Featured
รีวิว Vivo Y12 สมาร์ตโฟน 3 กล้องหลัง AI และแบตอึด 5000mAh ราคาไม่ถึง 5,000 บาท
Vivo Y12 สมาร์ตโฟนราคาประหยัดเพียง 4,999 บาท แต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด มาพร้อมหน้าจอแสดงผล 6.35 นิ้ว Halo FullView Display โดดเด่นด้วยกล้องหลัง 3 ตัวที่มี AI ช่วยให้การถ่ายออกมาสวย และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานได้ยาวนานข้ามวัน
สรุปข้อมูลและสเปค Vivo Y12
- ราคาเปิดตัว 4,999 บาท (กรกฎาคม 2019)
- ขนาดตัวเครื่อง 159.43 × 76.77 × 8.92 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 190.5 กรัม
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.35 นิ้ว LCD HD+ (ความละเอียด 1544 × 720 พิกเซล) อัตราส่วน 19.3:9
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 (Android 9 Pie)
- ชิพเซ็ต Mediatek Helio P22 MT6762
- แรม 3GB ความจุตัวเครื่อง 32GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 3 เลนส์ : เลนส์หลัก 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- Wi-Fi 2.4GHz + 5GHz, Bluetooth 5.0, microUSB, GPS
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง และปลดล็อกด้วยใบหน้า
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Vivo Y12, คู่มือการใช้งาน, สาย USB, หัวชาร์จแบตเตอรี่, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม และเคส
ด้านการดีไซน์ของ Vivo Y12 มาพร้อมกับสีสันตัวเครื่องแบบใหม่ โดยการไล่ระดับเฉดสีที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของแสงที่กระทบบนพื้นผิวทะเลสาบ เกิดแสง และเงาสะท้อนขึ้นมา มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aqua Blue และ Burgundy Red
สำหรับสีที่ใช้ในบทความรีวิวนี้เป็นสี Burgundy Red เป็นการเปลี่ยนสีของธรรมชาติของสีแดงเข้มและสีดำที่ผสานรวมกันได้อย่างลงตัว และสะท้อนมุมมองของแสงที่แตกต่าง ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหราสวยงามในทุกมุมมอง
เลนส์กล้องด้านหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ความละเอียด 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล จัดเรียงในแนวตั้ง พร้อมแฟลช LED และกรอบเลนส์นูนขึ้นมาเหนือฝาหลังเล็กน้อย โดยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บริเวณกลางหลังของตัวเครื่อง
อีกหนึ่งจุดด้านดีไซน์ที่ทำให้ด้านหลังดูสวยงามมากขึ้นคือการตัดกรอบเลนส์ด้วยสีทอง และมีความมันเงาสะท้อนแสงให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
ขนาดหน้าจอของ Vivo Y12 อยู่ที่ 6.35 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19.3:9 ขยายพื้นที่ด้านหน้าให้เต็มไปด้วยหน้าจอแสดงผลที่เรียกว่า Halo FullView Display ซึ่งการดีไซน์แบบใหม่นี้ทำให้รอยบากมีขนาดที่เล็กลง ได้พื้นที่หน้าจอมากขึ้น
บริเวณรอยบากรูปหยดน้ำจะมีเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ต่างๆ รวมถึงช่องลำโพงสำหรับเสียงโทรศัพท์จะถูกซ่อนอยู่ที่ขอบตัวเครื่อง ทำให้พื้นที่ด้านหน้าดูสะอาดตาและกลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด
ซอฟต์แวร์และฟังก์ชั่นการใช้งาน
Vivo Y12 รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 (บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie) แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งมากับตัวเครื่องจะถูกจัดเรียงไว้ในหน้าจอโฮมทั้งหมด
แถบบาร์ด้านบนเมื่อลากลงมาจะเป็นในส่วนของ Notifications แสดงรายการแจ้งเตือนต่างๆ และมีช่องค้นหาเพื่อให้ผู้ใช้งานค้นหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น ในขณะที่การลากจากขอบล่างหน้าจอขึ้นมาจะเป็นในส่วนของ Quick Settings สำหรับการเลือกเปิด/ปิดหรือปรับค่าต่างๆ
ตัวเครื่องรุ่นนี้รองรับเครือข่าย 4G และเปิดใช้งาน VoLTE ได้ ซึ่งเป็นการส่งข้อมูลเสียงหรือการโทรด้วยความเร็วสูงผ่านสัญญาณ 4G ที่ให้คุณภาพเสียงขณะคุยกันมีความคมชัดมากขึ้น สามารถใช้เน็ตไปพร้อมๆ กันการโทรได้อย่างไม่มีปัญหา
การเชื่อมต่ออื่นๆ รองรับ Wi-Fi ทั้ง 2.5GHz และ 5GHz ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมากในปัจจุบันสำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ที่เร็วแรงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับเวอร์ชั่น 5.0 และพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0 (รองรับ OTG ด้วย) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกตัวอื่นๆ ได้
Vivo Y12 ได้เพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดปุ่มนำทางบนหน้าจอแบบเดิม ให้เปลี่ยนไปใช้ท่าทางการนำทางได้ ซึ่งจะทำให้มุมมองบนหน้าจอไม่ถูกปุ่มเมนูมาบดบัง โดยมีรูปแบบท่าทางการใช้งานดังนี้
-
- ลากจากขอบด้านล่างขึ้นจากตำแหน่งปุ่มด้านซ้าย เพื่อแสดงแผงเมนูศูนย์ควบคุม
- ลากจากขอบด้านล่างขึ้นจากตำแหน่งปุ่มตรงกลาง เพื่อกลับไปยังหน้าโฮม (เหมือนปุ่มโฮม)
- ลากจากขอบด้านล่างขึ้นจากตำแหน่งปุ่มด้านขวา เพื่อกลับไปยังหน้าจอก่อนหน้าตามลำดับ (เหมือนปุ่ม Back)
- ลากจากขอบด้านล่างขึ้นจากตำแหน่งปุ่มตรงกลางแล้วค้างนิ้วเอาไว้บนหน้าจอ เพื่อเข้าสู่หน้าจอ App Switcher แสดงรายการแอพที่เปิดใช้งานอยู่เบื้องหลังทั้งหมด
สำหรับหน้าจอของ Vivo Y12 มีขนาด 6.35 นิ้ว อัตราส่วนจอแสดงผล 19.3:9 ทำให้มีพื้นที่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้การเล่นเกมหรือดูหนังได้ภาพที่ใหญ่เต็มตามากขึ้น
Vivo Y12 มี AI เข้ามาช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เริ่มจากแอปแกลเลอรี่ที่สามารถระบุประเภทภาพถ่ายแล้วแยกเป็นหมวดหมู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคล ภาพเซลฟี่ ทิวทัศน์ อาหาร หรือแบ่งตามตำแหน่ง GPS เป็นต้น
Jovi ผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้ามาช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยข้อมูลที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานจะถูกรวบรวมแสดงไว้ที่ Jovi Smart Scene เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกดูทุกอย่างในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนสภาพอากาศ ตารางนัดหมาย ผลการแข่งขันกีฬา และนับก้าวเดิน เป็นต้น
Vivo Y12 สามารถเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะจาก Google ซึ่งปัจจุบันรองรับคำสั่งเสียงภาษาไทย สามารถสั่งการได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะสั่งให้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เปิดเครื่องเล่นเพลง ส่งข้อความ เปิดแอพต่างๆ หรือเรียกใช้งาน GPS นำทาง เป็นต้น
Vivo Y12 มีระบบยืนยันตัวตนด้วยปุ่มสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง จากการใช้งานพบว่าอ่านลายนิ้วมือและประมวลผลได้รวดเร็วดี
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ใช้ปลดล็อกหน้าจอคือระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า เพียงยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาก็สามารถปลดล็อกเข้าใช้งานได้ทันที เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นหากเราไม่สามารถปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Vivo Y12 ใช้ชิพประมวลผล MediaTek MT6762 Helio P22 ที่มีกระบวนการผลิตขนาด 12 นาโนเมตร โดยซีพียู Octa-core 2.0GHz Cortex-A53 เน้นประสิทธิภาพการทำงานพร้อมกับประหยัดพลังงานได้ดีมากขึ้น และมาพร้อมกับแรม 3GB โดยผลการทดสอบ AnTuTu เป็นการทดสอบภาพรวมของการทำงานในส่วนของหน่วยความจำแรม และประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือจีพียู ทำคะแนนรวมได้ 78,420 คะแนน
ผลการทดสอบด้วย Geekbench 4 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานและการประมวลผล การทดสอบนี้จะทำการประมวลออกมาเป็นตัวเลขแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ Single-Core และ Multi-Core หากได้คะแนนยิ่งสูงประสิทธิภาพการทำงานจะยิ่งดี โดยผลทดสอบของ Vivo Y12 ทำคะแนน Single-Core ได้ 832 คะแนน และ Multi-Core ทำได้ 3,561 คะแนน
การเพิ่มประสิทธิในการเล่นเกมนั้น Vivo Y12 มาพร้อม Ultra Game Mode ซึ่งเมื่อเข้าเกมครั้งแรกฟีเจอร์นี้จะขึ้นมาแนะนำว่าทำอะไรได้บ้าง ซึ่งหลักๆ ก็จะช่วยเตรียมความพร้อมทั้งตัวซีพียูและจีพียูสำหรับการเล่นเกม และปิดกั้นการรบกวนในขณะที่กำลังเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียงรบกวนจากสายโทรเข้าหรือข้อความที่เข้ามา เพื่อให้การเล่นเกมมีความลื่นไหล ไม่สะดุด
ทุกครั้งที่เปิดเข้าเล่นเกม Ultra Game Mode จะทำงานอัตโนมัติโดยทำการเตรียมซีพียูและหน่วยความจำเครื่องให้พร้อมสำหรับการเล่นเกม และมีโหมด Competition Mode สำหรับการเล่นระดับมืออาชีพแบบ eSport ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วของเกม และลดปัญหาเฟรมเรตตก ให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น
ทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สุดยอดเกมแอ็คชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาด้วย Unreal Engine 4 เป็นเกมที่มีภาพและกราฟิกที่สวยงามมาก สามารถเล่นได้ปกติในโหมดสมดุล ซึ่งชิปเซ็ต Helio P22 ที่มีกราฟิก PowerVR GE8320 รวมไปถึง Dual-Turbo ก็เพียงพอให้การเล่นเกมกราฟิกสวยๆ ทำได้ไม่แพ้สมาร์ตโฟนรุ่นแพงๆ
Vivo Y12 รองรับการเล่นเกม ROV ในโหมดเฟรมเรตสูง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสมาร์ตโฟนราคาต่ำกว่า 5 พันบาทจะรองรับความสามารถนี้ และรองรับโหมดภาพระดับ HD ที่จะเห็นภาพคมชัดมากขึ้นด้วย โดยมุมมองของภาพเกมก็จะได้มุมที่กว้างมากขึ้นด้วยเพราะสัดส่วนหน้าจอที่ยาว แต่อาจมีอาการกระตุกบ้างเล็กน้อยในฉากที่ต้องเข้าร่วมทีมไฟต์ ซึ่งโดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีเกินราคาหากนับฟีเจอร์ทั้งหมดที่มีให้ในรุ่นนี้
ทดสอบเล่นเกม Asphalt 9 : Legends เกมแข่งรถภาคใหม่ล่าสุดจาก Gameloft ที่มีการออกแบบมาเพื่อให้ประสบการณ์เกมคอนโซลที่สมจริงและภาพกราฟิกที่สวยงามมากขึ้นด้วยเทคนิค HDR ก็สามารถเล่นได้ ภาพสวยเต็มตามากๆ
สำหรับแบตเตอรี่ 5000mAh ถือว่าให้มาเยอะมากเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในระดับราคาเดียวกัน จากการใช้งานทั่วไป สามารถอยู่ได้ยาวนานเกิน 1 วัน โดยเปิดกล้องถ่ายรูปไปร้อยกว่ารูป เล่นโซเชียล และเล่นเกมเกือบ 2 ชั่วโมง ตอบโจทย์ผู้ที่เน้นการใช้งานทั่วไปตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องพก Power Bank
กล้องถ่ายรูป
Vivo Y12 มาพร้อม AI Triple Camera กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล, กล้อง 8 ล้านพิกเซล Super Wide-Angle และ 2 ล้านพิกเซล Depth Camera
Auto Mode
Vivo Y12 กล้องหลักมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยการถ่ายภาพใน Auto Mode ทำได้ง่ายๆ แค่ยกกล้องขึ้นมา แล้วเลือกจุดโฟกัส จากนั้นก็กดปุ่มชัตเตอร์ได้เลย ซึ่งภาพที่ออกมานั้นถือว่าสวยงาม คมชัดใช้ได้เลยหากเทียบกับกล้องมือถือในระดับราคาไม่เกิน 5 พันบาท
Super Wide-Angle Camera
สำหรับ Super Wide-Angle Camera เป็นการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษด้วยกล้อง 8 ล้านพิกเซลที่ให้มุมกว้างถึง 120 องศา สามารถเก็บภาพบุคคลเป็นกลุ่ม และภาพวิวทิวทัศน์ได้กว้างขึ้น โดยไม่ต้องถือกล้องถอยห่างอีกต่อไป
ถ่ายภาพ Portrait ด้วยโหมดเปิดรูรับแสง
การถ่ายภาพ Portrait ด้วยโหมดเปิดรูรับแสง เป็นการใช้ทั้งฮาร์ดแวร์คือตัวกล้องหลัก + Depth Camera และซอฟต์แวร์กล้องทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นว่าภาพที่ได้มีการละลายฉากหลังได้ค่อนข้างเนียนมากๆ แทบจะใกล้เคียงกับการถ่ายด้วยสมาร์ตโฟนราคาแพงๆ
ภาพที่ถ่ายด้วยโหมดนี้ยังสามารถปรับค่ารูรับแสง (f) ได้ทั้งขณะถ่ายและหลังจากถ่ายได้ด้วย อยากให้จุดไหนชัดหรืออยากให้ฉากหลังเบลอมาก เบลอน้อย ก็ปรับเองได้เลย
นอกจากนี้แล้ว กล้องหลังก็มีโหมด Face Beauty ที่ช่วยให้ใบหน้ามีความสวยเนียน ปรับใบหน้าให้ออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติด้วย
กล้องหน้า 8 ล้าน AI Face Beauty
กล้องหน้าของ Vivo Y12 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/1.8 เก็บแสงได้สว่างมากขึ้น พร้อมด้วย AI Face Beauty ที่สามารถปรับแต่งรูปภาพได้อัตโนมัติ เพื่อให้รูปหน้าออกมาสวยงามที่สุดโดยที่ยังเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญสำหรับยุคนี้คือถ่ายแล้วแชร์ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งให้ยุ่งยาก
สรุปจุดเด่น
- Vivo Y12 เป็นสมาร์ตโฟนที่หน้าจอขนาดใหญ่ 6.35 นิ้ว Halo FullView Display เห็นภาพได้ใหญ่เต็มตาทั้งการดูหนังและเล่นเกม
- รันระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 9 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง
- แรม 3GB ความจุ 32GB ใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัวที่มี AI ช่วยให้การถ่ายภาพออกมาสวย และสามารถถ่ายภาพมุมกว้าง Super Wide-Angle และถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มี AI Face Beauty เซลฟี่สวย แชร์ได้ทันที ไม่ต้องแต่งรูปให้ยุ่งยาก
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ใช้งานทั่วไปได้ยาวนานข้ามวัน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ไม่มีหูฟังให้ในกล่อง