Featured
รีวิว vivo V29e 5G สมาร์ตโฟน “ออร่าพอร์ตเทรต พิเศษทุกความรู้สึก” กล้องคมชัด 64MP พร้อม Aura Light Portrait 2.0 และสเปคระดับท็อปในราคาจับต้องได้
รีวิว vivo V29e 5G สมาร์ตโฟนสโลแกน “ออร่าพอร์ตเทรต พิเศษทุกความรู้สึก” ชูโรงด้วยกล้องหลัง Aura Light Portrait 2.0 ที่ให้ถ่ายในทุกสภาพแสงได้เป็นอย่างดี พร้อมฟีเจอร์ภายในที่จัดเต็มทั้งขุมพลัง Snapdragon 695 ใช้งานได้ไหลลื่น พร้อมแสดงผลบนหน้าจอ AMOLED 120Hz และชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
สรุปสเปค vivo V29e 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 162.35 × 74.85 × 7.69 มม.
- น้ำหนัก : 190 กรัม
- หน้าจอแสดงผล E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 × 1080 พิกเซล), 394 PPI รองรับ Refresh Rate 120Hz, 1200Hz Instant Touch Sampling Rate, ขอบเขตสี 100% DCI-P3, ความอิ่มตัวของสี 107% NTSC และความสว่างสูงสุด 1,150 นิต
- หน่วยประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 695 Octa Core ความเร็ว 2.2GHz
- GPU : Adreno 619
- RAM : 12GB LPDDR4X
- ROM : 256GB UFS 2.2
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 รองรับกันสั่น OIS
- เลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับโฟกัสอัตโนมัติ
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
- รองรับ 5G SA/NSA
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 4800mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง vivo V29e 5G
ตัวกล่องของ vivo V29e 5G มาพร้อมกับกล่องที่ให้มาเหมือนกับ vivo V29 5G ที่มาในลักษณะที่ให้ Aura Light Portrait 2.0 เป็นวงแหวนล้อมชื่อรุ่น V29e เอาไว้ และสัญลักษณ์ 5G ตรงด้านล่าง
ภายใน แกะออกมาจะเจอกับตัวเครื่อง vivo V29e 5G ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว
ตามด้วยเคสใสที่แถมมาให้เรียบร้อยและคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ในชั้นท้ายสุดจะเป็นอะแดปเตอร์ 44W FlashCharge, สาย USB Type-C และเข็มเปิดถาดซิม
ดีไซน์สวยแบบ Aesthetic Colors เพรียวบาง ไม่เหมือนใคร
เรื่องการดีไซน์สมาร์ตโฟนต้องยกให้กับ vivo จริงๆ โดยในรุ่นนี้กับ vivo V29e 5G มาพร้อม Aesthetic Colors ที่ออกแบบสีสันและลวดลายได้อย่างประณีตสวยงามและลงตัวมากๆ ทั้งยังทำให้ได้สัมผัสความสวยงามของสีสันใหม่ๆ ผ่านรุ่นนี้ด้วย
vivo V29e 5G จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีที่ให้ความแตกต่างกันในเรื่องอารมณ์เลยครับ สีแรกจะเป็นสีหลักอย่างสีฟ้ากลาเซียร์ (Ice Creek Blue) จะเป็นลวดลายคริสตัลน้ำแข็งให้ความรู้สึกเย็นและสดชื่น เมื่อโดนแสงตกกระทบลงมาจะเห็นเอฟเฟ็กต์ 3 มิติ ซึ่งวัสดุที่ใช้จะเป็นกระจก 2.5D AG Glass ที่จะเป็นผิวสะท้อนมันเงา ทำให้จับถือได้สะดวกอีกด้วย ยิ่งช่วงนี้ใกล้ถึงฤดูหนาวแล้ว สีนี้ก็ยิ่งเหมาะมากๆ ในการเป็นเจ้าของครับ
ส่วนอีกสีจะเป็นสีดำฟอเรสท์ (Forest Black) ด้วยวัสดุฝาหลังที่เป็นผิวด้านแบบสวยงาม ติดรอยนิ้วมือได้ยากมากๆ ในสีนี้เราจะได้รู้สึกถึงแก่นแท้ของพลังแห่งธรรมชาติ ได้ความเรียบหรู ดูแพง ทั้งยังแสดงลวดลายระยิบระยับเหมือนดวงดาวด้วยครับ และที่ชอบเลยของสีดำฟอเรสท์ คือ จะเห็นเป็นสีดำเมื่อวางไว้นิ่ง ๆ แต่เมื่อสะท้อนแสงจะออกมาเป็นสีเขียวเข้มคล้ายกับป่าธรรมชาติเลยครับ
นอกจากความพิเศษของทั้ง 2 สีแล้ว ขอบข้างตัวเครื่องยังเป็นสีเดียวกับฝาหลังที่ทำได้อย่างลงตัวครับ รวมถึงความบางตัวเครื่องจะอยู่ที่เพียง 7.69 มม. และเบามากๆ ที่ 190 กรัมเท่านั้นครับ
พร้อมป้องกันน้ำ-ฝุ่นในระดับ IP54
vivo V29e 5G ยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP54 สามารถป้องกันละอองน้ำ ฝนตกเบาๆ และฝุ่นได้เป็นอย่างดีครับ ทำให้เราสามารถใช้งานในตอนเร่งรีบได้ต่อเนื่อง
หน้าจอ E4 AMOLED ไหลลื่นแบบ 120Hz พร้อมใช้ได้เต็มตา
vivo V29e 5G มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ E4 AMOLED ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ซึ่งความพิเศษอีกอย่างในรุ่นนี้คือขอบจอที่แคบเป็นพิเศษ ทำให้ขนาดใหญ่ขึ้นแต่ยังได้ตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่เกินไป ขณะที่ความคมชัดจะอยู่ที่ระดับ FHD+ (2400 × 1080 พิกเซล) และยังเอาใจสายคอนเทนต์ด้วยขอบเขตสี 100% DCI-P3 และความอิ่มตัวของสี 107% NTSC ทำให้ได้ความคมชัดสูงและสีสันก็ยังสดใสเต็มตาเหมือนรุ่นระดับเรือธง รวมถึงได้ปรับความสว่างหน้าจอได้สูงสุด 1,150 นิต ที่ช่วยให้ใช้งานแสงกลางแจ้งได้ชัดเจนอยู่
ในรุ่นนี้ยังรองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz พร้อมความไวต่อการสัมผัส 1200Hz Instant Touch Sampling Rate ทำให้สายเกมเมอร์ที่ต้องการความหน่วงต่ำๆ สัมผัสหน้าจอและต้องตอบสนองทันทีจะถูกใจสิ่งนี้แน่นอนครับ !!
พาชมรอบเครื่อง
ต่อมากันที่รอบๆ เครื่องกันครับ เหนือหน้าจอจะได้กล้องหน้าแบบ Punch Hole ตรงกลางมาให้ พร้อมลำโพงสำหรับการสนทนา
ฝั่งขวาตัวเครื่องจะได้ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมาให้ และปุ่ม Power ครับ
ทางด้านล่างตัวเครื่องจะได้ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้าหลัง ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 2, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ส่วนไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนจะอยู่ทางด้านบนที่ขอบเครื่องครับ
และท้ายสุดจะเป็นกล้องหลังคู่ 2 เลนส์ เป็นเลนส์หลักและ Ultra-Wide ถัดลงมาจะเป็นวงแหวน Aura Light Portrait 2.0 ส่วนอีกฝั่งกลมๆ จะเป็นไฟแฟลช LED เพื่อใช้ในตอนใช้ไฟฉายครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ Android 13 พร้อมด้วย FunTouch OS 13
vivo V29e 5G แกะกล่องมาให้เป็นระบบปฏิบัติการ Android 13 พร้อมด้วย FunTouch OS 13 ซึ่งเป็น OS ตัวล่าสุดของแบรนด์ในตอนนี้ครับ โดยฟีเจอร์ต่างๆ ก็ให้มาเยอะพอสมควรและการจัดสรรทรัพยากรในตัวระบบก็ทำได้ดี ช่วยให้การใช้งานไหลลื่นมากขึ้นครับ
แน่นอนว่าต้องมี Always-on Display !!
