Featured
รีวิว Vivo Y72 5G สมาร์ตโฟน 5G รองรับ Dual-Mode ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ฟีเจอร์ครบ ในราคา 9,999 บาท
ใครที่มองหาสมาร์ตโฟน 5G ราคาคุ้มๆ ตอบโจทย์เรื่องความเร็วแรง วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net มีรีวิว Vivo Y72 5G ที่จะเป็นอีกรุ่นที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ ครบทั้งสเปค ฟีเจอร์ และยังรองรับ 5G ที่ใช้งานได้แบบ “เข้าถึงทุกที่ ทุกเวลา” โดยการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เรามาดูกันเลยดีกว่า
สรุปสเปค Vivo Y72 5G
- ขนาดรอบตัวเครื่อง : 163.95 x 75.3 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก : 193 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Halo Fullview Display ชนิด LCD (IPS) ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 สัดส่วนพื้นที่หน้าจอ 90.6% และขอบเขตสี 96% NTSC
- หน่วยประมวลผลแบบ MediaTek Dimensity 700 ความเร็ว 2.0GHz
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB เพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 256GB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
- เลนส์ Super-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมองกว้าง 120 องศา
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 5000mAh รองรับ 18W Vivo FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
อุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Vivo Y72 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 18W
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- หูฟัง
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์สวยงามดูพรีเมี่ยม
สำหรับ Vivo Y72 5G จัดเป็นการดีไซน์ที่มีความสวยงามตามแบบฉบับของ Vivo ที่มีการเคลือบซิลเวอร์ที่ทำให้มีเฉดสีที่เป็นสีรุ้งพร้อมไล่เฉดอย่างสวยงามหลากมิติออกมาเป็นสี Dream Glow อย่างในรีวิวครับ และเกิดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างยาก ทั้งนี้ อีกสีที่มีให้เลือกจะเป็นสีดำ Graphite Black ที่ดูมีความลึกลับน่าค้นหาและดูคลาสสิกอีกด้วย
Vivo Y72 5G ยังคงใช้งานได้สะดวกมือสุดๆ ด้วยตัวเครื่องดีไซน์ที่มีความโค้งมนแบบ 3D และขอบตัวเครื่องแคบเพียง 2.75 มม. ทำให้ถือได้สบายไม่เจ็บอุ้งมือเวลาถือนานๆ ครับ
หน้าจอใหญ่ Halo Fullview Display
Vivo Y72 5G จัดหน้าจอ Halo Fullview Display มาให้แบบเบิ้มๆ ถึง 6.58 นิ้ว ทำให้ใช้งานได้แบบเต็มตาครับ ใครที่ชอบดูวิดีโอต่างๆ หรือสายเกมจะต้องชอบแน่นอนจ้า ทั้งนี้ เรื่องความคมชัดก็หายห่วงเพราะให้มาในระดับ Full HD+ ที่มีความอิ่มตัวของสีสันสูง ทำให้มีการแสดงผลที่สดใสแน่นอน
ดูดีไซน์กันไปแล้วมาดูรอบเครื่องกันดีกว่าครับว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง โดยเหนือหน้าจอจะเป็นแบบหยดน้ำ ที่ฝังกล้องหน้าเข้าไป โดยมีลำโพงสำหรับสนทนาอยู่ด้านบนสุด
