รีวิว vivo Y18 l Y28 สมาร์ตโฟน 2 รุ่นเล็ก แบตอึด 6000mAh l RAM 8GB + 8GB l ดีไซน์ทันสมัย

รีวิว vivo Y18 และ vivo Y28 สมาร์ตโฟน 2 รุ่นเล็กของ vivo ที่มีสเปคคล้ายกัน พร้อมได้ดีไซน์ทันสมัยทั้งคู่ รวมถึงสเปคที่คุ้มค่าคุ้มราคา ได้กล้องคมชัดสูง 50MP และยังได้แบตอึด 6000mAh สำหรับรุ่น Y28 และ 5000mAh สำหรับ Y18 เหมาะพกไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ยาวนานตลอดทั้งวัน

สรุปสเปค vivo Y18

• ขนาดตัวเครื่อง (สีน้ำตาล Mocha Brown) : 163.63 × 75.58 × 8.39 มม.
• ขนาดตัวเครื่อง (สีฟ้า Wave Aqua) : 163.63 × 75.58 × 8.53 มม.
• น้ำหนัก : 185 กรัม
• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล), รองรับ Refresh Rate 90Hz ความอิ่มตัวของสี 83% NTSC, 269 PPI และความสว่างสูงสุด 1000 นิต
• หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G85 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
• GPU : Mali-G52 MC2
• RAM : 8GB LPDDR4X
• ROM : 128GB eMMC 5.1 รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
  • เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์เสริม 0.08MP รูรับแสง f/3.0
• กล้องหน้า 8MP รูรับแสง f/2.0
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W

สรุปสเปค vivo Y28

• ขนาดตัวเครื่อง : 165.7 x 76.0 x 8.09 มม.
• น้ำหนัก : 199 กรัม
• หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.68 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล), รองรับ Refresh Rate 90Hz
• CPU : MediaTek Helio G85 Octa-core ความเร็ว 2.0GHz
• GPU : Mali-G52 MC2
• RAM : 8GB LPDDR4X
• ROM : 128GB eMMC 5.1 รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1TB
• กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 2 เลนส์ดังนี้
  • เลนส์หลัก 50MP, รูรับแสง f/1.8
  • เลนส์เสริม 2MP รูรับแสง f/3.0
• กล้องหน้า 8MP รูรับแสง f/2.0
• ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14
• รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5.0 และพอร์ต USB Type-C
• แบตเตอรี่ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge

แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล

แกะกล่อง vivo Y18 และ vivo Y28

สำหรับกล่องของ vivo Y18 และ vivo Y28 จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยในรุ่นเล็กอย่าง vivo Y18 จะมีขนาดที่เล็กกว่าอย่างชัดเจน เพราะมีบางอย่างที่ไม่ได้ให้มาด้วย !

สิ่งที่ให้มาในกล่องของทั้ง 2 รุ่นนี้เกือบเหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่ตัวเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว

พร้อมด้วยคู่มือการใช้งานและคู่มือการรับประกันสินค้า พร้อมเคสใสมาแล้ว และท้ายสุดจะมีสาย USB-C และเข็มเปิดถาดซิมมาให้ครับ ส่วนอะแดปเตอร์จะให้มาเพียงรุ่น vivo Y28 ที่เป็นแบบ 44W FlashCharge ตามสเปคเครื่องเลย ส่วน vivo Y18 จะไม่ได้แถมมาให้นะ

ดีไซน์ทันสมัยและเรียบง่าย

ดีไซน์ของ vivo Y18 และ vivo Y28 จะได้ความทันสมัยและความสดใสเหมือนกันทั้งคู่ แต่อาจจะแตกต่างกันเล็กๆ ในโมดูลของกล้องหลัง รวมถึงขนาดของตัวเครื่องอยู่บ้าง เดี๋ยวเราพามาดูกันไปทีละรุ่นเลยครับ !

เปิดตัวรุ่นเล็ก vivo Y18 กัน โดยมาในดีไซน์ที่เรียบง่าย แสดงให้เห็นถึงสไตล์ความเป็นมินิมอลแต่สวยงาม โดยสีที่เราได้มาเป็นสีไฮไลท์อย่างสีฟ้า Wave Aqua ที่ให้ฝาหลังคล้ายคลื่นทะเลแบบไม่หยุดนิ่งแบบ 3 มิติ ชวนให้นึกถึงคลื่นน้ำใสริมชายหาด พร้อมด้วยนวัตกรรมการประกบคู่เข้ากับผิวสัมผัสแบบด้านที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนเสมอกันทั้งฝาหลัง

ส่วนความบางของรุ่นนี้ก็อยู่ที่เพียง 8.53 มม. ซึ่งถือว่าบางมากๆ ในการเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กแล้ว แถมน้ำหนักก็ไม่ได้เยอะเกินไปที่ 185 กรัมเท่านั้น

ทั้งนี้ หากสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่าขอบฝาหลังของ vivo Y18 จะมีขอบที่โค้งขึ้นเล็กน้อยแบบ 2.5D เพื่อช่วยให้รุ่นนี้ดูพรีเมียมมากขึ้นกว่าเดิม และช่วยให้การจับถือสะดวกสบายมากขึ้น

ต่อกันด้วย vivo Y28 ที่ได้โมดูลกล้องหลังแบบสี่เหลี่ยมที่มีความโค้งมนทั้ง 4 มุมเลย โดยสีที่เราได้มากเป็นสีส้มที่มีความสดใสมากๆ ออกคล้ายกับสีชมพูเลยทีเดียว และฝาหลังจะเป็นผิวมันเงาควบคู่กับการเล่นลวดลายคลื่นเมื่อสะท้อนแสงในมุมมองต่างๆ

ตัวสีฝาหลังของ vivo Y28 นั้นครอบคลุมมาถึงขอบเครื่อง ช่วยให้มีความสวยงามมากขึ้น และดูให้เป็นรุ่นพรีเมียมมากขึ้นอีกด้วย

vivo Y28 จะได้ความบางกว่าเพียง 8.09 มม. เท่านั้น และหนัก 199 กรัม ถือว่าไม่ใหญ่และหนักเกินไปครับ

กันน้ำกันฝุ่น IP54

ทั้ง vivo Y18 และ vivo Y28 มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ-ฝุ่นแบบ IP54 ซึ่งกันละอองน้ำได้อย่างสบายๆ ช่วยให้เราพร้อมใช้ในหลายสถานการณ์มากขึ้นครับ

หน้าจอสู้แสงพร้อม Refresh Rate สูงสุด 90Hz

หน้าจอของทั้ง 2 รุ่นแทบจะเหมือนกันทั้งหมด แต่จะต่างกันที่ขนาดหน้าจอ โดย vivo Y18 ให้มาที่ขนาด 6.56 นิ้ว ส่วน vivo Y28 ให้มาใหญ่ขึ้นที่ 6.68 นิ้ว

ทั้งคู่ให้พาเนลหน้าจอแบบ LCD ความละเอียด ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล) ที่เป็นความคมชัดในระดับมาตรฐานของรุ่นเล็กและยังใช้งานได้ยอดเยี่ยมอยู่ครับ

ความสว่างสูงสุดของรุ่น Y18 จะอยู่ที่ 840 นิต ในขณะที่รุ่น Y28 จะอยู่ที่ 1000 นิต ซึ่งใช้งานในที่กลางแจ้งได้เห็นชัดพอสมควรครับ ทั้งยังผ่านผ่านการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland ช่วยให้เราใช้งานได้สบายตาตลอดวัน

และที่ขาดไม่ได้คือการรองรับ Refresh Rate 90Hz เหมือนกัน เพิ่มความไหลลื่นในการใช้งาน แต่จะใช้งานได้เมื่อแอพพลิเคชั่นหรือเนื้อหารองรับการใช้งานเท่านั้น จะไม่สามารถปรับเป็น 90Hz ตลอดเวลาได้

พาชมรอบเครื่อง

ต่อกันด้วยดีไซน์รอบเครื่องกันเลย แอบจะมีความต่างกันในบางจุด ใน vivo Y18 จะได้เป็นกล้องหน้าแบบหยดน้ำ พร้อมกับลำโพงที่ใช้ในการสนทนาที่แอบอยู่ในขอบดำ ขณะที่ vivo Y28 จะได้เป็นกล้องหน้า Punch Hole ตรงกลาง และลำโพงสนทนาและลำโพงสเตอริโอที่อยู่ในจุดเดียวกันเลยตรงขอบเหนือหน้าครับ

ฝั่งซ้ายตัวเครื่องจะเป็นตำแหน่งของช่องใส่ซิมการ์ดเหมือนกัน แต่ vivo Y18 จะรองรับการใส่ 2 ซิม + microSD อีก 1 ช่อง รวม 3 ช่อง แต่ vivo Y18 จะใส่ได้ซิม 2 ช่อง แต่ช่องที่ 2 จะเป็น Hybrid ให้เลือกซิมที่ 2 หรือ MicroSD อย่างใดอย่างหนึ่ง

ฝั่งขวาจะเหมือนกันเป๊ะเลยคือปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงมาให้ พร้อมปุ่ม Power ที่ฝังระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้

ด้านล่างตัวเครื่องจะเกือบเหมือนกัน โดยทั้ง 2 รุ่นจะได้ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามด้วยไมโครโฟนตัวที่ 1 และพอร์ต USB Type-C แต่จะต่างกันตรงที่ vivo Y18 จะไม่มีลำโพงมาให้ในจุดนี้ ส่วน vivo Y28 ยังมีให้ตามปกติซึ่งเป็นลำโพงสเตอริโอด้วย

สำหรับลำโพงหลักของ vivo Y18 จะไปอยู่ทางด้านบนขอบเครื่องแทน

ท้ายสุดจะเป็นกล้องหลังที่ให้มา 2 เลนส์ที่ 50MP เท่ากัน พร้อมมีไฟแฟลช LED มาให้

ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน

ระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14

ทั้ง 2 รุ่นจัดระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดของแบรนด์มาให้เป็น Android 14 ครอบทับด้วย Funtouch OS 14 มีฟีเจอร์ต่างๆ ใช้งานเพียบ รวมถึงความไหลลื่นของระบบและ UI ก็จัดการได้ดีขึ้นด้วยครับ

ระบบความปลอดภัยที่ให้มาครบ !

vivo Y18 และ vivo Y28 ให้ระบบความปลอดภัยแบบไบโอเมตทริกซ์เหมือนกันคือการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ทางด้านข้างตัวเครื่อง การใช้งานจัดว่ารวดเร็วและเสถียรมากๆ

รวมถึงการสแกนใบหน้าก็ยังให้มาเหมือนเดิมครับ

ลำโพงสเตอริโอคู่และเร่งเสียงสูงสุด 300% (เฉพาะ vivo Y28)

ในด้านความบันเทิง vivo Y28 จะรองรับการใช้งานแบบลำโพงสเตอริโอคู่ แยกเสียงแต่ละฝั่งได้ชัดเจนและมีมิติมากๆ ดูวิดีโอและเล่นเกมแนว FPS ต่างๆ ได้ดีแบบไม่ต้องใช้หูฟังช่วยเลยครับ

ที่สำคัญยังเพิ่มกำลังเสียงได้สูงสุดถึงระดับ 300% ช่วยให้มีความกระหึ่มยิ่งขึ้นไปอีกขั้น !

ลำโพงเพิ่มระดับเสียงสูงถึง 150% (vivo Y18)

จริงๆ แล้ว vivo Y18 ก็ไม่น้อยหน้าเลย เพราะแม้จะได้ลำโพงเดี่ยวแบบโมโน แต่ก็มาพร้อมฟีเจอร์การเร่งเสียงสูงสุด 150% ช่วยให้ได้เสียงที่คมชัดในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เหมาะกับการดูหนังฟังเพลงเช่นกันครับ

โหมดแบ่งหน้าจอใช้งานได้พร้อมกันมากสุด 3 แอพ

ฟีเจอร์ชูโรงของ Funtouch OS 14 จะเป็นการใช้งานแบบ Multi-Tasking ที่สามารถนอกจากจะแบ่งได้ 2 หน้าจอบนล่างเพื่อใช้ได้พร้อมกันแล้ว ก็ยังเพิ่มแอพที่แสดงเป็นหน้าต่าง Pop-Up ขึ้นมาทับได้อีก 1 แอพเลยครับ

ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่

ชิปเกมมิ่งตัวประหยัด Helio G85

ทั้ง vivo Y18 และ vivo Y28 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลตัวเดียวกันคือ MediaTek Helio G85 ซึ่งเป็นชิปแบบ 8 คอร์ ความเร็ว Clock สูงสุด 2.0GHz พร้อมใช้ GPU Mali-G52 MC2 ที่ช่วยประมวลผลด้านกราฟิกเพื่อเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น

ขยาย RAM (Extended RAM) ได้อีก 8GB

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์ Extended RAM หรือการขยาย RAM ให้เพิ่มได้อีก 8GB จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 8GB รวมเป็น 16GB ช่วยให้เราสามารถให้แอปทำงานในพื้นหลังได้สูงสุดถึง 25 แอป และสามารถสลับไปมาโดยไม่ต้องโหลดใหม่อีกด้วย

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6 ของ vivo Y18

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.4 ได้มาที่ 207,879 คะแนน

ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 416 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,314 คะแนน

ผลการทดสอบบน AnTuTu v10 และ Geekbench 6 ของ vivo Y28

ผลคะแนนการทดสอบด้านประสิทธิภาพด้าน CPU, GPU และหน่วยความจำบน AnTuTu 10.2.4 ได้มาที่ 272,783 คะแนน

ผลคะแนนด้าน CPU บน Geekbench 6 ทำ Single-Core ไปที่ 417 คะแนน และ Multi-Core ที่ 1,302 คะแนน

ทดสอบการเล่นเกม

การทดสอบการเล่นเกม ROV และ PUBG Mobile โดยจะเป็นการเล่นบน vivo Y28

ROV

เริ่มกันด้วย ROV จะสามารถเปิดได้ในภาพ HD ระดับสูงมาก พร้อมเอฟเฟ็กต์หมอก และเฟรมเรทสูง การเล่นทำได้เต็มที่ เฟรมเรทค่อนข้างนิ่งมากๆ ตั้งแต่เริ่มเกมไปจนถึงช่วงท้ายที่มีเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ในเฟรม

PUBG Mobile

ต่อมาเป็น PUBG Mobile จะเปิดได้ในระดับ HD และเฟรมเรทสูง โดยการเล่นก็ทำได้ดีมาก ไหลลื่น โดยที่ตัวระบบจะมีการปรับหน้าจอให้เป็น 90Hz เพื่อการตอบสนองหน้าจอที่ไวมากขึ้นกว่าเดิมครับ

แบตเตอรี่อึดพร้อมชาร์จเร็วได้สูงสุด 44 FlashCharge

เรื่องของแบตเตอรี่เป็นอีกจุดที่ทั้ง 2 รุ่นนี้ต่างกันพอสมควรครับ โดย vivo Y18 ให้แบตมาที่ 5000mAh และชาร์จที่ 15W ซึ่งแบตความจุนี้สามารถเล่น PUBG ได้นานสุด 6.8 ชั่วโมง รวมถึงการดู YouTube นานสุด 19.33 ชั่วโมง

ส่วน vivo Y28 ให้ความจุที่สูงขึ้นมาอีก คือ 6000mAh สามารถใช้งานต่างๆ ได้มากกว่า และเต็มวันแน่นอน ที่สำคัญยังรองรับการเร็ว 44W FlashCharge ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เพื่อชาร์จจาก 0-100% ครับ

ทั้งนี้ สิ่งที่ vivo Y28 เพิ่มฟีเจอร์เข้ามาคือการตรวจสุขภาพแบตเตอรี่ได้ด้วย ซึ่งจะบอกมาเป็นเปอร์เซนต์ให้ชมกันเลย

กล้องหลังคมชัดสูงสุด 50MP พร้อม AI ถ่ายฉลาดขึ้น

กล้องหลังของทั้ง 2 รุ่นจะให้มาคล้ายกันอยู่บ้าง โดยที่จะได้เลนส์หลักที่ 50MP พร้อมกับได้เลนส์เสริมเข้ามาใช้งาน พร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่แทบจะเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งเรื่องกล้องเราจะเน้นไปที่ vivo Y28 เป็นหลัก