ได้หน้าจอ AMOLED มา ต้องไม่ขาดฟีเจอร์ Always-on Display (AOD) โดยรุ่นนี้ก็ยังมีรูปแบบ AOD มาให้เลือกหลายแบบตามชอบเลย ทั้งแบบรูปภาพ สติ๊กเกอร์ ดิจิทัลและอนาล็อกครับ
ระบบความปลอดภัยที่ครบถ้วน
ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยแบบไบโอเมทริกซ์ (Biometric) ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอที่ใช้งานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากๆ
และก็ยังรองรับการใบหน้าตามปกติเช่นกันครับ
เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์แบบไดนามิกได้
ใน vivo V29e 5G ที่จะมีแอนิเมชันในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ การชาร์จ การจดจำใบหน้า หรือเอฟเฟ็กต์แสงต่างๆ ก็มีให้เลือกหลายรูปแบบ จะไม่ได้ซ้ำแบบเดิมๆ ครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ปลดปล่อยพลังภายในด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 695
vivo V29e 5G ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 695 ที่แม้ว่าจะเป็นชิปรุ่นกลางแต่การใช้งานทั่วไปก็ยังรวดเร็วหรือจะเล่นเกมก็ยังทำได้ดี และควบคุมเรื่องความร้อนได้ดีด้วย ชิปรุ่นนี้มีความเร็วอยู่ที่ 2.2GHz ขนาดเล็ก 6nm ควบคู่กับ GPU Adreno 619 ที่ช่วยในเรื่องการประมวลผลด้านกราฟิกครับ
รองรับ Extended RAM 3.0 เพิ่ม RAM ได้อีก 8GB
เทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ก็ยังมีให้ใช้งานกันเช่นกัน โดยในรุ่นนี้สามารถเพิ่ม RAM ได้อีก 8GB จากเดิมที่มีมาให้ 12GB ก็รวมเป็น 20GB เลยทีเดียวครับ และด้วย RAM ที่มากขึ้นขนาดนี้ก็ทำให้รองรับฟีเจอร์ App Retainer ที่ให้แอพพลิเคชั่นทำงานไว้ในพื้นหลังและสลับไปมาระหว่างการใช้งานได้อย่างลื่นไหลต่อเนื่องโดยไม่ต้องโหลดใหม่ด้วย
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.0.10-OB10 ได้มาที่ 455,535 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 907 คะแนน และ Multi-Core ที่ 2,182 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
เกม ROV เราจะสามารถเปิดภาพระดับสูงพร้อมเฟรมเรทสูงได้ครับ จากที่ได้ลองเล่นเฟรมเรททำได้คงที่วิ่งอยู่ราวๆ 60fps เป็นส่วนใหญ่ และลดลงมาที่ 58-59fps ในบางเวลา ซึ่งไม่มีผลในการเล่นเลยครับ
PUBG Mobile
ส่วนเกม PUBG Mobile ก็สามารถเปิดกราฟิกได้ในระดับ HD และเฟรมเรทสูง ซึ่งการได้หน้าจอ 120Hz ช่วยให้การเล่น การกดปุ่มเคลื่อนไหวทำได้ติดนิ้วและตอบสนองได้ไวเลยครับ โดยเรื่องความสวยของภาพก็ยังอยู่ในระดับที่ใช้ได้เลยครับ
ระบบระบายความร้อนดีมีประสิทธิภาพ
จากการที่เล่นเกมเพื่อทดสอบอยู่นานพอสมควรประมาณ 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง ตัวเครื่องด้านหลังของ vivo V29e 5G บริเวณ CPU แค่อุ่นๆ ไม่ร้อนจนเกินไปครับ และปล่อยทิ้งไว้สักพักก็กลับมาสู่อุณหภูมิปกติครับ
