Smart Review
รีวิว Vivo Y15 2020 น้องเล็กแบตเตอรี่พันธุ์อึด 5000mAh จอใหญ่ 6.35 นิ้ว พร้อมกล้อง AI 3 เลนส์อัจฉริยะ ถ่ายมุมกว้างได้แบบงามๆ
Vivo Y15 2020 สมาร์ทโฟนน้องเล็ก ชูโรงด้วยพลังกล้อง AI 3 เลนส์ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล ควบคู่กับเลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา และ Depth ช่วยให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้น ทั้งยังมีหน้าจอใหญ่ 6.35 นิ้ว และแบตเตอรี่ที่แสนอึดถึง 5000mAh รับรองว่าใช้งานได้เต็มวันแน่นอน
สรุปสเปค Vivo Y15 2020
- ขนาดตัวเครื่อง : 159.43 × 76.77 × 8.92 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 190.5 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Halo FullView Display แบบ LCD กว้าง 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1544 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 19.3:9 และมีพื้นที่การแสดงผล 89%
- หน่วยประมวลผล : Mediatek Helio P22 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
- RAM 4 GB
- ROM 64 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 512GB
- ระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับ AI Face Beauty
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4G + 5G, Bluetooth 5.0, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต Micro USB 2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
มาเริ่มเปิดกล่องกันเลยดีกว่าครับ โดยตัวกล่องก็มาในรูปทรงสี่เหลี่ยมปกติ มีชื่อรุ่นบอกที่ตรงกลางพร้อมด้วยความจุที่มุมขวาบน และสเปคบางส่วนที่เป็นตัวชูโรงที่ด้านหลัง
โดยภายในมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- ตัวเครื่อง Vivo Y15 2020 พร้อมติดฟิล์มกันรอยให้เรียบร้อย
- อะแดปเตอร์
- สาย Micro USB 2.0
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ด้านดีไซน์แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็กแต่ Vivo Y15 2020 ยังมีความสวยงามในเรื่องของสีเช่นเคย โดยสีที่เราได้มารีวิว คือ สีแดง (Burgundy Red) ที่มีความเข้มขรึมของตัวเครื่อง มีการไล่เฉดสีจากแดงจากด้านล่างขึ้นไปข้างบนเป็นสีดำอย่างสวยงามมากๆ และมีการเล่นสีสะท้อนแสงในมุมต่างๆ เกิดเป็นลวดลายและเส้นตรงกับที่ฝาหลังอย่างสวยเลยทีเดียว ส่วนอีกสีก็จะเป็นสีดำ Phantom Black ที่มีความคลาสสิกภายในตัวครับ
หน้าจอแสดงผลของรุ่นนี้มาก็มาแบบทรงหยดน้ำหรือในชื่อ Halo FullView Display ที่ให้หน้าจอใหญ่ถึง 6.35 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD+ แถมมีพื้นที่การแสดงผลอยู่ที่ 89% ทำให้ใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูวิดีโอ หรือดู MV ก็ได้อรรถรสไปเต็มตาแน่นอน
แม้ว่าจะมีหน้าจอที่ค่อนข้างใหญ่ที่ 6.35 นิ้ว แต่เรื่องการจับถือต่างๆ ก็ยังสะดวกอยู่ สามารถถือได้มือเดียวแบบสบายๆ ครับ
มาดูรอบตัวเครื่องกันครับ เริ่มด้วยบริเวณเหนือหน้าจอแสดงผลอย่างที่บอกไปคือจะมีหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าลงไป โดยมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ด้านบน พร้อมการระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้กัน
ทางซ้ายตัวเครื่องจะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM จำนวน 2 ช่อง และ MicroSD Card อีก 1 ช่อง
ส่วนทางขวาจะมีปุ่มต่างๆ มาให้เหมือนเดิมทั้งปุ่มล็อคเครื่อง และเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟน, พอร์ต Micro USB 2.0 และลำโพงตัวหลัก
และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้อง 3 เลนส์แนวตั้งที่มุมซ้ายบน พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ที่อยู่ถัดลงมา และก็มีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่กลางเครื่องครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฎิบัติการ
Vivo Y15 2020 แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 9 ที่ช่วยให้ใช้งานได้ไหลลื่นยิ่งขึ้น ทั้งยังมีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผลให้การทำงานราบรื่นไม่มีสะดุด โดยการทำงานทั่วไปก็เหมือนเดิมครับ ปัดลงเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ หรือปัดขึ้นจากจอส่วนลงเพื่อเข้าส่วนการตั้งค่าด่วน
ใครอยากเปลี่ยนวอลเปเปอร์ให้พื้นหลังของหน้าจอหลักและหน้าล็อคเข้ากับสีตัวเครื่องก็ได้เช่นกันครับ โดยสามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ทั้งในส่วนของการตั้งค่า หรือแอปพลิเคชั่น “ธีม” ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง
พื้นที่คงเหลือหลังแกะกล่อง
ด้วย ROM ที่ให้มา 64GB ตัวของ Vivo Y15 2020 นั้นเหลือให้ใช้งานจริงอยู่ที่ประมาณ 53GB โดยความจุคงเหลือนี้เราอัปเดทแอปพลิเคชั่นทั้งหมดแล้วเรียบร้อยครับ
โหมดถนอมสายตา
Vivo Y15 2020 มาพร้อมกับฟีเจอร์ถนอมสายตาเพื่อตัดแสงสีฟ้าให้ได้มากที่สุดเพื่อรักษาสายตาของเรา โดยเราสามารถปรับโทนสีหรือความอุ่นได้ตามใจชอบครับ
หรือหากใครไม่อยากตัดแสงสีฟ้าก็สามารถเปิดโหมดมืดยังรับภาพต่างๆ ที่มีสีสันแต่พื้นหลังเป็นสีดำเพิ่มความสบายตาในตอนกลางคืนได้เช่นกัน
ระบบความปลอดภัยก็มีครบ
Vivo Y15 2020 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยทั้งแบบการสแกนลายนิ้วมือที่ทำได้รวดเร็วมากๆ แค่แตะก็ปลดล็อคทันที ทั้งยังสามารถเพิ่มได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือด้วย
ส่วนการสแกนใบหน้าก็ทำให้รวดเร็วไม่แพ้กันครับ หากเราจ้องไปที่กล้องเพื่อเตรียมปลดล็อคอยู่แล้ว เพียงแค่กดปุ่มล็อคเครื่องก็เหมือนจะเข้ามาหน้าหลักทันที แทบไม่เห็นหน้าจอล็อคเลย เรียกว่าสแกนได้เร็วมากๆ
เพิ่มความสะดวกสบายด้วยปุ่ม Easy Touch
มีมาใน Vivo ทุกรุ่นสำหรับฟีเจอร์ Easy Touch ที่ช่วยให้ให้เราเข้าถึงเมนูต่างๆ ต่างอย่างรวดเร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นที่เราใช้งานบ่อย หรือจะเป็นในส่วนการทำงานของระบบ เช่น เครื่องคิดเลข, การจดบันทึก หรือแคปภาพหน้าจอ เป็นต้นครับ
โคลนแอป
การใช้งานโคลนแอปก็เป็นการทำงานตามชื่อเลยครับ คือ การเพิ่มอีก 1 แอปเข้ามาให้เราใช้งาน โดยเฉพาะแอปโซเชียลมีเดียที่สามารถเข้าใช้งานได้ 2 บัญชี เช่น Line, Facebook หรือ IG เป็นต้น ยิ่งถ้าเป็น Line ก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกของ 2 บัญชีที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงครับ ไม่มีทับกันแน่นอน
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Vivo Y15 2020 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Mediatek Helio P22 Octa Core ความเร็ว 2.0GHz ควบคู่กับ RAM 4GB + ROM 64GB ที่ทำให้เราเก็บข้อมูลได้ครบ รวมถึงยังทำงานได้ไหลลื่นและต่อเนื่องจาก RAM ที่มีให้ 4GB ก็เพียงพอกับการใช้งานสลับแอปไปมาโดยไม่ต้องมาคอยโหลดใหม่ด้วย
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำได้ไปได้ที่ 96,160 คะแนน
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 156 และคะแนน Multi-Core ที่ 810
เล่นเกมได้ไม่มีสะดุดด้วยฟีเจอร์ Ultra Game Mode
Ultra Game Mode ก็เป็นอีกฟีเจอร์ที่ช่วยเรื่องการเล่นเกมใน Vivo Y15 2020 ให้ไหลลื่นยิ่งขึ้นมากๆ ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU ให้ทำงานได้เต็มที่ พร้อมด้วยการเคลียร์ RAM ทำให้เข้าเกมได้ไวและไม่มีสะดุดครับ แถมสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือนต่างๆ ที่อาจรบกวนเราขณะเล่นได้ด้วย
ทดสอบการเล่นเกม
เราทดสอบการเล่นเกม 3 เกมหลักๆ ครับ ทั้ง ROV, PUBG Mobile และ Garena: Speed Drifters โดยผลการทดสอบเกมต่างๆ มีดังนี้เลย
ROV
เกม ROV เราตั้งค่ากราฟิกระดับสูง, ภาพ HD ระดับมาตรฐาน และเฟรมเรทสูง โดยเราเล่นทั้งโหมด 5 VS 5 ทั้งหมดเล่นได้แบบไหลลื่นมากๆ ไม่มีสะดุดครับ ความรู้สึกของการทัชหน้าจอก็ทำได้ดี ไปตามนิ้ว ซึ่งเฟรมเรทอาจมีเหวี่ยงบ้างเล็กน้อยครับ แต่ไม่ส่งผลต่อการเล่นเท่าไหร่ แต่ใครไม่อยากให้เหวี่ยงมากก็ปิดเฟรมเรทสูงให้อยู่ที่ 30fps ได้เหมือนกัน
Call of Duty: Mobile
ต่อมากับเกม Call of Duty: Mobile เราเปิดกราฟิกในระดับ Low และเฟรมเรทระดับสูง (HIGH) โดยเข้าไปเล่นในโหมด Battle Royale 100 คน โดยการเล่นต่างๆ ทำได้ไหลลื่น ตั้งแต่การกดยิง การหมุนหรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ครับ
Garena: Speed Drifters
และเกมสุดท้ายอย่าง Garena: Speed Drifters เกมขับรถเบาๆ กันบ้าง โดยเราภาพกราฟิกระดับสูงสุดไว้ทั้งหมด รวมถึงระดับเฟรมเรทด้วยเช่นกัน โดยเล่นต่อเนื่องกับทั้ง 2 เกมด้านบน ตัวเกมก็ไม่มีอาการกระตุกไม่ว่าจะตอนเร่งหรือตอนดริฟครับ เรียกว่าเล่นได้สบายๆ หายห่วงเลย
แบตเตอรี่อึดเกินคำบรรยาย
หนึ่งในตัวชูโรงของ Vivo Y15 2020 คือเรื่องแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5000mAh และจากที่เราทดสอบเกม 3 เกมข้างต้นจากแบตเตอรี่ 100% เป็นเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง ก็ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 80% เท่านั้นครับ ซึ่งหากคิดตามระยะเวลานี้ เราสามารถเล่นเกมได้ต่อเนื่องเกินครึ่งวันแน่นอน แต่หากใครที่เป็นสายโซเชียล รับรองว่าเหลือแบตเตอรี่เพียงพอให้กลับมาชาร์จต่อที่บ้านครับ
กล้องถ่ายรูป
เรื่องการถ่ายรูปของ Vivo Y15 2020 ก็จัดมาให้ใช้งานแบบครบครันถึง 3 เลนส์ ได้แก่
- เลนส์หลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Super Wide-Angle 120 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วนกล้องหน้าก็มีมาให้ 1 เลนส์ตามปกติความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 โดยฟีเจอร์หลักๆ มีให้ใช้งานดังนี้
