Featured
รีวิว Vivo Y19 สมาร์ตโฟนดีไซน์สุดละมุน เหมาะสำหรับสายเอนเตอร์เทน, จอใหญ่ 6.53 นิ้ว แบตอึด 5000mAh พร้อมกล้อง AI สุดฉลาดถึง 3 เลนส์ ในราคาเบาๆ
รีวิว Vivo Y19 สมาร์ตโฟนสุดประหยัด ฟีเจอร์มีให้ครบ ดีไซน์สวยงาม ไล่เฉดอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีหน้าจอ Halo FullView Display กว้างถึง 6.53 นิ้ว แบตเตอรี่อึดขั้นสุด 5000mAh พร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ที่มีฟีเจอร์มาให้เพียบ
สรุปสเปค Vivo Y19
- ขนาดรอบตัวเครื่อง 162.15× 76.47× 8.89 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 193 กรัม
- หน้าจอแสดงผลทรง Halo FullView Display ชนิด LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล)
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio P65 Octa Core ความเร็ว 2.0 GHz
- RAM 6GB
- ROM 128GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 256GB
- กล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.78
- เลนส์ Super Wide Angle / Bokeh ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9.2
- ระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0 และพอร์ตเชื่อมต่อ microUSB 2.0
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ Dual Engine Fast Charge 18W (9V2A)
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
กล่องของ Vivo Y19 มาในรูปแบบสีขาวที่มีการเล่นลวดลายตัว Y ที่ล่างกล่องเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีก โดยภายในกล่องจะประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่
- ตัวเครื่อง Vivo Y19 พร้อมติดฟิล์มกันรอยที่หน้าจอ
- อะแดปเตอร์ Dual Engine Fast Charge 18W
- สาย Micro USB 2.0
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งาน
- ข้อมูลการรับประกันสินค้า
ดีไซน์สี Vivo Y19 ที่เราได้รับมารีวิวเป็นสีขาวผสมฟ้าอ่อนๆ ที่ดูเนียนตามากในนาม Spring White โดยมีการไล่เฉดสีขาวอมฟ้าจากด้านบนจรดลงมาเป็นสีฟ้าที่เข้มขึ้นมาเล็กน้อยที่ด้านล่างอย่างลงตัว ราวกับสีของท้องฟ้าแบบธรรมชาติ ทั้งยังมีแสงและเงาที่ตกกระทบกับกระจกบนตัวเครื่องก็ยิ่งทำให้มีความเงางามและเล่นแสงได้เป็นอย่างดีและดูมีมิติมากขึ้น
ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์สีเท่านั้น แต่ดีไซน์เครื่องยังมีความโค้งแบบ 3 มิติ จับถือได้สะดวก รองรับกับฝ่ามือของทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้ดีแม้ถือมือเดียว แถมตัวเครื่องบางเบาพอสมควรด้วยครับ
ด้านหน้าจอแสดงผลมาแบบทรงหยดน้ำอย่าง Halo FullView Display ที่ช่วยให้มีพื้นที่การแสดงผลสูงถึง 90.3% โดยมีขนาดอยู่ที่ 6.53 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD + (2340 x 1080 พิกเซล) ทำให้เรารับชมภาพยนตร์, วิดีโอ หรือเล่นเกมได้เต็มอรรถรสอย่างแน่นอน
เราจะเห็นได้เลยว่าการที่ Vivo Y19 มีหน้าจอที่กว้างถึง 6.53 นิ้ว ทำให้เราได้รับชมสิ่งต่างๆ ได้เต็มตามากขึ้นครับ
ดูด้านหน้าและด้านหลังไปแล้วมาดูรอบๆ เครื่องกันบ้างครับว่ามีอะไรบ้าง เริ่มแรกที่บริเวณเหนือหน้าจอแสดงผลจะมีลำโพงสำหรับสนทนา ถัดลงมาจะมีหยดน้ำที่ฝังกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลเข้าไป
ด้านซ้ายจะมีเพียงช่องใส่ซิมการ์ดจำนวน 2 ช่องแบบ NanoSIM และมี MicroSD Card อีก 1 ช่อง รวมเป็น 3 ช่องเลย
ส่วนทางขวาจะมีทั้งปุ่มเพิ่มและลดเสียง ถัดลงมาเล็กน้อยจะมีปุ่ม Power
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0 และลำโพงตัวหลัก
และสุดท้ายที่ด้านหลังจะมีกล้องหลัง 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED อยู่ในโมดูลแนวตั้งบริเวณมุมซ้ายบน และถัดไปที่กลางเครื่องจะมีระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Vivo Y19 แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่ครอบทับด้วย FuntouchOS รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเวอร์ชัน 9.2 ที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้ลื่นไหลยิ่งขึ้นกว่าเวอร์ชันก่อน รวมไปถึงการจัดสรรทรัพยากรภายในเครื่องที่ดีทำให้ใช้งานส่วนต่างๆ ได้เต็มที่
การใช้งานทั่วไปจะเป็นหน้าจอหลักและหน้าจอแอปพลิเคชั่นรวมกันเป็นหน้าเดียว ใครที่โหลดแอปต่างๆ มาก็จะอยู่หน้านี้ให้ทันที
ส่วนการเรียกใช้แถบตั้งค่าด่วนก็สามารถปัดขึ้นจากหน้าจอส่วนล่าง และการแจ้งเตือนต่างๆ จะเป็นการปัดลงจากจอส่วนบนครับ
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนธีมหรือวอลเปเปอร์ก็จะมีให้เลือกทั้งแบบที่ให้มากับเครื่องในส่วนของการตั้งค่า โดยสีสันและรูปแบบจะเข้ากันกับตัวเครื่อง แต่หากใครอยากได้แนวอื่นบ้างก็สามารถใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น iTheme ได้เลยครับ มีให้เลือกเพียบ
ตัดแสงสีฟ้าด้วยโหมดถนอมสายตา
Vivo Y19 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราใช้งานและจ้องหน้าจอได้นานขึ้นอย่างโหมดถนอมสายตา ที่เราสามารถกดเปิดเองได้ทันทีหรือตั้งเวลาเองก็ได้ ซึ่งเราจะปรับโทนสีให้เย็นหรืออุ่นแค่ไหนก็ทำได้ตามใจชอบเลยครับ โดยหากปรับเป็นเย็น หน้าจอจะตัดแสงสีฟ้าน้อย ส่วนโทนอุ่นจะตัดแสงสีฟ้าไปเยอะมากจนอมเหลืองเลย
โหมดมืดใช้งานได้สบายๆ
ใครไม่ชอบการตัดแสงสีฟ้าก็เลือกใช้โหมดมือทดแทนได้เช่นกัน ที่นอกจากจะเปลี่ยนพื้นหลังของแอปพลิเคชั่นที่รองรับเป็นสีดำแล้ว ยังทำให้เราเล่นในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นโดยไม่แสบตา
ระบบความปลอดภัยมีให้ครบ
ระบบความปลอดภัยก็ครบครันเหมือนกันแม้เป็นรุ่นกลาง โดย Vivo Y19 มีทั้งระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง (จดจำได้มากสุด 5 ลายนิ้วมือ) ซึ่งการทำงานถือว่ารวดเร็วมากๆ เพียงแตะครู่เดียวระบบก็พร้อมให้เราใช้งานได้ทันที
ส่วนการสแกนใบหน้าก็สามารถตั้งค่าได้ 1 ใบหน้าตามปกติครับ ซึ่งเราสามารถใช้ในการปลดล็อคได้ทันทีเหมือนกันเพียงแค่กดปุ่มล็อคเครื่อง ระบบก็สแกนให้อย่างรวดเร็วและเสถียรมากๆ เรียกว่ากดปุ่มล็อคเครื่องยังไม่ทันเห็นภาพหน้าจอล็อคก็เข้ามาที่หน้าหลักแล้วครับ
ความสะดวกแบบอื่นๆ ใน Vivo Y19
- Easy Touch : เป็นฟีเจอร์ที่มีใน Vivo ทุกรุ่น โดยจะเป็นปุ่มแบบลอยที่ให้เราเข้าถึงแอปพลิเคชั่นหรือฟังก์ชันที่ใช้บ่อยได้อย่างรวดเร็ว
- เขย่าเพื่อเปิดไฟฉาย : มีการเพิ่มความสะดวกขึ้นมาเล็กๆ สำหรับใครที่ใช้แฟลชหรือไฟฉายบ่อยๆ โดยเมื่อเราอยู่ที่หน้าจอล็อคหรือหน้าจอหลัก เพียงแค่เขย่าก็สามารถเปิดไฟฉายได้ทันที
- Smart Wake : การปลุกหน้าจอแบบอัจฉริยะนี้จะให้เราวาดตัวอักษรต่างๆ ขณะหน้าจอล็อคเพื่อเข้าใช้งานแอปที่ตั้งค่าไว้ เช่น วาดตัว “C” เข้าหน้าการโทร หรือวาด “f” เพื่อเข้า Facebook ได้ทันที
เพิ่ม 2 บัญชีได้ง่ายๆ เพียงโคลนแอป
ใครที่มีแอปพลิเคชั่นโซเชียล 2 บัญชีแต่มีสมาร์ตโฟนเครื่องเดียวก็สามารถใช้ฟีเจอร์โคลนแอปเพื่อให้ใช้งานได้ทันที 2 บัญชีครับ ซึ่งจะรองรับกับแอปพลิเคชั่นส่วนใหญ่ เช่น Facebook, Line หรือ Messenger เป็นต้น
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Vivo Y19 ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลระดับกลางของ MediaTek อย่าง Helio P65 ที่มาพร้อมกับ RAM 6GB ควบคู่กับ ROM 128GB ซึ่งสเปคระดับนี้ถือว่าเพียงพอต่องานใช้งานทั่วไปแบบเหลือเฟือครับ เล่นโซเชียลได้ไหลลื่นแน่นอน หรือใครที่จะเล่นเกมต่างๆ ก็ยังทำได้เหมือนกัน (มีการทดสอบให้ดูด้านล่างนี้)
ทั้งนี้ ประโยชน์ของ ROM 128GB ยังทำให้เราโหลดแอปพลิเคชั่นหรือเก็บไฟล์ต่างๆ ได้เพียงพอ โอกาสที่จะเต็มน้อยมากๆ ส่วน RAM 6GB ก็ทำให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว สลับแอปไปมาได้ไม่มีสะดุดแน่นอนครับ
สำหรับผลการทดสอบทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมตั้งแต่หน่วยประมวลผล, การ์ดจอ และหน่วยความจำด้วยโปรแกรม AnTuTu Benchmark ทำคะแนนได้ไปได้ที่ 183,737
ส่วนผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำคะแนนฝั่ง Single-Core ไปที่ 350 และคะแนน Multi-Core ที่ 1,292
ทดสอบการเล่นเกม
แม้ว่าจะใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Helio P65 แต่เราก็จะมาทดสอบ 3 เกมดังที่ใช้กราฟิกค่อนข้างสูงอย่าง ROV, Call Of Duty: Mobile และ Asphalt 9: Legends ให้ชมกันครับ
ROV
สำหรับ ROV เราตั้งค่าภาพ HD ในระดับสูงสุด, กราฟิกระดับสูง ส่วนเฟรมเรทจะไม่สามารถปรับเป็น 60fps ได้ครับ แต่เรื่องของการเล่น Grand Battle 5 VS 5 ถือว่าทำได้แจ่มมาก เฟรมเรทคงที่ตลอดทั้งเกมที่ 30fps ตลอด ไม่ว่าจะตอนใช้สกิลหรือบวกครบทีมครับ
Call Of Duty: Mobile
มาต่อที่เกมแนว FPS สุดฮิตอย่าง Call Of Duty: Mobile เราตั้งค่าแบบค่าเริ่มต้นเป็นกราฟิกระดับ LOW และเฟรมเรทระดับกลาง ซึ่งจริงๆ เกมแนวนี้กราฟิกไม่เน้นแต่เน้นเรื่องฝีมือล้วนๆ โดยเราทดสอบในโหมด Battle Royale 100 คน ซึ่งผลที่ได้ออกมาคือมีความไหลลื่นมาก เฟรมเรทระดับกลาง ไม่มีร่วงก็ถือว่าเล่นได้ดีเลยทีเดียวครับ
Asphalt 9: Legends
และสุดท้ายกับเกมแข่งรถ Asphalt 9: Legends เราตั้งค่าในค่าเริ่มต้น โดยภายในเกมแผนที่ที่มีสิ่งของต่างๆ เยอะก็ถือว่าเล่นได้ไหลลื่นมากๆ ครับ ช่วงตอนรถชนกันหรือช่วงที่ใช้ไนโตรเร่งเครื่องก็ไม่มีปัญหาการกระตุก
ทั้งนี้ Vivo Y19 ยังมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่ให้เราได้ปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งการโทรหรือเตือนในแอปพลิเคชั่น ไม่ให้มารบกวนขณะที่เราเล่นเกมด้วยครับ ซึ่งทำได้ดีมากๆ ไม่มีอะไรมากวนเลย
แบตเตอรี่อึดพร้อมใช้งานทั่วไปได้ทั้งวัน
Vivo Y19 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ทำให้เราใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียล และเล่นเกมได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง พกออกไปข้างนอกก็แทบไม่ต้องกลัวเรื่องแบตหมดไวแน่นอน ซึ่งนอกจากแบตเตอรี่ 5000mAh ไม่ได้เอามาใช้แค่เครื่องตัวเองเท่านั้น แต่ Vivo Y19 ยังรองรับเทคโนโลยี Reverse Charging ที่เปลี่ยนสมาร์ตโฟนของเราให้เป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับเครื่องอื่นได้ผ่านสาย OTG
อย่างไรก็ตามแบตใหญ่แค่ไหนก็ต้องมีวันหมดแน่นอน แต่ Vivo Y19 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้น แถมให้กำลังไฟสูงถึง 18W ซึ่งจากที่ลองชาร์จจริงจากแบตเตอรี่น้อยราว 33% ไปถึง 100% ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
กล้องถ่ายรูป
Vivo Y19 มาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปหลัง 3 เลนส์ มีไฟแฟลช LED แบ่งเป็น
- เลนส์หลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.78
- เลนส์ Super Wide Angle / Bokeh ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 โดยจะมีฟีเจอร์อะไรบ้างเราลองมาดูกันครับ
AI Multi-Scenario Photography จดจำฉากอย่างแม่นยำ
มีในสมาร์ตโฟนราคาประหยัดด้วยเหมือนกันใน Vivo Y19 สำหรับฟีเจอร์ AI แยกแยะหมวดหมู่ต่างๆ ของภาพได้ โดยแบ่งได้หลากหลายทั้งคน, สัตว์, ดอกไม้ หรืออาหาร เป็นต้น ซึ่งจะบอกเป็นสัญลักษณ์ที่มุมขวาบนอย่างชัดเจนและแม่นยำครับ
ที่สำคัญการแยกแยะนี้จะช่วยให้เฉดสีของแต่วัตถุมีความแตกต่างกันตามความเหมาะสม เช่น อาหารหรือดอกไม้ก็จะได้เฉดที่สดใส มีความสดของสีเพิ่มขึ้นเพื่อให้น่าดูและน่าทานยิ่งกว่าเดิมครับ
Super Wide Angle กว้างแค่ไหนก็เก็บครบ
เรียกว่าเป็นเลนส์ที่ใครๆ ก็ต้องอยากให้มีแน่นอนเพื่อช่วยให้เราได้เก็บมุมและองค์ประกอบต่างๆ ของภาพได้ครบครัน ทั้งยังเห็นได้กว้าง รวมไปถึงเฉดสีก็ยังคงสดใสแทบไม่ต่างจากเลนส์หลักเลยด้วย ใครที่ชอบเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ต้องชอบอย่างแน่นอนครับ
เทียบปิด Super Wide Angle / เปิด Super Wide Angle
เทียบปิด Super Wide Angle / เปิด Super Wide Angle
นอกจากจะถ่ายวิวได้แล้ว การนำเลนส์นี้มาถ่ายกับคนก็ยังได้เหมือนกันครับ นอกจากที่เราจะได้ถ่ายบุคคลแล้ว บรรยากาศด้านหลังก็มาครบ ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดอะไรไปเลย ที่สำคัญเมื่อถ่าย Super Wide Angle กับบุคคลยังทำให้ดูสูงและมีมิติยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเรียกไปถ่ายใหม่แน่นอน
เทียบปิด Super Wide Angle / เปิด Super Wide Angle
ใกล้แค่ไหนก็มองเห็นกับ Super Macro
ถือว่าให้มาครบทุกระยะจริงๆ สำหรับ Vivo Y19 ที่นอกจากจะมี Super Wide Angle แล้ว ยังมี Super Macro ที่สามารถถ่ายได้ใกล้กับวัตถุมากๆ โฟกัสง่าย แทบไม่มีหลุด และที่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือเลนส์นี้ให้ความสดของสีที่จัดเต็มมากๆ ถ่ายดอกไม้ก็ยังสีสดอยู่
เบลอดั่งใจผ่าน Portrait พร้อมหน้าสวยด้วย AI Face Beauty
การถ่าย Portrait ถือเป็นอีกสิ่งที่ Vivo Y19 ทำได้ดีมากในราคาระดับนี้ มีการตัดขอบได้เนียนตา, เป็นธรรมชาติ และมีการไล่ระดับการเบลอที่ระดับที่ดี โดยเมื่อเราใช้โหมดการถ่ายภาพคน ใบหน้าของแบบก็จะคมชัด สดใส และเนียนมากๆ ผ่านฟีเจอร์ AI Face Beauty ที่ช่วยปรับทั้งผิวนวล, โทนสีผิว หรือรูปหน้าให้อัตโนมัติ
และที่ชอบขึ้นไปอีก คือ หากเราดูภาพที่ถ่ายไปแล้ว แล้วอยากเบลอให้มากขึ้นหรือน้อยลงก็สามารถปรับได้อีกครั้งผ่านแอปรูปภาพด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ช่วย (กว้างสุด F0.95 และแคบสุดที่ F16) หรือจะเลือกไปโฟกัสจุดอื่นก็ยังทำได้เช่นกัน
นอกจากที่กล้องหลังจะมี AI Face Beauty แล้ว กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลก็ยังสามารถทำได้เช่นกันครับ โดยการปรับต่างๆ ก็เหมือนกันทั้งหมดเลย
ทั้งนี้ เมื่อเราถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าไม่ว่าจะโหมดไหนก็ตาม Vivo Y19 จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า “AI Make UP” ให้เราได้ปรับแต่งความงามของใบหน้าได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะป็นการใส่ฟิลเตอร์, แต่งหน้า, แต่งสวย และการปรับรูปร่าง
เซลฟี่สุดน่ารักด้วย AR Sticker
เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพเซลฟี่ขึ้นไปอีกด้วย AR Sticker แสนน่ารักที่มีให้เลือกใช้งานหลาย 10 แบบเลยครับ ใครชอบลูกเล่นเยอะๆ ก็ไม่ควรพลาดแน่นอน
กล้องหน้าทำได้ กล้องหลังก็ทำ AR Sticker ได้เหมือนกันครับ
เพิ่มมิติในการถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์แสงภาพถ่ายบุคคล
ใครที่ชอบถ่ายแบบที่มีการเล่นแสงและสีเพิ่มเติมจากที่ถ่ายมา ในรุ่น Vivo Y19 ก็มีให้เลือกใช้ฟิลเตอร์หลาย 10 แบบ เช่น เกรปฟรุต, เกาะ, ลมยามเย็น, น่าหม่ำ, แบล็คเคอร์แรนท์ หรือท้องฟ้าปลอดโปร่ง เป็นต้น
รวมไปถึงเอฟเฟ็กต์แสงภาพถ่ายบุคคลที่ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและหลังครับ มีเอฟเฟ็กต์สูงสุด 6 แบบ (กล้องหลังมี 5 แบบ) ได้แก่ แสงธรรมชาติ, ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังแบบขาวดำ เพิ่มมิติให้การถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น และไม่ต้องมาแต่งภาพที่หลังอีกด้วย
สรุปจุดเด่น
- หน้าจอ Halo FullView Display กว้างถึง 6.53 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ ทำให้รับชมสิ่งต่างๆ ได้เต็มตา
- แบตเตอรี่อึดถึง 5000mAh ใช้งานได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวแบตหมด
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging 18W
- กล้องหลังมีให้ถึง 3 เลนส์ มี AI จดจำฉาก, Super Wide Angle และ Super Macro
- ภายในมาพร้อมกับ RAM 6GB ควบคู่กับ ROM 128GB สามารถใช้งานได้ลื่นๆ พร้อมเก็บไฟล์ได้เยอะ
- ราคามาแบบสบายประเป๋า เพียง ราคา 6,999 บาทเท่านั้น
จุดสังเกตเพิ่มเติม
- ใช้พอร์ต Micro USB 2.0
- ตัวเครื่องไม่กันน้ำ
สำหรับ Vivo Y19 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว Spring White และสีดำ Magnetic Black สนนราคาเบาๆ อยู่ที่ 6,999 บาท โดยจะเปิด Pre-order ผ่านทาง Lazada โดยรับลำโพงบลูธูท JBL CLIP 2 มูลค่า 2,490 บาทไปแบบฟรีๆ ระหว่างวันที่ 1- 10 พฤศจิกายนเท่านั้น ใครที่สนใจก็สามารถกดที่ลิงค์ด้านข้างนี้ได้เลยครับ http://bit.ly/2MLSFUs