Featured
รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟน “Portrait So Pro” ถ่ายเทพเกินคนด้วยกล้องขั้นสูงควบคู่เลนส์ ZEISS ระดับโปร พร้อมเทคโนโลยีระดับเรือธง
รีวิว vivo V30 Pro 5G สมาร์ตโฟนถ่ายเทพเกินคนจากการร่วมมือระหว่าง vivo และ ZEISS เป็นครั้งแรกในรุ่น V Series พร้อมด้วยเทคโนโลยีในการถ่ายภาพขั้นสูง กล้อง 50MP ทุกเลนส์ พอร์ตเทรตสวยและชูโรงด้วย Aura Light Portrait 3.0 ที่ทำได้อย่างละมุนมากขึ้น วันนี้ใครที่รอรุ่นนี้อยู่ รีวิวเต็มจาก iphone-droid.net มีมาให้ชมกันแล้วครับ
สรุปสเปค vivo V30 Pro 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 164.36 × 75.1 × 7.45 มม.
- น้ำหนัก : 188 กรัม
- หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล), 452PPI รองรับ Refersh Rate 120Hz อัตราส่วน 20:9 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93%, แสดงผลสี 1.07 พันล้านสี, ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC, 100% DCI-P3 Color Gamut, Contrast Ratio 8000000:1 และความสว่างสูงสุด 2,800 นิต
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Dimensity 8200 Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.1GHz
- GPU : ARM Mali-G610
- RAM : 12GB LPDDR5X
- ROM : 512GB UFS 3.1
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์จาก ZEISS ดังนี้
- เลนส์หลัก VCS True Color ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.88 รองรับกันสั่น OIS เซ็นเซอร์ Sony IMX920 ขนาด 1/1.49″
- เลนส์ AF Ultra Wide-Angle ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 119 องศา และรองรับออโต้โฟกัส
- เลนส์ Professional Portrait 2x ระยะ 50mm ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.85 เซ็นเซอร์ Sony IMX816
- กล้องหน้า AF Ultra Wide-Angle ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 มุมกว้าง 92 องศา
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย FuntouchOS 14
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, NFC, 5G และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง vivo V30 Pro 5G
ตัวกล่องในรุ่นนี้ได้มาใช้เป็นกล่องสีดำที่ทำให้ดูมีความพรีเมียมและสวยงามมากขึ้น ตรงกลางกล่องจะมีชื่อรุ่น V30 Pro 5G Co-engineered with ZEISS อย่างชัดเจน และถูกล้อมรอบด้วย Aura Light Portrait 3.0 ที่เปล่งประกายอยู่
ที่ชั้นแรกจะเจอกับตัวเครื่อง vivo V30 Pro 5G ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วครับ
ต่อมาจะเป็นเคสใสและคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ตบท้ายด้วยอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge พร้อมสาย USB Type-A to Type-C และเข็มเปิดถาดซิม
สืบทอดเอกลักษณ์ vivo V Series ที่เพรียวบางและพรีเมียม
รีวิว vivo V30 Pro 5G ยังคงสืบทอดความเป็นเอกลักษณ์ของ V Series ที่เน้นความเพรียวบางและเบาของตัวเครื่องมากๆ ซึ่งความบางจะอยู่ที่ 7.45 มม. ซึ่งเป็นรุ่นที่บางที่สุดในบรรดาแบรนด์ vivo ที่ได้แบต 5000mAh
แถมความเบาก็อยู่ที่เพียง 188 กรัม ช่วยให้จับถือได้สะดวก และใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่รู้สึกเมื่อยมือเวลาใช้งานต่อเนื่องนานๆ
มาดูกันที่ความสวยงามที่ฝาหลังกันบ้าง สีสันในตัว Pro จะมีให้เลือก 2 สี คือ สีขาวมุก (Shell White) และสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) โดยที่เราได้มาจับจะเป็นสีขาวมุก (Shell White) ที่ออกแบบมาจากแรงบันดาลใจจากเปลือกหอยธรรมชาติด้วยการแกะสลักเส้นสัมผัสกว่า 13 เส้นด้วยเทคโนโลยี Photolithography ซึ่งให้การมองที่เสมือน 3 มิติ และแม้ว่าชื่อสีจะเป็นสีขาว แต่เมื่อโดนแสงแดดก็จะเปล่งประกายเป็นสีฟ้าอ่อนๆ เพิ่มความมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมตามสไตล์ V Series ครับ
ส่วนอีก 1 สีจะเป็นสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) ที่มีความโดดเด่นด้วยกระจกผิวด้าน ใครที่มาชื่นชอบความคลาสสิกใช้งานได้คมเข้ม สัมผัสที่หรูหราและสง่างามพรีเมียมก็ต้องจัดสีนี้ได้เลย แถมตัวเครื่องยังมีประกายแวววาวราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวตอนกลางคืน
ทั้ง 2 สีของ vivo V30 Pro 5G จะใช้กระจกด้านหลังแบบ Fluorite AG ผิวด้าน ช่วยให้ไม่เกิดคราบและรอยนิ้วมือ รวมถึงเวลามีฝุ่นมาจับก็สามารถปัดออกหรือเป่าออกได้ง่ายสุดๆ
พร้อมใช้ตลอดเวลาด้วยมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น IP54
vivo V30 Pro 5G ไม่ได้ดีแค่ความสวยงาม แต่การประกอบก็ทนทานด้วยมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP54 ซึ่งป้องกันละอองน้ำหรือใช้ในการที่ฝนตกเบาๆ ได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องกังวลอะไร
vivo V30 Pro 5G หน้าจอโค้ง 3D แบบ AMOLED 1.5K
หน้าจอแสดงผลให้มาแบบจัดเต็มรับชมได้เต็มตาด้วยพาเนลแบบ AMOLED แบบโค้ง 3D Curved Screen ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว คมชัดระดับ 1.5K มีความหนาแน่นพิกเซลที่ 452PPI พร้อมอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 สัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอ 93% รวมถึงการแสดงผลสีในระดับท็อป ตั้งแต่ 1.07 พันล้านสี ได้ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC, 100% DCI-P3 Color Gamut และค่า Contrast Ratio 8000000:1 และความสว่างสูงสุด 2,800 นิต เมื่อทุกอย่างประกอบกันก็ทำให้การรับชมวิดีโอและการใช้งานต่างๆ สวยงาม และสีสันสดใสมากๆ
ในการใช้งานกลางแจ้งก็สามารถทำได้เต็มที่ด้วยการรองรับสูงสุด 2,800 นิตครับ
และที่ขาดไม่ได้คือการรองรับ Refresh Rate สูงสุด 120Hz พร้อม 300Hz Touch Sampling Rate ช่วยให้การใช้งานไหลลื่น ไม่มีสะดุด โดยเฉพาะในการเล่นเกม
กระจกหน้าจอแข็งแกร่งคุณภาพสูง
นอกจากสเปคหน้าจอระดับเรือธงแล้ว vivo V30 Pro 5G ยังมาพร้อมกระจก Schott α คุณภาพสูง ช่วยให้หน้าจอแข็งแกร่งขึ้นและกันกระแทกที่ออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกถึงความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอก
พาชมรอบเครื่อง
มาต่อกันที่รอบตัวเครื่องกันครับ ที่ส่วนบนหน้าจอจะเป็นกล้องหน้า Punch Hole คมชัด 50MP และด้านบนที่แอบอยู่ในขอบจอจะเป็นลำโพงสำหรับการสนทนาเท่านั้น
ด้านขวามีปุ่ม Power และมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมาให้ครบเลยในฝั่งนี้ ส่วนด้านซ้ายจะไม่มีปุ่มอะไรเลย
ทางด้านล่างจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ด nanoSIM 2 ช่องแบบพลิกหน้าและหลัง ตามด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ฝั่งด้านบนไมโครโฟนตัวที่ 2 เพื่อตัดเสียงรบกวนมาให้ และสโลแกน “PROFESSIONAL PORTRAIT” เพื่อการันตีความเทพของการถ่ายภาพจริงๆ
ท้ายสุดที่ด้านหลังจะเป็นโมดูลกล้องหลังแนวตั้งที่แบ่งออกเป็นสี่เหลี่ยม 2 ส่วน เหลี่ยมบนเป็นกล้อง 3 เลนส์ที่เรียงคล้ายตัว L โดยที่มุมขวาบนจะมีโลโก้ของ ZEISS แบรนด์กล้องที่มาจุติความเทพใน vivo V30 Pro 5G ขณะที่เหลี่ยมด้านล่างไฟแฟลชวงกลมเล็กๆ ด้านใน พร้อมล้อมรอบด้วย Aura Light Portrait 3.0 ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมเพื่อการใช้งานที่สว่างขึ้น ละมุนขึ้น และเทพมากขึ้น !
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
แกะกล่องพร้อม FuntouchOS 14 ไหลลื่นมากขึ้นอย่างชัดเจน !
รีวิว vivo V30 Pro 5G แกะกล่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ FuntouchOS 14 บนพื้นฐานหลักคือ Android 14 ที่เป็น OS ตัวล่าสุดแล้วครับ ในการใช้งานทั่วไปจะมีความไหลลื่นมากขึ้น รวมถึงการจัดการ RAM และแอพพื้นหลังต่างๆ ก็ทำได้ดีขึ้น ช่วยให้แอพที่ทำงานในพื้นหลังยังคงเปิดอยู่ได้โดยไม่ต้องรีโหลดใหม่เวลากลับมาใช้งาน
มาพร้อม Always-on Display กันเช่นเคย
หน้าจอ AMOLED ต้องมาคู่กับฟีเจอร์นี้ที่ให้เราเปิดดูข้อมูลเบื้องต้นต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอเอง ซึ่งใน Always-on จะบอกเวลา วันที่ แบตคงเหลือ และไอคอนของแอพที่มีการแจ้งเตือนได้ทั้งหมด
รวมถึงการปรับแต่งรูปแบบของ Always-on ก็มีเยอะมากๆ ใครจะใช้แบบไหนก็เลือกกันได้เลยครับ มีทั้งแบบดิจิทัลและอนาล็อคครบถ้วน
ระบบความปลอดภัยครบทั้งสแกนลายนิ้วมือและสแกนหน้า
vivo V30 Pro 5G ยังให้การสแกนลายนิ้วมือมาพร้อมใช้งานเหมือนเดิม โดยการสแกนทำงานและตรวจจับได้รวดเร็วมาก แต่ก็ยังคงความเสถียรและความปลอดภัยครับ
รวมถึงการสแกนใบหน้าเวลามือไม่ว่างก็ใช้งานได้ดีเช่นกัน ตรวจจับได้ไวสุดๆ
ปรับแต่งหน้าจอล็อคได้ตามใจชอบ
FuntouchOS 14 มาพร้อมฟีเจอร์การปรับแต่งหน้าจอล็อคที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบนาฬิกา แบบอักษร และสีสันต่างๆ ตามความชอบแต่ละสไตล์เลยครับ
ป้องกันภาพที่อ่อนไหวด้วยการล็อครหัส !
ใครที่ภาพที่เป็นความลับหรือไม่ต้องการให้ใครเห็น ก็จะมาพร้อมอัลบั้มที่ซ่อนได้ โดยที่เราสามารถตั้งรหัสผ่าน (คนละชุดกับรหัสล็อคหน้าจอ) ได้อีกชั้นหนึ่ง และยังป้องกันได้อีกชั้นด้วยการสแกนลายนิ้วมือหรือใบหน้า เผื่อไว้สำหรับคนที่อาจจะรู้รหัสของเราครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ต Dimensity 8200 ความแรงระดับเทพ
รีวิว vivo V30 Pro 5G มาพร้อมกับชิปประมวลผลหลักเป็น MediaTek Dimensity 8200 แบบ Octa-core ความเร็ว Clock สูงสุด 3.1GHz ซึ่งเป็น CPU ระดับกลาง-ท็อปแล้วครับ โดยรุ่นนี้ใช้การผลิตจาก TSMC แบบ 4nm รุ่นที่ 3 ขนาดเล็กเพียง 4nm ทั้งยังทำงานร่วมกับ GPU ARM Mali-G610 ที่เป็นชิปกราฟิกที่ช่วยให้เล่นเกมไหลลื่น สวยงามกว่าเดิม และประหยัดพลังงานมากขึ้น
มาพร้อม Extended RAM 4.0 เพิ่ม RAM ได้อีก 12GB
ในรุ่นนี้ให้ RAM มาความจุเดียว คือ 12GB ซึ่งในระบบจะเปิด Extended RAM 4.0 หรือการขยาย RAM มาให้อีก 12GB อยู่แล้วครับ ช่วยให้รวมเป็น RAM 24GB ทำให้เราสามารถเปิดแอพต่างๆ ได้มากขึ้น และการทำงานพื้นหลังของแอพก็ทำได้สูงสุดถึง 48 แอพเลยทีเดียว
ทดสอบคะแนน Benchmark กันหน่อย
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU, MEM และ UX บน AnTuTu 10.1.7 ได้มาที่ 973,982 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 1,041 คะแนน และ Multi-Core ที่ 3,229 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
ทดสอบการเล่นเกม ROV ในรุ่นนี้สามารถเปิดภาพทุกอย่างเป็นสูงสุดได้ทั้งหมด ร่วมกับการเปิดเอฟเฟ็กต์หมอกและซอฟต์ไลท์เอาไว้ โดยเล่นโหมดปกติ 5 VS 5 สามารถเล่นได้ลื่นๆ เฟรมเรทวิ่งเฉลี่ย 60fps แทบตลอดเกมครับ อาจมีลงมาต่ำๆ ที่ 56fps แต่แค่แว๊บเดียวเท่านั้น และเกิดขึ้นไม่บ่อยครับ ซึ่งก็ไม่ได้กระทบต่อการเล่นเลย
PUBG Mobile
ส่วน PUBG Mobile เปิดภาพได้ถึงระดับ Ultra HDR และเฟรมเรท Ultra เลย ในการเล่นประมาณ 2 รอบ ก็ทำได้ยอดเยี่ยม หน้าจอ 120Hz ช่วยให้การสัมผัสติดนิ้ว ตอบสนองแบบเรียลไทม์ และภาพกราฟิกคมชัดมากจริงๆ และรายละเอียดตัววัตถุในเกมก็ชัดเจนในระยะไกลๆ ด้วยครับ
Asphalt 9: Legends
ปิดท้ายด้วยเกมแข่งรถกราฟิกหนักๆ ก็เปิดภาพคุณภาพสูงได้ตามปกติครับ โดยการเล่นจริงทำได้ดีมาก แสงและเงาสะท้อนที่ตัวรถทำได้สมจริง และกราฟิกโดยรวมนั้นสวยงามเลยทีเดียว
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ
จากที่ได้ทดสอบเกมข้างต้น เราได้ทดสอบอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วเกือบๆ 2 ชั่วโมงครับ แต่ตัวเครื่องไม่ได้ร้อนจัดเลยจนลวกมือเลย เพราะใน vivo V30 Pro 5G มาพร้อมระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษแบบ Vapor Chamber (Ultra Large Smart Cooling System) ขนาดใหญ่พิเศษ 3002 ตร.มม.² และมีพื้นที่ระบายความร้อนรวม 35141 ตร.มม.² ช่วยให้อุณหภูมิลดลงสูงสุด 13 องศา ทั้งยังมีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อควบคุมคาวมร้อนได้ดียิ่งขึ้นครับ
แบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมชาร์จไว 80W FlashCharge
เห็นตัวเครื่องบางแค่ 7.45 มม. แต่จริงๆ แล้ว vivo V30 Pro 5G ให้แบตเตอรี่ความจุใหญ่มาถึง 5000mAh สามารถเล่นเกมต่อเนื่องได้สูงสุดประมาณ 8 ชั่วโมงต่อเนื่อง หรือหากจะเล่นโซเชียลก็ทำได้เกินครึ่งวันหลาย 10 ชั่วโมง และดู YouTube ได้ต่อเนื่องนานสุด 16 ชั่วโมงเลย
และแม้ว่าแบตจะให้มาเยอะและชาร์จเร็วสุดๆ แต่อายุการใช้งานของตัวแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมา 2 เท่า โดยสุขภาพแบตจะยาวนาน 4 ปี ที่คงความจุสูงสุดไว้ได้อย่างน้อย 80% หลังจากรอบการชาร์จถึง 1,600 รอบครับ
เมื่อแบตใกล้หมด ก็สามารถชาร์จได้รวดเร็ว 80W FlashCharge ซึ่งจะชาร์จเต็มจาก 0-100% ในเวลาเพียง 48 นาทีเท่านั้นเอง
vivo V30 Pro 5G กล้องหลัง ZEISS ออร่าพอร์ตเทรตอัปเกรดใหม่
มาถึงไฮไลท์หลักของ vivo V30 Pro 5G กันแล้ว ด้วยการเป็นการเข้ามาของการร่วมพัฒนากับ ZEISS รุ่นแรกของ V Series ถ่ายได้เทพ สวยจัดเต็มในสไตล์ของ ZEISS ทั้งยังมีความละเอียด 50MP ครบทุกเลนส์ !!
สเปคกล้องระดับโปรทั้ง 3 ทุกเลนส์กล้องรับรอง มาตรฐานเลนส์ ZEISS
- เลนส์หลัก VCS True Color 50MP, f/1.88 รองรับ OIS (Sony IMX920)
- เลนส์ Ultra-Wide Angle 50MP, f/2.0 มุมกว้าง 119 องศา
- เลนส์ Professional Portrait 50MP, f/1.85 (Sony IMX816)
ความพิเศษด้วยโหมดสี 3 สี
ด้วยการพัฒนาร่วมกับ ZEISS ทำให้รุ่นนี้สามารถเลือกโหมดสีได้ 3 แบบ ดังนี้
- สีสดใส : ได้ความมีชีวิตชีวาและสดใส ค้นพบโลกแห่งสีสัน และเก็บรักษาภาพความทรงจำให้สดใหม่อยู่เสมอ
- มีมิติ : วินเทจ มีเลเยอร์ ได้ความเข้มของความอิ่มของสีและละเอียดอ่อน
- ZEISS ธรรมชาติ : ในโหมดนี้จะเป็นการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง vivo และ ZEISS จะเป็นการดึงเอาสีสันธรรมชาติออกมา มอบค่าสีที่อยู่ในระดับบนของอุตสาหกรรมในมาตรฐาน ΔE (Delta E) พร้อมปรับโทนสีระดับโปใกล้เคียงกับที่ตามองเห็นมากยิ่งขึ้น
และในการทดสอบกล้องครั้งนี้เราได้ใช้โหมดสีของ ZEISS เพื่อให้เห็นความเป็นตัวตนของ vivo V30 Pro 5G และ ZEISS เต็มๆ
กรอบลายน้ำ Color-Adaptive Border
ในการเปิดลายน้ำของรุ่นนี้จะสามารถเปิดให้เป็นแบบ Color-Adaptive หรือการปรับสีอัตโนมัติ ได้แรงบันดาลใจจากการถ่ายภาพโพลารอยด์ที่อัลกอริทึมขั้นสูงจะวิเคราะห์สีสันและเนื้อหาของภาพอย่างละเอียด จากนั้นจะนำไปคำนวณหาโทนสีที่เหมาะสมกับขอบลายน้ำที่มีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น
กล้องหลักขั้นเทพด้วยการจับมือกับ ZEISS รุ่นแรกของ V Series
รีวิว vivo V30 Pro 5G มาดูเลนส์หลักแบบ VCS True Color ของ vivo V30 Pro 5G กันบ้างครับ โดยเทคโนโลยีนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในเรือธงแต่เข้ามาอยู่ในรุ่นระดับราคาไม่เกิน 20,000 บาทด้วย ในจุดนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ ถ่ายได้สวยงามตามสไตล์ของ ZEISS ได้ค่าสีที่ตรงกับความเป็นจริง ไม่ได้ฉูดฉาดเกินไป เก็บรายละเอียดของวัตถุได้ดีและถ่ายย้อนแสงได้สบายๆ ด้วยการรองรับ Auto HDR ทั้งยังสามารถละลายฉากหลังได้ตามธรรมชาติของตัวเซ็นเซอร์ระดับท็อปอย่าง IMX920 ด้วย
เพิ่มความน่ากินของอาหารด้วย Aura Light Food Mode
ความเทพของ vivo V30 Pro 5G คือการมาพร้อม Aura Light Portrait 3.0 ที่จริงๆ ใช้งานได้กับโหมดอาหารเพื่อให้แสงออร่าช่วยให้สีสันของอาหารสดใหม่ มีความอิ่มสีและความสดมากขึ้น ทำให้อาหารยิ่งดูน่ากินขึ้นไปอีกครับ ที่สำคัญโหมดนี้จะถ่ายด้วยการซูม 2x ทำให้มีการละลายหลังเพิ่มมิติให้ดูโดดเด่นขึ้นเช่นกัน
Professional Portrait ด้วยเลนส์ ZEISS ถ่ายคนอย่างเทพ และ ZEISS Style Portrait
ความเทพใน vivo V30 Pro 5G คือการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ถ่ายได้ในระดับเรือธงตามสไตล์ของ ZEISS ด้วยการละลายฉากหลังที่เนียนตา แม่นยำ ช่วยให้ตัวบุคคลมีมิติและโดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิม สีของผิวหรือ Skin Tone ทำได้เก่งมาก ปรับได้ธรรมชาติ และที่ชอบในการลองถ่ายรุ่นนี้คือการได้ระยะ 50mm ที่เป็นระยะยอดนิยมในการถ่ายคนโดยตรงเลย ดึงฉากหลังมาใกล้ขึ้นและละลายฉากหลังได้ละมุนกว่าเดิม
ทั้งนี้ การถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ร่วมพัฒนากับ ZEISS ยังมาพร้อมกับ ZEISS Style Portrait อีก 6 แบบให้เราได้ใช้งานกันเต็มที่ โดยแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นเพื่อพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์จริงๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนี้
- ZEISS Biotar Style Bokeh : ได้โบเก้ภาพบุคคลแบบหมุนวนที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับเลนส์ ZEISS Biotar
- ZEISS Distagon Style Bokeh : เป็นเอฟเฟกต์โบเก้รูปทรงหกเหลี่ยม รูรับแสงขนาด 2.0/28” ทำให้ได้รายละเอียดในส่วนที่โฟกัสและเบลอได้อย่างคมชัด
- ZEISS Sonnar Style Bokeh : รูปแบบนี้จะสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ที่ทรงกลมที่นุ่มละมุนให้ภาพบุคคล ละลายพื้นหลังให้เหมือนอยู่ในบรรยากาศโรแมนติก
- ZEISS Planar Style Bokeh : เอฟเฟกต์โบเก้คลาสสิกที่เก็บและเห็นรายละเอียดวัตถุ ได้มากกว่าแบบอื่นๆ ขณะที่พื้นหลังก็ให้ความคมชัดของโบเก้เช่นกัน
- ZEISS Cinematic : ในโหมดนี้จะเป็นความพิเศษที่ให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ อัตราส่วนภาพ 2.39:1 ทั้งยังสร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงินในภาพโดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืนอย่างลงตัว
- ZEISS Cine-flare Portrait : ในการถ่ายภาพในตอนกลางวันจะมีจุดกำเนิดแสงอยู่เสมอครับ ทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์ที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับโหมด Portrait และ ZEISS Style Portrait แต่ละแบบก็เหมาะกับการใช้งานทุกเวลาจริงๆ ตามต้องการ ซึ่งจุดเด่นในการปรับบิวตี้บนใบหน้า รวมถึงการเก็บสีผิวอย่างเป็นธรรมชาติ แสง และเงาก็ยังคงอยู่ครบเลยครับ
Aura Light Portrait 3.0 ใหญ่ขึ้น ละมุนขึ้น และธรรมชาติกว่าเดิม
แสงออร่าหรือ Aura Light Portrait 3.0 ใน vivo V30 Pro 5G มีขนาดออร่าใหญ่ขึ้น 19 เท่า และแสงออร่านุ่มนวลขึ้น 50 เท่า เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยให้การปรับใบหน้าในตอนกลางคืนละมุนมากขึ้น รายละเอียดดีขึ้น และสว่างแบบเป็นธรรมชาติ ต่างจากการใช้แสงแฟลชทั่วไปที่จะเป็นแสงแข็งๆ และไม่ละมุนเท่าการใช้แสงออร่าครับ
ในการใช้ Aura Light Portrait 3.0 จะปรับแสงได้เองแบบอัตโนมัติทั้งโทนอุ่นและโทนเย็น รวมถึงจะปรับความเข้มและความอ่อนของแสงตามระยะของตัวบุคคล (Far / Near Lighting) ด้วยครับ
Ultra Wide Angle กว้าง 119 องศา เก็บรายละเอียดได้ยอดเยี่ยม
ในเลนส์ Ultra Wide Angle ของรุ่นนี้ยังได้ความละเอียดที่ 50MP เป็นความคมชัดสูงอีกเลนส์ที่ให้มาครับ การเก็บแสง เงา รายละเอียดและคมชัดทำได้ยอดเยี่ยม ขณะที่การปรับสีสันก็จะไม่ต่างจากเลนส์หลักเท่าไหร่เลย
เก็บภาพกลางคืนได้ขั้นเทพ
ทั้ง 3 เลนส์ของ vivo V30 Pro 5G ที่ให้ความละเอียดมาคมชัด 50MP และได้เซ็นเซอร์ที่ระดับท็อปแล้ว ในการถ่ายภาพกลางคืนก็ทำได้ยอดเยี่ยมผ่านเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้เก็บแสงและสีต่างๆ ได้ตรงและสีสันสดใสมาก รวมถึงการเกิด Noise ก็แทบจะไม่มีให้เห็นในภาพเลย และในโหมดนี้ยังรองรับการถ่ายภาพในทุกเลนส์ด้วย
Macro ถ่ายวัตถุได้ใกล้ขึ้น
แม้ว่าจะไม่มีเลนส์ Macro จริงๆ มาให้ แต่จะใช้ประโยชน์จากเลนส์ Ultra Wide Angle คมชัด 50MP เพื่อให้ถ่ายภาพระยะใกล้ๆ ได้แบบคมชัด สีสันมีความสดใสกว่าการใช้เลนส์ Macro จริงๆ และยังมีการละลายฉากหลังที่เพิ่มมิติให้กับการถ่าย Macro ด้วยครับ
เก็บทุกรายละเอียดแบบเซลฟี่ได้กว้าง 90 องศา
กล้องหน้า vivo V30 Pro 5G จัดมาแบบ Auto Focus แบบ Ultra Wide-Angle แบบมุมกว้าง 92 องศาทำให้เราสามารถเซลฟี่ได้เป็นกลุ่มหรือทำให้เห็นบรรยากาศฉากหลังได้จัดเต็มมากขึ้นครับ ซึ่งแบบค่าเริ่มต้นจะอยู่ในระยะ 1x แต่เมื่อพลิกหน้าจอเป็นแนวนอนก็จะปรับมาเป็นระยะ 0.8 หรือมุมกว้างเองอัตโนมัติครับ
สรุปการใช้งาน vivo V30 Pro 5G
vivo V30 Pro 5G เป็นการยกระดับความเทพให้กับ vivo V Series อย่างไม่เคยมีมาก่อนด้วยการพัฒนากล้องร่วมกับ ZEISS ที่เป็นแบรนด์กล้องระดับโลก ความสวยงามของกล้องและลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น สวยงามขึ้น เหมือนเราจับรุ่นเรือธงอยู่เลยครับ โดยเฉพาะกับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตกลางคืนที่ได้ Aura Light Portrait 3.0 บอกตามตรงเลยว่าแสงออร่านี้ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้ยอดเยี่ยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดสมาร์ตโฟนตอนนี้เลย ขณะที่ส่วนอื่นอย่างดีไซน์ก็ออกแบบมาเรียบหรู เบาบาง ใช้งานได้สะดวก โดยหน้าจอแสดงก็ได้พาเนล 1.5K AMOLED 120Hz ใช้ขุมพลัง Dimensity 8200 ที่แรงในระดับท็อป เล่นเกมสบายๆ พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทำได้เป็นอย่างดี แต่จะมีจุดสังเกตเล็กๆ ตรงที่ยังไม่มีลำโพงคู่มาให้ครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย vivo V30 Pro 5G
vivo V30 Pro 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Shell White) และสีดำไนท์สกายแบล็ก (Night Sky Black) มีให้เลือกความจุเดียว คือ 12GB + 512GB ราคา 19,999 บาท
เปิดพรีออเดอร์ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม 2567 พิเศษ ! รับส่วนลด 500 บาท, vivo TWS 3e มูลค่า 1,799 บาท และ V30 Series 5G Premium Gift Box ประกอบด้วยเคส 2 ชิ้น พร้อมสายคล้องสะพายข้าง รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 1 ครั้งภายใน 2 ปีแรก และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 15 มีนาคม 2567 ผ่าน vivo Brandshop ทั่วประเทศ
#vivoV30Pro5G #ถ่ายเทพเกินคน #PortraitSoPro #vivoครบรอบ10ปี