แบตเตอรี่ใหญ่ 4800mAh พร้อมชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
vivo V29e 5G จัดแบตเตอรี่มาให้แบบจุกๆ ถึง 4800mAh รองรับการใช้งานทั่วไปได้ตลอดวันแล้วครับ ใครที่เล่นโซเชียล ดู YouTube หรือสตรีมมิ่งบ้างก็อยู่ได้ครบตลอดวัน
และเมื่อแบตใกล้หมดก็ยังได้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 44W FlashCharge ที่เราได้ลองชาร์จจากราวๆ 25% ถึง 100% จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีครับ โดยที่หลังจาก 80% อาจจะช้าลงเพื่อรักษาความร้อน
กล้องหลังสวยงามพร้อมถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สุดพิเศษ
ความพิเศษของ vivo V29e 5G คือกล้องหลังที่ขาดไปไม่ได้ด้วยการถ่ายภาพ Portrait ได้อย่างสวยงาม ได้ความนิ่ง ความละเอียดสูง และมี Aura Light Portrait 2.0 ที่เป็นตัวชูโรงให้เหมือนกันครับ
โหมด AI Auto HDR ถ่ายสวย โฟกัสไว กันสั่นได้นิ่งมาก
ในโหมด AI หรือโหมดปกติของรุ่นนี้จะรองรับการใช้งานทั่วไป AI และ Auto HDR เพื่อถ่ายภาพย้อนแสงได้เก่งเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ได้แน่ๆ จากรุ่นนี้คือระบบกันสั่น OIS ที่ทำได้นิ่ง ช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัด ไม่เบลอ ใครที่มือไม่ค่อยนิ่งตอนถ่ายรูปจะได้ผู้ช่วยจุดนี้ไปแน่นอนครับ ขณะที่สีสันของภาพก็อยู่ในระดับที่จัดจ้าน แต่ไม่ได้สูงจนเกินไป รวมถึงการเก็บแสงและเงาก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมในระดับสมาร์ตโฟนตัวกลางแล้วครับ
ถ่ายมุมกว้างด้วยเลนส์ Super Wide Angle
ในเลนส์มุมกว้างก็ยังอยู่ในมุมมองที่เก็บได้ครบแต่ยังทำให้ขอบของภาพไม่โค้งจนเสียรูปทรงไป ยังอยู่ในระดับที่พอดีๆ และยังรองรับการถ่ายภาพ HDR ได้เหมือนเลนส์หลักครับ
ถ่ายภาพสุดพิเศษด้วยโหมด Portrait แบบมืออาชีพ พร้อม Aura Light Portrait 2.0
หนึ่งในความเก่งของสมาร์ตโฟนจาก vivo คือการถ่ายภาพ Portrait หรือภาพถ่ายบุคคลครับ ซึ่งในรุ่นนี้ก็รองรับการถ่ายภาพทั้งแบบปกติ 1x หรือใครที่ชอบระบบกล้อง DSLR ก็ยังได้โหมด 2x Professional Portrait Mode ที่สามารถตัดขอบรอบบุคคลได้ค่อนข้างเนียนตา พร้อมกับการละลายฉากหลังที่มากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มมิติให้บุคคลยิ่งเด่นชัดขึ้นมาครับ
แสงออร่า Aura Light Portrait 2.0 ถ่ายพอร์ตเทรตจัดเต็มได้ทุกที่ทุกเวลา
vivo V29e 5G ยังให้วงแหวนออร่า Aura Light Portrait 2.0 มาให้เหมือนกันรุ่นพี่ในตระกูล โดยจะเป็นการส่องแสงมุมมองทั้ง 360 องศา ให้แสงที่ออกมากว้างกว่าเดิมถึง 6.8 เท่า ควบคู่กับแสงสว่างที่เพิ่มขึ้นถึง 60% ทำให้เรายกระดับการถ่ายภาพแบบปกติให้พิเศษกว่าเดิม
ในโหมดนี้สามารถปรับอุณหภูมิแสงอัจริยะภายใต้ฟีเจอร์ Smart Color Temperature Adjustment ที่สามารถปรับให้เป็นโทนเย็นและโทนอุ่นได้ตามใจชอบ ตั้งแต่ 1800 เคลวินที่จะเป็นภาพโทนอุ่นเพื่อให้เน้นใช้งานในที่แสงน้อยเพื่อให้ใบหน้าสว่างขึ้นและได้สีผิวที่เป็นธรรมดากว่าเดิมครับ ซึ่งเราสามารถปรับได้ถึง 4500 เคลวิน ที่จะเป็นแสงโทนเย็นที่ใช้งานได้ในตอนกลางวันเพื่อให้ภาพดูสว่างขึ้นและมีชีวิตชีวากว่าเดิมครับ
Super Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนที่นิ่งยิ่งขึ้น
โหมดกลางคืนในรุ่นนี้สามารถถ่ายได้สวยงาม ประมวลผลได้ไว และยังได้ OIS เพื่อให้เราได้ภาพที่คมชัดและไม่เบลอเลยครับ โดยภาพที่ได้ในการถ่ายกลางคืนมีการเพิ่มความสว่างในจุดที่มืดได้ค่อนข้างดี เห็นรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน และ Noise ก็ค่อนข้างน้อยมากๆ ครับ รวมไปถึงใครที่ชอบลูกเล่นเพิ่มเติมก็ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกกันอีกหลายแบบเลย
กล้องหน้า 50MP เซลฟี่สวยคมชัดเป็นธรรมชาติ
ในกล้องหน้าของ vivo V29e 5G ยังให้ความละเอียดมาสูงถึง 50MP พร้อมมุมกว้างถึง 92 องศา เก็บรายละเอียดได้ครบ ให้เราได้เซลฟี่ได้อย่างคมชัด ตรวจจับใบหน้าและดวงตาได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปรับแต่งใบหน้าให้มีความบิวตี้อย่างลงตัว
สรุปการใช้งาน vivo V29e 5G
สรุปแล้วการใช้งาน vivo V29e 5G ทำได้ยอดเยี่ยมกับการเป็นสมาร์ตโฟนระดับ Mid Range ที่ได้จับสเปคระดับท็อปๆ เพียบ โดยเฉพาะกล้องหลังที่ให้ความคมชัดมาถึง 64MP ได้ Aura Light Portrait 2.0 พร้อมถ่ายภาพ Portrait ได้ทุกสภาพแสงจริงๆ ครับ และสิ่งที่ไม่ชมไม่ได้เลยคือดีไซน์ที่รอบนี้ vivo ก็ยังทำออกมาได้สวยงาม โดยเฉพาะเรื่องความเบาและบาง ใช้งานนานๆ ไม่เมื่อยมือแน่นอนครับ และสีสัน Ice Creek Blue และ Forest Black ที่ทำออกมาให้ดูแตกต่างหลากอารมณ์ ใครชอบสีไหนก็เลือกกันได้แบบไม่ผิดหวังแน่นอน
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพที่เป็น Snapdragon 695 เข้ามาขับเคลื่อนก็ทำได้ดี ควบคุมความร้อนได้เยี่ยม ซึ่งการเล่นเกมหลักๆ ก็ทำได้ดี ไหลลื่น แถมได้หน้าจอ Refresh Rate 120Hz เข้ามาช่วยยิ่งทำให้การเล่นตอบสนองได้ดีและเล่นได้แบบไม่ติดขัดอะไรเท่าไหร่ครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย vivo V29e 5G
vivo V29e 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้ากลาเซียร์ (Ice Creek Blue) และ สีดำฟอเรสท์ (Forest Black) เปิดราคาไทยมารุ่นเดียวที่ 12GB + 256GB ที่ 11,999 บาท เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ผ่านทาง vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์ vivo Official Store และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ผู้สนใจสั่งซื้อจะได้รับของสมนาคุณเป็น vivo V29e 5G Exclusive Box Set มูลค่า 8,389 บาท ประกอบด้วยเคส 2 ชิ้น และ VIP Card รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และรับประกันจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง