รีวิว vivo Y100 5G น้องเล็กภายใต้สโลแกน “สนุกกับสเปกเต็ม 100” จาก vivo บอกเลยว่ารอบนี้สเปกและดีไซน์ต่างๆ ไม่ธรรมดาสมเป็นตัวท็อปสุดของ Y Series รอบนี้ได้รับการอัปเกรดให้ดูพรีเมียมมากขึ้นในเป็นรุ่นราคาประหยัดด้วยดีไซน์ที่ใช้ฝาหลังแบบหนังเทียมในสีม่วง (Leather Purple) และฝาหลังเล่นลวดลายสวยงามในสีดำ (Crystal Black) ขณะที่สเปกภายในก็จัดเต็มในระดับเรือธงกันเลยทีเดียว !
สรุปสเปก vivo Y100 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.17 X 75.81 X 7.79 มม. (สีดำ), 163.17 x 75.81 x 7.99 มม. (สีม่วง)
- น้ำหนัก : 185.5 กรัม (สีดำ), 191 กรัม (สีม่วง)
- หน้าจอแสดงผล : E4 AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Refresh Rate 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,200 นิต, ค่าสี 100% DCI-P3 และสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอที่ 91.90%
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 5G Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.2GHz
- RAM 8GB LPDDR4X
- ROM 256GB UFS 2.2 เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/2.0
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP, รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
- เซ็นเซอร์ Flicker
- กล้องหน้า 8MP, รูรับแสง f/1.8
- ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
แกะกล่อง vivo Y100 5G
กล่องของ vivo Y100 5G มาในสไตล์ที่เรียบง่ายแบบสีขาวคลีนๆ มีชื่อรุ่นระบุด้านบนชัดเจน และตรงส่วนล่างจะเป็นตัว “Y” ตาม vivo Y Series ที่เป็นผิวมันและสะท้อนแสงเป็นสีฟ้าม่วงครับ
สิ่งที่มีมาให้ในกล่องของรุ่นนี้จะมีตัวเครื่อง vivo Y100 5G ที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อยแล้ว
เปิดมาอีกชั้นจะมีเคสใสมาให้ พร้อมด้วยคู่มือการใช้งานเบื้องต้นมาให้
และท้ายสุดจะแถมอะแดปเตอร์ 80W FlashCharge มาให้ด้วย ทั้งยังมีสาย USB Type-A to Type-C และเข็มเปิดถาดซิม เรียกว่าให้มาแบบครบถ้วนทั้งหมด ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้วครับ
ดีไซน์บางเฉียบพร้อมขอบโลหะสวยงามเกินราคา
การพัฒนาดีไซน์ของ vivo Y Series ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เลยครับ โดยใน vivo Y100 5G จัดขอบโลหะที่มีความมันเงาและขอบแบนเรียบ การสัมผัสระหว่างใช้งานรู้สึกถึงความสวยงามและดูพรีเมียมมากขึ้น เหมือนไม่ใช่รุ่นราคาประหยัดเลย
ขณะที่ความบางตัวเครื่องนั้นอยู่ที่เพียง 7.79 มม. เท่านั้น ถือว่าบางมากๆ กับรุ่นที่ให้แบตเตอรี่มาจุกๆ 5000mAh ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องก็ไม่ได้หนักจนเกินไป อยู่ที่ 185.5 กรัม สำหรับสีดำ (Crystal Black) และ 191 กรัม ในสีม่วง (Leather Purple)
ความพิเศษไม่ได้อยู่ที่แค่สีสันของตัวเครื่องเท่านั้น แต่อยู่ที่วัสดุด้วยเช่นกัน โดย vivo Y100 5G สีม่วง (Leather Purple) จะเป็นวัสดุหนังเทียมไฟเบอร์รุ่นแรกของ vivo Y Series ที่ได้ความหรูหรามากขึ้น และผิวสัมผัสจะคล้ายกับหนังที่ใช้ในรุ่นพรีเมียมเลยครับ แถมยังมีการเก็บรายละเอียดรอยเย็บที่ขอบทั้ง 4 ด้านด้วย
