Featured
รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยออร่าพอร์ตเทรต 3.0 พร้อมกล้อง 50MP ทุกเลนส์
รีวิว vivo V30 5G สมาร์ตโฟนถ่ายคนขั้นเทพด้วยกล้องคมชัดสูงถึง 50MP พร้อมฟีเจอร์ระดับเทพเพียบตามคำนิยาม “ถ่ายเทพเกินคน” หรือ “Portrait So Pro” ที่เน้นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตเป็นหลัก แต่ก็ยังคงให้สเปคที่เร็วแรงจัดเต็ม ผ่านขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 3 ควบคู่ RAM 12GB เพิ่ม RAM ได้ และรองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
สรุปสเปค vivo V30 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 164.36 × 75.1 × 7.45 มม.
- น้ำหนัก : 186 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) รองรับ Refersh Rate 120Hz อัตราส่วน 20:9 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93%, แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, 100% DCI-P3 Color Gamut และ Contrast Ratio 8000000:1
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 7 Gen 3 Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.63GHz
- GPU : Adreno 720
- RAM : 12GB LPDDR4X
- ROM : 256GB/512GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.88 รองรับกันสั่น OIS และเซ็นเซอร์ 1/1.55”
- เลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 119 องศา
- กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง vivo V30 5G
ตัวกล่อง vivo V30 5G รอบนี้เปลี่ยนมาใช้เป็นสีดำสวยงาม รู้สึกถึงความพรีเมียมมากขึ้น โดยที่ด้านหน้าจะเป็นชื่อรุ่น V30 ที่ยังคงเน้นแสงและเงาด้วยสัมผัสผิวมัน และยังได้กรอบวง Aura Light Portrait มาด้วย
เปิดมาด้านในจะเจอกับตัวเครื่อง vivo V30 5G เป็นชั้นแรก โดยหน้าจอจะติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว
เปิดมาอีกชั้นจะมีเคสใสและคู่มือการใช้งานเบื้องต้นครับ
และชั้นสุดท้ายจะเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge สายชาร์จ USB-C และเข็มเปิดถาดซิมครับ
ดีไซน์เรียบง่าย หรูหรา เต็มไปด้วยสุนทรีย์
ประเดิมกันด้วยดีไซน์กันก่อนเลย รอบนี้ vivo จัดเต็มด้านความสวยงามมาอีกเช่นเคยครับ ภาพรวมหลักๆ จะมีความเบาเพียง 186 กรัม และแม้จะให้แบตมาถึง 5000mAh แต่ตัวเครื่องนี่บางเฉียบอยู่ที่ 7.45 มม. เท่านั้นเองครับ
มาต่อกันด้วยเรื่องสีสันกัน ใน vivo V30 5G มาพร้อม 3 สีหลักให้เลือก เราพามาดูสีขาวมุก (Shell White) กันก่อนเลยครับ ผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้านด้วยวัสดุกระจก ได้ความมินิมอล เรียบร้อย แต่เต็มไปด้วยความสวยหรู ที่สำคัญ ลวดลายของสีขาวจะเป็นเหมือนเปลือกหอยสีขาวมุกที่ประดับอยู่เต็มฝาหลัง เมื่อโดนแสงจะสะท้อนเป็นสีฟ้าอ่อนๆ ธรรมชาติ และลวดลายจะเสมือน 3 มิติออกมา
อีกสีที่สวยไม่แพ้กันเลยคือสีเขียวน้ำทะเล (Green Sea) ที่จะเน้นแสงเงาด้วยการให้ความรู้สึกถึงการมีชีวิตชีวามากขึ้นเหมือนระลอกคลื่นใต้ผิวน้ำทะเลที่กระทบกับแสงแดด
ส่วนใครที่ชอบความเข้มคลาสสิคตลอดกาล ก็ยังมีสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) ที่เป็นสีดำผิวด้านแบบกระจก Fluorite AG
หน้าจอขั้นเทพแบบโค้ง 3D Curved
ได้ความสวยที่ด้านหลังไปแล้ว พลิกมาดูหน้าจอกันบ้างก็จัดหนักไม่น้อยเลยครับ ได้มาเป็นแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว พร้อมกับความคมชัดสูงถึง 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) พร้อมเอาใจสายดูภาพยนตร์ด้วยอัตราส่วน 20:9 ที่เป็นสัดส่วนที่เหมาะมากในการรับชมวิดีโอ คู่กับสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93% ขณะที่สีสันก็แสดงมาให้ถึง 1 พันล้านสี และค่าสีที่จัดเต็ม 100% DCI-P3 Color Gamut และ Contrast Ratio 8000000:1
ใครที่ใช้หน้าจอกลางแจ้งบ่อยๆ ก็จะได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดถึง 2,800 นิตครับ
และที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้เลยคือการควบคู่ไปกับ Refresh Rate 120Hz เพื่อให้ใช้งานและรับชมเนื้อหาต่างๆ ได้ไหลลื่นติดนิ้วมากกว่าเดิม
พาชมรอบเครื่อง
พามาดูรอบเครื่องกันต่อว่าอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง ที่ด้านบนจะเป็นกล้องหน้าแบบ Punch Hole 50MP โดยที่ด้านบนจะเป็นลำโพงสำหรับการสนทนาที่แอบอยู่ตรงขอบเครื่อง
ทางขวาตัวเครื่องจะได้ปุ่ม Power แบบปกติเพราะการสแกนลายนิ้วมือจะไปอยู่ที่หน้าจอครับ พร้อมด้วยปุ่มเพิ่มและลดเสียงทางฝั่งเดียวกันหมด
ที่ด้านล่างเครื่องจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้าและหลัง ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ทางด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนมาให้ พร้อมสโลแกน “PROFESSIONAL PORTRAIT”
ตบท้ายที่ด้านหลังจะเป็นฐานกล้องหลังแนวตั้งที่แบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยม 2 เหลี่ยม โดยด้านบนจะเป็นกล้องคู่ที่วางแบบทแยงและมีตัวอักษร OIS ประกอบอยู่ครับ ขณะที่ฝั่งล่างจะเป็นไฟแฟลชแบบไฟฉายวงกลมเล็กๆ 2 ดวง พร้อมด้วยไฟ Aura Light OIS Portrait ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมที่อยู่ล้อมกรอบล่าง และฐานเหลี่ยมล่างจะได้ดีไซน์ของฝาหลังเข้าไปด้วย
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ Android 14 ตัวใหม่ล่าสุด
vivo V30 5G แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการุ่นใหม่ล่าสุดแล้วอย่าง Android 14 ที่ครอบทับด้วย UI ของตัวเอง FunTouchOS 14 ที่มีฟังก์ชันในการใช้งานเพิ่มมากขึ้นและง่ายกว่ารุ่นเดิมด้วยนะ
มาพร้อม Always-on Display (AOD) สวยงาม
ฟีเจอร์นี้ก็มาคู่กับหน้าจอ AMOLED อยู่แล้ว โดยจะเป็นการแสดงข้อมูลเมื่อต้นบนหน้าจอล็อค ตั้งแต่เวลา วันที่ แบตเตอรี่คงเหลือ และไอคอนของแอพที่มีการแจ้งเตือนเข้ามาครับ
ระบบความปลอดภัยมีครบถ้วน !
ระบบการสแกนลายนิ้วมือก็มีมาให้ใช้งานกันเช่นเดิม โดยจะอยู่บนหน้าจอส่วนล่างเลยครับ โดยสามารถสแกนติดได้ไวมากๆ แถมยังก็มีความเสถียรและปลอดภัยอยู่ครับ
หรือใครจะสแกนใบหน้าก็ยังมีให้ใช้งานตามมาตรฐานเลย
FunTouchOS 14 แล้วก็แต่งจอล็อคได้มากขึ้น
เฉพาะ OS เวอร์ชันใหม่นี้เท่านั้นที่ให้เราได้ปรับแต่งหน้าจอล็อคได้มากขึ้นกว่าเดิมครับ โดยเราสามารถเปลี่ยนฟอนต์ของตัวนาฬิกาและวันที่ของหน้าจอล็อคได้ถึง 8 แบบ พร้อมปรับตำแหน่งได้ 3 จุด ทั้งยังเลือกสีสันได้ตามใจชอบเลย
ทั้งนี้ก็ยังเขียนข้อมูลด่วนได้ด้วย ซึ่งใครที่กลัวทำหายก็สามารถเขียนบอกไว้ตั้งแต่แรกได้เลยครับ
การปรับแต่งนี้ให้เข้ามาที่การตั้งค่า > หน้าจอล็อคและวอลเปเปอร์ > การตั้งค่าหน้าจอล็อค > หน้าจอล็อคแบบกำหนดเอง
ใช้งานหลายแอพได้ง่ายขึ้นและสะดวกกว่าเดิมจริงๆ
ในระบบใหม่จะให้เราใช้งานการเปิดหลายแอพ (Multi-Windows) ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ครับ โดยสามารถเปิดเป็นหน้าต่างเล็กหรือ Pop-Up แบบลอยได้เลย และสามารถย่อเป็นไอคอนซ่อนไว้ที่ขอบหน้าจอเพื่อเปิดใช้งานต่อเนื่องเลยครับ (ทำได้มากกว่า 1 แอพด้วย)
ในขณะที่มีไอคอนซ่อนอยู่ เราก็สามารถก็สามารถเปิดแอพอื่นขึ้นมาเพื่อใช้งานได้เลยครับ รวมถึงสามารถย่อหน้าต่าง Pop-Up ลงเพื่อแสดงเป็นจอมินิที่มุมจอได้ต่อเนื่อง หากเราต้องการชมแอพนั้นไปด้วย ทั้งนี้ หากจะกลับมาใช้แอพที่จอมินิก็เพียงแตะ 2 ครั้งก็จะขยายหน้าต่างขึ้นมาเพื่อใช้ต่อได้ทันที
และหากใช้แอพเสร็จทั้งหมดแล้วก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาแล้วลากลงไปที่ล่างจอ เพื่อนำใส่ถุงขยะได้เลย
เร่งเสียงให้กระหึ่มขึ้นถึงระดับ 150%
vivo V30 5G ให้ลำโพงมาแบบเดี่ยวหรือโมโนครับ แต่ที่ถูกใส่เข้ามาแทนคือโหมดแร่งเสียงที่ทำได้สูงถึง 150% ช่วยให้ยกระดับการรับชมภาพยนตร์หรือวิดีโอขึ้นไปอีกขั้นเลย
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ตตัวกลางขั้นเทพ Snapdragon 7 Gen 3
vivo V30 5G จัดขุมพลังรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานอย่าง Qualcomm Snapdragon 7 Gen 3 ที่เป็นชิปเจนใหม่ที่มาในขนาดเล็กเพียง 4nm พร้อมเต็มไปด้วยประสิทธิภาพด้าน AI ที่รอบนี้อัปเกรดขึ้นมาขั้นสูง ช่วยให้ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมหนักๆ ไหลลื่นและไม่กินพลังงานเยอะเกินไปครับ ทั้งนี้ชิปรุ่นนี้ยังมีความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.63GHz คู่กับ GPU Adreno 720 มาให้ครับ
รองรับ Extended RAM 3.0 เพิ่ม RAM ให้รวมสูงสุดถึง 24GB
รุ่นนี้จัด RAM มาเต็มที่อยู่แล้ว 12GB ซึ่งจริงๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั้งหมดและเปิดได้หลายแอพพร้อมกันอยู่แล้วครับ แต่ก็ยังมีเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ที่มีการเพิ่มมาให้อีก 12GB ตั้งแต่แกะกล่องเลย ทำให้มี RAM เหมือน 24GB มาใช้งานจริงครับ
ทดสอบ Benchmark กันหน่อย !
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.7 ได้มาที่ 821,7250คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,131 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3,246 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
มาทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมกันต่อเลยครับ ขอประเดิมด้วย ROV ที่สามารถเปิดภาพและกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมดเลย โดยสามารถเล่นได้แบบสบายมากๆ เฟรมเรททำได้นิ่งสุด 59-61FPS ตลอดเวลา และเฟรมไทม์ก็จัดว่าไหลลื่นเช่นกันครับ ไม่เจออาการกระชากหรือมีจุดไหนที่เอ๊ะ ! ขึ้นมาเลย
PUBG Mobile
ขยับขึ้นมาเป็นเกมใหญ่ๆ กันบ้างอย่าง PUBG Mobile สามารถเปิดภาพ UltraHD พร้อมเรมเรทระดับ Ultra ได้เช่นกัน บอกเลยว่าทำได้ดีมากจริงๆ ครับ การกดตอบสนองของหน้าจอทำได้ยอดเยี่ยม ไม่ดีเลย์ และไม่มีกระตุกใดๆ เลย
Arena Breakout: FPS
ท้ายสุดเป็นเกม Arena Breakout: FPS ที่เป็นเกมกินสเปคเช่นกัน ในรุ่นนี้เปิดภาพได้ที่ HD และเฟรมเรทสูงครับ (หรือใครอยากได้เฟรมเรทสูงสุดก็ได้ แต่จะได้ภาพต่ำสุดครับ) จริงๆ ในเกมเล่นได้โอเคมากๆ ครับ ภาพอาจจะไม่ได้ลื่นเท่าตอนเล่น PUBG แต่อยู่ในระดับที่ดีมากๆ เล่นเกมสบายเหมือนกัน !!
แบตเตอรี่ใหญ่ ชาร์จเร็ว 80W และตรวจสุขภาพแบตได้แล้ว !
บน FunTouchOS 14 จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาคือการตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ที่บอกมาเป็นเปอร์เซนต์อย่างชัดเจนเลยครับ จบปัญหาฝั่ง Android ที่หากันมานานแล้ว
ขณะที่แบตเตอรี่ใน vivo V30 5G จัดความจุมาให้ถึง 5000mAh ที่ใช้งานทั่วไปแบบเล่นโซเชียล ดู YouTube และเปิดเบราว์เซอร์บ้างก็อยู่ในตลอดวันครับ
และยังรองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge โดยเราลองชาร์จจาก 31% ไปจนถึง 80% ในเวลาเพียง 37 นาที และเต็ม 100% ในเวลารวม 53 นาทีครับ
กล้องหลัง 50MP ถ่ายเทพเกินคน
ตัวชูโรงให้ vivo V30 5G มีความพิเศษที่ต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นคือกล้องที่ให้ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้อง 50MP พร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่อัปเกรดขึ้นมาใหม่ ได้ความละมุนมากขึ้นกว่าเดิม และถ่ายในที่แสงน้อยหรือกลางคืนได้เทพขึ้น !
กล้องหลัก AI 50MP ถ่ายสวยระดับเรือธง
เลนส์หลักของรุ่นนี้จัดมาให้คมชัดสูงสุดถึง 50MP ซึ่งในโหมดปกติจะมีการรวมพิกเซล 4-in-1 Binning เพื่อรวมให้มาอยู่ที่ความละเอียดประมาณ 12.5MP ทำให้แสงและเงาในภาพชัดเจนมากขึ้น สว่างขึ้นกว่าเดิม การเก็บรายละเอียดในภาพทำได้ดีมาก รวมถึง Contrast และช่วงไดนามิกก็ปรับมาได้พอดี ขณะที่ความอิ่มสีก็อยู่ในระดับที่ดีมาก ไม่สูงเกินไป จบได้หลังกล้อง และยังถ่ายภาพย้อนแสงได้สบายด้วยการรองรับ HDR อัตโนมัติด้วยครับ
พอร์ตเทรตที่ถ่ายเทพเกินคน
พูดถึง vivo จะขาดโหมดพอร์ตเทรตไปไม่ได้ ซึ่ง vivo V30 5G จัดเทคโนโลยีขั้นสูงมาให้ถ่ายเทพเกินคน ในรอบนี้จะมี 2 ระยะให้เราได้ใช้งานกัน คือ 1x (23mm) และ 2x (46mm) ซึ่งแต่ละระยะก็จะได้คาวมแตกต่างด้านอารมณ์กันไป ในระยะ 1x จะมีค่ารูรับแสงค่าเริ่มต้นที่ f/2.8 ได้การเบลอฉากหลังที่สวย เห็นบรรยากาศด้านหลังอย่างชัดเจน แต่ได้มิติระหว่างตัวบุคคลอยู่อย่างธรรมชาติ รวมถึงโทนสีผิว (Skin Tone) ยังเป็นธรรมชาติแม้อยู่ในสภาวะแสงที่ต่างกันไป
ส่วนระยะ 2x จะให้การละลายฉากหลังมากขึ้นแต่ยังคงได้ความเป็นธรรมชาติอยู่ ซึ่งเป็นการเบลอจากการใช้ฮาร์ดแวร์ มีความแม่นยำในการตัดขอบต่างๆ รวมถึงฉากด้านหลังจะถูกดึงขึ้นมาให้ใกล้ขึ้นกว่าแบบ 1x และจากที่ถ่ายมาก็เก็บรายละเอียดได้ดีในทุกสภาพแสงเลย
แสงเทพอัปเกรดใหม่ด้วย Aura Light Portrait 3.0
ใครที่รู้สึกว่า Aura Light Portrait 2.0 ทำได้ดีแล้ว ต้องลองดูใน Aura Light Portrait 3.0 กันครับ บอกเลยว่ารอบนี้ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมพอตัวเลยทีเดียว แสงออร่ามีการปรับอัตโนมัติตลอดเวลาทั้งโทนเย็นและโทนร้อนตามความเหมาะสมของแสงและระยะห่างของตัวบุคคลด้วยการใช้อัลกอรึทึมในการตรวจจับ โดยแสงออร่ารอบนี้ยังมีความละมุนและสว่างมากกว่าเดิม แสงไม่แข็งเกินไป เป็นธรรมชาติ แตกต่างกับการใช้ไฟแฟลชทั่วไปแน่นอนครับ
แสง Aura Light Portrait 3.0 นอกจากจะเปิดได้แบบอัตโนมัติแล้ว ก็ยังสามารถปรับโทนร้อนและโทนเย็นได้เองเลยด้วยการเลื่อนที่แถบด้านล่างครับ
Super Wide Angle เก็บได้กว้าง 119 องศา
vivo V30 5G ยังจัดเลนส์ Super-Wide Angle มาให้คมชัดเหมือนเลนส์หลักที่ 50MP โดยมีมุมกว้างอยู่ที่ 119 องศา ซึ่งเป็นมุมมองที่กำลังพอดี เห็นได้ครบ ขอบภาพไม่บิดเบี้ยว จับได้ทุกองค์ประกอบครับ โดยการเก็บแสง ไดนามิก หรือเงาก็ทำได้ดีมาก และยังรองรับ HDR อีกด้วยครับ
เก็บภาพกลางคืนได้เทพเหมือนกัน !
เก็บภาพช่วงกลางแจ้งกันมาเยอะแล้ว ก็มาดูกันที่โหมดกลางคืนกันต่อครับ ใน vivo V30 5G ถ่ายได้สวยด้วยเซ็นเซอร์ที่ค่อนข้างใหญ่ที่ขนาด 1/1.55 นิ้วที่มีส่วนช่วยให้เก็บแสงได้มากกว่าเดิม แสงสียังคงชัดเจน Noise ค่อนข้างน้อย และยังใช้ได้ครบทั้งเลนส์หลักและ Super-Wide เลยครับ
เซลฟี่กว้างขึ้น เก็บได้ครบทุกบรรยากาศ
กล้องหน้าก็ให้ความคมชัดมาสูงที่ 50MP ความพิเศษจะอยู่ที่ทั้งการปรับความบิวตี้บนใบหน้าที่ทำได้สวยงาม ลบรอยและปรับความเนียนของผิวได้ยอดเยี่ยมเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญเมื่อปรับกล้องเป็นแนวนอนก็จะได้มุมมองที่กว้างขึ้นกว่าเดิมอยู่ที 20mm ทำให้เก็บฉากหลังได้เยอะขึ้นอีกเมื่อเทียบกับการใช้แนวตั้งที่ได้ระยะ 26mm
สรุปการใช้งาน vivo V30 5G
สรุปแล้ว vivo V30 5G คือสมาร์ตโฟนแห่งการถ่ายพอร์ตเทรตเทพเกินคนตามสโลแกนจริงๆ ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย ได้กล้องครบทุกเลนส์ที่ 50MP เท่ากัน ชูโรงด้วย Aura Light Portrait 3.0 ที่ทำได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น พร้อมถ่ายได้ทุกสภาพแสงจริงๆ ครับ พอมาดูดีไซน์ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่ได้จับรุ่นระดับกลางเลยด้วยความเบาบางที่ให้มา การออกแบบดีไซน์ที่สวยงามทั้ง 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Shell White) สีเขียวน้ำทะเล (Green Sea) และสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) รวมไปถึงสเปคภายในที่จัดเต็มใช้งานได้ไหลลื่นผ่าน Snapdragon 7 Gen 3, RAM 12GB + 12GB แสดงผลบนหน้าจอ AMOLED 6.78″ 120Hz และยังชาร์จเร็วระดับเรือธงอย่าง 80W FlashCharge แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กๆ คือการได้ลำโพงเดี่ยวมานั่นเองครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย vivo V30 5G
vivo V30 5G มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Shell White), สีเขียวน้ำทะเล (Green Sea) และสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black)โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 14,999 บาท และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป