Android News
แกะกล่องพรีวิว vivo X80 Series 5G สองสมาร์ตโฟนเรือธงกล้องเทพ ที่จะเปลี่ยนนิยามของการถ่ายภาพและวิดีโออีกครั้ง!!
vivo X80 Series 5G เตรียมเปิดตัวทางการวันที่ 19 พฤษภาคมนี้แล้ว รอบนี้มาพร้อมสโลแกนใหม่ “Cinematics Redefined.” พร้อมที่จะปฏิวัติวงการภาพถ่ายและภาพยนตร์อีกครั้ง เกริ่นมาขนาดนี้…ใช่แล้วครับ ตอนนี้เครื่อง vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ถึงมือทีมงาน iphone-droid.net เรียบร้อย
เราก็ไม่พลาดจะแกะกล่องพรีวิวให้ชมหน้าค่าตาของ 2 เรือธงนี้ให้ชมกันก่อนรีวิวฉบับเต็มอีกเช่นเคย ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามพรีวิว vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ไปพร้อม ๆ กันเลยครับ
แกะกล่อง vivo X80 5G | vivo X80 Pro 5G
ก่อนอื่นมาดูตัวกล่องกันก่อน ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยกล่องขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกของรุ่นเรือธงที่พรีเมี่ยมตั้งแต่แพ็กเกจเลย ที่ด้านหน้ามีชื่อรุ่นระบุไว้ชัดเจนว่า X80 และ X80 Pro Co-engineered with ZEISS ทีบ่งบอกถึงการร่วมมือกันอีกครั้งของแบรนด์กล้องระดับโลกกับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำ
เปิดกล่องออกมาเราจะเจอกับถาดชั้นแรกที่มีตัวเครื่องอยู่ในซองอย่างเรียบร้อย ด้านข้างจะมีโลโก้ vivo อยู่ เปิดขึ้นมาจะเจอกับกล่องอุปกรณ์เสริม 2 กล่อง ภายในก็จะประกอบด้วย
- อะแดปเตอร์ชาร์จไว 80W vivo Flash Charge
- สายชาร์จแบบ USB type-C to type-A
- หูฟังพอร์ต USB-C
- เอกสารคู่มือ
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคส
ซึ่งเคสในรอบนี้เราชอบมาก เพราะออกแบบมาคล้ายกับฝาหลังของตัวเครื่องเลย ผิวสัมผัสจะทำคล้าย ๆ หนังเทียมที่ให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อจับถือ แถมยังมีสีเดียวกับตัวเครื่องที่ใส่แล้วได้การปกป้องและก็ยัฃสวยเหมือนไม่ได้ใส่เคสด้วย งานดีเกินกว่าจะเป็นเคสที่แถมมาในกล่องจริง ๆ ครับ
ทั้งหมดก็ให้มาครบถ้วนพร้อมใช้งานตัวฟิล์มกันรอยก็มีติดมาให้ตั้งแต่โรงงานแล้วด้วยครับ เรียกว่าพร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้เสียเงินเลยล่ะครับ
ดีไซน์ vivo X80 5G | vivo X80 Pro 5G
เข้าเรื่องดีไซน์กันเลยดีกว่า ไม่ต้องรอช้าเนาะ vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G รอบนี้มีดีไซน์โดยรวมที่ใกล้เคียงกันมาก ทั้งขนาดและองค์รวมต่าง ๆ เริ่มที่หน้าจอก่อนเลย ทั้งคู่ใช้จอโค้งเหมือนกันแถมขนาดก็เท่ากันที่ 6.78″ ซะด้วย เป็นดีไซน์จอแบบ Punch Hole Display ที่วางตำแหน่งกล้องหน้าไว้ตรงกลาง ให้ความสมมาตรได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ
ในเรื่องการแสดงผลแม้จะมีขนาดเท่ากัน เป็นจอโค้งเหมือนกัน แต่บน vivo X80 Pro 5G จะมีสเปคที่เหนือกว่าคือได้ความละเอียดมาที่ WQHD+ (3200 x 1440 พิกเซล) ส่วน vivo X80 5G จะได้ความละเอียดมาที่ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ในเรื่องความคมชัดรุ่น Pro จะทำได้ดีกว่า แต่ทั้งคู่ก็ยังเป็นจอ AMOLED ที่แสดงสีสันได้สวยงามเหมือนกันครับ
การตอบสนองหน้าจอก็รวดเร็วด้วย refresh rate 120Hz เหมือนกัน ทุกการสัมผัสจะติดนิ้ว ปรู๊ดปร๊าดไปหมด แต่จุดที่แตกต่างกันของ vivo X80 5G กับ vivo X80 Pro 5G ก็คือรุ่น Pro เป็นจอแบบ LTPO สามารถปรับขึ้น-ลดได้ตั้งแต่ 10Hz – 120Hz ในขณะที่รุ่นธรรมดาจะปรับได้แค่ 60Hz – 120Hz เท่านั้นครับ
ผลิกกลับมาดูที่ด้านหลังกันบ้าง รอบนี้ vivo X80 Series 5G ใช้ดีไซน์กล้องแบบใหม่เป็นโมดูลวงกลมขนาดใหญ่พร้อมกับกรอบสี่เหลี่ยมที่ดูเข้ากัน สร้างความอลังการให้กล้องหลังอย่างมาก มีโลโก้ ZEISS วางอยู่เด่น ๆ ชูจุดเด่นกล้องเหมือนเดิมและรายละเอียดสเปคคร่าว ๆ ของตัวกล้องหลังด้วย จะเห็นว่าทั้ง 2 รุ่นได้ดีไซน์ที่คล้ายกันมาก
แต่ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าบนรุ่น vivo X80 Pro 5G (เครื่องสีดำ) จะมีกล้อง Periscope ที่อยู่นอกกรอบวงกลมเพิ่มขึ้นมาอีกตัว และตัวกรอบเลนส์จะนูนขึ้นมากกว่านิดหน่อยด้วยครับ
ฝาหลังของ vivo X80 Series 5G ใช้ผิวสัมผัสแบบด้านที่มี Texture ด้านในแบบผิวทรายให้ผิวสัมผัสที่ดีเวลาจับถือ ไม่เก็บคราบรอยนิ้วมือและยังมีความนุ่มมืออีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะใช้ผิวสัมผัสแบบเดียวกันเลยครับ
ขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องดูเผิน ๆ อาจจะคล้ายกัน แต่หากได้ถือใช้งานคู่กันแล้วต้องบอกว่า ต่างกันอยู่นิดหน่อย โดย vivo X80 5G จะเบา 206 กรัมและบาง 8.3 มม.น้ำหนัก ในขณะที่รุ่น Pro จะหนากว่าเป็น 9.1 มม.และหนักกว่าเป็น 219 กรัมครับ
รอบ ๆ ตัวเครื่องของ vivo X80 Series 5G ก็วางไว้เหมือนกันแทบทุกจุด ตั้งแต่ปุ่มกดที่อยู่ฝั่งขวามือทั้งหมด ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟน, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง และถาดใส่ซิมครับ
โดยถาดใส่ซิมของ vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G จะเป็นแบบ Dual-SIM ทั้งคู่คือไม่สามารถเพิ่ม micro-SD หรือหน่วยความจำภายนอกได้แล้วครับ
ส่วนด้านบนยังมีระบุคำว่า “Professional Photography” ที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์นี้เช่นเคยครับ
โดยรวมดีไซน์ของ vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G ก็ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก ดีไซน์กล้องที่อลังการมากขึ้น บอดี้แบบด้านพร้อม Texture ผิวทรายที่มอบสัมผัสยอดเยี่ยม หน้าจอโค้งที่สวยงามจัดเต็ม สำหรับสีสันของ vivo X80 5G จะมีให้เลือก 2 สีคือ Urban Blue (สีที่รีวิว) กับสี Cosmic Black ในขณะที่ vivo X80 Pro 5G จะมีให้เลือกสีเดียวคือ Cosmic Black ครับผม
กล้อง vivo X80 5G | vivo X80 Pro 5G
ไฮไลท์ของ vivo X80 Series 5G ก็อย่างที่บอกไปว่าคือเรื่องกล้อง 2 รุ่นนี้เน้นเรื่องการถ่ายภาพและวิดีโออย่างจริงจัง แต่สเปคจะแตกต่างกันนิดหน่อย รายละเอียดดังนี้ครับ
สเปคกล้อง vivo X80 5G
- กล้องหลัก 50MP f/1.75
- กล้อง Ultra Wide 12MP f/1.98
- กล้อง Tele 2X 12MP f/2.0
- กล้องหน้า 32MP f/2.45
สเปคกล้อง vivo X80 Pro 5G
- กล้องหลัก 50MP f/1.57
- กล้อง Ultra Wide 48MP f/2.2
- กล้อง Tele 2X 12MP f/1.85
- กล้อง Periscope 5X 8MP f/3.4
- กล้องหน้า 32MP f/2.45
จะเห็นว่าสเปคทั้งคู่นั้นอยูในระดับท็อปจริง ๆ จุดแตกต่างนอกจากความละเอียดและเซ็นเซอร์ที่ใช้แล้วก็มีเรื่องระยะที่ vivo X80 Pro 5G จะได้เปรียบกว่าเพราะมีกล้อง Periscope ที่ซูมได้ Optical 5X เพิ่มเข้ามา อีกทั้งกล้อง Ultra Wide จะได้ความละเอียดที่เยอะกว่าเป็น 48MP
แต่จุดที่ทั้งคู่มีเหมือนกันก็คือ Imaging Chip ชื่อ V1+ ที่ vivo พัฒนาขึ้นเองครับ ชิปตัวนี้จะเข้ามามีส่วนร่วมในการประมวลผลทั้งภาพถ่าย วิดีโอ ร่วมถึงการประมวลผลการแสดงผลภาพ กราฟิกเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะทำให้ภาพถ่ายรวมถึงวิดีโอนั้นสวยขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืนเลยล่ะครับ
ในส่วนของซอฟต์แวร์ vivo ร่วมกับ ZEISS พัฒนาฟีเจอร์กล้องให้เหนือขึ้นไปอีก จากเดิมจะมี ZEISS Portrait Style ที่เพิ่มลูกเล่นการละลายฉากหลังสวย ๆ รอบนี้มี ZEISS Cinematic โหมดวิดีโอเพิ่มเข้ามาด้วยครับ
สเปค vivo X80 5G | vivo X80 Pro 5G
ปิดท้ายที่สเปค vivo X80 5G และ vivo X80 Pro 5G จะมีชิปเซ็ตที่ต่างกันออกไป โดยรุ่น vivo X80 5G จะใช้ชิปเซ็ต Dimensity 9000 Otca-Core 3.05GHz (4nm) ส่วน X80 Pro 5G จะใช้ Snapdragon 8 Gen 1 Octa-Core 3.0GHz (4nm) แทนครับ ความจุให้มาเท่ากันคือ 12GB + 256GB และทั้งคู่มีฟีเจอร์ Extended RAM เพิ่มอีก 4GB เหมือนกันด้วยครับ
ส่วนแบตเตอรี่จะแตกต่างกันนิดหน่อยด้วย vivo X80 5G ได้แบตฯมา 4500mAh ในขณะที่ X80 Pro 5G ได้มา 4700mAh มีระบบชาร์จไว 80W Flash Charge เหมือนกัน แต่รุ่น Pro จะมีความสามารถชาร์จไร้สายสูงสุดมาที่ 50W ด้วย แต่บนรุ่นปกติไม่รองรับฟีเจอร์ชาร์จไร้สายครับ
และซอฟต์แวร์ทั้งคู่มาพร้อม Funtouch OS เวอร์ชั่น 12 ที่ครอบทับบน Android 12 ลื่นไหล และตอบสนองได้ดี รวมถึงการปรับแต่งเพิ่มเติมอีกด้วยครับ
สรุปสเปค vivo X80 5G | vivo X80 Pro 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด FHD+ refresh rate 120Hz (X80 5G)
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.78″ ความละเอียด WQHD+ refresh rate 120Hz (X80 Pro 5G)
- CPU : Dimensity 9000 (4nm)(X80 5G) | Snapdragon 8 Gen 1 (4nm)(X80 Pro 5G)
- RAM : 12GB
- ROM : 256GB
- แบตเตอรี่ : 4500mAh (X80 5G) | 4700mAh (X80 Pro 5G)
- ระบบชาร์จ : ชาร์จไว 80W Flash Charge
- กล้องหน้า : 32MP f2.45
- กล้องหลัง : 3 ตัว (X80 5G)
- กล้องหลัก 50MP f/1.79
- กล้อง Ultra Wide Angle 12MP f/1.98
- กล้อง Tele 2X 12MP f/2.0
- กล้องหลัง 4 ตัว (X80 Pro 5G)
- กล้องหลัก 50MP f/1.57
- กล้อง Ultra Wide 48MP f/2.2
- กล้อง Tele 2X 12MP f/1.85
- กล้อง Periscope 5X 8MP f/3.4
- ระบบปฏิบัติการ : Android 12 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
สรุปหลังแกะกล่อง
ความรู้สึกหลักแกะกล่องก็ต้องบอกเลยว่า vivo X80 Series 5G ทั้ง 2 รุ่นนี้ทำได้น่าประทับใจมาก ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่เปลี่ยนโฉมไปเยอะ อลังการมากขึ้น น่าใช้งานกว่าเก่า กล้องที่เป็นจุดเด่นก็นำเสนอลูกเล่นที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS ได้เป็นอย่างดี (แต่การใช้งานจริงคงต้องไปลองกันเพิ่มเติมอีก) หรือจะเป็นสเปคที่ชั้นแนวหน้าของวงการไม่ว่าจะเป็น Dimensity 9000 และ Snapdragon 8 Gen 1 ท็อปสุดของวงการก็รวมอยู่ใน 2 รุ่นนี้แล้ว ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงพรีวิวคร่าว ๆ ก่อนเนาะ การใช้งานจริงทั้งประสิทธิภาพ กล้อง และแบตเตอรี่เราขอไปใช้งานจริง ๆ ก่อน เดี๋ยวมารีวิวให้ชมกันเร็ว ๆ นี้ครับ สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อน ไว้พบกันใหม่บทความหน้าครับ