ส่วนอีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีดำ (Crystal Black) ได้ทั้งความคลาสสิกของสี มีความคมเข้ม แสดงออกถึงความหรูหราเหนือกาลเวลาที่เรียบง่ายแต่สวยงามครับ
และทั้ง 2 สียังเป็นผิววัสดุที่ป้องกันคราบรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วนได้แบบสบายมากๆ สรุปแล้วดีไซน์ตัวท็อปจาก vivo Y Series ทำมาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้นครับ
ได้มาตรฐาน IP54 กันละอองน้ำและฝุ่น พร้อมทุกสถานการณ์มากขึ้น
vivo Y100 5G มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่นระดับ IP54 ซึ่งเป็นระดับที่สามารถกันละอองน้ำและฝุ่นได้แบบหายห่วงครับ สามารถใช้งานต่อได้เวลาที่ฝนตกปรอยๆ ได้ครับ
หน้าจอใหญ่ 6.67″ แบบ 120Hz AMOLED
ดีไซน์ว่าจัดเต็มแล้ว หน้าจอแสดงผลก็ไม่น้อยหน้าเลยครับ รุ่นนี้จัดพาเนลหน้าจอแบบ E4 AMOLED ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล) ทั้งยังได้ค่าสี 100% DCI-P3 และยังมีขอบหน้าจอที่บางมากๆ ช่วยให้มีสัดส่วนพื้นที่ต่อหน้าจอถึง 91.90% โดยทั้งหมดนี้เวลารับชมวิดีโอหรือภาพยนตร์จะช่วยได้รับประสบการณ์แบบเต็มตา ไม่มีอะไรมาบดบังมากเกินไปครับ
และที่ขาดไม่ได้สำหรับสายเล่นเกมคือยังรองรับ Refresh Rate 120Hz ช่วยให้ได้รับความไหลลื่นของการใช้งานมากขึ้นครับ
และการใช้งานในที่กลางแจ้งก็ยังทำได้ชัดเจนและเห็นเนื้อหาบนหน้าจอได้เหมือนกันด้วยความสว่างสูงสุดถึง 1,800 นิต หากเปิดความสว่างอัตโนมัติไว้ครับ
พาชมรอบเครื่อง
พามาดูรอบเครื่องกันต่อเลยดีกว่า บริเวณเหนือหน้าจอจะได้กล้องหน้าแบบ Punch Hole เข้ามา พร้อมกับลำโพงด้านบนที่เป็นทั้งการสนทนาและรองรับการเป็นลำโพงคู่ด้วย
ฝั่งขวาตัวเครื่องมีทั้งปุ่มเพิ่มและลดเสียง พร้อมด้วยปุ่ม Power แบบปกติครับ (การสแกนลายนิ้วมือจะอยู่บนหน้าจอครับ)
ด้านล่างเครื่องอยู่กันครบด้วยช่องใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM 2 ช่อง แบบพลิกหน้า-หลัง โดยช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ให้เลือก MicroSD Card สูงสุด 1TB หรือจะใส่ซิมที่ 2 ก็ได้ครับ ถัดไปจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1 พร้อมด้วยพอร์ต USB-C และโพงสเตอริโออีกตัวครับ
ขอบด้านบนจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 มาให้เพื่อตัดเสียงรบกวนครับ
และที่ด้านหลังจะมีโมดูลกล้องหลังที่มาแบบ 3 เลนส์ จัดเรียงเป็นแนวตั้ง พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ขนาดใหญ่ 1 ดวงครับ แต่ความพิเศษจะอยู่ที่ขอบของแต่ละเลนส์ที่จะมีสีสันตัดเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีก ในสีม่วง (Leather Purple) จะได้ขอบเลนส์กล้องสีม่วงตามสีของฝาหลัง ส่วนสีดำ (Crystal Black) จะเป็นขอบสีทองที่ดูโดดเด่นมากขึ้นครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
รันบนระบบปฏิบัติการ Android 14 พร้อม Funtouch OS 14 เรียบร้อย
vivo Y100 5G แกะกล่องมาพร้อม OS รุ่นล่าสุดอย่าง Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14 ซึ่งเป็นระบบรุ่นล่าสุดของแบรนด์ ทำให้มีการใช้งานได้ไหลลื่นมากขึ้น สามารถจัดการพลังงานและทรัพยากรในเครื่องดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆ ก็สามารถปรับแต่งได้มากขึ้นด้วย
มาพร้อม Always-on Display ที่แต่งได้มากขึ้น !