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ NanoSIM 1 ช่อง และช่องที่ 2 เป็นแบบ Hybrid ครับ จะเลือกใส่ MicroSD Card หรือซิมที่ 2 แบบ NanoSIM ก็ได้ครับ โดยถัดไปจะมีไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวน
ทางด้านล่างมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ถัดไปเป็นไมโครโฟนตัวที่ 1, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
ทางขวามีปุ่มเพิ่มและลดเสียง โดยมีปุ่ม Power ที่สามารถใช้งานเป็นระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ด้วย เพิ่มความสะดวกไปอีกขั้นครับ
และสุดท้ายที่ด้านหลังมีกล้อง 3 เลนส์ โดยมี 2 เลนส์เด่นๆ อยู่ทางด้านบน และถัดลงมาจะมีกล้องอีก 1 เลนส์ที่อยู่ข้างกับไฟแฟลช LED ครับ
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Vivo Y72 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 11.1 รุ่นใหม่ของ Vivo ครับ โดยการใช้งาน การตอบสนองต่างๆ ทำได้ราบรื่นยิ่งขึ้นด้วย
รองการใช้งาน 5G สุดเร็วแรงแห่งยุค
ตัวชูโรงที่ไม่พูดถึงไม่ได้ใน Vivo Y72 5G คือการรองรับเครือข่าย 5G ที่ใช้งานได้อย่างเร็วแรงแน่นอนครับ ซึ่งรุ่นนี้รองรับการใช้งานแบบ Dual-Mode ทั้ง SA และ NSA
โดยประสบการณ์การใช้งาน 5G นั้นช่วยในเรื่องความเสถียรของเครือข่าย โหลดแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วไม่มีสะดุด อย่างเกมไฟล์ใหญ่ๆ ถึง 2.04GB ก็โหลดในระยะเวลาเพียงนาทีนิดๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ก็ยังช่วยในเรื่องของการเล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่โหลดได้อย่างรวดเร็ว รับชมเนื้อหาได้อย่างสบายๆ รวมถึงการเล่นเกมที่ช่วยลดค่า Latency ให้ทุกช่วงของการเล่นเป็นเรียลไทม์มากที่สุด
รองรับ Dark Mode
Vivo Y72 5G มีฟีเจอร์โหมดมืดหรือ Dark Mode เพื่อใช้งานพื้นหลังสีดำครับ โดยเมื่อเปิดแล้ว แอปพลิเคชั่นที่รองรับ Dark Mode จะเปลี่ยนตามไปด้วย
โหมดถนอมสายตา
นอกจากจะมีโหมดมืดแล้ว ก็ยังมีโหมดถนอมสายตาที่จะช่วยลดแสงสีฟ้าที่ทำร้ายดวงตาออกไป โดยเราสามารถเปิดได้ทันที หรือจะเปิดตามพระอาทิตย์ขึ้น/ลง หรือกำหนดเวลาได้ตามใจชอบครับ
ระบบความปลอดภัย
Vivo Y72 5G จัดความสะดวกการใช้งานความปลอดภัยมาให้เป็นแบบสแกนลายนิ้วด้านข้างหรือ Side Fingerprint ที่อยู่ตรงปุ่ม Power ครับ เวลาจะหยิบขึ้นมาใช้ นิ้วโป้งมือขวาหรือนิ้วกลางมือซ้ายก็จะลงล็อกพอดีเป๊ะๆ หยิบขึ้นมาก็เข้าใช้งานได้ทันที
นอกจากนี้ก็ยังมี Face wake หรือการสแกนใบหน้าที่ทำได้รวดเร็วเช่นกันครับ โดยสะดวกมากๆ เวลามือไม่ว่าง
Super Linear Speaker ลำโพงเอฟเฟกต์เสียงขั้นสูง
ใครที่ชอบเสพความบันเทิงและอรรถรสของเสียงระหว่างรับชม Vivo Y72 5G ก็จัดลำโพง Super Linear รุ่น 1612 มาให้ โดยมีคุณภาพเสียงที่จัดเต็มและคมชัดครับ ซึ่งระดับความดังก็ถือว่าดีมากๆ เช่นกัน
เปลี่ยนภาพเก่าเป็นปัจจุบันได้ด้วย Memory Recaller
Memory Recaller ยังคงมีมาให้ใช้งานในรุ่นนี้ครับ โดยเราสามารถนำภาพเก่าๆ ที่เคยถ่ายไว้ในตอนเด็กๆ มาเพิ่มความคมชัดและสีสันให้เหมือนภาพยุคปัจจุบันได้ง่ายๆ ซึ่งการใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่เราใช้กล้องของ Vivo Y72 5G ถ่ายภาพที่ต้องการ จากนั้นให้เข้าไปที่อัลบั้ม > แก้ไข (Edit) > ซ่อมแซม (Restore) > การคืนค่า HD (HD Restoration)
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
Vivo Y72 5G ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 ขนาดเล็ก 7 นาโนเมตร ที่มาพร้อมกับโมเด็ม 5G ซึ่งชิพตัวนี้มีทำงานที่ความเร็ว Clock อยู่ที่ 2.2GHz ควบคู่กับ RAM 8GB และ ROM 128GB ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่นมากๆ และความจุก็เยอะอีกด้วย
โดยคะแนนการทดสอบบน AnTuTu ที่เราลองอยู่ที่ 264,853 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนของสมาร์ตโฟนรุ่นกลางที่จัดว่ารวดเร็วมากๆ
ฟีเจอร์ช่วยการเล่นเกม
Multi-Turbo
ฟีเจอร์นี้เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการของหน่วยประมวลผล, เพิ่มความเร็ว, เร่งความเร็วระหว่างการเล่นเกม รวมถึงการระบายความร้อนที่ทำได้ดีมากขึ้นด้วย
Ultra Game Mode
สำหรับโหมดนี้คงจะคุ้นเคยกันดีครับ โดย Ultra Game Mode เข้ามาเป็นผู้ช่วยของการเล่นเกมใน Vivo ตั้งแต่การปิดกั้นการแจ้งเตือนระหว่างเล่นเกม, เพิ่มระบบการสั่นไหวของเกมที่รองรับให้ได้อรรถรสมากขึ้น แถมยังมีโหมด E-sports ที่ช่วยลดค่าความหน่วง (Latency) ให้เกมที่เล่นไหลลื่นและกดพร้อมตอบสนองได้แบบเรียลไทม์สุดๆ ซึ่งเกมที่รองรับที่เราโหลดมาจะมี ROV และ PUBG Mobile
ทดสอบการเล่นเกม
ROV
สำหรับเกม ROV เราสามาถรปรับได้ที่ระดับภาพ HD และการแสดงผลสูง แต่เฟรมเรทยังปรับได้แค่ 30fps ครับ อย่างไรก็ตาม เมื่อลองเล่นจริงๆ เฟรมเรทแทบไม่มีเหวี่ยง 30fps นิ่งๆ ตลอดทั้งเกมและไหลลื่นมากๆ
PUBG Mobile
สำหรับ PUBG Mobile เราสามารถเล่นได้โดยเปิดเฟรมเรทแบบ Ultra ได้ด้วย โดยกราฟิกจะอยู่ที่สมดุลเท่านั้น แต่ก็เน้นลื่นๆ ไว้ก่อน ซึ่งลองเล่นในโหมด 100 คนปกติก็เล่นได้ไหลลื่นมากๆ เวลาเดินหรือวิ่งพร้อมหันหน้าจอก็ทำได้ติดนิ้วมากๆ เวลากดยิงก็ทำได้ค่อนข้างเรียลไทม์ด้วย ซึ่งจุดนี้ก็เป็นเพราะการเชื่อมต่อ 5G ที่เข้ามาช่วยระหว่างเล่นครับ
Genshin Impact
และเกมสุดท้ายกับกราฟิกโหดๆ อย่าง Genshin Impact ก็เล่นได้ไหลลื่นครับ ภายในเกมตอบสนองได้ดีมากๆ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่า 5G เข้ามามีส่วนช่วยเต็มๆ
แบตเตอรี่อึด 5000mAh พร้อม 18W Vivo FlashCharge
Vivo Y72 5G มาพร้อมกับแบตเตอรี่สุดอึดถึง 5000mAh ครับ โดยการใช้งานทั่วไป อย่างเล่นโซเชียลหรือดู YouTube ก็ทำได้สบายๆ ทั้งวันครับ ทั้งนี้ ในเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ก็ถือว่าเร็วอีกด้วย รองรับ 18W Vivo FlashCharge ที่จากการทดสอบจากแบตเตอรี่หมด 0% – 70% ใช้เวลาประมาณ 70 นาที และเต็ม 100% ในเวลารวมทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงครับ (จะช้าลงหลังจาก 80% เพื่อป้องกันความร้อนที่มากเกินไป)
กล้องถ่ายรูป
Vivo Y72 5G มาพร้อมกับกล้องรวมทั้งหมด 4 เลนส์ แบ่งเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งฟีเจอร์ในการถ่ายภาพเรียกว่ามีให้เลือกเพียบครับ
คมชัดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล
กล้องหลักของรุ่นนี้มาพร้อมความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซลเทียบเท่าเรือธงหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว โดยรองรับเซ็นเซอร์ภาพ CMOS ช่วยให้รับแสงได้ดีขึ้น ซึ่งโหมดนี้จะช่วยให้ถ่ายภาพที่มีความคมชัดสูงและสามารถซูมเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในภาพได้อย่างชัดเจน
โหมด AI
จากเลนส์หลักที่มีความละเอียด 64 ล้านพิกเซล จะรองรับการรวมพิกเซลเป็น 4-in 1 มาอยู่ที่ค่าเริ่มต้นที่ 16 ล้านพิกเซลครับ ทำให้ประมวลผลได้รวดเร็วและสีสันต่างๆ ก็มีความสดใสจากการได้ AI เข้ามาปรับภาพให้อีกชั้นหนึ่งด้วย
ปรับแต่งภาพได้หลากหลายด้วย AI Image Matting
ในฟีเจอร์นี้จะเป็นการแก้ไขภาพต่างๆ ได้อย่างอิสระเลยทีเดียว โดยเมื่อเรากดแก้ไขภาพในหมวด “AI การตัดรูปภาพ” จะเป็นการแยกพื้นหลัง, บุคคล และภาพเต็มออกจากกัน และสามารถเปลี่ยนพื้นหลัง, การเบลอ, ลบบุคคล และปรับแต่งพร้อมสร้างสรรค์ผลงานได้อีกเพียบตามใจเราเลยครับ
เลนส์ Super-Wide Angle มุมกว้างสูงสุด 120 องศา
จัดเลนส์ Super-Wide Angle มาให้เหมือนกันสำหรับรุ่นนี้ที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้สูงสุดถึง 120 องศา ที่เป็นมุมที่กว้างเบอร์ต้นๆ ของสมาร์ตโฟนครับ โดยภาพที่ได้ถือว่าสวยงามมากๆ และ HDR ช่วยให้ภาพถ่ายย้อนแสงได้งดงามๆ และมีความสดใสแทบไม่ต่างจากเลนส์หลัก
เลนส์หลัก / เลนส์ Super-Wide Angle
โหมด Bokeh ถ่ายเบลอหลังได้แบบเนียนๆ
สำหรับโหมดนี้ก็ขาดไปไม่ได้เช่นกัน โดยให้เราได้ถ่าย Portrait เบลอฉากหลังโบเก้ได้อย่างสวยงามมากๆ ครับ โดยการตัดฉากหลังออกจากตัวบุคคลทำได้เนียนตา เบลอได้เนียน และใบหน้าก็มีความสว่างสดใสไม่มีมืดแม้จะย้อนแสงครับ
โฟกัสดวงตาให้ไม่เบลอด้วย Eye Autofocus
ในโหมดภาพคน Vivo Y72 5G ยังคงมีฟีเจอร์ Eye Autofocus ที่จะโฟกัสดวงตาของบุคคลเพื่อช่วยให้ระหว่างถ่ายภาพให้ไม่มีการเบลอแม้มือเราจะไม่นิ่งก็ตาม
Multi-Style Portrait
ลูกเล่นของโหมดนี้ยังไม่หมดเพราะมีสไตล์บุคคลที่จะเป็นคล้ายๆ ฟิลเตอร์ มีให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ ธรรมชาติ, วินเทจ, สไตล์ญี่ปุ่น และแฟชั่น
เอฟเฟ็กต์แสงบุคคล
เอฟเฟ็กต์แสงบุคคลเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นมาให้ใช้ครับ โดยจะมีเอฟเฟ็กต์ให้เลือกใช้งานเพียบ ได้แก่ ไฟสตูดิโอ, ไฟสเตอริโอ, ลูปไลท์, แสงรุ้ง และภาพพื้นหลังขาวดำ
คิดท่าไม่ออกบอก Pose Master
สำหรับ Pose Master จะเป็นภาพที่รวมท่าโพสต์ต่างๆ มาให้เราเพียบ โดยจะให้เราทำท่าทางตามภาพเส้นประที่ปรากฏบนหน้าจอครับ ใครที่คิดท่าถ่ายไม่ออกก็ลองใช้งานได้โดยให้เข้าไปที่กล้อง > ภาพคน > ความสวยงาม > ท่าทาง
Super Macro โฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร
เลนส์ที่ 3 ของกล้องหลังที่มีให้คือเลนส์ Super Macro ช่วยให้ถ่ายภาพใกล้ๆ และคมชัดได้ในระยะสูงสุด 4 เซนติเมตรเลยทีเดียว
ถ่ายกลางคืนสุดสวยด้วยฟีเจอร์ Super Night Mode
โหมดการถ่ายภาพกลางคืน Vivo Y72 5G ทำมาได้อย่างสวยงามมากๆ ภาพกลางคืนทำได้สว่างและคมชัดมากขึ้น และประมวลผลใช้เวลาน้อยลงเมื่อเทียบกับ Vivo Y Series รุ่นก่อนหน้านี้ แต่โหมดนี้ยังใช้งานได้แค่เลนส์หลักเท่านั้นครับ
โหมดปกติ / Super Night Mode
นอกจากนี้ การถ่ายภาพกลางคืนก็ยังทำได้สวยงามขึ้นด้วย Style Super Night Mode ที่เป็นสไตล์การเฉพาะโหมดกลางคืนที่มี 4 แบบ ได้แก่ ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์
ดำและทอง น้ำแข็งสีฟ้า ส้มเขียว ไซเบอร์พังก์
กล้องหน้าคมชัด 16 ล้านพิกเซล
มากันที่กล้องหน้ากันบ้างครับ โดยหลักๆ จะสามารถถ่ายโหมดโบเก้หรือเบลอหลังได้อย่างสวยงามพร้อมตกแต่งใบหน้าซึ่งแทบไม่ต่างจากกล้องหลังเลยครับ
Super Night Selfie
ในกล้องหน้าใครที่เจอสภาพที่ต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือที่มืดก็สามารถถ่ายกล้องหน้าโหมดกลางคืนได้เหมือนกันครับ โดยใบหน้าและความสว่างจะชัดเจนมากขึ้น
โหมดปกติ / โหมด Super Night Selfie โหมดปกติ / โหมด Super Night Selfie
สรุปการใช้งาน
สำหรับ Vivo Y72 5G ที่เป็นรุ่นแรกของ Vivo Y Series ที่รองรับ 5G นั้น ถือว่าทำออกได้น่าประทับใจมากๆ ครับ โดยเฉพาะการรองรับเครือข่าย 5G ที่เข้ามาทันยุคในราคาที่สบายกระเป๋า ทั้งยังให้การเชื่อมต่อเร็วแรงและเสถียรมากขึ้นกว่า 4G อย่างเห็นได้ชัดครับ ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Halo Fullview Display ขนาด 6.58 นิ้ว ดูสิ่งต่างๆ ได้เต็มตา, RAM 8GB พร้อมความจุ 128GB และแบตเตอรี่อึดๆ 5000mAh มีชาร์จเร็วอีก 18W รวมถึงกล้องหลัง 4 เลนส์คมชัดถึง 64 ล้านพิกเซล ที่ถ่ายภาพออกมาได้ดีมากๆ และฟีเจอร์มีให้ลองใช้เพียบครับ
ราคาอย่างเป็นทางการ
Vivo Y72 5G เปิดราคาในไทยอยู่ที่ 9,999 บาท โดยจะเปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 23 – 30 มีนาคม 2564
Vivo Y72 5G เปิดให้จองพร้อมรับของแถมสุดพิเศษไปเลยฟรีๆ ! ได้แก่ Bluetooth body weight scale มูลค่า 1,099 บาท และ Power Bank 10000mAh มูลค่า 799 บาท สำหรับผู้ที่จองตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.64 – 30 มี.ค.64 ณ Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ Vivo Official Online Store ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vivo.com/th