เลนส์หลัก AI ถ่ายสวยงามแบบอัตโนมัติ
ด้วยเลนส์หลักของ Vivo Y15 2020 ก็มี AI อัจฉริยะเพื่อช่วยช่วยจับวัตถุต่างๆ ให้เราได้ภาพที่มีสีสันสดใส เฉดสีเหมาะสมกับแต่ละสิ่งที่ถ่ายไว้ครับ ซึ่งตรงนี้เราเพียงแค่ให้ AI ประมวลผลเท่านั้น ส่วนเราก็มีหน้าที่แค่กดชัตเตอร์ก็พอ
Portrait เบลอหลังได้เนียน
แม้ว่าจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ด้วยเลนส์ Depth ที่มีมาให้ ทำให้เราถ่ายภาพ Portrait แบบเบลอฉากหลังได้ดียิ่งขึ้น สามารถทำได้เนียนๆ แทบไม่เห็นส่วนไหนของร่างกายกลืนไปกับพื้นหลังเลยด้วย ถือว่าทำได้ดีมากๆ ในราคาระดับนี้ โดยความพิเศษของการถ่าย Portrait ยังสามารถปรับฉากหลังให้เบลอเพิ่มเติมได้ด้วยซอฟต์แวร์กว้างสุดถึง F0.95 และแคบสุดถึง F16 (F น้อยยิ่งเบลอหลังเยอะ)
ถ่ายมุมก็ได้ครบผ่านเลนส์ Super Wide-Angle
Vivo Y15 2020 ยังมีเลนส์ถ่ายมุมกว้าง หรือ Super Wide-Angle มาให้ด้วย ทำให้เราถ่ายได้มุมกว้างถึง 120 องศา ซึ่งเป็นองศาเบอร์ต้นๆ ของสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว โดยภาพที่ได้ออกมายังคงมีเฉดสีที่ไม่ค่อยต่างจากเลนส์หลักครับ ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีเลย คือ เฉดสีครบ สีสันมาเต็ม แต่ให้ภาพที่กว้างกว่าเลนส์หลักชัดเจน
เปิด Super Wide-Angle / ปิด Super Wide-Angle
เท่านี้ยังไม่พอครับ เลนส์ Super Wide-Angle ยังสามารถใช้ถ่ายบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนกัน นั่นก็ยิ่งทำให้คนดูมีมิติและดูสูงสง่ามากขึ้นด้วย ไม่ต้องกลัวว่าคุณผู้หญิงจะถ่ายออกมาแล้วต้องเรียกเราไปถ่ายใหม่
ใบหน้าสวยง่ายด้วยฟีเจอร์ AI Face Beauty
กล้องหน้าของ Vivo Y15 2020 มาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับใบหน้าสวยงามอย่าง AI Face Beauty ที่เปลี่ยนจากผิวไม่เนียนเป็นผิวเนียนได้ง่ายแบบอัตโนมัติด้วย AI หรือจะปรับเองตั้งแต่ 1-6 ระดับก็ได้เช่นกัน ทั้งยังสามารถปรับรูปใบหน้าต่างๆ ได้เองด้วยเหมือนกันหลังการถ่าย
นอกจากนี้ ก็ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกเล่นหลาย 10 แบบไปเลยครับ เช่น เกรปฟุต, มินต์, แชมเปญ, หมอก, อบอุ่น, ชุ่มฉ่ำ, หอมหวาน หรือผ่อนคลาย เป็นต้น
สรุปจุดเด่น
- กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 13 + 8 + 2 ล้านพิกเซล พร้อม AI และเลนส์ Super Wide-Angle
- กล้องหน้ามีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ AI Face Beauty
- หน้าจอใหญ่แบบ Halo FullView Display ขนาด 6.35 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ ใช้งานได้เต็มตา
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามเกินราคา
- หน่วยประมวลผลตัว Helio P22 Octa Core ควบคู่กับ RAM 4GB + ROM 64GB ใช้งานได้ไหลลื่นและจุได้เยอะ
- แบตเตอรี่สุดอึดถึง 5000mAh ใช้งานได้ทั้งวันแน่นอน
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ยังใช้พอร์ต Micro USB 2.0 อยู่
- ไม่มีหูฟังภายในกล่อง
สำหรับ Vivo Y15 2020 ในสเปคและฟีเจอร์ระดับถือว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคาเพียง 4,999 บาทเท่านั้น โดยสามารถหาซื้อได้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