เป็นปกติที่สมาร์ตโฟนจอ AMOLED จะได้ฟีเจอร์ Always-on Display (AOD) มาให้ด้วย ซึ่งอย่างที่ทราบกันจะเป็นการบอกข้อมูลเบื้องต้นบนหน้าจอล็อคได้เลยทันที แต่ใน Funtouch OS 14 จะให้เราปรับแต่งความสวยงามและรูปแบบของ AOD ได้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
รองรับสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้าครบถ้วน
อีกอย่างที่ให้มาในระบบความปลอดภัยคือการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ จากที่ทดสอบก็ใช้งานได้รวดเร็วและตอบสนองได้ไวครับ
และการสแกนใบหน้าก็ยังคงรวดเร็วเช่นกันครับ
จัดเต็มด้วยลำโพงสเตอริโอคู่ (Dual Stereo Speakers)
vivo Y100 5G ยังจัดเต็มด้านความบันเทิงด้วยการรองรับการใช้งานลำโพงสเตอริโอแบบคู่พร้อมระบบเสียง Hi-Res เสียงดังกระหึ่ม และช่วยให้เสียงมีมิติมากกว่าเดิม ใครที่ชอบเล่นเกม (โดยเฉพาะแนว FPS) และชมภาพยนตร์จะได้ประสบการณ์ที่ดีสุดๆ ในราคาที่จับต้องได้ครับ
เสียงกระหึ่มกว่าเดิมด้วยโหมดเร่งเสียง 300% Audio Booster
นอกจากจะได้ลำโพงคู่แล้ว ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมโหมดเร่งระดับเสียง (Audio Booster) ที่จะได้ตั้งแต่ปกติ 100% และหากยังไม่สะใจก็ปรับเพิ่มได้อีกเป็น 200% และสูงสุดที่ 300% ไปเลยครับ
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
ชิปเซ็ต Snapdragon 4 Gen 2 5G แรงขั้นสุดในรุ่นเริ่มต้น
หน่วยประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 5G ได้เข้ามาขับเคลื่อนใน vivo Y100 5G โดยเป็นชิปเซ็ตรุ่นเริ่มต้นที่จัดมาให้ใช้งานกันแบบไหลลื่นมากขึ้นพร้อมการประหยัดพลังงานที่มากกว่าเดิม ด้วยการเป็นชิป Snapdragon 4 Series รุ่นแรกที่ได้เทคโนโลยีการผลิตเล็กเพียง 4nm ทั้งยังให้มาแบบ Octa Core ที่ความเร็ว Clock สูงสุดที่ 2.2GHz ครับ
รองรับ Extended RAM เพิ่มได้อีก 8GB
สำหรับ vivo Y100 5G ให้ RAM มาแล้วที่ 8GB โดยยังรองรับการเพิ่ม RAM ส่วนขยาย (Extended RAM) ได้อีก 8GB รวมเป็น 16GB ทำให้เราใช้งานแอพได้มากขึ้นกว่าเดิม ลดการรีเฟรชของแอพในพื้นหลังได้มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การใช้งานแบบ Multi-Tasking ดียิ่งขึ้นครับ
ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.1.7 ได้มาที่ 441,136 คะแนน
ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 634 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,898 คะแนน
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
มาทดสอบการเล่นเกมด้วยเกมมหาชนอย่าง ROV กันครับ โดยเราลองเปิดภาพ HD ควบคู่เฟรมเรทระดับสูงสุด และการแสดงผลที่เปิดได้มากสุดที่ระดับ “สูง” ต้องบอกว่ารุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาด เฟรมเรทวิ่ง 60fps แทบตลอดทั้งเกมครับ อาจมีลงมาบ้างเล็กน้อย แต่ไม่มีอาการสะดุดอะไรเลยครับ
Arena Breakout: Realistic FPS
เกมต่อมาที่เราได้ลองจะเป็น Arena Breakout ที่เป็นอีกเกมที่ท้าทายชิป SD 4 Gen 2 ได้ดีจริงๆ ครับ ในการตั้งค่าเกมเราเปิดแบบค่าเริ่มต้นเอาไว้ คือ กราฟิกระดับ HD และเฟรมเรทสูง โดยการเล่นก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่เฟรมเรทอาจจะยังไม่ได้นิ่งมากเท่าไหร่ ดังนั้นใครที่ต้องการเล่นแบบลื่นจริงๆ อาจจะต้องลดกราฟิกลงมาอีกสักเล็กน้อยครับ
แบตเตอรี่จัดเต็ม 5000mAh และชาร์จไว 80W FlashCharge
ด้านแบตเตอรี่ของรุ่นนี้จัดมาให้เหมือนตัวระดับท็อปๆ เลยด้วยการให้แบตมาถึง 5000mAh ที่การใช้งานทั่วไป (ไม่ได้เล่นเกม) สามารถอยู่รอดตลอดวันได้แน่นอน และมีเหลือเพียงพอให้กลับมาชาร์จตอนเย็นหรือค่ำๆ ได้แบบสบายใจ
และการชาร์จก็ยังรองรับชาร์จเร็วถึง 80W FlashCharge ที่เราได้ทดสอบการชาร์จจริงๆ จากประมาณ 33% ถึง 75% ใช้เวลาไปเพียง 28 นาทีเท่านั้น และเต็ม 100% ในเวลารวมทั้งหมดเพียง 47 นาทีครับ
และแม้ว่าจะชาร์จเร็วถึง 80W FlashCharge แต่แบตเตอรี่ในรุ่นนี้ยังการันตีการมีสุขภาพแบตที่ไม่น้อยกว่า 80% แม้ใช้งานถึง 4 ปีครับ
กล้องระดับท็อป 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ Flicker แก้ปัญหากะพริบหลอดไฟได้หมดจด !
vivo Y100 5G ได้รับการอัปเกดให้มีกล้องหลังในระดับสูงเมื่อเทียบกับ vivo Y Series ครับ จัดกล้องหลังมาให้ 3 เลนส์ คมชัดสูงสุด 50MP ครับ โดยสเปกคร่าวๆ มีดังนี้
- เลนส์หลัก 50MP รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Ultra-Wide 8MP รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 120 องศา
- เซ็นเซอร์ Flicker ป้องกันไฟกะพริบ
เลนส์หลัก 50MP ถ่ายสวยจบหลังกล้อง !
ในเลนส์หลักของ vivo Y100 5G ที่ความคมชัด 50MP จะถ่ายในโหมดปกติที่ความละเอียดประมาณ 12.5MP ซึ่งเป็นการรวม 4 พิกเซลเป็น 1 พิกเซล (4-in-1 Binning) ทำให้ภาพมีความสดใสและสว่างมากขึ้น เห็นรายละเอียดของวัตถุต่างๆ ได้ชัดเจนและมี AI ในการช่วยตรวจจับฉากย้อนแสงเพื่อใช้ Auto HDR ได้ค่อนข้างเก่งเลยครับ และที่เวลาถ่ายใต้หลอดไฟ LED ที่มักจะเกิดไฟกะพริบ ก็จะได้เซ็นเซอร์ Flicker เข้ามาช่วยในเรื่องนี้ที่จะตรวจจับแสงและแก้ไขในจุดนี้ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ถ่ายได้กว้างขึ้นด้วยกล้อง Ultra-Wide 120 องศา
เลนส์มุมกว้างที่ให้มาในรุ่นนี้จะอยู่ที่ 120 องศา แม้ว่าดูตัวเลขจะไม่ได้เยอะมาก แต่พอใช้งานจริงก็ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดเพราะยังคงเก็บองค์ประกอบได้ครบถ้วนตามต้องการ และเป็นความกว้างที่พอดีมากๆ ช่วยให้ขอบขอบไม่โค้งจนทำให้วัตถุมีมุมมองที่ผิดเพี้ยนไปครับ
ถ่าย Portrait ได้เก่ง พร้อม Bokeh Flare Portrait ที่ถ่ายสนุกขึ้น
ตัวชูโรงทุกรุ่นของ vivo คือการถ่ายภาพ Portrait ที่ทำได้เก่งจริงๆ ครับ ด้วยการตัดขอบที่ค่อนข้างเนียนเลยในรุ่นนี้ พร้อมการปรับแต่งความบิวตี้ได้เนียนแบบเป็นธรรมชาติครับ ทั้งยังถ่ายได้สนุกมากขึ้นด้วย Bokeh Flare Portrait ที่สามารถปรับดวงไฟโบเก้ให้เป็นรูปแบบอื่นอีก 4 แบบนอกเหนือจากรูปวงธรรมชาติได้ด้วย ได้แก่ หัวใจ ดาว ผีเสื้อ และซากุระ
Super Night Mode ถ่ายภาพกลางคืนได้ชัดและรองรับทุกเลนส์ !
โหมถ่ายภาพกลางคืนก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในรุ่นนี้ครับ ปรับเพิ่มความสว่างและไฮไลท์ของวัตถุให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมใช้งานได้ทั้งเลนส์หลักและ Ultra-Wide เลยด้วย นับว่าถ่ายได้สวยสำหรับรุ่นราคาประหยัด ทั้งยังมีลูกเล่นเป็น Stylish Night Filters อีกหลายแบบเลยครับ
ถ่ายเซลฟี่สวยด้วยกล้อง 8MP
ในการถ่ายเซลฟี่ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีครับ ด้วยการรองรับการถ่ายแบบโหมด Portrait ที่ละลายหลังสวยงาม อาจจะยังไม่เนียนมากแต่ปรับความสวยงามบนใบหน้าได้ดี แต่จุดสังเกตคือเรื่องของความละเอียดที่อาจจะยังไม่ได้สูงมาก แนะนำให้ถ่ายในที่แสงกลางแจ้งหรือในที่ที่แสงแดดครับ
สรุปการใช้งาน vivo Y100 5G
สรุปแล้ว vivo Y100 5G คือสมาร์ตโฟนที่ให้เรา “สนุกกับสเปกเต็ม 100” ได้จริงๆ ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลที่ได้มาจัดเต็ม AMOLED FHD+ 120Hz พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว และยังใช้ขุมพลัง Snapdragon 4 Gen 2 ที่รองรับ 5G เข้ามาใช้งาน ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมเบาๆ ก็ทำได้ไหลลื่นมากแล้วครับ ขณะที่แบตเตอรี่ก็จัดเต็มในระดับเรือธงคือให้มาถึง 5000mAh แถมชาร์จไว 80W FlashCharge ส่วนกล้องหลังที้่แม้จะให้มา 2 เลนส์แต่ก็ยังใส่ลูกเล่นตามสไตล์ vivo เข้ามาเพียบ และยังคงชูจุดเด่นในเรื่อง Portrait ได้ดีเหมือนเดิมครับ
และที่ขาดไม่ได้คือดีไซน์ทั้ง 2 สี คือ สีดำ (Crystal Black) และสีม่วง (Leather Purple) ที่มีให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้นจริงๆ แม้จับรุ่นเริ่มต้นอยู่ก็ตาม และความพิเศษยังเป็นวัสดุหนังเทียมไฟเบอร์รุ่นแรกของ vivo Y Series ในสีม่วงด้วยครับ
ราคาและวันวางจำหน่าย vivo Y100 5G
vivo Y100 5G มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Crystal Black) และสีม่วง (Leather Purple โดยมีราคาในรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB อยู่ที่ 9,999 บาท โดยเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2567 จะได้รับ E-VIP Card มูลค่า 5,999 บาท รับประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก
