับก็จะเปลี่ยนธีมมืดตามไปด้วยครับ หากใครที่ใช้บ่อยๆ ก็จะตั้งค่าให้ vivo V23e 5G เปิดให้อัตโนมัติตามเวลาที่เรากำหนดหรือเปิดตามช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกก็ได้เช่นกัน
ลูกเล่นเอฟเฟ็กต์ไดนามิกมีให้ใช้เพียบ
ด้วย FuntouchOS 12 ก็ให้เราได้ปรับเอฟเฟ็กต์ไดนามิกได้เยอะมากๆ โดยสามารถเปลี่ยนการแสดงผลเอฟเฟ็กต์ได้ตั้งแต่รูปแบบการสแกนลายนิ้วมือ, ใบหน้า, การชาร์จ รวมถึงการเคลื่อนไหวเมื่อปลดล็อกหน้าจอ ใครชอบแบบไหนก็ลองปรับได้เลยครับ โดยสามารถเข้าไปได้ที่ การตั้งค่า > เอฟเฟ็กต์แบบไดนามิก
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
MediaTek Dimensity 810 แบบ Octa-core เป็นขุมพลังที่เข้ามาขับเคลื่อนด้วยในรุ่นนี้ โดยชิปตัวนี้ความเสถียรในการใช้งาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง ROM 128GB ที่เก็บรูปภาพ วิดีโอ และแอปพลิเคชั่นได้ครบตามความต้องการแน่นอนครับ
เพิ่ม RAM ได้ด้วยฟีเจอร์ Extended RAM 2.0
vivo V23e 5G มาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 จะใช้ ROM ที่เหลือมาแปลงเป็น RAM สามารถเพิ่มจากเดิม RAM 8GB ได้อีก 4GB รวมเป็น 12GB เลยทีเดียวครับ ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น เปิดสลับแอปไปมาได้สบายไม่มีสะดุดครับ
เพิ่มความแรงด้วยเทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 และ Ultra Game Mode
ฟีเจอร์ที่ขาดไปไม่ได้ในเรื่องสายเกมคือ Multi-Turbo 3.0 ที่ใช้กลไก AI เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง, เครือข่าย และการทำงานเบื้องหลังตัวเครื่องให้เร็วและแรงมากขึ้น ทำให้การเล่นเกมเป็นไปได้แบบไม่มีอาการหัวร้อน
ทั้งนี้ ก็ยังมี Ultra Game Mode ที่เป็นผู้ช่วยในการเล่นเกมที่จะปิดการแจ้งเตือน รวมถึงมีโหมด E-Sport เพื่อควบคุมประสิทธิภาพการทำงาน, ล็อกความสว่าง และปรับให้เฟรมเรทระหว่างการเล่นเกมคงที่และนิ่งมากที่สุด
ทดสอบการเล่นเกม
Asphalt 9: Legends
สำหรับเกม Asphalt 9: Legends ที่กราฟิกค่อนข้างหนัก รุ่นนี้สามารถเปิดภาพระดับสูงได้ด้วยนะ แถมการเล่นในเกมประมาณ 4 – 5 รอบก็ทำได้สมูทเหมือนเดิม ตัวเครื่องก็ไม่ร้อนจนเกินไปครับ เล่นได้ยาวๆ เลย
PUBG Mobile
ส่วนเกมแนว FPS อย่าง PUBG Mobile ก็เล่นได้สบาย สามารถเปิดเฟรมเรทได้สูงและภาพนะดับ HD ครับ แต่ภายในเกมก็ได้ภาพที่สดใสมองเก็นได้ชัดเจนอย่างน่าพอใจเลย ซึ่งจุดนี้ได้จอชนิด AMOLED เข้ามาช่วยอีกแรง รวมถึงการเล่น การสัมผัสหน้าจอก็ทำได้ไหลลื่น ทัชได้ติดนิ้วสุดๆ
ROV
ROV เราก็ปรับระดับภาพได้สูงทั้งหมดครับ ยกเว้นไม่สามารถเปิดเฟรมเรทสูงได้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรครับ เพราะถ้าในเกมเล่นได้ไหลลื่น เฟรมเรทนิ่งๆ 30fps ตลอด ไม่มีกระตุกตั้งแต่ต้นเกมยันจบเกมก็ทำให้เราสนุกสนานได้แบบไม่มีข้อกังขาใดๆ ครับ ซึ่ง vivo V23e 5G ก็ทำได้อย่างบอกมาทั้งหมดครับ
แบตเตอรี่อึด 4050mAh ชาร์จได้แรง 44W
vivo V23e 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4050mAh รองรับการใช้งานทั่วไปครบถ้วนตลอดวัน หรือใครเล่นเกมหนักๆ แบตอาตหมดไวหน่อยก็สามารถชาร์จผ่านเทคโนโลยี 44W vivo FlashCharge ช่วยให้ชาร์จจาก 1% ถึง 69% ในเวลาเพียง 30 นาที และเต็ม 100% ในเวลาไม่ถึงชั่วโมงครับ
กล้องถ่ายรูป
หนึ่งในสิ่งที่ชูโรงของ รีวิว vivo V23e 5G คือกล้องถ่ายรูปที่จัดมาในระดับสูงเกินราคา โดยมีเลนส์หลักคาวมละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Eye Autofocus ที่โฟกัสดวงตาเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด รวมไปถึงลูกเล่นต่างๆ ที่ในรุ่นนี้จัดมาให้แบบครบถ้วน ถ่ายได้ไม่มีเบื่อ
คมชัดสูงสุด 50MP
มีกล้องคมชัดสูง ก็สามารถถ่ายได้ในโหมดความละเอียดสูงครับ โดยจะได้ภาพที่นำไปใช้งานต่อได้ทันที หรือจะครอปบางส่วนเพื่อปรับมุมมองในรูปๆ เดียวก็ทำได้ด้วย
AI อัจฉริยะ แยกแยะวัตถุได้แม่นยำ
ในโหมดปกติก็มาพร้อมกับ AI ที่สามารถแยกแยะหมวดหมู่ของแต่ละวัตถุที่เรากำลังโฟกัสได้อย่างแม่นยำ และมีการปรับเปลี่ยนสีสันให้อย่างเหมาะสมด้วยครับ ซึ่งเราเป็นคนถ่ายไม่ต้องไปทำอะไรเลย เพราะกล้องทำให้หมดแล้ว โดยสีสันที่ได้ออกมามีเฉดที่จัดจ้านและสดใสสะใสมากๆ ครับ
Super Wide Angle มุมกว้างเก็บครบ 120 องศา
เลนส์ Super Wide Angle ใน vivo V23e 5G ก็ถ่ายได้แบบครบทุกองค์ประกอบในภาพที่เราต้องการโดยไม่ต้องเดินออกมาไกลๆ เพราะมีมุมมองถึง 120 องศา ทั้งนี้ สีสันของภาพที่ได้ออกมายังมีความสดใสที่ถูกปรับมาให้ดูสดใสไม่หม่นเกินไปครับ
เลนส์หลัก / เลนส์ Super Wide Angle
โหมดถ่ายภาพบุคคล (Portrait) สวยธรรมชาติ พร้อมลูกเล่นเพียบ
จุดเด่นของกล้อง vivo V23e 5G รุ่นนี้จัดมาให้เราใช้งานกันแบบไม่มีเบื่อแน่นอน แถมได้ภาพสวยๆ อีกต่างหาก โดยในโหมด Portrait ปกติจะมีการปรับแต่งใบหน้าความสวยงามด้วย AI ซึ่งทำได้อย่างธรรมชาติลงตัวกับแสงเวลานั้นๆ มากขึ้น ที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ Eye Autofocus ที่ตรวจจับดวงตาได้อย่างแม่นยำ รับรองเลยว่าโฟกัสได้ไม่มีหลุดแน่นอนครับ
ละลายหลังได้หลากหลายด้วย Bokeh Flare Portrait
สำหรับฟีเจอร์นี้ จะเปลี่ยนการเบลอฉากหลังแบบโบเก้ธรรมดาๆ ให้เป็นรูปทรงอื่นที่สวยงามมากขึ้น ได้แก่ หัวใจ, ดาว, ผีเสื้อ และซากุระ ซึ่งเราสามารถเลือกระหว่างถ่ายได้เลย โดยการเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ตามการเล็ดลอดของแสงผ่านต้นไม้หรือการสะท้อนจากสิ่งของต่างๆ ครับ
ปรับสีสันให้หลากหลายด้วย Multi-Style Portrait
นอกจากจะเปลี่ยนดวงไฟที่ฉากหลังได้แล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์ Multi-Style Portrait ที่จะเป็นคล้ายกับฟิลเตอร์ที่เน้นการถ่ายบุคคลโดยเฉพาะ แต่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์พร้อมได้ Mood and Tone ที่ไม่ซ้ำใครด้วย โดยสไตล์จะมีให้เลือกเป็น 10 แบบ เช่น ธรรมชาติ, วินเทจ, แฟชั่น, สไตล์ญี่ปุ่น, ขาวดำ, เปียก และเกลือเงิน เป็นต้น
ถ่ายภาพซ้อนดั่งกล้องโปรด้วย Dual Exposure Mode 2.0
สำหรับโหมดนี้หลายคนน่าจะคุ้นเคยหากใช้สมาร์ตโฟนของ vivo อยู่ โดยในรุ่นนี้ก็เป็นเวอร์ชันที่ 2 ที่ให้เรานำรูปภาพอื่นมาใช้เป็นฉากหลังและถ่ายภาพบุคคลซ้อนเข้าไปได้ บอกเลยว่าเราสามารถเล่นกับฟีเจอร์ได้แบบไม่มีเบื่อและสร้างสรรค์ภาพถ่ายตามสไตล์ของเราได้อีกเพียบ!
ยังไม่หมดสำหรับการถ่ายด้วยโหมด Portrait ครับ เพราะยังมีเอฟเฟ็กต์แสงสำหรับ Portrait มาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ
Super Night Mode ถ่ายคมชัดแม้ในที่มืด
การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยในรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเกินราคาครับ เรื่องการรับแสงและปรับสีสันให้เห็นอย่างชัดเจนก็ทำได้ดีมากๆ และมีการปรับเงาที่มืดให้สว่างมากขึ้น และสิ่งที่ชอบอีกอย่างคือใช้ได้ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ Super Wide-Angle ด้วย
โหมดปกติ / Super Night Mode
ในโหมดกลางคืนก็ยังได้ฟีเจอร์ Night Style ที่เพิ่มความหลากหลายของสีสันตอนกลางคืนได้มากขึ้นอีก 4 แบบ ได้แก่ ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์
เปิดโลกด้วยเลนส์ Super Macro
ในเลนส์ Super Macro โฟกัสได้ที่ระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร ทำให้เราได้เห็นสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่สามารถเห็นได้มากขึ้น
กล้องหน้า 44MP AF Natural Portrait
จบกล้องหลังกันไปแล้ว ฟีเจอร์กล้องหน้าก็จัดให้ไม่แพ้กล้องหลังเลย เพราะให้ความละเอียดมาถึง 44 ล้านพิกเซล ถ่ายคมชัดขั้นสุด ยังคงความเป็นธรรมชาติของการเซลฟี่ แถมเรายังสามารถครอปภาพในส่วนที่ไม่ต้องการออกได้ในขณะที่รายละเอียดยังคงชัดเจนอยู่ ทั้งนี้ ก็ยังให้ถ่ายแบบโบเก้เพิ่มมิติและปรับแต่งได้อย่างสวยงามจาก AI อีกด้วย
โฟกัสดวงตาไม่มีหลุดด้วย Eye Autofocus Selfie
เราได้พูดถึง Eye Autofocus ในกล้องหลังไปที่ข้างต้น ที่กล้องหน้าก็มีมาให้เหมือนกันครับ ซึ่งคงถูกใจสายเซลฟี่แน่นอน เพราะภาพที่ถ่ายออกมาแทบไม่มีการเบลอแถมได้การปรับแต่งใบหน้าจาก AI อีกด้วย
วิดีโอก็ถ่ายได้สนุกมากขึ้น
สำหรับการถ่ายวิดีโอก็มีหลากหลายฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานครับ ดังนี้
Dual View Video 3.0
ฟีเจอร์ให้เราได้ถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้าและหลังพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ทำให้เก็บทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้แบบไม่มีพลาดแน่นอน โดยการปรับแต่งของโหมดนี้ทำได้ทั้งแบบให้กล้องหน้าจอเล็ก/กล้องหลังจอใหญ่ แถมยังใช้ได้ทั้งเลนส์หลักและ Super Wide ได้ทั้งหมดครับ หรือจะใช้กล้องหลังเลนส์หลักและมุมกว้างถ่ายไปพร้อมกันก็ยังได้ด้วย
กันสั่นกล้องหน้า Steadiface selfie Video
การถ่ายวิดีโอเซลฟี่สำหรับ Vlog ก็ไม่ต้องกลัวว่าเวลาเดินจะสั่น เพราะ vivo V23e 5G มีโหมด Steadiface selfie Video ที่ AI จะตรวจจับดวงตาของเราให้หลุดโฟกัสน้อยที่สุด รวมถึงการได้ระบบกันสั่นไหวแบบ EIS มาช่วยอีกหนึ่งแรง
เซ็นเซอร์เทคโนโลยีกันสั่น Ultra Stable Video และ EIS
และสุดท้ายที่กล้องหลังก็จัดเทคโนโลยีกันสั่นไหวที่ทรงพลังมาก โดยจะมี 2 แบบให้เราได้ใช้ ได้แก่ กันสั่นมาตรฐานและกันสั่นแบบพิเศษ ซึ่งที่กล้องหลังจะได้ AI เข้ามาตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ช่วยให้ผลลัพธ์ของวิดีโอนั้นคมชัดสุดๆ
สรุปการใช้งาน
ใครที่ชอบถ่ายรูปหรือเซลฟี่ รีวิว vivo V23e 5G รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ ด้วยราคาที่ประหยัดแต่มีฟีเจอร์ให้ใช้งานเพียบ ถ่ายสนุกได้แบบไม่มีเบื่อแน่นอน ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงสเปคต่างๆ ที่จัดมาให้ใช้งานแบบรอบด้าน ไม่ว่าจะเล่นโซเชียล ดู YouTube, Netflix หรือเล่นเกมก็ทำได้ไหลลื่น ไม่มีอาการสะดุดมากวนใจครับ แถมยังมีดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือการรองรับการใช้งาน 5G ที่เหมาะกับคนยุคใหม่เลยทีเดียว
ราคาและวันวางจำหน่าย
vivo V23e 5G วางจำหน่ายในไทยอยู่ที่ราคา 12,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายนนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป