Smart Review
รีวิว vivo X5Pro ดีไซน์เรียบหรูสุดบาง ครอบด้วยกระจกขอบโค้งมน
vivo X5Pro สมาร์ทโฟนดีไซน์สุดบาง โดดเด่นด้วยกระจก Gorilla Glass ขอบโค้งมน 2.5D ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว Super AMOLED Full HD และหน่วยประมวลผลหรือซีพียู 64 บิต Octa-core ความเร็ว 1.5GHz
สรุปข้อมูลและสเปค vivo X5Pro
- ราคาเปิดตัว 13,990 บาท (กรกฎาคม 2558)
- ขนาดตัวเครื่อง 147.90 × 73.45 × 6.44 มม.
- น้ำหนัก 174 กรัม
- 2G : 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz
- 3G : 850 / 900 / 2100 MHz
- 4G : LTE band 1(2100), 3(1800), 7(2600)
- รองรับ 2 ซิม (Micro SIM + Nano SIM)
- หน้าจอแสดงผลขนาด 5.2 นิ้ว Super AMOLED ความคมชัด Full HD 1080p
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 2.1 (Android 5.0.2 Lollipop)
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939
- ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.5 GHz (Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & Quad-core 1.0 GHz Cortex-A53)
- กราฟิก (GPU) Adreno 405
- หน่วยความจำ RAM 2 GB
- หน่วยความจำ ROM 16 GB เพิ่มความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล แฟลช LED ค่ารูรับแสง f/2.0
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
- รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.0
- GPS/A-GPS, GLONASS
- ระบบเสียง Hi-Fi
- แบตเตอรี่ Li-Po 2,450 mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้)
ตัวเครื่อง ดีไซน์ และหน้าจอแสดงผล
vivo X5Pro ปรับการดีไซน์ใหม่ตามสมัยนิยม ด้วยความบางเพียง 6.44 มม. ซึ่งตัวเครื่องเป็นโลหะแบบไร้รอยต่อ (unibody) ที่มีด้านข้างโค้งมน ทำให้การจับกระชับมือ แล้วครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 3 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้เกิดแสงสะท้อนเพิ่มความหรูหราให้กับตัวเครื่อง
หน้าจอของ vivo X5Pro มีขนาด 5.2 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 1920 × 1080 พิกเซล ความหนาแน่นของจุดพิกเซล 424 พิกเซลต่อนิ้ว และให้สัดส่วนหน้าจอประมาณ 68.6% ของตัวเครื่อง ซึ่งบนผิวกระจกยังเคลือบด้วยสีฟ้าคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อเพิ่มความสวยงามด้วย
เหนือหน้าจอมีเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับเสียงสนทนา, เซ็นเซอร์วัดแสงกับ Proximity และไฟ LED แจ้งเตือนสถานะต่าง ๆ
ด้านล่างหน้าจอมีปุ่มนำทางแบบสัมผัส 3 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ ปุ่มทั้ง 3 ไม่มีไฟส่องสว่าง (Backlight)
ขอบด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ขอบด้านล่างตัวเครื่องทางด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับไมโครโฟนเสียงสนทนา ถัดมาตรงกลางเป็นพอร์ตสำหรับ micro USB เพื่อชาร์จแบตหรือถ่ายโอนข้อมูล ซึ่งรองรับ OTG ด้วย และทางด้านขวาเป็นช่องเสียงลำโพง
ขอบด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มปิด/เปิดเครื่องหรือปิด/เปิดหน้าจอ และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดจำนวน 2 ช่องหรือถ้าต้องการใส่ microSD ก็แทนที่ด้วยการใส่ในช่องซิม 2 ครับ ส่วนขอบทางด้านซ้ายไม่มีปุ่มใด ๆ ผิวเรียบลักษณะขอบโค้งมน
ฝาด้านหลังเป็นกระจก ไม่สามารถแกะเปิดได้ ภายในมีแบตเตอรี่ขนาด 2,450 mAh บริเวณส่วนบนมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED หนึ่งดวง
ตัวโมดูลกล้องหลังจะนูนขึ้นมาเหนือกระจกฝาหลังเล็กน้อย ตัวเลนส์เป็นแซฟไฟร์มีความโปร่งใสและมีความแข็งแรงรองจากเพชร
อินเตอร์เฟซและฟังก์ชั่นการใช้งาน
vivo X5Pro รันระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า Funtouch OS 2.1 ซึ่งเป็นการปรับแต่งหน้าตาใหม่บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop มีการใส่ลูกเล่นในหน้าล็อคสกรีนให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มไอคอนรูปภาพของตัวเองรวมถึงชื่อได้ แล้วแตะหน้าจอลากขึ้นเพื่อปลดล็อคเข้าสู่หน้าจอหลักหรือหน้าโฮม
ไอคอนแอพและวิดเจ็ตต่าง ๆ จะถูกจัดเรียงไว้ในหน้าโฮมทั้งหมด สามารถแตะลากปรับตำแหน่งการจัดวางหรือลบออกจากหน้าโฮมก็ได้ รวมถึงการเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อนหน้าจอ และซ่อนแอพพลิเคชั่นด้วยการล็อครหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เมื่อแตะบนหน้าจอพร้อมกับปัดลง จะเป็นการเรียกใช้ตัวค้นหา แต่ถ้าลากแถบด้านบนลงมาจะเป็นการเรียกดูรายการแจ้งเตือนต่าง ๆ และถ้าแตะแล้วลากขอบด้านล่างขึ้น จะเป็นเรียกใช้งานในส่วนของ Control panel ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถปิดการทำงานของแอพพลิเคชั่นได้ด้วย
ส่ิงที่ขาดไม่ได้บน Android ก็คือการเปลี่ยนธีมใช้งานนั่นเอง ซึ่งบน vivo X5Pro ก็มีระบบธีมออนไลน์ให้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรี
ฟังก์ชั่นการจับภาพหน้าจอสำหรับมือใหม่ที่เริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนจาก vivo อาจจะไม่คุ้น ซึ่งสามารถทำได้โดยกดปุ่มปิด/เปิดเครื่องพร้อมกับปุ่มปุ่มโฮม ใช้จังหวะการกดพร้อมกันแล้วปล่อย ไม่ต้องกดค้างไว้นานนะครับ
หรือถ้าอยากจับภาพหน้าจอแบบพิเศษก็สามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้ ซึ่งสามารถจับภาพหน้าจอแบบยาว, บันทึกวิดีโอหน้าจอ, เลือกจับภาพเฉพาะส่วนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า และเลือกส่วนที่ต้องการจับภาพเป็นรูปร่างขำ ๆ ด้วยการวาดแบบอิสระ
ฟังก์ชั่นการใช้งานอัจฉริยะ เป็นฟังก์ชั่นการเรียกใช้งานขณะหน้าจอปิดอยู่ รวมถึงการสั่งงานโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ได้เข้ามาอยู่บนสมาร์ทโฟน Android แทบจะทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นราคาประหยัด ระดับกลาง หรือเรือธง มาดูกันว่า vivo X5Pro มีฟังก์ชั่นนี้ที่สามารถทำอะไรได้บ้าง
- Smart wake เป็นการแตะแล้ววาดนิ้วลงบนหน้าจอขณะหน้าจอปิดอยู่เพื่อสั่งงานหรือเรียกใช้งาแอพพลิเคชั่นตามที่ได้กำหนดค่าเอาไว้ เช่น วาดตัวอักษร C เพื่อเรียกใช้งานการโทร, แตะแล้วลากลงเพื่อเปิดใช้งานแอพกล้อง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังสามารถกำหนดท่าทางการเรียกใช้งานอื่น ๆ ได้ด้วย
- การใช้งานโดยไม่สัมผัส ได้แก่ ปัดฝามือเหนือหน้าจอเพื่อสถานะของมือถือ เช่น เวลาบนหน้าจอ หรือปัดฝามือเหนือหน้าจอเพื่อปลดล็อคหน้าจอก็ได้
- หน้าจอสว่างอัจฉริยะ เป็นการเปิดหน้าจอใช้งานโดยอัตโนมัติผ่านการสั่งงาน ได้แก่ เมื่อหยิบออกจากกระเป๋า, แตะหน้าจอ 2 ครั้งขณะหน้าจอปิดอยู่ และหน้าจอจะไม่ดับเมื่อมองหน้าจออยู่
- การโทรอัจฉริยะ ได้แก่ การเข้าไปดูรายชื่อโทรศัพท์แล้วยกมือถือแนบหูเพื่อโทรออกได้ทันที หรือเมื่อมีสายเข้าก็ยกแนบหูเพื่อรับสายได้ทันที เป็นต้น
- การเขย่าเพื่อเปิดแฟลชด้านหลังเป็นไฟฉาย เมื่อหน้าจอเปิดอยู่ในหน้าล็อคสกรีน หรืออยู่ในโหมดสแตนด์บาย แต่ถ้าหน้าจอปิดอยู่จะไม่สามารถเขย่าเพื่อเปิดไฟฉายได้
- การซูมโดยการใช้นิ้วหนึ่งแตะค้างไว้บนรูปภาพแล้วเอียงมือถือเพื่อซูม
- การเตือนอัจฉริยะ เป็นการสั่นเตือนหากมีรายการแจ้งสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความเตือนค้างอยู่เมื่อหยับมือถือขึ้นมา
การใช้งานมัลติทาสก์ เป็นการเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นแบบหน้าต่างลอย ขณะใช้งานแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อยู่ ได้แก่ วิดีโอ, โน้ต, เพลง และกล่องข้อความ SMS
i Manager แอพพลิเคชั่นจัดการระบบที่มีครบทุกฟังก์ชั่นและใช้งานง่ายเพียงคลิกเดียว ไม่ว่าจะเป็นการล้างข้อมูล, การกำหนดการใช้ข้อมูลอินเตอร์เน็ต, จัดการแอพ, จัดการแบตเตอรี่, บล็อคสายโทรเข้า และตั้งรหัสผ่านพื้นที่ส่วนตัว หรือจะคลิกเพียงครั้งเดียวที่วงกลมใหญ่ ๆ ด้านบนเพื่อให้ระบบจัดการหน่วยความจำให้อัตโนมัติ
สำหรับการจัดการแบตเตอรี่ก็มีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงมาให้ด้วย เหมาะสำหรับยามฉุกเฉินที่แบตใกล้หมดแล้วหาที่ชาร์จไม่ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้เพียงฟังก์ชั่นพื้นฐานเท่านั้นเพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานพลังงาน
vivoCloud ระบบสำรองข้อมูลบนก้อนเมฆ สามารถสำรองข้อมูลรายชื่อติดต่อ, SMS และบุ๊คมาร์คเอาไว้ได้ หากเปลี่ยนเครื่องหรือรีเซ็ตเครื่องใหม่ก็สามารถดึงข้อมูลที่สำรองไว้กลับมาได้โดยการล็อกอินด้วยบัญชี vivoCloud
vivo X5Pro รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, microUSB 2.0 ส่วนการเชื่อมต่อข้อมูล 3G รองรับทุกเครือข่ายในไทย, 4G LTE ก็รองรับคลื่น 2100 MHz ซึ่งก็หมายความว่าใช้งาน 4G ในไทยได้ รวมถึงรองรับคลื่น 1800 MHz ที่รอการประมูลในอนาคตด้วย
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ด้วย Android Sensor Box และมัลติทัช
- Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
- Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
- Orientation Sensor ระบบปรับมุมมองการแสดงผลหน้าจออัตโนมัติ
- Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
- Gyro Sensor ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และ
ความยืดหยุ่นหลากหลายในการควบคุม - Sound Sensor ตรวจวัดระดับเสียง
- Magnetic Sensor ตรวจวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
- รองรับมัลติทัชสูงสุด 10 จุด
ผลทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน
vivo X5Pro รันระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939 ซีพียู 64 บิต Octa-core แบ่งการทำงานเป็น Quad-core 1.5 GHz และ Quad-core 1.0 GHz กับจีพียู Adreno 405 และความจำแรม 2GB
ผลการทดสอบ AnTuTu ในโหมด 64 บิต เป็นการทดสอบการเข้าถึงการทำงานของแรม (RAM) และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู (GPU) ทำคะแนนรวมได้ 32,758 คะแนน ซึ่งผลคะแนนใกล้เคียงกับ OPPO R5 และถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับ vivo X5Max แต่คะแนนก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก ในขณะที่ Quadrant Standard ได้ 11,516 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 3 เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลโดยรวม ผลทดสอบ Single-core ทำได้ 624 คะแนน และ Multi-core ทำได้ 2,057 คะแนน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมด้วย BaseMark OS ได้ 255 คะแนน และผลการทดสอบประสิทธิภาพกราฟิกด้วย NenaMark 2 ได้ 58.8 เฟรมต่อวินาที
จากการทดสอบเล่นเกมมีอาการกระตุกบ้างเล็กน้อยเมื่อเจอกราฟิกหนัก ๆ และเมื่อเล่นเกมไปสักพักประมาณ 20-30 นาที เครื่องจะเกิดอาการร้อนบริเวณด้านหลังตัวเครื่องพื้นที่ส่วนบนแถว ๆ เลนส์กล้องหลัง
กล้องถ่ายรูป
vivo X5Pro มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดภาพสูงสุด 4128 x 3096 พิกเซล อัตราส่วน 4:3 และเลือกเปลี่ยนเป็น 16:9 ได้ มีระบบออโต้โฟกัสพร้อมเทคโนโลยีระบบเซ็นเซอร์ PDAF โฟกัสได้แม่นยำและเร็วขึ้น ค่ารูรับแสง f/2.0 และแฟลช LED ช่วยถ่ายในที่มืด
สามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส และแยกจุดวัดแสงจากจุดโฟกัสได้ แนบตำแหน่งแผนที่ลงบนภาพถ่าย และระบบตรวจจับใบหน้า นอกจากนี้ก็มีโหมด HDR, พาโนรามา, มีลูกเล่นระบุเพศเพื่อปรับภาพให้ออกมาเหมาะสมระหว่างชายกับหญิง และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p
ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอ 5.2 นิ้ว Super AMOLED ความคมชัด Full HD 1080p
- ตัวเครื่องโลหะดีไซน์สวยด้วยกระจก และบางเพียง 6.44 มม.
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 Lollipop
- ซีพียู 64 บิต Octa-core 1.5 GHz
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ PDAF และแฟลช LED
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม และใช้งาน 4G LTE ในไทยได้
- เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD สูงสุด 128GB
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- การเล่นเกมกราฟิกสวย ๆ ยังไม่ลื่นไหล
- แบตเตอรี่แกะถอดเปลี่ยนเองไม่ได้
- ไม่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตแบบรวดเร็ว
ขอบคุณ vivo Service (Thailand) Co.,Ltd.