Android News
แกะกล่องพรีวิว vivo X100 Pro การกลับมาของเรือธงกล้องเทพพร้อมเลนส์ ZEISS ที่ “สมการรอคอย”
Vivo X100 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยในประเทศจีน งานนี้ทีมงาน iphone-droid.net ก็ได้รับเกียรติมาร่วมงานเปิดตัวอันยิ่งใหญ่นี้ พร้อมกับได้รับเครื่อง vivo X100 Pro มาลองกันคร่าว ๆ 1 วัน แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดนำประสบการณ์การใช้งานกล้องแบบเน้น ๆ ของรุ่นนี้มาฝากกันอีกเช่นเคย บอกเลยว่ารุ่นนี้อาจเป็น “เรือธงกล้องเทพที่สุดในปี 2023” เลยล่ะครับ!?
แกะกล่อง vivo X100 Pro
แต่ก่อนจะไปดูความสามารถกล้องแบบจัดเต็ม เราขอมาแกะกล่องชมตัวเครื่องกันก่อนเนาะ แต่…ต้องบอกไว้ตรงนี้ว่าเครื่องที่เราได้มาลองยังเป็นเครื่องที่วางจำหน่ายในจีนก่อน เพราะ ณ ตอนนี้ vivo X100 Series ยังเปิดตัวแค่ในจีนเท่านั้น (แต่ยืนยันว่าเข้าไทยแน่นอน) เพราะฉะนั้นเมื่อรุ่นนี้ขายจริงในบ้านเราอุปกรณ์บางอย่างอาจแตกต่างกันได้ครับ
เราแกะกล่องแบบด่วน ๆ ในแพ็กเกจของ vivo X100 Pro ก็จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ 6 อย่างประกอบด้วย
- ตัวเครื่อง vivo X100 Pro
- เคสซิลิโคน
- สายชาร์จ USB-C to C
- อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 120W vivo FlashCharge
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือ
ดีไซน์ Vivo X100 Series
เราขอพูดเรื่องคอนเซ็ปต์ดีไซน์ของ vivo X100 Series ทั้ง 2 รุ่นก่อนละกันเนาะ ไหน ๆ ก็จะพาชมเครื่องกันแล้ว รอบนี้มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “สุริยันและจันทราบนมือคุณ” ที่เน้นไปที่กล้องหลังอันโดดเด่น และแบ่งรูปแบบโมดูลกล้องด้านหลังแยกกันเป็น 2 แบบคือ
- vivo X100 ใช้ดีไซน์จันทร์เสี้ยว มีกรอบที่เว้าด้านขวามากกว่าพร้อมระบุสเปคกล้องไว้
- vivo X100 Pro ใช้ดีไซน์สุริยคราส มีกรอบที่ว้าวด้านล่างมากกว่าพร้อมระบุสเปคกล้องไว้
และแน่นอนว่าด้วยเอกลักษณ์ของคอนเซ็ปต์ที่เลือกมาเป็น สุริยันจันทราแล้วสีที่จะช่วยชูโรงให้กับคอนเซ็ปต์นี้ก็มีด้วย คือสีฟ้าใหม่ที่มีลวดลาย Startrail หรือดาวหมุนที่เปรียบเหมือนดวงจันทร์ กับสีส้มที่มีลวดลายหนังแบบกระเป๋าหรูที่เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์นั่นเองครับ
แต่แน่นอนว่าสีพื้นฐานอย่างสีดำก็ต้องมีมาให้เลือกเหมือนเดิม ซึ่งเครื่องที่อยู่ในกล่องที่เราได้มาลองเป็นสีดำอย่างที่เห็นไปครับ สีนี้ก็มีความคลาสสิคและลงตัวในแบบที่ควรจะเป็นมาก ๆ ครับ ผิวสัมผัสจะเป็นแบบผิวด้านที่มีความเป็นผิวทรายและแทรกลวดลายระยิบระยับเมื่อโดนแสงด้วย
เจาะเข้ามาดูที่ตัวกล้องใกล้ ๆ อีกนิด อย่างที่บอกไปว่าดีไซน์กล้องจะมีการเว้นกรอบส่วนล่างไว้มากกว่าส่วนไหน ๆ แบบเดียวกับสุริยคราสที่จะมีส่วนที่แสงอาทิตย์ลอดผ่านออกมานั่นเอง ในนั้นจะมีข้อมูลของชุดกล้องที่เป็นไฮไลท์อยู่ด้วยคือ VARIO-APO-SONNAR (PRO) 1.75 – 2.5/15 – 100 ASPM หรือก็คือใช้เลนส์ ZEISS APO SONNAR ที่มีรูรับแสงตั้งแต่ f/1.75 – f/2.5 ระยะ 15 มม. – 100 มม.นั่นเองครับ โหด ๆ นะ!
พลิกกลับมาดูที่หน้าจอ vivo X100 Pro มาพร้อมจอ AMOLED โค้งแบบเจาะรูขนาด 6.78″ ที่มีความละเอียดสูง 2800 x 1260 พิกเซล, รองรับการแสดงสีสันแบบ 10bits 1 พันล้านสี, รองรับ Refresh rate 120Hz และยังมีความสว่างสูงสุดถึง 3000nits อีกด้วย เรียกว่าเป็นจอระดับท็อปสุด ๆ ในตลาดตอนนี้แล้วล่ะครับ
รอบ ๆ ตัวเครื่องก็ยังทำได้สวยลงตัวด้วยกรอบเครื่องอลูมิเนียมขัดเงาที่เพรียวบาง มีปุ่มกดอยู่ที่มุมขวาของตัวเครื่องทั้งหมด
ด้านบนตัวเครื่องก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นกล้องมืออาชีพด้วยการระบุข้อความไว้ว่า Professional Photography ไว้เหมือนเดิม ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็เป็นตำแหน่งของพอร์ตการเชื่อมต่อ, ไมโครโฟน, ลำโพงหลักและช่องใส่ซิมครับผม
โดยรวมในเรื่องดีไซน์ของ vivo X100 Pro เราว่ามีความลงตัวมากขึ้น ทั้งในเรื่องของโมดูลกล้องที่ผ่านคอนเซ็ปต์สุริยคราสที่ทำให้ตัวกล้องดูโดดเด่นและมีเรื่องราว ความจอโค้งก็ช่วยให้ลุคพรีเมี่ยมและน่าใช้งานอย่างมากด้วย
กล้อง vivo X100 Pro
เข้าเรื่องกล้องได้แล้วเนาะ vivo X100 Pro นั้นมีการอัปเกรดในเรื่องของสเปคกล้องขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจมาก ได้กล้องหลังมา 3 ตัวเหมือนเดิมแต่ความละเอียดสูงขึ้นเป็น 50MP ครบทั้ง 3 ตัวประกอบด้วย
- 50MP กล้องหลัก (เซ็นเซอร์ IMX989 ขนาด 1″) f/1.75, OIS
- 50MP กล้อง Ultra Wide f/2.0
- 50MP กล้อง Periscope 4.3x f/2.5 เลนส์ ZEISS APO
อย่างที่เห็นว่ากล้องของ vivo X100 Pro จัดมาให้แบบเข้ม ๆ ครบทุกระยะ ซึ่ง UI กล้องก็มีการปรับแต่งมาใหม่ให้เราใช้งานได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะนอกจากระยะ 1x, 2x, 4.3x หรือ 10x ที่มีตัวเลขระบุไว้แล้ว ในแต่ละเลขนั้นเรายังสามารถแตะเพื่อปรับระยะได้อีก เช่นแต่ที่ไอคอน 1x ก็จะขยับไป 1.2x > 1.5x หรือในระยะซูมเยอะ ๆ ก็สามารถกดได้เช่นกัน แถมตัวเลขนอกจากจะเป็น x แล้วก็ยังแสดงเป็น mm ด้วยครับ
เท่าที่เราลองถ่ายรูปดู บอกเลยว่ากล้องหลักของ vivo X100 Pro ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX989 ก็ยังคงแสดงความเก่งกาจได้ดีเหมือนเดิม ทั้งการละลายฉากหลังที่สวยเนียน การคุมแสงที่ยอดเยี่ยม ความคมชัดระดับสูง จะซูม Sensor Crop ในระยะ 1.5x หรือสัก 2.2x ก็ยังคมกริบ
แต่ไฮไลท์จริง ๆ ของ vivo X100 Pro รอบนี้ไม่ใช่แค่กล้องหลัก เพราะกล้องซูมก็อัปเกรดขึ้นมาด้วยการใช้กล้อง Periscope ช่วง 100มม. ที่เทียบเท่าระยะ 4.3x ช่วยให้เราเข้าใกล้ได้มากขึ้น แถมยังใช้เลนส์ ZEISS SONNAR APO ที่เคลือบมาอย่างดี และเราบอกได้เลยว่านี่คือเลนส์ Telephoto ที่ดีที่สุดเท่าที่เราลองมาในปีนี้เลย ในระยะ 4.3x – 10x คือคมกริบ หรือจะซูมไปไกลอีกหน่อย 20x ก็ยังเอาอยู่สบายมาก
แต่แค่ซูมโหดอย่างเดียวก็คงไม่พอ รอบนี้ vivo เพิ่มลูกเล่นการถ่ายพระอาทิตย์ให้คมชัดขึ้นอีกด้วย ปกติแล้วการถ่ายพระอาทิตย์ด้วยสมาร์ทโฟนจะเป็นเรื่องยากถ่ายออกมาก็จะฟุ้ง ๆ เก็บแสงได้ไม่ดีนัก แต่บน vivo X100 Pro ใช้เลนส์ ZEISS APO ที่ Coating มาอย่างดี ทำให้ลดแสงแฟลร์และจัดการแสงได้ดีขึ้น แถมได้ช่วงซูมที่เข้าใกล้ได้อีกเยอะ ทำให้เราสามารถถ่ายพระอาทิตย์ได้คมชัดกว่ารุ่นไหน ๆ
โหมด Portrait รอบนี้ก็อัปเกรดขึ้นมาทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเลย โดยในภาพนิ่งจะเพิ่มระยะให้ใช้งานได้มากถึง 5 ระยะคือ 24มม. > 35มม. > 50มม. > 85มม. > 100มม. ซึ่งหลากหลายสำหรับภาพบุคคลมาก แถมยังมี ZEISS Portrait Style มาให้เลือกปรับโบเก้ด้านหลังสวย ๆ อีกเหมือนเดิม ส่วนเรื่องวิดีโอรอบนี้ก็สามารถถ่ายวิดีโอหน้าชัด-หลังเบลอได้สูงสุดที่ 4K/30fps แล้วด้วยนะ
นี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างคร่าว ๆ ที่เราได้ลองใช้งานมาเพียง 1 วันเท่านั้น ยังมีอีกหลายการถ่ายภาพที่เราต้องใช้เวลาเพิ่มเติมเนาะ แต่เท่านี้ก็พอจะรู้สึกได้เลยว่า รอบนี้ vivo เอาจริงมาก! เพราะทั้งกล้องหลักและซูมไม่เป็นรองคู่แข่งแน่นอน ถ่ายได้สวยและสนุกขึ้นมาก สมการรอคอยจริง ๆ ครับ
สเปค vivo X100 Pro
ปิดท้ายที่เรื่องสเปค vivo X100 Pro ก็อัดแน่นมาเหมือนกัน เพราะใช้ชิปเรือธงรุ่นล่าสุดของ MediaTek อย่าง Dimensity 9300 มาเลย แถมยังมี RAM ขนาดใหญ่และความจุเยอะ ๆ อย่างรุ่นที่เราได้มาเป็นรุ่นความจุ 16GB + 512GB สเปคระดับนี้ทดสอบ AnTuTu Benchmark ก็ออกมาแตะ 2 ล้านแล้วครับ แรงจริง!
ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้มาเยอะถึง 5400mAh พร้อมระบบชาร์จเร็วอีก 100W หมดห่วงเรื่องการใช้งานที่ยาวนานและชาร์จกลับมาอย่างรวดเร็วได้เลย vivo X100 Pro จัดเต็ม!
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงพรีวิวคร่าว ๆ ของ vivo X100 Pro หลังจากที่ได้ใช้งานประมาณ 1 วัน ยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องลองเพื่อเรียกว่า “รีวิว” ทั้งการใช้งานกล้องในโหมดอื่น ๆ วิดีโอ หรือจะเป็นซอฟต์แวร์ภายใน เพราะรุ่นที่เราได้มาลองยังเป็นเพียงเครื่องที่ขายในจีน ซอฟต์แวร์ภายในก็ยังเป็น OriginOS (รุ่นขายในบ้านเราน่าจะเป็น FunTouchOS) ซึ่งประสบการณ์บางอย่างจะแตกต่างกันอยู่ แต่เท่าที่รู้สึกได้จากการใช้งานคร่าว ๆ ต้องบอกเลยว่าเรื่องกล้องรุ่นนี้ยกระดับมาได้ถูกใจแฟน ๆ แน่นอน!
บทความนี้ก็ฝากไว้เท่านี้ก่อนเนาะ ไว้หลังจากที่ตัวเครื่องเปิดตัวในไทยเมื่อไหร่ คงมีรีวิวฉบับเต็มที่ได้ลองใช้งานจุใจกว่านี้มาฝากแน่นอน สำหรับวันนี้ลาไปก่อนครับ