Featured
รีวิว vivo Y76 5G “สนุกขั้นสุดในทุกเกม” ด้วยขุมพลัง Dimensity 700 พร้อมแบตสุดอึด ชาร์จไว 44W
รีวิว vivo Y76 5G สมาร์ตโฟน “สนุกขั้นสุดในทุกเกม” พร้อมขุมพลัง MediaTek Dimensity 700 ทำงานได้เร็วแรง ประหยัดพลังงาน พร้อมแสดงผลบนหน้าจอใหญ่ 6.58 นิ้วง คมชัด Full HD+ ทั้งยังได้แบต 4100mAh ชาร์จเร็วขั้นสุด 44W และกล้องหลังสุดเทพ 50 ล้านพิกเซล ใครสนใจรุ่นนี้ที่ได้สเปคแรงๆ ในราคาต่ำหมื่น วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมารีวิวเต็มๆ ให้ชมกันครับ
สรุปสเปค vivo Y76 5G
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.84 x 75.00 x 7.79 มม.
- น้ำหนัก : 175 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.6% และขอบเขตสี 96% NTSC
- หน่วยประมวลผล : Mediatek Dimensity 700 Octa-core
- RAM : 8GB
- ROM : 128GB รองรับการใส่ MicroSD Card สูงสุด 1TB
- กล้องถ่ายรูปด้านหลัง 3 เลนส์ ดังนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะใกล้ 4 เซนติเมตร
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และพอร์ต USB Type-C
- รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G : n1/n3/n28/n40/n41/n78
- แบตเตอรี่ความจุ 4100mAh ชาร์จเร็ว 44W vivo FlashCharge
แกะกล่อง ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอแสดงผล
รูปแบบกล่องของ vivo Y76 5G มาแบบเรียบๆ แต่ดูคลาสสิกไม่เบาเลยทีเดียวครับ ด้วยตัวกล่องสีขาวตัดกับตัวอักษรชื่อรุ่น “Y76 5G” สีเงินที่ดูเหมาะสมกันสุดๆ
โดยอุปกรณ์ภายในกล่องให้มาครบถ้วน ดังนี้
- ตัวเครื่อง vivo Y76 5G พร้อมติดฟิล์มกันรอย
- อะแดปเตอร์ 44W vivo FlashCharge
- สาย USB Type-C
- เคสใส
- อุปกรณ์เปิดถาดซิม
- หูฟังพอร์ต 3.5 มม.
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ดีไซน์สุดบาง 7.79 มม. แบบ Ultra Slim Design
เรื่องการออกแบบสมาร์ตโฟนสักเครื่องบอกเลยว่าต้องยอม vivo จริงๆ ครับ แม้ว่า vivo Y76 5G จะเป็นรุ่นราคาสุดประหยัดแต่ความพรีเมี่ยมเกินราคาไปมาก ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียง 7.79 มม. ก็ยังเป็นจุดเด่นให้รุ่นนี้ ทั้งยังมีน้ำหนักเบามากๆ เพียง 175 กรัมเท่านั้น รวมถึงฝาหลังโค้งแบบ 3D ทำให้การใช้งานนั้นสะดวกทุกที่ทุกเวลาแถมยังดูสวยงามไปพร้อมๆ กัน
สีสันที่เราได้มาเป็นสีฟ้า Cosmic Aurora ที่จริงๆ จะออกแนวเป็นสีรุ้งที่ดูสวยงาม มีการเคลือบผิวด้วยกลิตเตอร์ผสมผสานกับคริสตัลที่มีความวิบวับ เพิ่มความโดดเด่นเวลาใช้งานเมื่ออยู่ในที่แสงสว่างและสะท้อนกับตัวเครื่องแบบลงตัวครับ ส่วนอีกสีที่จะมีให้เลือกจะเป็นสีดำ Midnight Space ครับ
ที่สำคัญพื้นผิวของตัวเครื่องยังมาเทคนิคการเคลือบสี AG มีผิวด้าน ช่วยให้ไม่ติดรอยนิ้วมือหรือคราบต่างๆ แน่อนอนคับ
หน้าจอใหญ่ 6.58 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+
vivo Y76 5G โดดเด่นด้วยขอบหนาจอแสดงผลที่บางเฉียบเพียง 2.8 มม. ทำให้เรารับชมได้เต็มตามากขึ้น ทั้งยังมีขนาดหนาจออยู่ที่ 6.58 นิ้ว ได้ความละเอียด Full HD+ ช่วยให้รับชมภาพยนตร์ วิดีโอ หรือจะเล่นเกมได้อย่างคมชัดและเต็มขั้นสุด ทั้งนี้ยังมีความสว่างหนาจอสูงสุดที่ 460 นิต ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้งแล้วครับ
เหนือหน้าจอแสดงผลจะมีกล้องหน้าที่อยู่ในหยดน้ำความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยลำโพงสำหรับการสนทนาที่ด้านบนสุด
ทางขวาตัวเครื่องจะมีทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือไว้แบบ 2-in-1 เลยทีเดียว
ทางด้านบนตัวเครื่องจะมีทั้งไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดและ Micro SD โดยจะมีทั้งหมด 2 ช่อง เป็น nano SIM จำนวน 1 ช่อง + Nano Sim หรือ Micro SD ที่จะเป็นแบบ Hybrid ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในช่องที่ 2 ครับ
ส่วนด้านล่างตัวเครื่องจะมีทั้งช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ต USB Type-C และลำโพงตัวหลัก
สุดท้ายที่ด้านหลังเครื่องจะมีโมดูลกล้องหลังที่มีทั้งหมด 3 เลนส์ โดยมาในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและดีไซน์รอบวงตัวเลนส์แบบ CD Grooves สุดเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เราเห็นความระยิบระยับที่รอบวงแต่ละเลนส์อย่างสวยงาม พร้อมด้วยไฟแฟลช LED 1 ดวง
ซอฟต์แวร์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
vivo Y76 5G แกะกล่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย Funtouch OS 12 ซึ่งตัว UI ของระบบเป็นเวอร์ชันล่าสุดครับ ทำให้การใช้งานไหลลื่น ไม่กินทรัพยากรในเครื่องมากเกินไป และมีฟีเจอร์ให้ใช้งานกันเพียบ
รองรับ Dual-Mode 5G
ไม่น่าเชื่อว่าสมาร์ตโฟนราคาต่ำหมื่นจะรองรับการใช้งานเครือข่าย Dual-Mode 5G ครับ แต่ vivo Y76 5G ก็จัดมาให้แล้ว โดยเป็นการรองรับ 5G ทั้ง SA (ใช้ 5G เดี่ยวๆ) และ NSA (ใช้ 4G+5G) ทั้งยังมีการออกเบาอากาศรอบตัวเครื่อง ช่วยให้การรับสัญญาณมีประสิทธิภาพและเสถียรยิ่งขึ้น
รองรับโหมดถนอมสายตา (Eye Protection Mode)
ยังคงมีมาให้เหมือนเดิมสำหรับโหมด Eye Protection ที่เป็นการตัดสีฟ้าออกไปจากหน้าจอ ช่วยให้แสงบนหน้าจอไม่ทำร้ายดวงตามากเกินไปครับ ซึ่งเราสามารถปรับคาวมเข้มได้ตามใจชอบ และตั้งเวลาที่เปิดได้ตามต้องการหากใช้งานทุกวันอยู่แล้ว
รองรับโหมดมืดเหมือนกัน
ใครไม่ถนัดให้โหมดถนอมสายตา ก็ลองเปิดโหมดมืดได้เช่นกันครับ จะมีการเปลี่ยนฉากหลังของระบบและแอปพลิเคชั่นที่รองรับเป็นสีดำทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัย
อกเหนือจากการใส่รหัสผ่านทั่วไปแล้ว vivo Y76 5G ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งมีความสะดวกมากๆ ในการใช้งานเพราะตำแหน่งในการจัดวางเหมาะพอดีกับช่วงที่เราหยิบเครื่องขึ้นมาใช้งาน
ส่วนใครจะใช้งานสแกนใบหน้าก็ได้เหมือนกันครับ มีความเสถียรในการใช้งานและความเร็วเหมือนกัน
Nano Music Player เพิ่มความสะดวกในการฟังเพลง
รีวิว vivo Y76 5G จะเห็นว่ามีแอปพลิเคชั่น Nano Music Player มาให้ลองใช้งานกันครับ เพียงแค่คลิกเดียวเราก็ฟังเพลงได้ทันทีครับ แต่ที่ชอบก็คือรองรับทั้ง Spotify และ JOOX เลยทีเดียว ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาเข้าแอปครับ หรือใครมีเพลงในเครื่องก็สามารถใช้ได้เหมือนกันครับ
เคลียขยะด้วย iManager ง่ายขั้นสุด
มีติดเครื่องมาให้เหมือนเดิมสำหรับแอปพลิเคชั่น iManager ที่ช่วยล้างขยะ, ไฟล์แคชต่างๆ หรือ RAM ที่กินพื้นที่ให้หมดไปเพียงแค่คลิกเดียว ให้กดที่ “การปรับให้เหมาะสม” หรือใครจะใช้เพื่อสแกนไวรัสหรือแอปที่อันตรายก็ได้เช่นกัน
ประสิทธิภาพ การเล่นเกม และแบตเตอรี่
vivo Y76 5G ได้ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลตัวกลางจาก Mediatek อย่าง Dimensity 700 สถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร แบบ Octa-core และมีความเร็วของ CPU สูงถึง 2.2GHz ซึ่งชิปเซ็ตตัวนี้ได้ทั้งความเร็วในการใช้งานทั่วไปและประหยัดพลังงานไปพร้อมกันเลยครับ ที่สำคัญยังใช้งาน 5G ได้ยาวๆ ไม่สูบแบตอีกด้วย
เทคโนโลยี Extended RAM 2.0 เพิ่ม RAM ไปอีก 4GB
แม้ว่ารุ่นนี้จะให้ RAM มาแล้วถึง 8GB แต่ก็ยังรองรับเทคโนโลยี Extended RAM 2.0 ที่เปลี่ยนพื้นที่ ROM เป็น RAM ได้อีก 4GB รวมเป็น 12GB (8GB + 4GB) ไปเลยครับ ช่วยให้เราเปิดแอปได้เยอะขึ้นสูงสุดถึง 25 แอป และไม่มีสะดุดเวลาสลับแอปไปมา
มาพร้อม Ultra Game Mode 2.0 เล่นเกมไม่มีสะดุด
ใครมาสายเกมเมอร์ก็จะมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode 2.0 ที่จะให้เราได้ปรับโหมดระหว่างการเล่นเกมเป็น “ประสิทธิภาพ” ได้ทันทีหากต้องการ เพียงแค่ปัดขวาจากมุมซ้ายของหน้าจอครับ ซึ่งจะช่วยรีดประสิทธิภาพของเครื่องให้มากขึ้น ทำให้เล่นเกมไม่มีสะดุด เฟรมเรทนิ่งๆ นั่นเอง
มี Multi-Turbo เสริมความแรงไปอีกขั้น
นอกจากจะมี Ultra Game Mode 2.0 แล้ว ก็ยังมี Multi-Turbo ที่เสริมประสิทธิภาพขึ้นไปอีกขั้นเลยครับ โดยฟีเจอร์นี้จะได้ AI เข้ามาช่วยในเรื่องความเสถียรของเครือข่าย, การกระจายความร้อนของตัวเครื่อง และทำให้เฟรมเรทของเกมมีความคงที่มากที่สุด
ทดสอบการเล่นเกม
PUBG Mobile
สำหรับเกม PUBG Mobile เราสามารถเปิดกราฟิกได้ที่ HD และเฟรมเรทสูงครับ ซึ่งทดสอบการเล่นแบบ 100 คน ถือว่าทำได้ดีมาก ไม่เจออาการกระตุกใดๆ ให้เห็นครับ และเรื่องการสัมผัสหน้าจอก็ไม่มีความหน่วง กดปุ๊บติดปั๊บเลย
ROV
รีวิว vivo Y76 5G ครั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะทดสอบเกม ROV ซึ่งสามารถเปิดกราฟิกได้สูงสุดทั้งหมด ยกเว้นเฟรมเรทปกติและการแสดงผลระดับสูงครับ โดยการเล่นแบบ 5 VS 5 ก็ทำได้ดีมากๆ เฟรมเรทคงที่ 30fps ตั้งแต่ต้นเกมถึงท้ายเกม และตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนจนเกินไปหลังจากเล่นไปได้ประมาณ 40 นาทีครับ
Asphalt 9: Legends
สุดท้ายกับเกมแข่งรถกราฟิกงามๆ อย่าง Asphalt 9: Legends รุ่นนี้ก็สามารถเปิดกราฟิกสูงได้ด้วยนะ ภาพที่ได้ก็สวยตามคาดแถมการเล่นจริงทำได้ดีเกินคาด เล่นได้ไหลลื่น ไม่มีกระตุกหรือเฟรมเรทดรอปทั้งในช่วงแข่งปกติหรือช่วง Cut Scene
แบตเตอรี่อึดพร้อมชาร์จไว 44W vivo FlashCharge
นอกจากจะได้แบตเตอรี่ที่อึด 4100mAh พร้อมใช้งานได้ตลอดวันแล้ว vivo Y76 5G ก็ยังรองรับเทคโนโลยี 44W vivo FlashCharge ที่เป็นเพียงไม่กี่รุ่นที่ได้ชาร์จเร็วขนาดนี้ในเรทราคาเดียวกันครับ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ชาร์จจาก 0-70% ในเวลาประมาณ 32 นาที หรือชาร์จเต็ม 100% ในเวลารวมไม่ถึงชั่วโมงครับ
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปของ vivo Y76 5G ก็ไม่ธรรมดาในเรทราคาต่ำหมื่นครับ เพราะได้กล้อง 50 ล้านพิกเซลมาเลยทีเดียว พร้อมด้วยนวัตกรรมเซนเซอร์ใหม่เพื่อจับภาพรายละเอียดที่คมชัดมากขึ้น ทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Eye Autofocus ที่ตรวจจับดวงตาเพื่อให้โฟกัสได้ไม่มีหลุดแน่นอนครับ
คมชัดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่า vivo Y76 5G มีกล้องหลักความละเอียดสูงสุดถึง 50 ล้านพิกเซล ซึ่งในโหมดนี้จะทำให้เราได้ภาพที่มีความคมชัดเป็นพิเศษครับ สามารถซูมให้เห็นรายละเอียดได้มากขึ้น หรือใครจะนำไปใช้งานต่อก็ได้เช่นกัน
AI แยกแยะหมวดหมู่พร้อมรองรับ Super HDR
ในโหมดปกติเราสามารถเปิด AI เพื่อให้แยกแยะหมวดหมู่ของวัตถุได้ตามที่เราโฟกัสและทำได้แม่นยำมาก โดยระบบจะมีการบอกเป็นรูปร่างตรงกลางด้านบนครับ ที่สำคัญเมื่อเราอยู่ในสภาวะย้อนแสงก็ยังมีฟีเจอร์ Super HDR ช่วยให้ได้ภาพแสงฉากหลังและฉากหน้ามีความสมดุลและดูเป็นธรรมชาติสุดๆ
ถ่าย Portrait สวยเนียนตา โฟกัสไม่มีหลุดด้วย Eye Autofocus
ความสามารถพิเศษของกล้อง vivo Y76 5G คือการรองรับ Eye Autofocus ที่มีให้ในรุ่นเรือธงก็มาอยู่ในรุ่นราคาต่ำหมื่นเช่นกันครับ โดยฟีเจอร์นี้จะล็อกโฟกัสที่ดวงตาเพื่อติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดไม่มีหลุด
ทั้งนี้ ภาพในโหมดบุคคลก็ทำได้สุดยอดเช่นเคย เบลอฉากหลังได้เนียนตา รวมถึงใบหน้าก็ได้ความบิวตี้ตามสไตล์ของ vivo ที่ไม่ได้แต่งจัดเกินไปเพราะยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่นั่นเองครับ
เปลี่ยนสีสันด้วย Portrait Style
ในโหมดภาพถ่ายบุคคล เราสามารถเพิ่มสีสันด้วย Portrait Style ที่มีให้เลือกถึง 9 แบบ ได้แก่ ธรรมชาติ, วินเทจ, เมืองเหนือ, แฟชั่น, ปาร์ตี้ฤดูร้อน, สไตล์ญี่ปุ่น, ขาวดำ, เกลือเงิน, และเปียก
เพิ่มมิติการถ่ายด้วย Portrait Lightning Effect
นอกจากจะมี Portrait Style คล้ายกับฟิลเตอร์ต่างๆ แล้ว ก็ยังมีเอฟเฟ็กต์ที่เพิ่มเข้ามาในภาพให้ดู “มีอะไร” มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ตามที่ชอบได้เลยครับ เช่น แสงธรรมชาติ, ไฟสเตอริโอ, แสงรุ้ง, ภาพพื้นหลังขาวดำ และลูปไลท์ เป็นต้น
Double Exposure ถ่ายภาพซ้อนได้ไม่เหมือนใคร
Double Exposure หรือการรับแสงสองเท่าจะเป็นการให้เราได้นำภาพอื่นมาซ้อนรวมกับอีกภาพ ซึ่งเป็นอีกฟีเจอร์ที่มืออาชีพในการถ่ายภาพน่าจะได้ใช้งานกันอย่างสนุกแน่นอน เพราะเป็นการเพิ่มมิติให้ภาพและความมคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เปิดโลกให้ใกล้มากขึ้นด้วย Super Macro
Super Macro คงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ โดยจะเป็นการโฟกัสภาพในระยะใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร ทำให้เราได้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็นกับวัตถุในระยะใกล้ ซึ่งรุ่นนี้ก็ทำได้ดีมาก และการโฟกัสที่ไม่มีดีเลย์ด้วย
ถ่ายกลางคืนได้สวยเกินราคาด้วย Super Night Mode
vivo Y76 5G มาพร้อมกับอัลกอริธึมการลดสัญญาณรบกวนหรือ Noise ให้น้อยลงกว่าปกติ ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดแม้ในที่แสงน้อยมากๆ ทั้งยังมีเทคโนโลยี Frame Fusion ช่วยให้เราโฟกัสภาพกลางคืนได้แม่นยำและชัดเจนมากขึ้น
โหมดปกติ / Super Night Mode
นอกจากนี้ ใน Super Night Mode ก็ยังมี Super Night Style ที่จะเปลี่ยนสีสันยามกลางคืนให้ดูแปลกใหม่กว่าเดิม โดยจะมี 4 รูปแบบ ได้แก่ ดำและทอง, น้ำแข็งสีฟ้า, ส้มเขียว และไซเบอร์พังก์
ดำและทอง น้ำแข็งสีฟ้า ส้มเขียว ไซเบอร์พังก์
สายเซลฟี่ไม่มีผิดหวังด้วย AI Face Beauty
ใครที่ชอบเซลฟี่ บอกเลยว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ เพราะมี AI Face Beauty ที่มีการปรับแต่งใบหน้าให้มีความสวยงามและเนียนเป็นธรรมชาติมากๆ แถม AI ก็มีการตรวจจับใบหน้าตลอดเวลาเพื่อให้สว่างในทุกสภาพแสงครับ
เซลฟี่ที่แสงน้อยไม่ต้องกลัวด้วย AI Extreme Night Selfie พร้อม Smart Softlight Band
vivo Y76 5G ได้ยกระดับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือตอนกลางคืนไปอีกขั้นด้วยโหมดกลางคืนครับ Noise จะเห็นได้น้อยมากๆ และมีการเพิ่ม Contrast ให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้นไปด้วย
ที่สำคัญยังมี Smart Softlight Band ที่จะเป็นการเติมแสงผ่านหน้าจอเพื่อให้ใบหน้ายังคงมีความสว่างและสวยงามเหมือนเดิม
โหมดการถ่ายวิดีโอ
สำหรับการถ่ายวิดีโอ vivo Y76 5G ก็ยังมีโหมดต่างๆ ให้ได้ลองใช้กันครับ โดยสามารถใช้งานได้ดีด้วย ดังนี้
วิดีโอกันสั่น Ultra Stable Video
ฟีเจอร์นี้จะเป็นการป้องกันภาพสั่นไหวระหว่างภ่ายวิดีโอครับ โดย AI จะตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวเพื่อให้วัตถุนั้นๆ นิ่งมากที่สุด ซึ่งเหมาะมากสำหรับสาย Vlog หรือใช้ระหว่างการเดินทางก็ทำให้เห็นบรรยากาศแบบชัดเจนสุดๆ ไปเลยครับ
Dual-View Video ถ่ายกล้องหน้าและหลังพร้อมกันไปเลย !
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับโหมดนี้ครับ โดย vivo Y76 5G ก็ได้ใช้งานกับเขาด้วย โดยจะเป็นการถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ช่วยให้การแสดงความรู้สึกต่างๆ ที่เราเห็นเวลาถ่ายกล้องหลังได้แบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องสลับกล้องหน้า-หลังให้วุ่นวายอีกต่อไป
สรุปการใช้งาน
จากที่ได้ทดสอบและใช้งาน vivo Y76 5G ต้องบอกว่าเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่คุ้มค่ามากในราคาต่ำกว่าหมื่นครับ ซึ่งจริงๆ แค่รองรับ 5G ก็คุ้มค่าเดินราคาไปแล้ว แต่ยังได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.58 นิ้ว พร้อมด้วย CPU Dimensity 700 ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียลหรือเล่นเกมได้แบบไม่กลัวชิปรุ่นที่ใหญ่กว่าเลยครับ ที่สำคัญ กล้องหลังที่จัดมาให้ถึง 50 ล้านพิกเซล ก็เป็นกล้องคมชัดสูงมากๆ สำหรับรุ่นในเรทราคาเดียวกัน
ราคาและวันวางจำหน่าย
ผู้ที่สนใจ vivo Y76 5G สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคเพียง 9,999 บาทเท่านั้น โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ผ่านทาง vivo Brand Shop ทุกสาขา, Shopee, Lazada และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