ถ่ายสวยด้วย AI พร้อม HDR ย้อนแสงได้สมราคา

ในราคานี้ vivo Y18 และ vivo Y28 รองรับการถ่ายภาพที่เพียงพอต่อการใช้งานจริงแล้วครับ ได้ทั้ง AI ในการประมวลผลภาพ แสง และสีสันที่ให้มาค่อนข้างเป็นธรรชาติ ไม่ได้ปรับแต่งเยอะเกินไป เก็บแสงและเงาได้ดี โดย Contrast อาจจะไม่ได้จัดมากครับ ที่สำคัญยังรองรับการถ่ายแบบ HDR เพื่อย้อนแสงได้เหมือนกัน

Portrait สวย ปรับแต่งได้หลากหลาย

สิ่งที่เป็นตัวชูโรงให้สมาร์ตโฟน vivo มาทุกรุ่น แน่นอนว่าทั้ง vivo Y18 และ vivo Y28 ก็จัดเต็มแม้เป็นรุ่นเล็กก็ตามครับ เรื่องการตัดขอบถือว่าทำได้ดีในรุ่นราคาระดับนี้ ปรับแต่งความสวยงามบนใบหน้าได้สูงสุด 100 ระดับด้วย โดยที่เรื่องการประมวลผลอาจจะไม่ได้เร็วเกินไปที่จะกดชัตเตอร์ติดกันแบบรัวๆ แต่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมแล้วล่ะครับ

ภาพกลางคืน Super Night ยังถ่ายได้สวย

vivo ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมโหมดกลางคืน หรือ Super Night มาให้ครับ จะเป็นการถ่ายภาพกลางคืนที่ใช้งานได้ค่อนข้างดี ใช้เวลาประมวลผลราวๆ 3-4 วินาที ให้เราเห็นภาพตอนค่ำยืนที่สว่างขึ้นและชัดเจนกว่าเดิม ซึ่งแนะนำว่าให้ถ่ายในสถานที่ที่ยังมีแสงอยู่บ้างเพราะจะช่วยลด Noise หรือจุดรบกวนได้เยอะเลยทีเดียวครับ

เซลฟี่สวยงามด้วยความละเอียด 8MP

กล้องหน้าทั้ง 2 รุ่นก็ให้มาเหมือนอีกแล้วที่ความละเอียด 8MP อยู่ในระดับที่พอดีๆ ถ่ายสวยงาม เปิด Portrait เพื่อละลายฉากหลังได้ รวมถึงปรับความสวยงามบนใบหน้าได้ 100 ระดับเหมือนกล้องหลังเลยครับ

สรุปการใช้งาน vivo Y18 l vivo Y28

สรุปแล้วทั้ง vivo Y18 และ vivo Y28 ต่างเป็นสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่าตามแบบฉบับของตัวเองครับ ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลที่ได้ Refresh Rate 90Hz เพื่อการใช้งานที่ไหลลื่น ดีไซน์ที่ทันสมัยพร้อมความสวยงามเกินราคา และขุมพลัง MediaTek Helio G85 ที่เล่นเกมชื่อดังได้แบบสบายๆ เลยครับ ขณะที่กล้องหลังของทั้งคู่ก็จัดเต็มให้ถึง 50MP ใช้งานได้จริงและถ่ายสวยทั้งโหมดปกติและ Portrait เลยครับ ขณะที่ฟีเจอร์อื่นก็ยังมีให้ทั้งการเพิ่มระดับเสียงลำโพงแบบพิเศษสูงสุด 300% รวมถึงแบตเตอรี่ที่อึด ใช้งานทั่วไปได้จบวันแน่นอน และยังมีชาร์จเร็วให้อีกด้วยครับ

ราคาและวันวางจำหน่าย vivo Y18 l vivo Y28

vivo Y18 จะมีให้เลือก 2 ความจุ คือ รุ่น 4GB + 128GB ราคา 4,499 บาท และรุ่น 8GB + 128GB ราคา 5,499 บาท

vivo Y28 มีราคา 2 ความจุเช่นกัน คือรุ่น 8GB + 128GB ราคา 6,299 บาท และรุ่น 8GB + 256GB ราคา 6,999 บาท